วันนี้ก็มาถึงวันที่เรา"เกลียด"ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่า"แม่"

กระทู้คำถาม
ตอนนี้อายุ 24 ปี ย่าและลุงๆป้าๆเล่าให้ฟังว่า เราเกิดได้ 1 อาทิตย์ก็ไปรับเรามาอยู่ด้วย เราเติบโตมาในการเลี้ยงดูของย่าและลุงๆป้าๆ พ่อทำงานบริษัท แม่ทำงานโรงงาน จนเราเข้าอนุบาลพ่อสอบติดข้าราชการพ่อและแม่จึงได้ย้ายมาอยู่บ้านกับย่า ย่าให้บ้านพร้อมที่ดินเพื่อให้พ่อและแม่อยู่ เราก็ยังอยู่กับย่าเหมือนเดิม เรามีน้อง 2 คน ห่างกับเรา 2 ปี และ 9 ปี เราและน้องคนรองได้รับการเลี้ยงดูและดูแลจากย่าและลุงๆป้าๆ จนเราเข้าประถม เราได้ย้ายมาอยู่กับพ่อและแม่ จากวันที่พ่อและแม่ย้ายกลับมาพ่อได้ลงทุนทำร้านขายขนมหน้าโรงเรียนให้แม่ เพื่อที่จะได้รับส่งเรา นั้นอาจเป็นจุดเริ่มเรื่อง แม่เจอเพื่อนๆแม่ค้าด้วยกัน แม่เริ่มเล่นการพนัน เล่นหวยทุกรูปแบบ เป็นหนี้ พ่อและแม่เริ่มมีปากเสียงกัน แม่เป็นหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมาตามหาแม่ที่บ้าน แม่เริ่มขโมยเงิน ขโมยพระ ขโมยทองไปขาย จนเราขึ้นป.4 เราเริ่มทำงานบ้านเองทุกอย่าง ปัญหาพวกนี้ก็ไม่จบ แม่ต้องเลิกขายของหน้าโรงเรียนเพราะแม่กลัวเจ้าหนี้  แม่เริ่มมาลงที่เราพอทะเลาะกับพ่อ เหมือนเราทำอะไรจะผิดไปหมด เราออกไปเล่นกับพี่ข้างบ้านแม่ก็เอาไม้กวาดตีเพราะบอกว่าเราไม่ล้างจาน จนพ่อต้องมาห้าม จนเราขึ้นมัธยม แม่ก็ยังไม่เปลี่ยน คราวนี้พ่อลงทุนให้ทำร้านอาหารตามสั่ง เพราะเห็นว่าน้องคนสุดท้องเราก็ปีกว่าๆแล้ว แม่รับปากกับพ่อว่าจะไม่ก่อหนี้ขึ้นมาอีก พ่อใช้หนี้ให้ทั้งหมดสองแสนกว่าบาท แต่ก็เหมือนเดิม มีเจ้าหนี้มาตามหนี้ที่บ้านอีก แล้วที่หนักไปกว่านั้น แม่เอาชื่อเสียงของย่า และ ป้าๆเรา ไปยืมเงินคนอื่นๆที่รู้จักย่าและป้าเรา ว่าเดือดร้อนต้องการใช้เงิน ยืมญาติพี่น้องของย่า มารู้ก็วันที่รวมญาติกันช่วงเทศกาล แล้วทุกอย่างก็แบบเดิม พ่อก็ต้องมาใช้หนี้ให้อีกเหมือนเดิม กลับกลายมาเป็นทุกอย่างจบร้านอาหารก็ต้องปิดลง แม่มาเป็นแม่บ้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม แม่เราก็เริ่มเล่นหวยอีก เพราะมีเราที่เลี้ยงน้องแทน เราไม่กล้าที่จะบอกพ่อ เพราะเราเคยบอกพ่อ พอเช้ามาพ่อไปทำงานแม่ตีเราตบเราใช้คำพูดหยาบๆกับเรา ขึ้นกูกับเรา เราก็ไม่กล้าบอกพ่ออีกเลย  แม่เริ่มสนิทกับคนข้างบ้านถ้าใครเล่นหวยหุ้นจะรู้ดีว่าเขาต้องจดตัวเลขที่วิ่งบนหน้าจอโทรทัศน์ เรากลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว เพราะพ่อออกจากบ้านแม่ก็จะไปหาป้าข้างบ้านเพื่อที่จะดูว่าวันนี้จะซื้อหวยอะไร แล้วเหตุการ์ก็เกิดขึ้นเหมือนเดิม แม่มีเจ้าหนี้มาตามอีกแล้ว ซึ่งตอนนั้นที่บ้านเรามีหอพัก 10 ห้อง ห้องล่ะ 1500 พ่อให้แม่หมดเลย แล้วให้แม่อีกเดือนละ 5 พัน ซึ่งเงินที่เราและน้องๆใช้ไปโรงเรียนไม่เคยได้จากแม่ พ่อจะเป็นคนจัดการเรื่องการใช้จ่ายของลูกๆทุกคน ลองมองย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว เงินเดือนละ 2 หมื่น ทำไมแม่บ้านจะใช้ไม่พอ ครั้งนี้หนักมากแม่หนี้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะเจ้าหนี้รายวัน แม่ขโมยโฉนดที่ดินไป ผ่านไป  3 เดือนกว่าแม่ก็กลับมา ทีนี้แม่ออกบ้านไม่ได้เพราะกลัวเจ้าหนี้ตามเจอ พอเราขึ้น ม.3 ซึ่งเราก็เป็นเด็กที่อยากไปดูหนังกับเพื่อนบ้าง ไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้าง