**สปอย สปอย แล้วก็ สปอยค่ะ**

อีกหนึ่งภาพยนตร์ในปี 2015 ที่หลายคนยังคงประทับใจ และซึ้งไปกับแรงศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของเด็กชายตัวเล็กที่สุดในเมืองโอแฮร์ แคลิฟอเนียร์ "เปปเปอร์"

เด็กชายผู้ต้องการช่วยให้พ่อของเขากลับมาจากสงครามได้ ด้วยความเชื่อมั่นในคำสอน ที่บอกว่า

"หากเรามีแรงศรัทธาเท่ากับเมล็ดมัสตาร์ด เราก็สามารถเคลื่อนภูเขาได้
ถ้าเราสามารถเคลื่อนภูเขาได้ ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว ที่เราไม่สามารถทำได้"




ดังนั้นเปปเปอร์จึงต้องทำตามสิ่งต่างๆที่ระบุในรายการของหลวงพ่อให้ครบ เพื่อที่จะทำให้โชคชะตาช่วยเข้าข้าง พาพ่อของเขากลับมาบ้านได้

เรื่องราวของเด็กชายเปปเปอร์ที่ใช้แรงศรัทธาทุกอย่างในตัวเอง มาทุ่มเทพลังกายใจ เรียกให้พ่อของเขากลับคืนสู่บ้านได้นั้น จึงได้ถูกดำเนิน ผ่านตัวละครเด็กชายตัวจิ๋ว ชายญี่ปุ่นที่ถูกชาวเมืองรังเกียจ ในฐานะศัตรูต่างชาติ พี่น้อง และแม่ลูก

หนังเรื่องนี้ได้สะท้อนให้เราทุกคนได้เห็น ว่ามิตรภาพที่ดีนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดได้ง่ายๆด้วยเพียงคำว่า เคียดแค้น หรือ ศัตรู
แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้อย่างงดงามเหลือเชื่อ ท่ามกลางความเกลียดชังที่ไม่มีวันจบสิ้นของมนุษย์กันเอง

และได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า แรงศรัทธาอันแรงกล้าที่มีขึ้นมา เพื่อมอบให้แก่คนรักของเรานั้น ไม่ว่ามันจะเกิดมาจากเด็กชายที่ตัวเล็กเพียงใด
สุดท้ายแล้ว มันก็คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ไม่มีสิ่งใดมาทำลายลงได้ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า หรือการจากลา

เชื่อว่าใครหลายคนที่ได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้ว คงจะซึ้ง ประทับใจ และร้องไห้ร่วมกับเด็กชายเปปเปอร์ไปแล้ว
น้อง Jekob และ Emily Watson ร้องไห้ได้สะท้านใจแก้วมากค่ะ (แก้วร้องไปเลย ตอนฉากหลุมศพ)

และนี่คือ Movie Mouthy Quote ที่เชื่อว่าสามารถสร้างรอยยิ้ม และแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับเพื่อนๆได้ค่ะ

ขอให้รับชมอย่างสนุกสนานนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^
www.facebook.com/moviemouthy

ฉากที่ 1 : เมื่อพ่อเป็นมากกว่าพ่อ และเมื่อลูกเป็นมากกว่าลูก ความรักความผูกพันธ์ในฐานะ 'คู่หู' จึงเกิดขึ้น
และคู่หู ก็ต้องไม่แยกจากกัน ไม่ว่าจะในโลกความเป็นจริง หรือในโลกจินตนาการ






ฉากที่ 2 : ลูกทุกคน ต้องเคยผ่านจุดที่อดออม เก็บเงินค่าขนมซื้อของขวัญไปให้คนที่เรารักมากที่สุด
เปปเปอร์เอง ก็ทำในสิ่งที่ไม่ต่างไปจากเรา นั่นก็คือ ทุบกระปุก เอาเงินค่าขนมมาซื้อรองเท้าบู้ทคู่ที่พ่อเล็งเอาไว้มานานแล้ว เพื่อจะมอบให้แก่คุณพ่อ ที่เขาเชื่อว่าท่านกำลังจะกลับมาจากสงครามเร็วๆนี้




ฉากที่ 3 : เพราะแรงเชื่อมั่นในตัวเด็กนั่น หากคิดจะแก้แล้ว มันต้องตามมาด้วยคำอธิบายที่ยาวนาน(มากกกก) เสมอ
การอธิบายให้เปปเปอร์เข้าใจว่า พลังจิตเรียกพ่อให้กลับมานั้น ไม่มีจริง จึงต้องใช้คำอธิบายที่ชัดเจนกว่าปกติ





ฉากที่ 4 : เพราะแรงศรัทธาสำหรับใครบางคน อาจต้องใช้มากกว่าความเชื่อมั่น ... "ต้องมีคนยอมเลื่อนขวดนั่นด้วย"








ฉากที่ 5 : เมื่อสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด
การให้การ์ตูนกับคนป่วยนอนเตียง ก็เช่นเดียวกัน



เมื่อสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด
การดูแลเอาใจใส่ คนหูดับ ที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสความอ่อนโยนมาทั้งชีวิต ก็เช่นเดียวกัน





เมื่อสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คิด
การทำเสื้อเพื่อมอบแก่ทารกน้อย ก็เช่นเดียวกัน





ฉากที่ 6 : เพราะความยิ่งใหญ่ของคน ไม่ได้วัดมาจากเท้าพยุงให้ตัวยืนขึ้นมาจากพื้นดินได้มากเท่าไหร่
แต่วัดมาจากสิ่งที่คิดและจิตใจของเรา ว่าจะไปได้สูงจนเทียมฟ้าได้หรือไม่





ฉากที่ 7 : เมื่อใดที่จิตใจของเราไม่มีความเกลียดชัง คำสาปแช่ง และอารมณ์เคียดแค้น เมื่อนั้นมิตรภาพและความรักจึงจะเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว






ฉากที่ 8 : เพราะสงครามไม่เคยให้อะไรเรากลับมา นอกจากความสูญเสีย การจากลา และความทุกข์ทรมาน




ฉากที่ 9 : จะมีแรงศรัทธาอะไร ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าแรงศรัทธาที่มีขึ้นมา เพื่อมอบให้แก่คนรัก





ฉากที่ 10 : เพราะสำหรับใครบางคน ในชีวิตนี้ เขามีคู่หูได้เพียงคนเดียวเท่านั้น




ฉากที่ 11 : การที่จะเชื่อมั่นได้นั้น ต้องใช้ความกล้าหาญ