มาแล้วค่า เกริ่นไว้เมื่อกระทู้ที่แล้วนะคะ ว่าจะเล่าเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัย แต่พอมานั่งคิดดูแล้ว จะมีอยู่เรื่องนึงเป็นเรื่องที่แม่เคยเล่าให้เราฟัง เราเลยอยากเอาเรื่องนี้มาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันไปก่อนนะคะ
ขอใช้ชื่อเรื่องนี้ว่า อย่าล้อเล่น กับ เวรกรรม
แม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เราฟัง แต่เป็นเรื่องที่แม่ฟังมาจากยายอีกทีนึงนะคะ (แลดูนาน) แต่มันเป็นเรื่องจริงที่หมู่บ้านเราค่อนข้างจะเชื่อเรื่องนี้ เรื่องมีอยู่ว่า วัดในหมู่บ้านเราเป็นวัดป่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเรื่องลี้ลับมากมาย แต่ มีอยู่เรื่องนึงที่เป็นที่เลื่องลือกันจนปัจุบัน นั่นคือ “เปรตยายแสง” ในวัดนั้นจะมีต้นตาลอายุหลายสิบปี ที่เก่าแก่มากอยู่หลายต้น แต่จะมีอยู่ต้นนึงที่มีเครื่องเซ่นไหว้เต็มไปหมด แม่เล่าให้ฟังว่า ยายแสงแกเป็นคนที่ขี้เหนียวมากกก ชนิดที่ว่า แค่ต้นหญ้าอยู่ในรั้วบ้านแกก็หวง(อันนี้จากปากแม่จริงๆ) แกเป็นคนค่อนข้างมีฐานะในสมัยนั้นค่ะ เพราะบ้านแกเป็นบ้านหลังแรกที่มีโทรทัศน์ หรือสมัยนั้นแม่บอกว่า เขาเรียก วิทยุภาพ แกหวงของแกมาก ไม่เคยแบ่งปันให้ใครได้ดูด้วยเลย หวงของทุกอย่าง น้ำก็ไม่ให้ใครกิน แกอยู่คนเดียวค่ะ เพราะผัวแกพึ่งตายไปไม่นาน แม่บอกว่า ขนาดผัวแกตายแกยังไม่นิมนต์พระเลยค่ะ แกว่าเปลือง ตอนนั้นเราฟังก็คิดในใจ (โถ่เอ้ย!! มนุษย์ป้า อิอิ) แกไม่ยอมทำบุญทำทาน คิดว่าการทำบุญไม่จำเป็น แกด่าทุกคน คนแก่ พระ เด็ก หมา ด่าหมด ออกแนว ยายปริกเรื่องหลวงพี่ผีขนุนค่ะ แต่แกหนักกว่านั้นเยอะ วันนึงแกคงอยากกินขนมตาลมั้งคะ แกก็ไปเลยค่ะ หาลูกตาลมาทำขนม แต่ไม่รู้แกคิดอะไรอยู่มุ่งหน้าไปที่วัดค่ะ ตอนนั้นต้นตาลคงยังไม่สูงมาก แกเอาไม้สอยเลยค่ะ ไม่สนใจเลยว่าพระจะยืนกวาดลานอยู่ พอได้สมใจแล้วแกก็กลับบ้านน่าตาเฉย ที่รู้เพราะตอนนั้นเป็นวันที่ชาวบ้านจะมาปฏิบัติธรรมที่วัดกันค่ะ สมัยยายสาวๆก็ไป ชาวบ้านเห็นกันหมด ก็พูดอะไรไม่ได้ค่ะ คงเอือมระอากัน ทั้งๆที่ทุกคนรู้ว่าแกทำขนมตาล แต่ไม่เคยมีใครได้กินเลย (ของมันแน่อยู่แล้ว555)มีคนบอกให้แกเอาไปถวายวัดบ้างเพราะเอาลูกตาลมาจากวัด แกด่ากราดเลยค่ะ หลบกันแทบไม่ทัน แต่อยู่มาไม่นานแกเกิดล้มป่วยค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าแกป่วยเพราะอะไร ป้าของยายเราค่ะ เข้าไปดูใจก็กลัวแกจะไล่กระเจิงออกมา