สวัสดีครับ
ในการรีวิวครั้งนี้ เป็นการรีวิวยี่ห้อสีน้ำมัน และเกรดคุณภาพของสีน้ำมัน
ซึ่งการรีวิวครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 จะเป็นการทดลองคุณภาพสีน้ำมันของ Winsor & Newton ทั้งเกรด Winton และ Artists และก็ Lefranc & Bourgeois เฉพาะเกรด Artists
ส่วนตอนที่ 2 จะเป็นการรีวิวสี Old Holland ซึ่งเป็นสีที่แพงที่สุดในโลก และมีขายในประเทศไทย
เอาล่ะ เข้าสู่ประสบการณ์ปีที่ 3 พอดี ซึ่งผมรีวิวเฟรมผ้าใบทุกยี่ห้อมาก่อนแล้ว รีวิวเฟรมผ้าใบ Revision ที่ 2 จะมาภายในปี 2017 แน่นอน ผมเริ่มใช้สีน้ำมัน Winsor & Newton เกรด Winton เมื่อ 3 ปีก่อน แล้วมาถอยเกรด Artists ในปีต่อไป และไม่กี่เดือนนับจากนี้ก็ถอย Lefranc & Bourgeois เกรด Artists จนได้เพราะมีข้อเสียสำหรับ Winsor & Newton เกรด Artists
น่าเสียดายที่เลิกใช้ Winsor & Newton ทั้ง 2 เกรดในที่สุด และโชคร้ายที่ขายต่อไม่ออกจนต้องโละไว้ใน Archive แต่ตอนนี้ผมก็หยิบสีนี้ขึ้นมารีวิวให้ผู้อ่านในประเทศไทยคงทราบว่า สีไหนใช้แล้วดี
Winsor & Newton Winton Oil Colour
เป็นสีน้ำมันที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก ไม่ว่าคนไทยจะใช้เยอะแค่ไหน แต่ฝั่งยุโรปและฝั่งอเมริกาก็ยังใช้สีพวกนี้อย่างแพร่ระบาดเลย สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสซะส่วนใหญ่แต่ Winsor & Newton เป็นของประเทศอังกฤษ ซึ่งหลอดสีน้ำมันที่ผลิตในประเทศอังกฤษหาโคตรยาก ผมไปดูในคลิป YouTube มาเห็นใช้สี Winton ควบคู่กับสียี่ห้ออื่น ที่มักจะไม่พบขายที่ไทยเลย บางคลิปก็พบเป็นเกรด Artists
Winton เป็นสีน้ำมันเกรดนักเรียนเลเวล 2 จากทั้งหมด 5 เลเวลนะครับ แต่ศิลปินทุกระดับยังใช้สีพวกนี้อยู่เลย เพราะว่าดีกว่าเกรด Artists? ราคาถูก? เพื่องานสวยๆ? หาง่าย? เหมาะกับศิลปินช่วงนี้? ทั้งหมดนี้ยังคอนเฟิร์มไม่ได้ Winton และสีน้ำมันเกรดนักเรียนทั้งหลายจะมีเม็ดสีหรือ Pigment น้อยกว่าเกรด Artists และใส่ตัวเติมหรือ Filler ค่อนข้างเยอะ ทำให้ระบายออกมาจะหนืดๆ และสีก็หมดเร็วกว่าหลอด Artists แม้บางคนจะใช้ขนาด 200 ml ก็ยังได้อัตราส่วนเท่าเดิมอยู่ดี เกรดนักเรียนมักจะต้องใช้สื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium บ่อยกว่าเกรด Artists เพื่อให้ให้ระบายออกมาให้ดีๆ
ส่วนราคาก็บอกว่า อยู่ในระหว่าง 128 บาทจำไม่ผิด ราคาก็ไม่เท่ากันไม่ว่าเป็นร้านสมใจ หรือไม่ก็ในห้าง แต่จะขายแพงกว่า
สี Winton หาง่ายมากที่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ในร้านอะไร ในสมใจก็มีแทบทุกสาขา B2S Betrend มีเกือบทุกสาขา และร้านเครื่องเขียนที่ครอบคุมหมวด Paintings บางสาขา
ผมใช้สีนี้มาตั้งแต่ พฤษภาคม 2013 เพื่อมาวาดรูปสีน้ำมันเบี้องต้น ใช้ไปเรื่อยๆ และมาเริ่มเก็บสี Artists จนกระทั่งเลิกใช้ Winton ถาวรใน ตุลาคม 2014
