แล้วก็มาถึงตอนจบกันจนได้ กับอภิมหาการ์ตูนอมตะที่กว่าจะได้ทำเป็นอนิเมก็ล่อเข้าไปเกือบ 20 ปีเรื่องนี้
มานึกอะไรจะพูดเอาตอนต้นกระทู้ก็นึกไม่ออกแล้ว เอาเป็นว่าไปชมภาพตอนนี้กันได้เลยครับ
ฉากแรก ฮะกุเม็งยอมรับเป็นครั้งแรกถึง
"ความเกลียด" และ
"ความกลัว" ที่ตนเองมีต่อสิ่งอื่นที่มีธาตุหยาง (แสงสว่าง)
กำเนิดของฮะกุเม็ง
เกิดจากธาตุหยิน (ความมืด) ที่ตกลงสู่เบื้องล่างในช่วงกำเนิดโลก ได้แต่เฝ้าดูสิ่งต่างๆ ที่มีกำเนิดแต่ธาตุหยางจากเบื้องล่างด้วยความอิจฉาอยากเป็นธาตุหยางบ้าง
แต่สุดท้ายพอรู้ตัวว่าเป็นไม่ได้ จากความอิจฉาก็กลายเป็นความเกลียดกลัวสิ่งอื่นที่อยู่ในธาตุหยาง ไม่ใช่ธาตุหยินเหมือนตัวเอง
ฉากวิญญาณเฮียวกับนางาเระมาช่วยเจ้าโอะทำลายหางที่แปดของฮะกุเม็ง
เผาจนหน้าเบี้ยวกันทั่วหน้าเลย...
เจ้าโอะกับโทร่าทำคอมโบไล่ตบฮะกุเม็งเป็นชุดๆ
ทำออกมาพลิ้วจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ต่อจากหน้าเบี้ยวๆ ข้างบนเลย
ฉากพ่อเจ้าโอะมาช่วยแม่เจ้าโอะ
เท่ไม่เท่าในมังงะแต่ก็โอเคมั้ง (ส่วนฉากคุอินตายโดนตัดไปเลย...)
ฉากวิญญาณจูโร่มาช่วยไรชินกับคางาริสู้กับพวกโคคุเอ็น
แอบเสียดายแฮะที่พวกวิญญาณออกมาสู้ได้แป๊บเดียวก็ต้องกลับไป ไม่งั้นอาจได้เห็นฉากคอมโบประสาน 3 พี่น้องคามะอิทาจิก็ได้
ด้านบอสฮะกุเม็งเจอเจ้าโอะกับโทร่าช่วยกันตอดจนย่ำแย่
เลยควักตาตัวเองทิ้งเพื่อไม่ให้มองเห็น จะได้ไม่กลัวหอกสมิง แล้วเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์เคลื่อนไหวโจมตีอย่างรวดเร็วจนจับแทบไม่ทัน โดยอาศัยแค่จับกลิ่นอายจากหอกสมิงเพื่อหาตำแหน่งเจ้าโอะเท่านั้น
เห็นฉากนี้แล้วให้อารมณ์เหมือนบอสที่พอเลือดลดเหลือ 1 ใน 10 จะกลายเป็นร่างใหม่ที่โจมตีหนัก + เร็วกว่าเก่าเลยแฮะ
เลยเจอโทร่าแก้ลำกลับ ด้วยการเอาหอกสมิงเสียบตัวเองให้ฮะกุเม็งจับกลิ่นอายไม่ได้ เลยตีมั่วจั่วลมตลอด
ฉากเฉลยความจริงเรื่องโทร่าโดนหอกเสียบเมื่อ 500 ปีก่อน ไม่ใช่แค่เพื่อให้โซทาโร่ (ต้นตระกูลเจ้าโอะ) ได้กลับเป็นมนุษย์เท่านั้น ยังเพื่อซ่อนหอกจากการจับกลิ่นของฝูงภูตพรายของฮะกุเม็งด้วย
เจ้าโอะยังหักใจปล่อยให้โทร่าเป็นผู้เสียสละไม่ได้ เลยเจอโทร่าด่าเรียกสติอีกชุดใหญ่จนเจ้าโอะยอมทำตามแผนของโร่าในที่สุด
ฉากเด็ด (แต่ยังไม่ที่สุดของตอนนี้)
สองคู่หูรวมพลังพิชิตจอมอสูร
ฉากเด็ดที่ชอบมากในตอนนี้
โทร่าลาสช็อตฮะกุเม็ง ล้างแค้นให้รามกับพี่สาวได้สำเร็จ
ความปรารถนาที่แท้จริงที่ฮะกุเม็งเก็บซ่อนไว้ในหางที่เก้าของตัวเองมาตลอดหลายพันปี
การได้เกิดมาท่ามกลางแสงสว่าง (ธาตุหยาง)
แล้วก็มาถึงฉากเด็ดที่สุดของตอนนี้
วาระสุดท้ายของโทร่า...