แต่ไม่เลยเราไม่ได้ไป ถ้าเพื่อนมารับที่บ้าน เพื่อนผู้หญิงนะ แม่ก็จะด่าเพื่อนเราเลยว่าพวกมารับกันไปแรดที่ไหน แม่เริ่มเป็นหนักขึ้น ด่าเพื่อนเราหลายๆคนจนเพื่อนๆ ไม่มีใครอยากเล่นกับเรา เราเลยโทรบอกป้าว่าเกิดอะไรขึ้น ป้าบอกให้เราใจเย็นๆจะคุยกับแม่ให้เอง แต่ไม่เลยพอป้าคุยแม่กลับมาถึงบ้านเราโดนตบโดนตี ด่าว่าคำหยาบๆ ป้าเลยจ้างแม่ให้มาดูแลย่าเพราะลุงๆป้าๆก็ทำงานรับราชการ ย่าต้องอยู่บ้านคนเดียวตอนกลางวัน จ้างแบบไปเช้าเย็นกลับเอาน้องคนเล็กของเรามาเลี้ยงที่บ้านย่าด้วยตอนเช้าพ่อไปทำงานก็ให้มาส่งพ่อเลิกกงานก็มารับกลับ เพราะบ้านย่าห่างจากบ้านเราแค่ 5 กิโล  ก็เป็นจุดที่เกิดปัญหาเดิมมาอีกเพราะบ้านย่าอยู่ใกล้ตลาดแหล่งซื้อขายหวยเลยทีเดียว แม่เริ่มใช้แผนไปร้องไห้ยืมเงินคนอื่นทั้งๆที่รายได้แม่มีมากขึ้นจากที่ป้าจ้างเดือนละ 5 พัน แม่มีเงินเดือน รวมแล้ว 25,000 บาท แม่ไปร้องไห้กับญาติคนอื่นๆที่ยังไม่รู้เรื่องว่าค่าใช้จ่ายในบ้านไม่พอ ค่านมลูก ค่าลูกไปโรงเรียน บอกว่าพ่อเราไม่ให้เงินใช้  เราเริ่มใช้โทรสับเริ่มมีแฟน ความรักในวัยเด็กเริ่มคุยโทร แต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้น แม่ยึดโทรศัพท์เราบอกว่าเราแรด ร่าน เอาโทรสับเราไปโทรด่าคนที่คุยกับเรา วันนั้นเราเข้าไปบ้านย่าแม่ก็ด่าเราต่อหน้าย่า ย่าเรารับสิ่งที่แม่ทำกับเราไม่ได้ ย่าเลยให้เราย้ายมาอยู่กับย่า เพราะน้องคนกลางก็อยู่กับย่าอยู่แล้ว  เราใกล้จะเรียนจบ ม.3 เราเลยขอพ่อใส่แหวนนามสกุลหน่อยเพราะพ่อเราใส่ติดนิ้วตลอด พ่อก็ให้ใส่ เราใส่ไปโรงเรียนได้ 1 วัน กลับมาตอนเย็นก็อยู่บ้านย่าปกติ เราถอดแหวนวางไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เช้าต่อมาเราลืมใส่มาด้วยแต่พอกลับไปตอนเย็นมันหายไปแล้ว ซึ่งทั้งบ้านมีย่า แม่เรา เรากลับมาร้องไห้เลยแหวนที่อยู่กับพ่อมา 20 ปี เราทำมันหายแค่คืนเดียว ย่ากับพ่อก็ไม่อยากคิดว่าเป็นแม่ มันทำให้ความผูกพันธ์ระหว่างเรากับแม่ที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งแทบไม่เหลือ เราไม่คุยกับแม่อีกเลยจนเรียนจบมหาลัย  ซึ่งแม่ก็ยังเหมือนเดิม ขโมยเงิน ขโมยพระไปขายเหมือนเดิม พอเราจบมหาลัยกลับมา ย่าเราเกิดไม่สบาย ย่าเลือกที่จะมาอยู่บ้านพ่อเรา เพราะอากาศดี แล้วถ้าอยู่ที่เดิมลุงๆป้าๆก็ทำงานไม่มีเวลา มาอยู่บ้านพ่อก็จะมีแม่เราคอยดูแล เหตุการณ์ที่จะทำให้เรากลับมาคุยกับแม่เพราะเราอยากให้การดูแลย่าไม่มีปัญหา ความรักเรามีให้นะ แต่ความผูกพันธ์ ความเป็นห่วงยอมรับเลยแทบไม่มี วันนั้นแม่ใช้น้องคนเล็กของเราซึ่งตอนนี้ก็ม.3 เป็นผู้ชายไปเอาน้ำมาให้กิน น้องเรานั่งกินขนมอยู่เลยบอกแม่ว่าแปบนะแม่ เอาถุงขนมไปทิ้งก่อน แม่กลับเอาเท้าถีบหน้าน้องเพราะน้องเรานั่งพื้น บอกว่าแค่นี้กูใช้ไม่ได้ เราเห็นเหตุการณ์เราโมโหมาก เรายอมรับว่าเรารักน้องมาก เราไม่อยากให้น้องมีปัญหา ไม่อยากให้น้องเก็บกด เพราะเราผ่านมาหมดแล้วเราเข้าใจดีว่าน้องเราจะรู้สึกยังไง เราไม่อยากให้น้องโตมาแบบเรา เราเลยพูดขึ้นมา แม่จะทำน้องทำไม แม่เรากลับพูดว่าทำไมอีห่า สวยตายแหละอีหน้าปลาดุกชนเขื่อน กูตัดแม่ตัดลูกได้นะอี ยิ้ม มันยิ่งทำให้เราไม่ชอบการกระทำของผู้หญิงที่เรียกว่า"แม่" เราตั้งคำถามกลับตัวเราเองว่า "คำพูดแบบนี้หรอที่คนเป็นแม่เขาพูดกับลูก"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่