ถ้าผมใช้สี Winton ตอนนี้ ผมต้องยอมรับว่า วาดแล้วไม่สวยแน่นอน เชื่อผมดิ ผมถอยหลอด Artists เพื่องานคุณภาพ 555+
(ตอนนี้ Winton หลอดก่อนปี 2014 หลอดที่แสดงเบอร์นั่นแหละ ได้เลิกผลิตแล้ว แล้วแทนเป็นหลอดใหม่หลังปี 2014 เป็นหลอดที่ไม่ต้องใช้ตัวเลข ดูทันสมัย และแสดงความโปร่งทึบ แต่คุณภาพเท่าเดิม)
Winsor & Newton Artists’ Oil Colour
เป็นสีน้ำมันที่นิยมน้อยกว่าเกรดนักเรียนแม้ว่า ราคาจะไม่ไกลมากนัก เป็นสีน้ำมันเกรด Artists ของ Winsor & Newton ที่อาจจะหายากหน่อย สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสควบคู่กับประเทศอังกฤษ ตอนนี้คงสักเกตุโฉมใหม่ของหลอดทั้ง 2 เกรดที่ Revision ตั้งแต่ปี 2014 แต่คุณภาพยังเท่าเทียบอยู่เหมือนเดิม
Winsor & Newton Artists’ Oil Colour เป็นสีน้ำมันเลเวล 3 จากทั้งหมด 5 เลเวลเหมาะกับศิลปินระดับกลางๆ ไม่สูงมาก ส่วนระดับเริ่มต้นสามารถนำมาลองได้ แต่ต้องเป็น Series 1 ก่อน
สีน้ำมันตั้งแต่เลเวล 3 ถึง 5 จะเป็นหลอด Artists แบ่ง Series เป็นราคา Series ต่ำๆ จะใช้วัตถุดิบพื้นๆ มาบดเป็นผง ส่วน Series ที่สูงขึ้นจะใช้วัตถุดิบที่หายากขึ้น บางสีถึงขั้นใช้สารเคมี แร่ธาตุ บางสีต้องอาศัยความชำนาญในการทำเพื่อให้ได้หลอดสีที่มีความเป็น Masterpiece
เกรด Artists ขึ้นไปจะใช้เม็ดสีหรือ Pigment มากกว่าเกรดนักเรียนซะอีก แต่ก็น้อยกว่าเกรด Premium จนได้ ส่วนตัวเติมหรือ Filler ก็น้อยลงอีกด้วย การวาดก็รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมา พลังเม็ดสีที่มาก สีออกมาจะเป็นเนยๆ ทำให้รู้สึกว่า หลอดสีจะหมดช้ากว่าหลอดนักเรียนถึง 2 เท่าตัว บางครั้งอาจจะใช้ส่วนสื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium บ้าง แม้ว่าเกรด Artists จะระบายไม่ค่อยหนืด สักเท่าไร
ส่วนราคาเริ่มต้นบอกว่า Series 1 เริ่มต้นที่ 190 บาท แพงสุดคือ Series 5 ราคาเพียง 890 บาท ส่วนราคา ณ ปัจจุบันก็คือ
Series 1 = 190
Series 2 = 255
Series 3 = 475
Series 4 = 525
Series 5 = 890
หายากหน่อย Winsor & Newton Artists’ Oil Colour มีขายใหญ่สุดคือที่สมใจ ดิโอลด์สยาม รองลงมาจะเป็น ม. ศิลปากร กรุงเทพฯ ส่วนในห้างหายากมาก แทบไม่มี หลอดนักเรียนโดน Takeover ไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผมสำหรับใช้สีเกรดนี้ ผมเก็บสีมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อนที่จะมาบีบจริงตอน ตุลาคม 2014 ซึ่งผมใช้จะรู้สึกความแตกต่างพอสมควร แต่มีข้อเสียอย่างชัดเจนก็คือ สีโปร่งใส เยอะมาก! วาดไปจะรู้สึกไม่ค่อยได้อารมณ์ บางทีต้องบีบเยอะหน่อยเพื่อให้ได้มันทึบ ไม่เหมาะกับคนที่ถนัดภาพวาดสีทึบ แต่เหมาะกับคนที่ถนัดวาดวันสองวันเสร็จ เพิ่งไปดูชาร์ตมา สีชมพู สีม่วง สีน้ำเงิน สี
