ก่อนอื่นขอออกตัวว่า ผมเป็นคนที่บรรยายไม่เก่ง ถ่ายรูปไม่สวย สรุปคือ อยากรีวิว แต่ความสามารถไม่ถึง
ทริปนี้เริ่มจากได้ฟังเพลง vacation time ดังนั้นของให้เพื่อนๆ
"ปล่อยชีวิตจริงทิ้งไป วางไว้ข้างทาง"
"หยุดชีวิตช้า ๆ" และ
"หยุดความจริงร้าย ๆ ทิ้งเอาไว้ก่อน!!!"
แต่เดิมเมื่อต้นเดือน เคยคิดจะไปตามล่าช้างที่เนินช้างศึก ในคืนเดือนมืด แต่เราสองคน ตื่นนอนตอนตี 4 มองหน้ากันแล้วหลับต่อ
สรุปทริปนี้ก็จบใต้ผ้าห่ม แล้ววันหนึ่งเราสองคนได้ฟังเพลง Vacation Time
เอาละ!! ไปพักผ่อนกันเถอะ จริงๆก็เพิ่งกลับจากกางเต้นท์เขาใหญ่ กับดำน้ำมัลดีฟ
เริ่มออกเดินทางด้วยความตื่นเต้น และรู้แน่ๆ ว่าต้องเจอฝน เราสองคน สามี-ภรรยา ก็ตั้งใจและในฐานะ นักเที่ยว ประเภทอุปกรณ์ดีเด่น
ตื่นนอนตี 4 ออกเดินทางมุ่งหน้าสู้ "แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่ น้ำตก"
เวลา 7.00 น. ก็มาถึงวัดถ้ําเสือ
ด้วยบันไดร้อยกว่าขั้นไม่เท่าไหร่ สบายๆเดินรอบเดียวถึง แวะไหว้พระ และเข้าห้องน้ำก็ออกเดินทางต่อ
เวลา 7.36 น. ก็ถึงต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree
ภาษาปะกิจประกอบซะหน่อย)
เสร็จจากการชักภาพพอเป็นพิธีก็ออกเดินทางสู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เดี๋ยวจะมาไม่ถึงเมืองกาญ
แวะ Big C ซื้อหมู ไก่ เตรียมสำหรับหมูกะทะเย็นนี้
เอาละเริ่มต้นทริป เวลาตอนนี้ประมาณ 10 โมง ด้วยระยะต่อจากจุดนี้อีก 200 กว่ากิโล
ตลอดทางฝนตกเล็กน้อย อุณภูมิ 28 องศา ขับรถสบาย
ถนนมีทั้งดี และอุปสรรคเล็กน้อยถึงปลายกลาง
ระหว่างเดินทางมีสิ่งหนึ่งที่คิด "ประเทศไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน มันจะไม่มีเพื่อน จะไม่มีคนที่จะขึ้นเนินช้างศึกบ้างหรือไง?!"
แต่ก็มีเพื่อนร่วมทางเป็นกลุ่ม Big Bike เอาละอุ่นใจมีเพื่อนร่วมทางแต่ ดูสภาพแล้วคงไม่ได้ไปกางเต้นท์แน่ๆ
ซะวันจะไปที่นั้น แอบคิดดังๆ
เวลา 13.20 น. เราก็มาถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำใสไหลเย็น ดันลืมเอาชุดมาเล่นน้ำมาด้วย ไม่เป็นไรเอาไว้มาใหม่
ทางค่อยข้างชัน ระยะทางจากแยกประมาณ 3 กิโล ตอนขับลงไปน้ำตกสบาย แต่ตอนขับขึ้นนี้สิลูกพ่อแทบไม่ไหว
นึกว่าต้องให้ศรีภรรยาลงไปช่วยดันรถแล้วซะอีก
เวลา 14.00 น. เราก็มาถึงจุดหมาย เนินช้างศึก
ไม่ได้ถ่ายรุปเยอะนะครับ มั่วตื่นเต้น กับความสวยงาม
จอดรถแล้วก็ขึ้นไปหาพี่ทหาร พูดคุยซะเล็กน้อย สรุปว่า
1. ฝนตกนะครับ
2. ลงไปนอนข้างล่างเถอะ
3. เอาเถอะ จะกางเต้นท์ ตรงไหนก็ได้ตามสบาย
4. สมอบก เล็กไปหรือเปล่า
เนื่องด้วยเสียดายหมูกะไก่ที่เตรียมมาทำหมูกะทะ จะไม่ได้กิน เอาละฝนตกนอนไม่ได้ นอนในรถก็ได้
และผมก็ยังคิดเหมือนเดิม "ประเทศไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน มันจะไม่มีเพื่อน จะไม่มีคนที่จะขึ้นเนินช้างศึกบ้างหรือไง?!"