เจ้าโอะ
"แกสัญญาว่าจะกินฉันไม่ใช่เหรอ"
โทร่า
"ก็กินแล้วไงล่ะ...กิน...จนพุงกางเลย..."
...เจตจำนงที่ข้ามเวลามายาวนานกว่า 2000 ปี บัดนี้โทร่าทำให้มันเป็นจริงในที่สุดด้วยชีวิตของตนเอง
*หมายเหตุ - ขยายความเล็กน้อย บทพูดในฉากนี้ของโทร่าจะเชื่อมโยงกับบทพูดที่พี่สาวของรามเคยพูดไว้ในตอน 34 โดยตอนนั้นพี่สาวรามบอกว่าถ้าตัวเองอยากหนีให้พ้นอันตราย คงต้อง "หนีเข้าไปอยู่ในปากของท่านชกาคช (โทร่า)" ซึ่งโดยความหมายแล้ว การ "กิน" ก็ถือเป็นการ "เอาเข้าไปอยู่ในปาก" อย่างหนึ่ง ดังนั้นคำพูดในที่นี้ของโทร่าจึงหมายความว่าตัวเองปกป้องคนที่ควรปกป้องได้แล้วนั่นเอง
ฉากที่ชอบอีกฉากในตอนนี้
ครอบครัวเจียเม่ยอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง...แม้จะเป็นวิญญาณก็ตาม
เจียเม่ยกับกิเรียวยอมสละตัวเองเข้าเป็นแกนวิญญาณให้เจ้าโอะที่โดนหอกสมิงกินไปหมด เพื่อไม่ให้เจ้าโอะต้องกลายเป็นสมิงและอาซาฟุเซะ
อีกฉากประทับใจในตอนนี้ ท่านโอมาโมริเข้าไปปิดประตูยมโลกแทนซายะ เพื่อให้ซายะได้อยู่บนโลกต่อไป (ประตูนี้ต้องปิดจากด้านในเท่านั้น ดังนั้นเผ่าผมขาวแต่ละคนจึงใช้วิชานี้ได้แค่ครั้งเดียว เพราะใช้เสร็จก็ต้องเข้าไปอยู่ในยมโลกเลย)
เหล่าอสูรรุ่นเก่าๆ ทั้งฝั่งตะวันออกตะวันตกเปลี่ยนตนเองเป็นเสาหินแทนเสาค้ำเดิมที่พังไปเพราะฮะกุเม็ง หยุดการจมของญี่ปุ่นได้สำเร็จ
เหล่าอสูรรุ่นใหม่ๆ ที่ยังเหลืออยู่
ฉากนี้แอบขำนิดหน่อยแฮะ เพราะเล่นรวมเอาพวกปีศาจในมังงะที่ไม่ได้ออกโรงในอนิเมไว้ตั้งหลายตัวเลย (ทั้งปีศาจหิมะเอย เกโดเอย น้องเท็นงูที่แอบชอบโทร่าเอย ฯลฯ)
จากนั้นฉากก็ตัดไปยังปีถัดมาหลังสิ้นสุดศึกสุดท้ายกับฮะกุเม็ง
มายูโกะยังคงไม่หายเศร้าจากการจากไปของโทร่า
เหลือแต่คิริโอที่พยายามเอาเป็นเอาตายเพื่อให้มายูโกะก้าวเดินต่อไปได้เท่านั้น
ชีวิตดี๊ดีมีแม่ให้อ้อนของเจ้าโอะ
แต่เมื่อเจอสิ่งเตือนใจให้นึกถึงโทร่าก็ยังอดเศร้าโศกไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าโอะก็ได้แต่กล้ำกลืนความเศร้า แล้วมุ่งหน้าต่อไป เพื่อไม่ให้ชีวิตทั้งหลายที่ต้องสูญสิ้นไปในศึกครั้งนั้น...โดยเฉพาะโทร่า...ต้องสูญสิ้นอย่างเสียเปล่าเพียงเท่านั้น