ไม่มีสีทึบเลย จึงผมต้องเริ่มถอย Lefranc & Bourgeois ในไม่กี่เดือนต่อมา เก็บสีไปเรื่อยๆ จนประกาศเลิกใช้ Winsor & Newton Artists’ Oil Colour อย่างถาวรในกลางปี 2015 ในที่สุด
Lefranc & Bourgeois Artists’ Oil Colour
เป็นสีน้ำมันเกรด Artist แท้ๆ เฉพาะในฝรั่งเศสและประเทศไทยที่นิยมเค้าใช้กัน แต่นิยมไม่มากในสากล ตอนนี้ Lefranc จะมีแนวโน้มความนิยมในสากลแล้วหละ คลิปรีวิวใน YouTube แค่หลักสิบก็เริ่มเห็นหลอดสีน้ำมันยี่ห้อนี้หละ สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสแท้ๆ 100% แม้ว่าหลอดยังไม่ Revision มานานมากแล้ว คงความเป็น Classic และความเป็นดั้งเดิม
Lefranc & Bourgeois Artists’ Oil Colour เป็นสีน้ำมันเลเวล 4 จากทั้งหมด 5 เลเวลเหมาะกับศิลปินระดับสูงที่มีประสบการณ์ตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป แต่ยังไงก็ไม่เหมาะกับศิลปินระดับเริ่มต้นเพราะว่าราคาหลอด Series 1 เริ่มต้นก็แพงใช้ได้เลย สีน้ำมันตั้งแต่เลเวลนี้และขึ้นไปสามารถทำงานในระดับ Masterpiece ได้ดีเยี่ยม (เลเวล 3 จะได้พอสมควร ส่วน 2 ทำได้ไม่เวิร์ค) ส่วนเม็ดสีหรือ Pigment จะมากกว่าสีเลเวล 3 ซะอีกแต่ก็น้อยกว่าเลเวล 5 (Filler น่าจะอยู่ในระดับ 10-15%) ผมลืมไปได้เลยว่าอาจจะไม่ใช้ส่วนสื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium แต่ยังไงก็ยังใช้อยู่ดีเพื่อแห้งช้าหรือเร็ว
หลอดจะขายในขนาด 40 ml ไม่มีเล็กอีกแล้ว ส่วนราคาเริ่มต้น ณ ปัจจุบันก็คือ
Series 1 = 323
Series 2 = 376
Series 3 = 460
Series 4 = 693
Series 5 = 1,391
Series 6 = 1,569
นี่คือราคาขายในงาน HHK และราคาในห้าง แต่ในร้านสมใจ ดิโอลด์สยามจะขายถูกกว่า แถมยังเอาสีขาวมาวางขายในราคาถูกโคตรอีกด้วย ถ้าคุณซื้อสีในงาน HHK ควรอาจจะต้องซื้อมาเยอะหน่อยเพื่อให้ได้ลดราคาและจะมีโปรซื้อ 3 แถม 1 อีกด้วย แต่ถ้าคุณซื้อสีที่ดิโอลด์สยาม เค้าจะให้ลดอยู่แล้ว แต่จะไม่มีโปร 3 แถม 1 และสามารถซื้อได้ตลอดเวลา และแต่ถ้าคุณซื้อสีที่ห้าง ราคาจะไม่ลด ประกอบกับไม่มีโปรอีกด้วย
หาไม่ยากหรือก็ยาก สามารถหาซื้อได้ มีขายใหญ่สุดคือที่สมใจ ดิโอลด์สยาม รองลงมาจะเป็น ม. ศิลปากร กรุงเทพฯ ส่วนในห้าง มีเฉพาะที่ B2S Central World ส่วนที่อื่นเดาเอาและที่ Betrend Siam Paragon จะไม่มีขาย ควรหลีกเลี่ยง
แปลกนะว่าในฝั่งสากล ไม่ว่าในร้านหรือในเน็ต จะหาสีพวกนี้ยาก ผมไปดูใน YouTube มาว่าฝั่งอเมริกาจะไม่นิยมสียี่ห้อนี้ และแถมยังหายากอีกด้วย เพราะติดขัดเรื่องการนำเข้า