และแล้วก็มีเพื่อนมากางเต้นท์ ข้างๆ อุ่นใจแระ และมีกลุ่มใหญ่มากางเต้นท์ที่ลาน ฮ. มาทราบที่หลังว่า จุดที่ผมกางมันรับลมเต็มๆ ไม่น่าเลย
ดูดีมั้ยละครับ อากาศดี วิวดี มีเมฆลอยผ่านตัว
กินละครับ ว่าแต่ทำไมมันไม่ร้อน ควันก็มี เอานิ้วแตะกะทะ ก็แค่อุ่นๆ สรุปจากหมูกะทะ เป็นต้มกินมันละกัน
พอกินเสร็จ ฝนก็ตก ล้างกะทะกลางฝนซะเลย
นั่งมองหน้าก็ น้ำเริ่มซึมเต้นท์ เอาละสองคนสามี ภรรยา ย้ายยยยยยย นอนในรถกันเถอะ หมงอะไรไม่เห็นแล้ว ห่างแค่ 2-3เมตรก็มองกันไม่เห็นแล้ว
ตื่นเช้ารีบเก็บข้าวของ น้ำไม่อาบ ฟันไม่แปรง ไอ้เสือถอย
เก็บของกลับบ้านดีก่า
ระหว่างทางอากาศดีมาก แวะจุดชมวิว พักหาอะไรรองท้องเล็กน้อย
สรุปทริปนี้ ประทับใจมากครับ แต่ด้วยความไม่รู้ และความดื้อจึงเจออุปสรรค
แล้วเราจะกลับไปใหม่
[CR] เนินช้างศึก ในวันที่ฝนตก 25-26 มิ.ย. 59
ทริปนี้เริ่มจากได้ฟังเพลง vacation time ดังนั้นของให้เพื่อนๆ
"ปล่อยชีวิตจริงทิ้งไป วางไว้ข้างทาง"
"หยุดชีวิตช้า ๆ" และ
"หยุดความจริงร้าย ๆ ทิ้งเอาไว้ก่อน!!!"
แต่เดิมเมื่อต้นเดือน เคยคิดจะไปตามล่าช้างที่เนินช้างศึก ในคืนเดือนมืด แต่เราสองคน ตื่นนอนตอนตี 4 มองหน้ากันแล้วหลับต่อ
สรุปทริปนี้ก็จบใต้ผ้าห่ม แล้ววันหนึ่งเราสองคนได้ฟังเพลง Vacation Time
เอาละ!! ไปพักผ่อนกันเถอะ จริงๆก็เพิ่งกลับจากกางเต้นท์เขาใหญ่ กับดำน้ำมัลดีฟ
เริ่มออกเดินทางด้วยความตื่นเต้น และรู้แน่ๆ ว่าต้องเจอฝน เราสองคน สามี-ภรรยา ก็ตั้งใจและในฐานะ นักเที่ยว ประเภทอุปกรณ์ดีเด่น
ตื่นนอนตี 4 ออกเดินทางมุ่งหน้าสู้ "แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่ น้ำตก"
เวลา 7.00 น. ก็มาถึงวัดถ้ําเสือ
ด้วยบันไดร้อยกว่าขั้นไม่เท่าไหร่ สบายๆเดินรอบเดียวถึง แวะไหว้พระ และเข้าห้องน้ำก็ออกเดินทางต่อ
เวลา 7.36 น. ก็ถึงต้นจามจุรียักษ์ (Giant Rain Tree ภาษาปะกิจประกอบซะหน่อย)
เสร็จจากการชักภาพพอเป็นพิธีก็ออกเดินทางสู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เดี๋ยวจะมาไม่ถึงเมืองกาญ
แวะ Big C ซื้อหมู ไก่ เตรียมสำหรับหมูกะทะเย็นนี้
เอาละเริ่มต้นทริป เวลาตอนนี้ประมาณ 10 โมง ด้วยระยะต่อจากจุดนี้อีก 200 กว่ากิโล
ตลอดทางฝนตกเล็กน้อย อุณภูมิ 28 องศา ขับรถสบาย
ถนนมีทั้งดี และอุปสรรคเล็กน้อยถึงปลายกลาง
ระหว่างเดินทางมีสิ่งหนึ่งที่คิด "ประเทศไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน มันจะไม่มีเพื่อน จะไม่มีคนที่จะขึ้นเนินช้างศึกบ้างหรือไง?!"
