หลังจากที่แฟนๆ ได้ติดตามการผจญภัยของคู่หู “Wallace” นักประดิษฐ์สุดประหลาด และ “Gromit” สุนัขผู้สุขุมรอบคอบในผลงานก่อนๆ คราวนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมเรื่องราวใหม่ที่ซับซ้อนและชวนหัวเราะไม่แพ้ครั้งไหนๆ ใน “Vengeance Most Fowl” หนังสั้น/หนังชุดสุดพิเศษจากจักรวาล Wallace & Gromit ที่ยังคงเสน่ห์และเอกลักษณ์การนำเสนอด้วยงานแอนิเมชันสต็อปโมชั่นดินน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย Aardman ตลอดมา
เนื้อเรื่องเปิดฉากขึ้นด้วยบรรยากาศที่ดูจะสงบสุขตามสไตล์หมู่บ้านชนบทอังกฤษ Wallace และ Gromit กำลังโหมงานประดิษฐ์สุดล้ำเพื่อสร้าง “เครื่องผลิตไข่อัตโนมัติ” หวังแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนไข่ในย่านชุมชนเล็กๆ ของพวกเขา แต่ในไม่ช้า ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมี “ไก่ปริศนา” โผล่มาขโมยส่วนประกอบสำคัญของเครื่องไป! ความป่วนจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อ Wallace ออกตามล่าตัวการ พร้อม Gromit ที่คอยช่วยเหลือจากเบื้องหลังอย่างเต็มกำลัง ทว่าการไล่ล่าเจ้าไก่เจ้าเล่ห์นี้ดันเปิดเผยความจริงว่ามีคน (หรือไก่) อยู่เบื้องหลังแผนการใหญ่ ที่พร้อมจะสร้างความปั่นป่วนให้ทั้งเมือง
จุดเด่นของ “Vengeance Most Fowl” อยู่ที่อารมณ์ขันคลาสสิกแบบ Wallace & Gromit ที่ยังรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งมุกตลกจากพฤติกรรมเกินคาดของ Wallace และสีหน้าท่าทาง “เหนื่อยใจแต่ก็ต้องช่วย” ของ Gromit ที่ดึงดูดคนดูได้ตลอดเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีตัวละครข้างเคียงที่กลับมาเติมสีสันให้เนื้อหาดูสดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในขณะเดียวกัน ทีมผู้สร้างก็สอดแทรกดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ขยันใส่ลงไปเพื่อสะท้อนความน่ารักแต่แสนจะซับซ้อนของ “ไก่” ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องได้อย่างแยบยล
ในส่วนของงานภาพและเทคนิคการทำสต็อปโมชั่น แม้เวลาผ่านไปนาน แต่คุณภาพยังคงไม่ตกหล่นเลย หากใครชื่นชอบความพิถีพิถันในการเคลื่อนไหวตัวละครดินน้ำมันของ Aardman จะยิ่งประทับใจ เพราะแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เราจะสัมผัสถึงความทุ่มเทในทุกฉาก ทุกเฟรม ถ่ายทอดชีวิตชีวาของตัวละครออกมาได้สมจริงและน่ารักในแบบเฉพาะตัว ส่วนดนตรีประกอบก็มีเสน่ห์ ช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักซุกซนได้เป็นอย่างดี ทำให้เรื่องนี้แทรกความสุขและรอยยิ้มให้เราอยู่ตลอดการรับชม
โดยรวมแล้ว “Wallace & Gromit: Vengeance Most Fowl” เป็นอีกหนึ่งผลงานที่รักษามาตรฐานความสนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย มีความตลก สร้างสรรค์ และยังแอบแฝงข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ให้คนดูได้ทบทวนถึงมิตรภาพและไหวพริบเวลาเผชิญปัญหา หากใครกำลังมองหาการผจญภัยที่เบาสมอง แต่ก็มีส่วนผสมของความตื่นเต้นและความขบขันลงตัว แนะนำให้เปิดใจลองชมเรื่องนี้ รับประกันว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
คะแนน (เต็ม 10): 9/10
“Vengeance Most Fowl” จึงนับเป็นอีกหนึ่งตอนที่แฟนๆ Wallace & Gromit ไม่ควรพลาด และใครที่ไม่เคยสัมผัสกับคู่หูคู่นี้มาก่อนก็สามารถดูแล้วเข้าใจง่าย มีเรื่องราวที่ชัดเจนและเต็มไปด้วยความบันเทิงอย่างแท้จริง!
Wallace & Gromit: Vengeance Most Fowl – แผนแค้นขนฟู ตะลุยความฮาไม่รู้ลืม!