ส่วนผมสำหรับใช้สียี่ห้อนี้ ผมต้องข้ามเกรดนักเรียน เพราะว่าพฤติกรรมจะเหมือนสี Winton ผมเก็บสีมาตั้งแต่ปี 2015 เพราะว่า สี Winsor Artists ใช้ไม่เวิร์ค และเริ่มใช้ควมคู่กันในกลางปี 2015 ตอนผมใช้ครั้งแรก รู้สึกผมกำลังมีอารมณ์การวาดรูป เพราะสีทึบมันเยอะ! เหมาะกับคนที่ถนัดวาดสีทึบอย่างผม แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่อย่างนึงก็คือ ในฉลากจะมีการแสดงความโปร่งทึบแค่ 3 ระดับ แต่ Lefranc อาจจะโกหกคุณก็ได้ มีอยู่ 3 สีที่ผมทราบว่า ความโปร่งทึบนั้นไม่เท่ากัน
Mineral Violet Light ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีทึบกึ่งโปร่ง
Burnt Sienna ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีโปร่งกึ่งทึบ
Terre Verte (สีเขียวแก่) ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีโปร่ง
น่าเสียดายที่ผมต้องหยุดซื้อสี Lefranc แล้วเพราะมีมากเกินไป และผมขอประกาศเลิกใช้ถาวรในปี 2017 เนื่องจากผมเริ่มทยอยถอยสี Old Holland ซึ่งเป็นสีระดับสูงสุดเลเวล 5 และตอนนี้ผมมีอยู่มากกว่า 10 สีในบ้านผมแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมกำลังวิจัยสียี่ห้อนี้อยู่และผมจะเอาไปเขียนรีวิว ณ เวลาไหนก็ได้
ตอนนี้ผมได้ริวิวทั้ง 3 ยี่ห้อแล้ว ในภาพข้างบนจะมีการทดสอบคุณภาพสีและความทึบของสี ผมใช้กระดาษสีน้ำที่แถมมาจากงานสี ตัดและเขียนชื่อสีของยี่ห้อนั้นๆ มา 3 แผ่น กระดาษสีน้ำบนสีน้ำมันนั้นไม่เหมาะจริงๆ เลยเพราะลองมาแล้ว
ผมต้องยอมรับเรื่องลายมือผมนะครับ การทดสอบสีทั้ง 3 ยี่ห้อได้แก่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีเขียว สีฟ้า สีม่วง สีน้ำตาลส้ม สีน้ำตาลดำ สีเนื้อ และสีดำ
เริ่มจาก
Winsor & Newton Winton Oil Colour
เป็นสีเกรดนักเรียนเลเวล 2/5 ซึ่งเกือบแทบทุกสีนั้นมันทึบจริงๆ แต่เม็ดสีที่ให้นั้นน้อยจริงๆ มีแต่ Burnt Sienna จากทั้งหมด 10 สีนั้นเป็นสีโปร่ง
เทียบกับ Winsor & Newton Artists’ Oil Colour
• สีเหลือง Winton ออกเหลืองมากกว่า Artists
• สีส้ม Winton ออกส้มกว่า ส่วน Artists ออกเหลืองไปหน่อย
• สีแดง Winton ออกแดงทึบ ส่วน Artists สีโปร่ง
• สีเขียว Winton ออกเขียวทึบอมเหลือง ส่วน Artists ออกเขียวกึ่งทึบอมเหลืองหน่อย
• สีฟ้า Winton ออกทึบ แต่ Artists ออกโคตรโปร่ง
• สีม่วง Winton ออกม่วงอมแดง ส่วน Artists ออกอมน้ำตาลดำ+สีโปร่ง
• สีน้ำตาลแดง Winton ออกสีทึบกว่า Artists มาก
• สีน้ำตาลดำ Winton ออกสีทึบกว่า ส่วน Artists สีโปร่งกว่าและออกแดงเล็กน้อย
• สีเนี้อ Winton สีออกชมพูกว่า Artists
• สีดำ Winton น้ำมันเยอะกว่า Artists
เทียบกับ Lefranc & Bourgeois Artists’ Oil Colour
• สีเหลือง Winton ออกส้มกว่า Lefranc
• สีส้ม Winton ออกเหลืองกว่า Lefranc
• สีแดง Winton สีทึบกว่า Lefranc
• สีเขียว Winton ออกเหลืองกว่า ส่วน Lefranc ออกอมน้ำเงิน
• สีฟ้า Winton สีออกมืดกว่า Lefranc
• สีม่วง Winton ออกคล้ายกับ Lefranc มากแต่ Winton ออกสีทึบกว่า