แต่ยังไงก็เป็นเพื่อนบ้านกัน เมื่อเข้าไปดูสภาพที่เห็นคือ ยายแสงนอนโทรมมาก เหมือนไม่ได้กินข้าวค่ะ แกเห็นป้าของยาย(ขอแทนว่ายายบุญนะคะ) แกไม่ด่าค่ะ แกบอกว่าหิวน้ำเอาน้ำให้แกกินหน่อย ยายบุญเลยไปตักน้ำมาให้ค่ะ ยายบุญมาเล่าให้ยายฟังที่หลังว่า ในครัวยายแสง มีของกินเต็มไปหมด มีทุกอย่างเลย หลังจากที่ตักน้ำมา ยายบุญก็ค่อยๆพยุงยายแสงขึ้น เพื่อจะให้กินน้ำ ยายแสงกินเข้าไปได้อึกเดียวก็บ้วนทิ้งค่ะ ด่ายายบุญอีก ว่าเอาแกลบมาให้กิน ยายบุญก็งงค่ะ ว่าในมือก็ถือขันน้ำอยู่แท้ๆทำไมถึงว่าเอาแกลบมาให้กิน ยายแสงไล่ยายบุญออกจากบ้านค่ะ แถมยังพูดว่าอย่าขโมยของๆกูไปล่ะ กูจับได้ก็เอาตายแน่ๆ ได้ยินแบบนั้นด้วยความโมโหยายบุญเลยพูดกลับไปว่า จะตายห่าอยู่แล้ว ยังไม่เลิกหวงของเลย ทำบุญบ้างเถอะยายแสง ตายไปเดี๋ยวก็ไม่มีอะไรกินหรอก ยายแสงตอบทันทีว่า ตายไปของกินกูก็มีเยอะแยะ ทำทำไมบุญทาน ทำไปก็ไม่ถึงกูหรอก พระ...หมด (ฮู้ย!!แรง)
ยายบุญโมโหเลยพูดไปว่า ขี้กลากจะกินปากตายไปเดี๋ยวก็เป็นเปรต ยายแสงตอบกลับว่า เออ กูไม่กลัวหรอก ตายไปกูจะเป็นเปรตอยู่ที่วัดนั่นแหละ คอยขวางพวก ออกไป๊!!!! ยายบุญ รีบออกจากบ้านมาที่บ้านยายเราแล้วเล่าให้ฟัง ยายบุญยังพูดต่อนะว่า แหม!!ฉันละโมโหมันจริงไ อุตส่าห์เข้าไปดูแท้ๆ คอยดูเถอะมันตายไปไม่ได้ผุดได้เกิดหร๊อก!!!
เดี๋ยวมาต่อนะคะ นี่แค่เริ่มเรื่อง ยังยาวขนาดนี้ อย่าพึ่งเบื่อกันน๊า
อย่าล้อเล่นกับ"เวรกรรม"
ขอใช้ชื่อเรื่องนี้ว่า อย่าล้อเล่น กับ เวรกรรม
แม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เราฟัง แต่เป็นเรื่องที่แม่ฟังมาจากยายอีกทีนึงนะคะ (แลดูนาน) แต่มันเป็นเรื่องจริงที่หมู่บ้านเราค่อนข้างจะเชื่อเรื่องนี้ เรื่องมีอยู่ว่า วัดในหมู่บ้านเราเป็นวัดป่า ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีเรื่องลี้ลับมากมาย แต่ มีอยู่เรื่องนึงที่เป็นที่เลื่องลือกันจนปัจุบัน นั่นคือ “เปรตยายแสง” ในวัดนั้นจะมีต้นตาลอายุหลายสิบปี ที่เก่าแก่มากอยู่หลายต้น แต่จะมีอยู่ต้นนึงที่มีเครื่องเซ่นไหว้เต็มไปหมด แม่เล่าให้ฟังว่า ยายแสงแกเป็นคนที่ขี้เหนียวมากกก ชนิดที่ว่า แค่ต้นหญ้าอยู่ในรั้วบ้านแกก็หวง(อันนี้จากปากแม่จริงๆ) แกเป็นคนค่อนข้างมีฐานะในสมัยนั้นค่ะ เพราะบ้านแกเป็นบ้านหลังแรกที่มีโทรทัศน์ หรือสมัยนั้นแม่บอกว่า เขาเรียก วิทยุภาพ แกหวงของแกมาก ไม่เคยแบ่งปันให้ใครได้ดูด้วยเลย หวงของทุกอย่าง น้ำก็ไม่ให้ใครกิน แกอยู่คนเดียวค่ะ เพราะผัวแกพึ่งตายไปไม่นาน