แต่ก็มีเพื่อนร่วมทางเป็นกลุ่ม Big Bike เอาละอุ่นใจมีเพื่อนร่วมทางแต่ ดูสภาพแล้วคงไม่ได้ไปกางเต้นท์แน่ๆ
ซะวันจะไปที่นั้น แอบคิดดังๆ
เวลา 13.20 น. เราก็มาถึงน้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำใสไหลเย็น ดันลืมเอาชุดมาเล่นน้ำมาด้วย ไม่เป็นไรเอาไว้มาใหม่
ทางค่อยข้างชัน ระยะทางจากแยกประมาณ 3 กิโล ตอนขับลงไปน้ำตกสบาย แต่ตอนขับขึ้นนี้สิลูกพ่อแทบไม่ไหว
นึกว่าต้องให้ศรีภรรยาลงไปช่วยดันรถแล้วซะอีก
เวลา 14.00 น. เราก็มาถึงจุดหมาย เนินช้างศึก
ไม่ได้ถ่ายรุปเยอะนะครับ มั่วตื่นเต้น กับความสวยงาม
จอดรถแล้วก็ขึ้นไปหาพี่ทหาร พูดคุยซะเล็กน้อย สรุปว่า
1. ฝนตกนะครับ
2. ลงไปนอนข้างล่างเถอะ
3. เอาเถอะ จะกางเต้นท์ ตรงไหนก็ได้ตามสบาย
4. สมอบก เล็กไปหรือเปล่า
เนื่องด้วยเสียดายหมูกะไก่ที่เตรียมมาทำหมูกะทะ จะไม่ได้กิน เอาละฝนตกนอนไม่ได้ นอนในรถก็ได้
และผมก็ยังคิดเหมือนเดิม "ประเทศไทยมีประชากรเกือบ 70 ล้านคน มันจะไม่มีเพื่อน จะไม่มีคนที่จะขึ้นเนินช้างศึกบ้างหรือไง?!"
และแล้วก็มีเพื่อนมากางเต้นท์ ข้างๆ อุ่นใจแระ และมีกลุ่มใหญ่มากางเต้นท์ที่ลาน ฮ. มาทราบที่หลังว่า จุดที่ผมกางมันรับลมเต็มๆ ไม่น่าเลย
ดูดีมั้ยละครับ อากาศดี วิวดี มีเมฆลอยผ่านตัว
กินละครับ ว่าแต่ทำไมมันไม่ร้อน ควันก็มี เอานิ้วแตะกะทะ ก็แค่อุ่นๆ สรุปจากหมูกะทะ เป็นต้มกินมันละกัน
พอกินเสร็จ ฝนก็ตก ล้างกะทะกลางฝนซะเลย
นั่งมองหน้าก็ น้ำเริ่มซึมเต้นท์ เอาละสองคนสามี ภรรยา ย้ายยยยยยย นอนในรถกันเถอะ หมงอะไรไม่เห็นแล้ว ห่างแค่ 2-3เมตรก็มองกันไม่เห็นแล้ว
ตื่นเช้ารีบเก็บข้าวของ น้ำไม่อาบ ฟันไม่แปรง ไอ้เสือถอย
เก็บของกลับบ้านดีก่า
ระหว่างทางอากาศดีมาก แวะจุดชมวิว พักหาอะไรรองท้องเล็กน้อย
สรุปทริปนี้ ประทับใจมากครับ แต่ด้วยความไม่รู้ และความดื้อจึงเจออุปสรรค
แล้วเราจะกลับไปใหม่
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น