• สีน้ำตาลแดง Winton ออกแดงไปหน่อย ส่วน Lefranc ออกเหลืองไปหน่อย
• สีน้ำตาลดำ Winton เหมือนของ Lefranc มาก
• สีเนี้อ Winton ออกชมพูเกิน ส่วน Lefranc ออกเหลืองเกิน
• สีดำ Winton เหมือนของ Lefranc มาก
[CR] รีวิวสีน้ำมัน ตอนที่ 1 (W&N Winton vs W&N Artists vs Lefranc & Bourgeois Artists)
ในการรีวิวครั้งนี้ เป็นการรีวิวยี่ห้อสีน้ำมัน และเกรดคุณภาพของสีน้ำมัน
ซึ่งการรีวิวครั้งนี้ จะแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 จะเป็นการทดลองคุณภาพสีน้ำมันของ Winsor & Newton ทั้งเกรด Winton และ Artists และก็ Lefranc & Bourgeois เฉพาะเกรด Artists
ส่วนตอนที่ 2 จะเป็นการรีวิวสี Old Holland ซึ่งเป็นสีที่แพงที่สุดในโลก และมีขายในประเทศไทย
เอาล่ะ เข้าสู่ประสบการณ์ปีที่ 3 พอดี ซึ่งผมรีวิวเฟรมผ้าใบทุกยี่ห้อมาก่อนแล้ว รีวิวเฟรมผ้าใบ Revision ที่ 2 จะมาภายในปี 2017 แน่นอน ผมเริ่มใช้สีน้ำมัน Winsor & Newton เกรด Winton เมื่อ 3 ปีก่อน แล้วมาถอยเกรด Artists ในปีต่อไป และไม่กี่เดือนนับจากนี้ก็ถอย Lefranc & Bourgeois เกรด Artists จนได้เพราะมีข้อเสียสำหรับ Winsor & Newton เกรด Artists
น่าเสียดายที่เลิกใช้ Winsor & Newton ทั้ง 2 เกรดในที่สุด และโชคร้ายที่ขายต่อไม่ออกจนต้องโละไว้ใน Archive แต่ตอนนี้ผมก็หยิบสีนี้ขึ้นมารีวิวให้ผู้อ่านในประเทศไทยคงทราบว่า สีไหนใช้แล้วดี
เป็นสีน้ำมันที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก ไม่ว่าคนไทยจะใช้เยอะแค่ไหน แต่ฝั่งยุโรปและฝั่งอเมริกาก็ยังใช้สีพวกนี้อย่างแพร่ระบาดเลย สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสซะส่วนใหญ่แต่ Winsor & Newton เป็นของประเทศอังกฤษ ซึ่งหลอดสีน้ำมันที่ผลิตในประเทศอังกฤษหาโคตรยาก ผมไปดูในคลิป YouTube มาเห็นใช้สี Winton ควบคู่กับสียี่ห้ออื่น ที่มักจะไม่พบขายที่ไทยเลย บางคลิปก็พบเป็นเกรด Artists
Winton เป็นสีน้ำมันเกรดนักเรียนเลเวล 2 จากทั้งหมด 5 เลเวลนะครับ แต่ศิลปินทุกระดับยังใช้สีพวกนี้อยู่เลย เพราะว่าดีกว่าเกรด Artists? ราคาถูก? เพื่องานสวยๆ? หาง่าย? เหมาะกับศิลปินช่วงนี้? ทั้งหมดนี้ยังคอนเฟิร์มไม่ได้ Winton และสีน้ำมันเกรดนักเรียนทั้งหลายจะมีเม็ดสีหรือ Pigment น้อยกว่าเกรด Artists และใส่ตัวเติมหรือ Filler ค่อนข้างเยอะ ทำให้ระบายออกมาจะหนืดๆ และสีก็หมดเร็วกว่าหลอด Artists แม้บางคนจะใช้ขนาด 200 ml ก็ยังได้อัตราส่วนเท่าเดิมอยู่ดี เกรดนักเรียนมักจะต้องใช้สื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium บ่อยกว่าเกรด Artists เพื่อให้ให้ระบายออกมาให้ดีๆ
ส่วนราคาก็บอกว่า อยู่ในระหว่าง 128 บาทจำไม่ผิด ราคาก็ไม่เท่ากันไม่ว่าเป็นร้านสมใจ หรือไม่ก็ในห้าง แต่จะขายแพงกว่า
