บรรยากาศหน้าอู่ครับ


จะเห็นว่ามีรถรออยู่หลายคันเลยครับ รถเมล์ปรับอากาศที่เราใช้โดยสารประจำวันนี่แหละครับ หน้ารถจะมีป้ายคำว่าไหว้พระ และ ชื่อจังหวัดนั้นๆอยู่


ผมเดินเข้ามาก็จะเจอรายชื่อจังหวัดที่จะออกเดินทางในวันนั้นเยอะแยะเลยครับ (ได้ยิน คนกำลังประกาศว่า สำหรับผู้โดยสารที่ลงชื่อไว้ที่ กรุงเทพฯ และ ชลบุรี ขอให้มาเปลี่ยนเส้นทางด้วยค่าาา เนื่องจากไม่สามารถออกเดินทางได้ คาดว่าจำนวนผู้โดยสาร ณ​เวลาที่ต้องออกรถ มีไม่ถึงตามจำนวนครับ เขาเลยต่องแจ้งให้ผู้ที่จองตั๋วแล้วปรับเปลี่ยนเส้นทาง )

ผมไปเดินวนดู 1 รอบ และตัดสินใจแบบไม่ยากเลยครับว่าจะไปที่

.....สิงห์บุรี......


ผมเลือกไปสิงห์บุรีเพราะผมอยากไปสักการะ สรีระของหลวงพ่อจรัญฯ มานานแล้วครับ วันนี้เห็นในโปรแกรมมีวัดอัมพวันพอดิบพอดีเลย


บัตรที่นั่ง ชำระเงินราคา  429 บาท


อ้อ นี่โปรแกรมอัปเดตล่าสุดครับ เสาร์-อาทิตย์ แตกต่างกันไปตามนี้ ซึ่งถ้าเป็นเทศกาลพิเศษจะมีโปรแกรมแยกออกมาครับ เช่นต้นเดือน กรกฎาคม ทางอู่จัดโปรแกรมไหว้พระพร้อมชมทุ่งดอกกระเจียวที่ชัยภูมิด้วย น่าสนใจมากครับ


ผมได้ที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งคนขับ ติดประตูเลย
มีเพื่อนร่วมเดินทางทั้งหมด 28 คนครับ (ดูแล้วแนวสายทำบุญทั้งหมด เคยมากันหลายครั้งแล้ว ส่วนผมครั้งแรกกกก ฮ่าาาาา)

รถออกเวลา 8.00 น. เป๊ะเลยครับ


บนรถจะมีพนักงานดูแลเรา 3 คน (คนขับ ไกด์ และคนดูแลจิปาถะ ครับ อันนี้ผมเรียกเอง)
ไกด์เราชื่อ พี่เน เป็นคนพูดเก่ง อัธยาศัยดีมากกกกกกก อยากให้กระเป๋ารถเมล์ทุกคนเอาอย่างพี่เขา พี่เนจะคอยแนะนำและดูแลเรื่องกิจกรรมของพวกเราตลอดทริปครับ

ออกเดินทางมาเรื่อยๆ โดยระหว่างทางพี่เน แกก็จะบอกลำดับและเล่าประวัติของวัดต่างๆที่เราจะไปให้ฟังแบบคร่าวๆ อย่างเป็นกันเอง เหมือนทริปครอบครัวครับ

นอกจากนี้ยังทำให้รู้ว่าทุกวัดที่ทาง ขสมก. จัดไปนั้น ทุกวัดมีเรื่องราว ความเป็นมา พูดง่ายๆมี story ของตัวเองครับ สนุกดี ซึ่งที่ฟังดูบางวัดถ้าเรามาเที่ยวเอง เราคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปครับ

บนรถหากใครอยากแตกแบงค์ให้เป็นแบงค์ย่อย ทาง ขสมก. เขาทีบริการด้วยนะครับ

ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงวัดแรก...


วัดอัมพวัน

มากราบสักการะสรีระหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ครับ


บรรยากาศทั่วไปครับ จะมีคำสอนของหลวงพ่อแสดงอยู่

ในโบสถ์ครับ

ตุ่มน้ำมนต์ครับ ผมเห็นบางคนพรมศีรษะ บางคนใช่ลูบหน้า บางคนดื่มครับ


ได้เวลาทานอาหารเช้าครับ ทานที่โรงทานของวัดเลย...

มีการแจกก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวหลอด และ อื่นๆ หลายอย่าง ที่โรงทานครับ
คนมาทำบุญคนมาช่วยกันเตรียมอาหาร ให้กับผู้มาทำบุญ ทุกคนน่ารักมากครับ ผมรับก๋วยเตี๋ยวมาพร้อมกับได้รอยยิ้มแถมมาด้วย

“ไม่อิ่มมาเอาอีกนะพ่อหนุ่ม”  นี่คือคำพูดที่ผมได้รับมาหลังจากหยิบก๋วยเตี๋ยวหมูชามแรก

ฮ่าาาาา แสดงว่ามีชามที่สอง

นี่ไงครับ ก๋วยเตี๋ยวหลอด

อิ่มแปล้มื้อเช้า และพร้อมเดินทางต่อแล้ว

วัดที่สองคือ "วัดปรางค์มุณีครับ"



วัดนี้เราร่วมทำสังฆทานร่วมกันด้วยครับ


วัดนี้ถ้าใครจำได้ว่าช่วงนึงเคยมีข่าวเรื่องมักรีผลครับ เขาเก็บไว้ที่วัดนี้







บรรยากาศพระพุทธรูปและสิ่งปลูกสร้างต่างๆรอบๆวัดครับ

วัดที่ 3 "วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์"
  
วัดเสฐียรวัฒนดิษฐ์ เดิมมีชื่อว่า “วัดท่าควาย” ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากแม่น้ำลพบุรี ถนนสังฆราช ตำบลบางพุทรา อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
ทางเข้ามีกำแพงสังกะสียังเห็นรอยน้ำท่วมของปี 2554 อยู่เลยครับ ประมาณเอวได้


วัดดนี้จุดเด่นอยู๋ที่ พระพุทธรูปทองคำครับ ขอพรด้วยการถวายดอกบัว วัดนี้ไกด์บอกอยากได้อะไรไม่ต้องบนครับ ให้ขอท่านเลย และหากสำเร็จจะกลับมาสักการะครับ


เราทานอาหารกลางวันกันที่นี่ คนในวัดจะเตรียมอาการไว้ให้แล้วครับ พร้อมน้ำพริกแม่นงค์สุดอร่อย มีทั้งน้ำพริกปลาร้า แมงดา น้ำพริกเผา แล้วแต่ชอบครับ

วัดที่ 4  "วัดประโชติการาม"

เป็นวัดที่ผมประทับใจมากที่สุดครับ เพราะมีสตอรี่ที่ดีมาก หลวงพ่อสิน หลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อโอ่ง



วัดนี้มีพระพุทธรูปืนขนาดสูงมาก 2 องค์ ครับ คือหลวงพ่อสินกับหลวงพ่อทรัพย์ ประวัติของวัดนี้สนุกจริงครับ ลองติดตามอ่านได้ที่
https://www.facebook.com/ThaiBuddhism/photos/?tab=album&album_id=169587546421807


ท่านเล่าประวัติความเป็นมาของวัดนี้ครับ น่าสนใจและขนลุกครับ ผมชอบมากเลย