สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
นึกถึงตอนหนูเล็กๆ กำลังอยากรู้อยากเห็น ช่างซักช่างถาม
พ่อแม่ก็ขยันคุยกับเรา ขยันตอบ ไม่มีเบื่อเลยใช่ไหมล่ะ
พี่ทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย บางทีก็อยู่ต่างประเทศ ทำงานยุ่งๆกำลังติดพัน แม่โทรเข้ามือถือ ค่ารับสายก็แพง แต่ก็รับ เพียงแค่อยากถนอมน้ำใจเขา
"อยู่เมืองนอกรึเปล่าเนี่ย เป็นห่วง เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร แม่ไปช่วยไม่ทัน รักษาตัวดีๆ เดินทางปลอดภัยนะ ไม่ต้องซื้ออะไรมานะ แต่ถ้าเจอเชอรี่ลูกโตๆ ซื้อมาฝากด้วย"
พิมพ์ไปก็น้ำตาไหล
เอาเถอะลูก วันนี้หนูยังตื่นเต้นกับอิสระที่ได้รับ แต่เชื่อว่า เมื่อถึงเวลาที่หนูทุกข์ที่สุด คนที่จะรับฟังหนูพูด ร้องไห้ไปกับหนู
คือพ่อกับแม่เท่านั้น
พ่อแม่ก็ขยันคุยกับเรา ขยันตอบ ไม่มีเบื่อเลยใช่ไหมล่ะ
พี่ทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย บางทีก็อยู่ต่างประเทศ ทำงานยุ่งๆกำลังติดพัน แม่โทรเข้ามือถือ ค่ารับสายก็แพง แต่ก็รับ เพียงแค่อยากถนอมน้ำใจเขา
"อยู่เมืองนอกรึเปล่าเนี่ย เป็นห่วง เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร แม่ไปช่วยไม่ทัน รักษาตัวดีๆ เดินทางปลอดภัยนะ ไม่ต้องซื้ออะไรมานะ แต่ถ้าเจอเชอรี่ลูกโตๆ ซื้อมาฝากด้วย"
พิมพ์ไปก็น้ำตาไหล
เอาเถอะลูก วันนี้หนูยังตื่นเต้นกับอิสระที่ได้รับ แต่เชื่อว่า เมื่อถึงเวลาที่หนูทุกข์ที่สุด คนที่จะรับฟังหนูพูด ร้องไห้ไปกับหนู
คือพ่อกับแม่เท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 5
สอนแม่ใช้ line อีกคน แล้วทำกลุ่มครอบครัว เช้ามาก็ส่งคำทักทายไป รายงานตัวว่าสบายดี ตกเย็นรายงานตัวอีกรอบแล้วราตรีสวัสดิ์ แค่นั้นพ่อแม่พี่น้องก็หายห่วง ไม่ต้องโทรหากันอีก ลดความหงุดหงิดในการรับโทรศัพท์และใช้น้ำเสียงไม่ดีแบบไม่ตั้งใจ เสียเวลาวันละนิดเพื่ิอรักษาน้ำใจพ่อแม่นะคะ
ความเป็นส่วนตัวมีได้ค่ะ แต่นึกถึงใจพ่อแม่ด้วยว่าลูกไกลหูไกลตาท่านเป็นห่วง ทำให้ท่านนิดหนึ่งนะคะ
ความเป็นส่วนตัวมีได้ค่ะ แต่นึกถึงใจพ่อแม่ด้วยว่าลูกไกลหูไกลตาท่านเป็นห่วง ทำให้ท่านนิดหนึ่งนะคะ
แสดงความคิดเห็น
แปลกไหม ที่ไม่ชอบให้พ่อแม่ติดต่อมาบ่อยๆ
ก่อนหน้านี้พ่อบอกว่าจะติดต่อหาเราทุกวัน เพราะไม่อยากให้เราเงียบไปเฉยๆ คือถ้าให้เราติดต่อท่านเอง เราคงไม่ค่อยติดต่อ เพราะเราไม่ค่อยชอบคุย เราโลกส่วนตัวสูง ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่คุย ปกติเวลาอยู่บ้านด้วยกันก็ไม่ค่อยคุยกันมากอยู่แล้ว