แม่บอกว่า ขนาดผัวแกตายแกยังไม่นิมนต์พระเลยค่ะ แกว่าเปลือง ตอนนั้นเราฟังก็คิดในใจ (โถ่เอ้ย!! มนุษย์ป้า อิอิ) แกไม่ยอมทำบุญทำทาน คิดว่าการทำบุญไม่จำเป็น แกด่าทุกคน คนแก่ พระ เด็ก หมา ด่าหมด ออกแนว ยายปริกเรื่องหลวงพี่ผีขนุนค่ะ แต่แกหนักกว่านั้นเยอะ วันนึงแกคงอยากกินขนมตาลมั้งคะ แกก็ไปเลยค่ะ หาลูกตาลมาทำขนม แต่ไม่รู้แกคิดอะไรอยู่มุ่งหน้าไปที่วัดค่ะ ตอนนั้นต้นตาลคงยังไม่สูงมาก แกเอาไม้สอยเลยค่ะ ไม่สนใจเลยว่าพระจะยืนกวาดลานอยู่ พอได้สมใจแล้วแกก็กลับบ้านน่าตาเฉย ที่รู้เพราะตอนนั้นเป็นวันที่ชาวบ้านจะมาปฏิบัติธรรมที่วัดกันค่ะ สมัยยายสาวๆก็ไป ชาวบ้านเห็นกันหมด ก็พูดอะไรไม่ได้ค่ะ คงเอือมระอากัน ทั้งๆที่ทุกคนรู้ว่าแกทำขนมตาล แต่ไม่เคยมีใครได้กินเลย (ของมันแน่อยู่แล้ว555)มีคนบอกให้แกเอาไปถวายวัดบ้างเพราะเอาลูกตาลมาจากวัด แกด่ากราดเลยค่ะ หลบกันแทบไม่ทัน แต่อยู่มาไม่นานแกเกิดล้มป่วยค่ะ ไม่มีใครรู้ว่าแกป่วยเพราะอะไร ป้าของยายเราค่ะ เข้าไปดูใจก็กลัวแกจะไล่กระเจิงออกมา แต่ยังไงก็เป็นเพื่อนบ้านกัน เมื่อเข้าไปดูสภาพที่เห็นคือ ยายแสงนอนโทรมมาก เหมือนไม่ได้กินข้าวค่ะ แกเห็นป้าของยาย(ขอแทนว่ายายบุญนะคะ) แกไม่ด่าค่ะ แกบอกว่าหิวน้ำเอาน้ำให้แกกินหน่อย ยายบุญเลยไปตักน้ำมาให้ค่ะ ยายบุญมาเล่าให้ยายฟังที่หลังว่า ในครัวยายแสง มีของกินเต็มไปหมด มีทุกอย่างเลย หลังจากที่ตักน้ำมา ยายบุญก็ค่อยๆพยุงยายแสงขึ้น เพื่อจะให้กินน้ำ ยายแสงกินเข้าไปได้อึกเดียวก็บ้วนทิ้งค่ะ ด่ายายบุญอีก ว่าเอาแกลบมาให้กิน ยายบุญก็งงค่ะ ว่าในมือก็ถือขันน้ำอยู่แท้ๆทำไมถึงว่าเอาแกลบมาให้กิน ยายแสงไล่ยายบุญออกจากบ้านค่ะ แถมยังพูดว่าอย่าขโมยของๆกูไปล่ะ กูจับได้ก็เอาตายแน่ๆ ได้ยินแบบนั้นด้วยความโมโหยายบุญเลยพูดกลับไปว่า จะตายห่าอยู่แล้ว ยังไม่เลิกหวงของเลย ทำบุญบ้างเถอะยายแสง ตายไปเดี๋ยวก็ไม่มีอะไรกินหรอก ยายแสงตอบทันทีว่า ตายไปของกินกูก็มีเยอะแยะ ทำทำไมบุญทาน ทำไปก็ไม่ถึงกูหรอก พระ...หมด (ฮู้ย!!แรง)
ยายบุญโมโหเลยพูดไปว่า ขี้กลากจะกินปากตายไปเดี๋ยวก็เป็นเปรต ยายแสงตอบกลับว่า เออ กูไม่กลัวหรอก ตายไปกูจะเป็นเปรตอยู่ที่วัดนั่นแหละ คอยขวางพวก ออกไป๊!!!! ยายบุญ รีบออกจากบ้านมาที่บ้านยายเราแล้วเล่าให้ฟัง ยายบุญยังพูดต่อนะว่า แหม!!ฉันละโมโหมันจริงไ อุตส่าห์เข้าไปดูแท้ๆ คอยดูเถอะมันตายไปไม่ได้ผุดได้เกิดหร๊อก!!!
เดี๋ยวมาต่อนะคะ นี่แค่เริ่มเรื่อง ยังยาวขนาดนี้ อย่าพึ่งเบื่อกันน๊า