สี Winton หาง่ายมากที่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก ในร้านอะไร ในสมใจก็มีแทบทุกสาขา B2S Betrend มีเกือบทุกสาขา และร้านเครื่องเขียนที่ครอบคุมหมวด Paintings บางสาขา
ผมใช้สีนี้มาตั้งแต่ พฤษภาคม 2013 เพื่อมาวาดรูปสีน้ำมันเบี้องต้น ใช้ไปเรื่อยๆ และมาเริ่มเก็บสี Artists จนกระทั่งเลิกใช้ Winton ถาวรใน ตุลาคม 2014
ถ้าผมใช้สี Winton ตอนนี้ ผมต้องยอมรับว่า วาดแล้วไม่สวยแน่นอน เชื่อผมดิ ผมถอยหลอด Artists เพื่องานคุณภาพ 555+
(ตอนนี้ Winton หลอดก่อนปี 2014 หลอดที่แสดงเบอร์นั่นแหละ ได้เลิกผลิตแล้ว แล้วแทนเป็นหลอดใหม่หลังปี 2014 เป็นหลอดที่ไม่ต้องใช้ตัวเลข ดูทันสมัย และแสดงความโปร่งทึบ แต่คุณภาพเท่าเดิม)
เป็นสีน้ำมันที่นิยมน้อยกว่าเกรดนักเรียนแม้ว่า ราคาจะไม่ไกลมากนัก เป็นสีน้ำมันเกรด Artists ของ Winsor & Newton ที่อาจจะหายากหน่อย สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสควบคู่กับประเทศอังกฤษ ตอนนี้คงสักเกตุโฉมใหม่ของหลอดทั้ง 2 เกรดที่ Revision ตั้งแต่ปี 2014 แต่คุณภาพยังเท่าเทียบอยู่เหมือนเดิม
Winsor & Newton Artists’ Oil Colour เป็นสีน้ำมันเลเวล 3 จากทั้งหมด 5 เลเวลเหมาะกับศิลปินระดับกลางๆ ไม่สูงมาก ส่วนระดับเริ่มต้นสามารถนำมาลองได้ แต่ต้องเป็น Series 1 ก่อน
สีน้ำมันตั้งแต่เลเวล 3 ถึง 5 จะเป็นหลอด Artists แบ่ง Series เป็นราคา Series ต่ำๆ จะใช้วัตถุดิบพื้นๆ มาบดเป็นผง ส่วน Series ที่สูงขึ้นจะใช้วัตถุดิบที่หายากขึ้น บางสีถึงขั้นใช้สารเคมี แร่ธาตุ บางสีต้องอาศัยความชำนาญในการทำเพื่อให้ได้หลอดสีที่มีความเป็น Masterpiece
เกรด Artists ขึ้นไปจะใช้เม็ดสีหรือ Pigment มากกว่าเกรดนักเรียนซะอีก แต่ก็น้อยกว่าเกรด Premium จนได้ ส่วนตัวเติมหรือ Filler ก็น้อยลงอีกด้วย การวาดก็รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมา พลังเม็ดสีที่มาก สีออกมาจะเป็นเนยๆ ทำให้รู้สึกว่า หลอดสีจะหมดช้ากว่าหลอดนักเรียนถึง 2 เท่าตัว บางครั้งอาจจะใช้ส่วนสื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium บ้าง แม้ว่าเกรด Artists จะระบายไม่ค่อยหนืด สักเท่าไร
ส่วนราคาเริ่มต้นบอกว่า Series 1 เริ่มต้นที่ 190 บาท แพงสุดคือ Series 5 ราคาเพียง 890 บาท ส่วนราคา ณ ปัจจุบันก็คือ
Series 1 = 190
Series 2 = 255
Series 3 = 475
Series 4 = 525
Series 5 = 890
หายากหน่อย Winsor & Newton Artists’ Oil Colour มีขายใหญ่สุดคือที่สมใจ ดิโอลด์สยาม รองลงมาจะเป็น ม. ศิลปากร กรุงเทพฯ ส่วนในห้างหายากมาก แทบไม่มี หลอดนักเรียนโดน Takeover ไปเรียบร้อยแล้ว
ส่วนผมสำหรับใช้สีเกรดนี้ ผมเก็บสีมาตั้งแต่ 3 เดือนก่อนที่จะมาบีบจริงตอน ตุลาคม 2014 ซึ่งผมใช้จะรู้สึกความแตกต่างพอสมควร แต่มีข้อเสียอย่างชัดเจนก็คือ สีโปร่งใส เยอะมาก! วาดไปจะรู้สึกไม่ค่อยได้อารมณ์ บางทีต้องบีบเยอะหน่อยเพื่อให้ได้มันทึบ ไม่เหมาะกับคนที่ถนัดภาพวาดสีทึบ แต่เหมาะกับคนที่ถนัดวาดวันสองวันเสร็จ เพิ่งไปดูชาร์ตมา สีชมพู สีม่วง สีน้ำเงิน สี