พ่อก็ไลน์มาหาเราทุกวัน แม้จะไม่มีเรื่องอะไรก็ตาม คอยถามว่ากินข้าวแล้วยัง กินกับอะไร ซื้อที่ไหน เลิกงานแล้วยัง กลับถึงหอแล้วยัง อย่านอนดึก นอนได้แล้ว พ่อจะนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์ ฯลฯ (พออ่านถึงราตรีสวัสดิ์ เราก็รู้สึกแปลกๆ เพราะปกติบ้านเราไม่มีใครมากล่าวราตรีสวัสดิ์กันหรอก) แล้วตอนเช้าก็จะส่งพวกภาพคำทักทาย คำสอนข้อคิดต่างๆ ที่เอามาจากในเน็ต แล้วก็จะเป็นแบบนี้ทุกวันๆ บางทีเราก็รู้สึกหงุดหงิด (คำนี้อาจฟังดูโหดร้าย แต่เราก็ไม่รู้จะสรรหาคำอื่นใดที่ดีกว่า) เพราะเราไม่ได้มีนิสัยชอบคุยเรื่องอะไรแบบนี้ ไม่ชอบโดนซักถามหรือจู้จี้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือใหญ่โตอะไร มันเป็นแค่เรื่องในชีวิตประจำวัน เราก็ดูแลตัวเองได้ แต่เวลาพ่อไลน์มาถามอะไร เราก็ตอบตลอด ถ้าขี้เกียจคุยก็ตอบสั้นๆ แต่ก็ตอบตลอด
ส่วนแม่เราเล่นไลน์ไม่เป็น ก็เลยโทรมา โทรมาแบบวันเว้นวัน เราต้องบอกตรงๆแบบฟังดูโหดร้ายอีกครั้ง(เพราะมันคืออารมณ์เราที่เกิดขึ้นจริงๆ) พ่อไลน์มาบ่อยๆ เราอาจหงุดหงิด แต่แม่โทรมาบ่อยๆ เรายิ่งหงุดหงิดกว่า เพราะทุกครั้งที่โทรมา ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรเลย โทรมาคุยเรื่องซ้ำๆ ทำนองเดียวกับที่พ่อไลน์มาน่ะแหละ บางทีแม่รู้เรื่องเราจากพ่อ หรือรู้จากน้อง แม่ก็จะโทรมาถามเรา เหมือนถามย้ำเรา และมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรด้วย บางทีเราก็เผลอคุยกับแม่ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเหมือนกัน(พยายามใจเย็นและยับยั้งนะ แต่ก็มีเผลอหลุดบ้าง) แต่พอแม่บอกว่าเป็นห่วงเรา คิดถึงเรา เราก็หายหงุดหงิด แต่เราก็ไม่ค่อยคุยตอบท่านมากหรอก ส่วนใหญ่จะฟังและทำเสียงอือๆ อาๆ เป็นเชิงรับรู้มากกว่า เพราะเราก็ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าเป็นคนนิสัยชอบพูดชอบคุยก็ว่าไปอย่าง แต่เราไม่ใช่ไง ถ้าเราจะถามพ่อแม่ว่าเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม เราก็ไม่จำเป็นต้องถามบ่อยๆ ทุกวันนี้เรายังไม่เคยเป็นฝ่ายโทรไปหาพ่อแม่เลย เพราะพ่อแม่ติดต่อมาบ่อยๆ จนเราไม่ต้องเป็นคนติดต่อไป (ถึงเราจะเป็นฝ่ายติดต่อไป ก็คงไม่ติดต่อไปบ่อยๆ อาจจะอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้งเลย) ถึงเราจะคิดถึงท่าน ก็ใช่ว่าเราจะติดต่อไปบ่อยๆ
บางคนอ่านแล้วอาจถามว่า ถ้าเกิดคนที่ติดต่อมาเป็นเพื่อน แฟน หรือคนที่เราชอบ เราจะหงุดหงิดไหม เราจะตอบว่า ถ้าติดต่อมาบ่อยๆ แล้วคุยซักถามในลักษณะทำนองเดียวกับที่พ่อแม่คุยกับเรา เราก็หงุดหงิดเหมือนกัน แต่ตอนนี้เราไม่มีแฟนไง และไม่ค่อยมีเพื่อนด้วย เราไม่ค่อยติดต่อใคร พอเรียนจบเพื่อนก็หายหมด เหลืออยู่ไม่กี่คน ปีนึงติดต่อกันไม่ถึงสิบครั้ง จะมีใครเป็นแบบเราบ้าง (คิดว่ามีนะ)