ความประทับใจของตอนจบนี้เรียกว่าไงดีล่ะ โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้วก็อารมณ์เดียวกับที่ตามมาทั้งเรื่องเลยแฮะ คือมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีปนๆ กันไป เรียกว่าฉากไหนดีก็ดีแทบจะใจหาย ฉากไหนที่ตัดออก บางทีก็ตัดออกซะเสียไปเลย
ยกตัวอย่างชัดๆ ก็ฉากคุอินตายที่โดนตัดไป ฉากพ่อเจ้าโอะมาช่วยแม่เจ้าโอะที่โดนตัดไปเยอะจนดึงอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือฉากวิญญาณนางาเระกับเฮียวมาช่วยเจ้าโอะทำลายหางใบหอกก็เหมือนกัน
แต่กลับกัน ฉากที่เป็นไคลแม็กซ์สำคัญของเรื่องอย่างฉากปราบฮะกุเม็ง ฉากตายของโทร่า กับฉากสุดท้ายของเจ้าโอะนี่ทำออกมาได้ประทับใจโคตรๆ โดยเฉพาะฉากตายของโทร่านั้นอาจทำออกมาได้ดีกว่าในมังงะเสียด้วยซ้ำ (อันนี้คงต้องชมคุณโคยามะ ริคิยะที่พากย์เสียงโทร่าออกมาได้โคตรเทพในฉากนี้ด้วยแฮะ)
ซึ่งทั้งหมดนี้อาจมาจากปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องทุนรอนสำหรับปั่นงาน เวลาฉายที่น้อย (หากเทียบกับสเกลเรื่องทั้งเรื่อง) ทำให้ทีมงานจำเป็นต้องเจียดเวลากับทุนให้กับฉากที่สำคัญที่สุดก่อน ส่วนฉากที่สำคัญรองลงไปก็เจียดเวลากับทุนให้น้อยหน่อย เลยออกมาเป็นแบบนี้ไปเลย
ยังแอบเสียดายเลยแฮะว่าถ้าเรื่องนี้กล้าทำสเกลใหญ่ๆ แบบ Fullmetal Alchemist Brootherhood ได้คงออกมาแบบจัดเต็มเลย แต่ก็นั่นแหละ เรื่องมันเก่าตั้ง 20 ปีแล้ว คงไม่มีใครกล้าลงทุนให้ถึงขนาดนั้นจริงๆ
แต่ถึงยังไง เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่น่าพูดถึงในฐานะผลงานที่อ.ฟุจิตะรอคอยมากว่า 20 ปีถึงได้เป็นอนิเม และกลายเป็นความทรงจำหน้าหนึ่งที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายของบรรดาเด็กโข่งที่เคยตามอ่านการ์ตูนเรื่องนี้แบบลุ้นอาทิตย์ต่ออาทิตย์ในสมัยก่อนละครับ
ปล. - สุดท้ายนี้หวังว่าในฉบับบลูเรย์จะทำตอนพิเศษในฉบับเรื่องสั้นออกมาให้ได้ชมกันนา โดยเฉพาตอนของเฮียวกับตอนของโทร่า VS โซทาโร่ (ผู้ถือหอกต้นตระกูลของเจ้าโอะ) นี่อยากเห็นเวอร์ชั่นอนิเมจริงๆ
[Spoil] ล่าอสูรกาย ภาคอนิเมทีวี #39 (ตอนอวสาน) - "สายสัมพันธ์ของอุชิโอะกับโทร่า"
แล้วก็มาถึงตอนจบกันจนได้ กับอภิมหาการ์ตูนอมตะที่กว่าจะได้ทำเป็นอนิเมก็ล่อเข้าไปเกือบ 20 ปีเรื่องนี้
มานึกอะไรจะพูดเอาตอนต้นกระทู้ก็นึกไม่ออกแล้ว เอาเป็นว่าไปชมภาพตอนนี้กันได้เลยครับ
ฉากแรก ฮะกุเม็งยอมรับเป็นครั้งแรกถึง "ความเกลียด" และ "ความกลัว" ที่ตนเองมีต่อสิ่งอื่นที่มีธาตุหยาง (แสงสว่าง)
