เมื่อวานขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกับภรรยาคนละคัน เอารถไปเช็คที่ศูนย์ในจังหวัดนครสวรรค์ ขากลับก็เลยขับแวะเที่ยวกันมารายทางแถวชัยนาท
ขาออกจากชัยนาทผมเลือกวิ่งทางเส้นเขื่อนเจ้าพระยา ผ่านอำเภออินทร์บุรี เป็นถนนสองเลนสวนกัน ทางดี ไหล่ทางเป็นเส้นทางจักรยาน (ผมเคยปั่นมาที่นี่) มีสัญลักษณ์ทางจักรยานอยู่บนไหล่ทาง
ด้วยที่เป็นถนนสองเลนสวน เราไม่ได้ใช้ความเร็วอะไร ก็ขับมาแค่ 60 กม.ต่อ ชม. เพราะมีรถคันหน้า ต่อแถวกันไป ทั้งสิบล้อ ทั้งรถไถ มอเตอร์ไซค์คนท้องที่
ภรรยาผมขับแฟนท่อมห่างจากผมเกือบ 30 เมตร ผมก็ทิ้งระยะห่างจากคนปิคอัพขนไอศครีมห่างอยู่ประมาณสามช่วงคันรถ อยู่ ๆ ปิ๊กอัพก็เปิดไฟแล้วจอดด้านซ้าย ผมจึงได้แซงปิคอัพขึ้นมา หน้าปิ๊กอัพมีคุณป้าคนท้องถิ่นขับอยู่กลางเลน (ไม่ได้ชิดเส้นกลาง) ผมจึงเปิดไฟเลี้ยวจะเร่งแซงขวา
แต่อยู่ ๆ คุณป้าแกเลี้ยวขวา ซึ่งด้านขวามือมันเป็นคลองส่งน้ำนะครับ แต่มันมีสะพานเล็ก ๆ ที่สร้างกันไว้เพื่อข้ามไปข้ามมากัน (ชนบทจะเห็นสะพานแบบนี้เยอะและผมไม่เห็นป้ายทางแยก ปกติสะพานใหญ่ ๆ มันจะมีป้ายทางแยกกำกับอยู่) ผมอยู่ห่างจากป้าแกสักไม่ถึงสองช่วงคันรถ ผมส่องกระจกหลังแล้วกดเบรคทั้งหน้าทั้งหลัง ผมรู้สึกได้ถึง ABS มันส่งแรงขึ้นมาที่แป้นเบรค และรถหยุดนิ่งก่อนถึงตัวคุณป้าไม่ถึงเมตร คุณป้าหันมามองแบบเหวอ ๆ (ซึ่งก่อนน้าจะเลี้ยว ไม่มองหลังเลย) ก่อนจะเลี้ยวข้ามเลนและข้ามสะพานเล็ก ๆ นั่นไป แต่ผมน่ะ ใจหายแว๊บ นึกว่าต้องไปวัดพื้นถนนซะแล้ว ส่วนภรรยาผมเอารถอยู่ แต่ก็ตกใจกับป้าเหมือนกัน เพราะเธอก็เตรียมตัวจะเร่งแซงตามผมไป รถที่ตามหลังเรามาก็เบรคกระทันหันแทบทุกคัน
เอามาเล่าให้ฟังว่า ขับรถที่ต่างจังหวัดถึงเป็นเส้นทางรอง ก็อย่าไว้ใจเป็นอันขาด ทางโล่ง ๆ ทางดี ๆ แต่บางทีคนพื้นที่ขับรถด้วยความเคยชินมากกว่ากฎของความปลอดภัย ผมว่าบางทีขับสายเอเซียยังจะง่ายกว่าเลยครับ
ปล. ขณะนั่งพิมพ์อยู่นี่ มีเสียงกลุ่มมอเตอร์ไซค์วิ่งบนถนนสายเอเซียไปหลายกลุ่ม และหลายกลุ่มท่อดังมาก ฟังเสียงตัดอากาศไปน่าจะใช้ความเร็วสูงมากทีเดียว ขนาดบ้านผมอยู่ห่างจากถนนตั้ง 150 เมตร ยังได้ยินชัดเจนขนาดนี้ (ถ้านั่งมองจากหน้าต่างบนบ้านเห็นถนนชัดเจน) ชาวบ้านหลายคนมีทัศนคติไม่ค่อยดีกับชาวมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ๆ สักเท่าไหร่ ท่านใดท่อดังมาก ขับผ่านชุมชนก็เบา ๆ เครื่องกันหน่อยนะครับ บางทีสิ่งที่ชาวมอเตอร์ไซค์ทำกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของกลุ่มสนทนา นี่คุณยายกับแม่ยายของผมก็เพิ่งจะสรรเสริญกลุ่มบิ๊กไบค์ไปหยก ๆ