เป็นสีน้ำมันเกรด Artist แท้ๆ เฉพาะในฝรั่งเศสและประเทศไทยที่นิยมเค้าใช้กัน แต่นิยมไม่มากในสากล ตอนนี้ Lefranc จะมีแนวโน้มความนิยมในสากลแล้วหละ คลิปรีวิวใน YouTube แค่หลักสิบก็เริ่มเห็นหลอดสีน้ำมันยี่ห้อนี้หละ สีนี้ผลิตในประเทศฝรั่งเศสแท้ๆ 100% แม้ว่าหลอดยังไม่ Revision มานานมากแล้ว คงความเป็น Classic และความเป็นดั้งเดิม
Lefranc & Bourgeois Artists’ Oil Colour เป็นสีน้ำมันเลเวล 4 จากทั้งหมด 5 เลเวลเหมาะกับศิลปินระดับสูงที่มีประสบการณ์ตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป แต่ยังไงก็ไม่เหมาะกับศิลปินระดับเริ่มต้นเพราะว่าราคาหลอด Series 1 เริ่มต้นก็แพงใช้ได้เลย สีน้ำมันตั้งแต่เลเวลนี้และขึ้นไปสามารถทำงานในระดับ Masterpiece ได้ดีเยี่ยม (เลเวล 3 จะได้พอสมควร ส่วน 2 ทำได้ไม่เวิร์ค) ส่วนเม็ดสีหรือ Pigment จะมากกว่าสีเลเวล 3 ซะอีกแต่ก็น้อยกว่าเลเวล 5 (Filler น่าจะอยู่ในระดับ 10-15%) ผมลืมไปได้เลยว่าอาจจะไม่ใช้ส่วนสื่อกลางตัว Linseed หรือ Medium แต่ยังไงก็ยังใช้อยู่ดีเพื่อแห้งช้าหรือเร็ว
หลอดจะขายในขนาด 40 ml ไม่มีเล็กอีกแล้ว ส่วนราคาเริ่มต้น ณ ปัจจุบันก็คือ
Series 1 = 323
Series 2 = 376
Series 3 = 460
Series 4 = 693
Series 5 = 1,391
Series 6 = 1,569
นี่คือราคาขายในงาน HHK และราคาในห้าง แต่ในร้านสมใจ ดิโอลด์สยามจะขายถูกกว่า แถมยังเอาสีขาวมาวางขายในราคาถูกโคตรอีกด้วย ถ้าคุณซื้อสีในงาน HHK ควรอาจจะต้องซื้อมาเยอะหน่อยเพื่อให้ได้ลดราคาและจะมีโปรซื้อ 3 แถม 1 อีกด้วย แต่ถ้าคุณซื้อสีที่ดิโอลด์สยาม เค้าจะให้ลดอยู่แล้ว แต่จะไม่มีโปร 3 แถม 1 และสามารถซื้อได้ตลอดเวลา และแต่ถ้าคุณซื้อสีที่ห้าง ราคาจะไม่ลด ประกอบกับไม่มีโปรอีกด้วย
หาไม่ยากหรือก็ยาก สามารถหาซื้อได้ มีขายใหญ่สุดคือที่สมใจ ดิโอลด์สยาม รองลงมาจะเป็น ม. ศิลปากร กรุงเทพฯ ส่วนในห้าง มีเฉพาะที่ B2S Central World ส่วนที่อื่นเดาเอาและที่ Betrend Siam Paragon จะไม่มีขาย ควรหลีกเลี่ยง
แปลกนะว่าในฝั่งสากล ไม่ว่าในร้านหรือในเน็ต จะหาสีพวกนี้ยาก ผมไปดูใน YouTube มาว่าฝั่งอเมริกาจะไม่นิยมสียี่ห้อนี้ และแถมยังหายากอีกด้วย เพราะติดขัดเรื่องการนำเข้า
ส่วนผมสำหรับใช้สียี่ห้อนี้ ผมต้องข้ามเกรดนักเรียน เพราะว่าพฤติกรรมจะเหมือนสี Winton ผมเก็บสีมาตั้งแต่ปี 2015 เพราะว่า สี Winsor Artists ใช้ไม่เวิร์ค และเริ่มใช้ควมคู่กันในกลางปี 2015 ตอนผมใช้ครั้งแรก รู้สึกผมกำลังมีอารมณ์การวาดรูป เพราะสีทึบมันเยอะ! เหมาะกับคนที่ถนัดวาดสีทึบอย่างผม แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่อย่างนึงก็คือ ในฉลากจะมีการแสดงความโปร่งทึบแค่ 3 ระดับ แต่ Lefranc อาจจะโกหกคุณก็ได้ มีอยู่ 3 สีที่ผมทราบว่า ความโปร่งทึบนั้นไม่เท่ากัน