กำเนิดของฮะกุเม็ง
เกิดจากธาตุหยิน (ความมืด) ที่ตกลงสู่เบื้องล่างในช่วงกำเนิดโลก ได้แต่เฝ้าดูสิ่งต่างๆ ที่มีกำเนิดแต่ธาตุหยางจากเบื้องล่างด้วยความอิจฉาอยากเป็นธาตุหยางบ้าง
แต่สุดท้ายพอรู้ตัวว่าเป็นไม่ได้ จากความอิจฉาก็กลายเป็นความเกลียดกลัวสิ่งอื่นที่อยู่ในธาตุหยาง ไม่ใช่ธาตุหยินเหมือนตัวเอง
ฉากวิญญาณเฮียวกับนางาเระมาช่วยเจ้าโอะทำลายหางที่แปดของฮะกุเม็ง
เผาจนหน้าเบี้ยวกันทั่วหน้าเลย...
เจ้าโอะกับโทร่าทำคอมโบไล่ตบฮะกุเม็งเป็นชุดๆ
ทำออกมาพลิ้วจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ต่อจากหน้าเบี้ยวๆ ข้างบนเลย
ฉากพ่อเจ้าโอะมาช่วยแม่เจ้าโอะ
เท่ไม่เท่าในมังงะแต่ก็โอเคมั้ง (ส่วนฉากคุอินตายโดนตัดไปเลย...)
ฉากวิญญาณจูโร่มาช่วยไรชินกับคางาริสู้กับพวกโคคุเอ็น
แอบเสียดายแฮะที่พวกวิญญาณออกมาสู้ได้แป๊บเดียวก็ต้องกลับไป ไม่งั้นอาจได้เห็นฉากคอมโบประสาน 3 พี่น้องคามะอิทาจิก็ได้
ด้านบอสฮะกุเม็งเจอเจ้าโอะกับโทร่าช่วยกันตอดจนย่ำแย่
เลยควักตาตัวเองทิ้งเพื่อไม่ให้มองเห็น จะได้ไม่กลัวหอกสมิง แล้วเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์เคลื่อนไหวโจมตีอย่างรวดเร็วจนจับแทบไม่ทัน โดยอาศัยแค่จับกลิ่นอายจากหอกสมิงเพื่อหาตำแหน่งเจ้าโอะเท่านั้น
เห็นฉากนี้แล้วให้อารมณ์เหมือนบอสที่พอเลือดลดเหลือ 1 ใน 10 จะกลายเป็นร่างใหม่ที่โจมตีหนัก + เร็วกว่าเก่าเลยแฮะ
เลยเจอโทร่าแก้ลำกลับ ด้วยการเอาหอกสมิงเสียบตัวเองให้ฮะกุเม็งจับกลิ่นอายไม่ได้ เลยตีมั่วจั่วลมตลอด
ฉากเฉลยความจริงเรื่องโทร่าโดนหอกเสียบเมื่อ 500 ปีก่อน ไม่ใช่แค่เพื่อให้โซทาโร่ (ต้นตระกูลเจ้าโอะ) ได้กลับเป็นมนุษย์เท่านั้น ยังเพื่อซ่อนหอกจากการจับกลิ่นของฝูงภูตพรายของฮะกุเม็งด้วย
เจ้าโอะยังหักใจปล่อยให้โทร่าเป็นผู้เสียสละไม่ได้ เลยเจอโทร่าด่าเรียกสติอีกชุดใหญ่จนเจ้าโอะยอมทำตามแผนของโร่าในที่สุด
ฉากเด็ด (แต่ยังไม่ที่สุดของตอนนี้)
สองคู่หูรวมพลังพิชิตจอมอสูร
ฉากเด็ดที่ชอบมากในตอนนี้
โทร่าลาสช็อตฮะกุเม็ง ล้างแค้นให้รามกับพี่สาวได้สำเร็จ
ความปรารถนาที่แท้จริงที่ฮะกุเม็งเก็บซ่อนไว้ในหางที่เก้าของตัวเองมาตลอดหลายพันปี
การได้เกิดมาท่ามกลางแสงสว่าง (ธาตุหยาง)
แล้วก็มาถึงฉากเด็ดที่สุดของตอนนี้
วาระสุดท้ายของโทร่า...