หลังจากที่แฟนๆ ได้ติดตามการผจญภัยของคู่หู “Wallace” นักประดิษฐ์สุดประหลาด และ “Gromit” สุนัขผู้สุขุมรอบคอบในผลงานก่อนๆ คราวนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมเรื่องราวใหม่ที่ซับซ้อนและชวนหัวเราะไม่แพ้ครั้งไหนๆ ใน “Vengeance Most Fowl” หนังสั้น/หนังชุดสุดพิเศษจากจักรวาล Wallace & Gromit ที่ยังคงเสน่ห์และเอกลักษณ์การนำเสนอด้วยงานแอนิเมชันสต็อปโมชั่นดินน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ของค่าย Aardman ตลอดมา
เนื้อเรื่องเปิดฉากขึ้นด้วยบรรยากาศที่ดูจะสงบสุขตามสไตล์หมู่บ้านชนบทอังกฤษ Wallace และ Gromit กำลังโหมงานประดิษฐ์สุดล้ำเพื่อสร้าง “เครื่องผลิตไข่อัตโนมัติ” หวังแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนไข่ในย่านชุมชนเล็กๆ ของพวกเขา แต่ในไม่ช้า ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมี “ไก่ปริศนา” โผล่มาขโมยส่วนประกอบสำคัญของเครื่องไป! ความป่วนจึงเริ่มต้นขึ้น เมื่อ Wallace ออกตามล่าตัวการ พร้อม Gromit ที่คอยช่วยเหลือจากเบื้องหลังอย่างเต็มกำลัง ทว่าการไล่ล่าเจ้าไก่เจ้าเล่ห์นี้ดันเปิดเผยความจริงว่ามีคน (หรือไก่) อยู่เบื้องหลังแผนการใหญ่ ที่พร้อมจะสร้างความปั่นป่วนให้ทั้งเมือง
จุดเด่นของ “Vengeance Most Fowl” อยู่ที่อารมณ์ขันคลาสสิกแบบ Wallace & Gromit ที่ยังรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งมุกตลกจากพฤติกรรมเกินคาดของ Wallace และสีหน้าท่าทาง “เหนื่อยใจแต่ก็ต้องช่วย” ของ Gromit ที่ดึงดูดคนดูได้ตลอดเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีตัวละครข้างเคียงที่กลับมาเติมสีสันให้เนื้อหาดูสดใสและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในขณะเดียวกัน ทีมผู้สร้างก็สอดแทรกดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ที่ขยันใส่ลงไปเพื่อสะท้อนความน่ารักแต่แสนจะซับซ้อนของ “ไก่” ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องได้อย่างแยบยล
ในส่วนของงานภาพและเทคนิคการทำสต็อปโมชั่น แม้เวลาผ่านไปนาน แต่คุณภาพยังคงไม่ตกหล่นเลย หากใครชื่นชอบความพิถีพิถันในการเคลื่อนไหวตัวละครดินน้ำมันของ Aardman จะยิ่งประทับใจ เพราะแม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เราจะสัมผัสถึงความทุ่มเทในทุกฉาก ทุกเฟรม ถ่ายทอดชีวิตชีวาของตัวละครออกมาได้สมจริงและน่ารักในแบบเฉพาะตัว ส่วนดนตรีประกอบก็มีเสน่ห์ ช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักซุกซนได้เป็นอย่างดี ทำให้เรื่องนี้แทรกความสุขและรอยยิ้มให้เราอยู่ตลอดการรับชม
โดยรวมแล้ว “Wallace & Gromit: Vengeance Most Fowl” เป็นอีกหนึ่งผลงานที่รักษามาตรฐานความสนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย มีความตลก สร้างสรรค์ และยังแอบแฝงข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ให้คนดูได้ทบทวนถึงมิตรภาพและไหวพริบเวลาเผชิญปัญหา หากใครกำลังมองหาการผจญภัยที่เบาสมอง แต่ก็มีส่วนผสมของความตื่นเต้นและความขบขันลงตัว แนะนำให้เปิดใจลองชมเรื่องนี้ รับประกันว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
คะแนน (เต็ม 10): 9/10
“Vengeance Most Fowl” จึงนับเป็นอีกหนึ่งตอนที่แฟนๆ Wallace & Gromit ไม่ควรพลาด และใครที่ไม่เคยสัมผัสกับคู่หูคู่นี้มาก่อนก็สามารถดูแล้วเข้าใจง่าย มีเรื่องราวที่ชัดเจนและเต็มไปด้วยความบันเทิงอย่างแท้จริง!