Mineral Violet Light ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีทึบกึ่งโปร่ง
Burnt Sienna ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีโปร่งกึ่งทึบ
Terre Verte (สีเขียวแก่) ฉลากสีทึบ ใช้จริงเป็นสีโปร่ง
น่าเสียดายที่ผมต้องหยุดซื้อสี Lefranc แล้วเพราะมีมากเกินไป และผมขอประกาศเลิกใช้ถาวรในปี 2017 เนื่องจากผมเริ่มทยอยถอยสี Old Holland ซึ่งเป็นสีระดับสูงสุดเลเวล 5 และตอนนี้ผมมีอยู่มากกว่า 10 สีในบ้านผมแล้ว ซึ่งตอนนี้ผมกำลังวิจัยสียี่ห้อนี้อยู่และผมจะเอาไปเขียนรีวิว ณ เวลาไหนก็ได้
ตอนนี้ผมได้ริวิวทั้ง 3 ยี่ห้อแล้ว ในภาพข้างบนจะมีการทดสอบคุณภาพสีและความทึบของสี ผมใช้กระดาษสีน้ำที่แถมมาจากงานสี ตัดและเขียนชื่อสีของยี่ห้อนั้นๆ มา 3 แผ่น กระดาษสีน้ำบนสีน้ำมันนั้นไม่เหมาะจริงๆ เลยเพราะลองมาแล้ว
ผมต้องยอมรับเรื่องลายมือผมนะครับ การทดสอบสีทั้ง 3 ยี่ห้อได้แก่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีเขียว สีฟ้า สีม่วง สีน้ำตาลส้ม สีน้ำตาลดำ สีเนื้อ และสีดำ
เริ่มจาก
Winsor & Newton Winton Oil Colour
เป็นสีเกรดนักเรียนเลเวล 2/5 ซึ่งเกือบแทบทุกสีนั้นมันทึบจริงๆ แต่เม็ดสีที่ให้นั้นน้อยจริงๆ มีแต่ Burnt Sienna จากทั้งหมด 10 สีนั้นเป็นสีโปร่ง
เทียบกับ Winsor & Newton Artists’ Oil Colour
• สีเหลือง Winton ออกเหลืองมากกว่า Artists
• สีส้ม Winton ออกส้มกว่า ส่วน Artists ออกเหลืองไปหน่อย
• สีแดง Winton ออกแดงทึบ ส่วน Artists สีโปร่ง
• สีเขียว Winton ออกเขียวทึบอมเหลือง ส่วน Artists ออกเขียวกึ่งทึบอมเหลืองหน่อย
• สีฟ้า Winton ออกทึบ แต่ Artists ออกโคตรโปร่ง
• สีม่วง Winton ออกม่วงอมแดง ส่วน Artists ออกอมน้ำตาลดำ+สีโปร่ง
• สีน้ำตาลแดง Winton ออกสีทึบกว่า Artists มาก
• สีน้ำตาลดำ Winton ออกสีทึบกว่า ส่วน Artists สีโปร่งกว่าและออกแดงเล็กน้อย
• สีเนี้อ Winton สีออกชมพูกว่า Artists
• สีดำ Winton น้ำมันเยอะกว่า Artists
เทียบกับ Lefranc & Bourgeois Artists’ Oil Colour
• สีเหลือง Winton ออกส้มกว่า Lefranc
• สีส้ม Winton ออกเหลืองกว่า Lefranc
• สีแดง Winton สีทึบกว่า Lefranc
• สีเขียว Winton ออกเหลืองกว่า ส่วน Lefranc ออกอมน้ำเงิน
• สีฟ้า Winton สีออกมืดกว่า Lefranc
• สีม่วง Winton ออกคล้ายกับ Lefranc มากแต่ Winton ออกสีทึบกว่า
• สีน้ำตาลแดง Winton ออกแดงไปหน่อย ส่วน Lefranc ออกเหลืองไปหน่อย
• สีน้ำตาลดำ Winton เหมือนของ Lefranc มาก
• สีเนี้อ Winton ออกชมพูเกิน ส่วน Lefranc ออกเหลืองเกิน
• สีดำ Winton เหมือนของ Lefranc มาก