เจ้าโอะ "แกสัญญาว่าจะกินฉันไม่ใช่เหรอ"
โทร่า "ก็กินแล้วไงล่ะ...กิน...จนพุงกางเลย..."
...เจตจำนงที่ข้ามเวลามายาวนานกว่า 2000 ปี บัดนี้โทร่าทำให้มันเป็นจริงในที่สุดด้วยชีวิตของตนเอง
*หมายเหตุ - ขยายความเล็กน้อย บทพูดในฉากนี้ของโทร่าจะเชื่อมโยงกับบทพูดที่พี่สาวของรามเคยพูดไว้ในตอน 34 โดยตอนนั้นพี่สาวรามบอกว่าถ้าตัวเองอยากหนีให้พ้นอันตราย คงต้อง "หนีเข้าไปอยู่ในปากของท่านชกาคช (โทร่า)" ซึ่งโดยความหมายแล้ว การ "กิน" ก็ถือเป็นการ "เอาเข้าไปอยู่ในปาก" อย่างหนึ่ง ดังนั้นคำพูดในที่นี้ของโทร่าจึงหมายความว่าตัวเองปกป้องคนที่ควรปกป้องได้แล้วนั่นเอง
ฉากที่ชอบอีกฉากในตอนนี้
ครอบครัวเจียเม่ยอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง...แม้จะเป็นวิญญาณก็ตาม
เจียเม่ยกับกิเรียวยอมสละตัวเองเข้าเป็นแกนวิญญาณให้เจ้าโอะที่โดนหอกสมิงกินไปหมด เพื่อไม่ให้เจ้าโอะต้องกลายเป็นสมิงและอาซาฟุเซะ
อีกฉากประทับใจในตอนนี้ ท่านโอมาโมริเข้าไปปิดประตูยมโลกแทนซายะ เพื่อให้ซายะได้อยู่บนโลกต่อไป (ประตูนี้ต้องปิดจากด้านในเท่านั้น ดังนั้นเผ่าผมขาวแต่ละคนจึงใช้วิชานี้ได้แค่ครั้งเดียว เพราะใช้เสร็จก็ต้องเข้าไปอยู่ในยมโลกเลย)
เหล่าอสูรรุ่นเก่าๆ ทั้งฝั่งตะวันออกตะวันตกเปลี่ยนตนเองเป็นเสาหินแทนเสาค้ำเดิมที่พังไปเพราะฮะกุเม็ง หยุดการจมของญี่ปุ่นได้สำเร็จ
เหล่าอสูรรุ่นใหม่ๆ ที่ยังเหลืออยู่
ฉากนี้แอบขำนิดหน่อยแฮะ เพราะเล่นรวมเอาพวกปีศาจในมังงะที่ไม่ได้ออกโรงในอนิเมไว้ตั้งหลายตัวเลย (ทั้งปีศาจหิมะเอย เกโดเอย น้องเท็นงูที่แอบชอบโทร่าเอย ฯลฯ)
จากนั้นฉากก็ตัดไปยังปีถัดมาหลังสิ้นสุดศึกสุดท้ายกับฮะกุเม็ง
มายูโกะยังคงไม่หายเศร้าจากการจากไปของโทร่า
เหลือแต่คิริโอที่พยายามเอาเป็นเอาตายเพื่อให้มายูโกะก้าวเดินต่อไปได้เท่านั้น
ชีวิตดี๊ดีมีแม่ให้อ้อนของเจ้าโอะ
แต่เมื่อเจอสิ่งเตือนใจให้นึกถึงโทร่าก็ยังอดเศร้าโศกไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าโอะก็ได้แต่กล้ำกลืนความเศร้า แล้วมุ่งหน้าต่อไป เพื่อไม่ให้ชีวิตทั้งหลายที่ต้องสูญสิ้นไปในศึกครั้งนั้น...โดยเฉพาะโทร่า...ต้องสูญสิ้นอย่างเสียเปล่าเพียงเท่านั้น