และแล้วก็ได้ใช้ประโยชน์ของ ABS
ขาออกจากชัยนาทผมเลือกวิ่งทางเส้นเขื่อนเจ้าพระยา ผ่านอำเภออินทร์บุรี เป็นถนนสองเลนสวนกัน ทางดี ไหล่ทางเป็นเส้นทางจักรยาน (ผมเคยปั่นมาที่นี่) มีสัญลักษณ์ทางจักรยานอยู่บนไหล่ทาง
ด้วยที่เป็นถนนสองเลนสวน เราไม่ได้ใช้ความเร็วอะไร ก็ขับมาแค่ 60 กม.ต่อ ชม. เพราะมีรถคันหน้า ต่อแถวกันไป ทั้งสิบล้อ ทั้งรถไถ มอเตอร์ไซค์คนท้องที่
ภรรยาผมขับแฟนท่อมห่างจากผมเกือบ 30 เมตร ผมก็ทิ้งระยะห่างจากคนปิคอัพขนไอศครีมห่างอยู่ประมาณสามช่วงคันรถ อยู่ ๆ ปิ๊กอัพก็เปิดไฟแล้วจอดด้านซ้าย ผมจึงได้แซงปิคอัพขึ้นมา หน้าปิ๊กอัพมีคุณป้าคนท้องถิ่นขับอยู่กลางเลน (ไม่ได้ชิดเส้นกลาง) ผมจึงเปิดไฟเลี้ยวจะเร่งแซงขวา
แต่อยู่ ๆ คุณป้าแกเลี้ยวขวา ซึ่งด้านขวามือมันเป็นคลองส่งน้ำนะครับ แต่มันมีสะพานเล็ก ๆ ที่สร้างกันไว้เพื่อข้ามไปข้ามมากัน (ชนบทจะเห็นสะพานแบบนี้เยอะและผมไม่เห็นป้ายทางแยก ปกติสะพานใหญ่ ๆ มันจะมีป้ายทางแยกกำกับอยู่) ผมอยู่ห่างจากป้าแกสักไม่ถึงสองช่วงคันรถ ผมส่องกระจกหลังแล้วกดเบรคทั้งหน้าทั้งหลัง ผมรู้สึกได้ถึง ABS มันส่งแรงขึ้นมาที่แป้นเบรค และรถหยุดนิ่งก่อนถึงตัวคุณป้าไม่ถึงเมตร คุณป้าหันมามองแบบเหวอ ๆ (ซึ่งก่อนน้าจะเลี้ยว ไม่มองหลังเลย) ก่อนจะเลี้ยวข้ามเลนและข้ามสะพานเล็ก ๆ นั่นไป แต่ผมน่ะ ใจหายแว๊บ นึกว่าต้องไปวัดพื้นถนนซะแล้ว ส่วนภรรยาผมเอารถอยู่ แต่ก็ตกใจกับป้าเหมือนกัน เพราะเธอก็เตรียมตัวจะเร่งแซงตามผมไป รถที่ตามหลังเรามาก็เบรคกระทันหันแทบทุกคัน
เอามาเล่าให้ฟังว่า ขับรถที่ต่างจังหวัดถึงเป็นเส้นทางรอง ก็อย่าไว้ใจเป็นอันขาด ทางโล่ง ๆ ทางดี ๆ แต่บางทีคนพื้นที่ขับรถด้วยความเคยชินมากกว่ากฎของความปลอดภัย ผมว่าบางทีขับสายเอเซียยังจะง่ายกว่าเลยครับ
ปล. ขณะนั่งพิมพ์อยู่นี่ มีเสียงกลุ่มมอเตอร์ไซค์วิ่งบนถนนสายเอเซียไปหลายกลุ่ม และหลายกลุ่มท่อดังมาก ฟังเสียงตัดอากาศไปน่าจะใช้ความเร็วสูงมากทีเดียว ขนาดบ้านผมอยู่ห่างจากถนนตั้ง 150 เมตร ยังได้ยินชัดเจนขนาดนี้ (ถ้านั่งมองจากหน้าต่างบนบ้านเห็นถนนชัดเจน) ชาวบ้านหลายคนมีทัศนคติไม่ค่อยดีกับชาวมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ๆ สักเท่าไหร่ ท่านใดท่อดังมาก ขับผ่านชุมชนก็เบา ๆ เครื่องกันหน่อยนะครับ บางทีสิ่งที่ชาวมอเตอร์ไซค์ทำกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของกลุ่มสนทนา นี่คุณยายกับแม่ยายของผมก็เพิ่งจะสรรเสริญกลุ่มบิ๊กไบค์ไปหยก ๆ