ความประทับใจของตอนจบนี้เรียกว่าไงดีล่ะ โดยส่วนตัวสำหรับผมแล้วก็อารมณ์เดียวกับที่ตามมาทั้งเรื่องเลยแฮะ คือมีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดีปนๆ กันไป เรียกว่าฉากไหนดีก็ดีแทบจะใจหาย ฉากไหนที่ตัดออก บางทีก็ตัดออกซะเสียไปเลย
ยกตัวอย่างชัดๆ ก็ฉากคุอินตายที่โดนตัดไป ฉากพ่อเจ้าโอะมาช่วยแม่เจ้าโอะที่โดนตัดไปเยอะจนดึงอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือฉากวิญญาณนางาเระกับเฮียวมาช่วยเจ้าโอะทำลายหางใบหอกก็เหมือนกัน
แต่กลับกัน ฉากที่เป็นไคลแม็กซ์สำคัญของเรื่องอย่างฉากปราบฮะกุเม็ง ฉากตายของโทร่า กับฉากสุดท้ายของเจ้าโอะนี่ทำออกมาได้ประทับใจโคตรๆ โดยเฉพาะฉากตายของโทร่านั้นอาจทำออกมาได้ดีกว่าในมังงะเสียด้วยซ้ำ (อันนี้คงต้องชมคุณโคยามะ ริคิยะที่พากย์เสียงโทร่าออกมาได้โคตรเทพในฉากนี้ด้วยแฮะ)
ซึ่งทั้งหมดนี้อาจมาจากปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องทุนรอนสำหรับปั่นงาน เวลาฉายที่น้อย (หากเทียบกับสเกลเรื่องทั้งเรื่อง) ทำให้ทีมงานจำเป็นต้องเจียดเวลากับทุนให้กับฉากที่สำคัญที่สุดก่อน ส่วนฉากที่สำคัญรองลงไปก็เจียดเวลากับทุนให้น้อยหน่อย เลยออกมาเป็นแบบนี้ไปเลย
ยังแอบเสียดายเลยแฮะว่าถ้าเรื่องนี้กล้าทำสเกลใหญ่ๆ แบบ Fullmetal Alchemist Brootherhood ได้คงออกมาแบบจัดเต็มเลย แต่ก็นั่นแหละ เรื่องมันเก่าตั้ง 20 ปีแล้ว คงไม่มีใครกล้าลงทุนให้ถึงขนาดนั้นจริงๆ
แต่ถึงยังไง เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่น่าพูดถึงในฐานะผลงานที่อ.ฟุจิตะรอคอยมากว่า 20 ปีถึงได้เป็นอนิเม และกลายเป็นความทรงจำหน้าหนึ่งที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายของบรรดาเด็กโข่งที่เคยตามอ่านการ์ตูนเรื่องนี้แบบลุ้นอาทิตย์ต่ออาทิตย์ในสมัยก่อนละครับ
ปล. - สุดท้ายนี้หวังว่าในฉบับบลูเรย์จะทำตอนพิเศษในฉบับเรื่องสั้นออกมาให้ได้ชมกันนา โดยเฉพาตอนของเฮียวกับตอนของโทร่า VS โซทาโร่ (ผู้ถือหอกต้นตระกูลของเจ้าโอะ) นี่อยากเห็นเวอร์ชั่นอนิเมจริงๆ