สวัสดีครับพันทิป สืบเนื่องจากกระทู้นี้ครับ
http://ppantip.com/topic/35281552
หลังจากที่แม่ผมโทรไปยื่นคำขาดกับแม่แฟน
ว่ายังไงก็ไม่ให้ผมกับแฟนแต่งงานกันตอนนี้
ถ้าจะแต่ง แฟนผมต้องท้องก่อนเท่านั้น
และจะไม่ให้สินสอดแม้แต่สลึงเดียว
ล่าสุดผมกับพ่อและพี่สาว ช่วยกันอธิบายให้แม่เข้าใจ
ซึ่งแม่ผมก็ยอมครับ และดูจะเข้าใจผม ขอโทษผม
ผมเองก็โกรธแม่ไม่ลงหรอกครับ เมื่อวันเสาร์ผมโทรไปขอโทษแม่แฟน
และบอกว่าวันอาทิตย์ ผมกับแม่จะไปเยี่ยมที่บ้าน
บ้านแฟนผมอยู่ต่างจังหวัดครับ แต่ตอนนี้แฟนผมเธอไปดูงานที่ต่างประเทศ
แม่แฟนผมก็โอเคครับ บอกว่าไม่ได้โกรธอะไรมากมายแล้ว ชวนเข้ามาทานข้าวกัน
ผมดีใจมากครับ รีบบอกแม่เลย แม่ผมเองก็บอกว่าตั้งใจจะขอโทษแม่แฟนเหมือนกัน
พอไปถึงบ้านแฟน ต้องบอกก่อนบ้านเธอเป็นร้านขายของ
หน้าบ้านคนเยอะ จอแจตลอดเวลา
แม่แฟนมารับผมหน้าบ้าน แล้วก็เข้าไปคุยกันในบ้าน
ผมถือดอกไม้ธูปเทียน ขอคมาแม่แฟน และแม่ผมอายุมากกว่าแม่แฟน
ก็ขอโทษแม่แฟนด้วยวาจาครับ แม่แฟนบอกว่า ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านไปแล้ว
ผมเลยพูดเรื่องแต่งงานอีกครั้ง แม่แฟนผมบอกว่า ถ้าจะแต่งกันก็ไม่ขัดข้องนะ
แต่ .. ผมต้องพร้อมเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแฟน ไม่งั้นก็อย่าแต่งเลย
ผมนี่แบบสตั๊นครับ สตั๊นเลย แม่ผมก็เงิบไปแป๊บ คือไม่คิดว่าแม่แฟนจะพูดแบบนี้
คดีพลิกครับ แม่แฟนย้ำถามผมว่า ยังไงล่ะ ลองคิดดูแล้วกันนะ ว่าจะเอายังไง
แม่ผมพูดว่าแบบนี้ไม่ได้ ผู้ชายจะใช้นามสกุลผู้หญิงได้ไง
แม่แฟนบอกว่า ก็ไม่ได้บังคับ แค่ไม่ต้องแต่ง
ผมพูดไม่ออกครับ ตอนนั้นแม่ผมกับแม่แฟนด่ากันลั่นแล้ว
ผมพอรู้ครับว่าแม่แฟนผมก็ไม่เบา แต่ไม่คิดว่าจะคดีจะพลิกขนาดนี้
สรุปคือด่ากันเสียงดังลั่นซอยบ้านเค้า
หลังจากกลับมาถึงบ้านผมที่ กทม แม่ผมสั่งให้เลิกกับแฟนเลยครับ
ผมบอกแม่ว่า ถ้าตอนนั้นแม่ไม่พูดแบบนั้นเรื่องจะไม่เป็นแบบนี้
อาจจะดูว่าผมอกตัญญู แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
คืนนั้นผมโทรคุยกับแฟน เธออยู่สิงคโป
เธอบอกให้ผมใจเย็นๆ เรื่องนี้เพิ่งเกิด
เธอยอมเลื่อนงานแต่งงานไปก่อน
แต่ผมไม่อยากรอแล้วล่ะครับ เป็นเรื่องที่ไม่น่าต้องรอเลย
สรุปผมบอกแฟนว่า ถ้าเธอกลับมาแล้วจดทะเบียนสมรสกันก่อนนะ
ผมขอเธอแบบดื้อๆตรงๆเลยครับ เธอเองยังไม่ตัดสินใจ
ผมรอคำตอบเธออยู่ครับ อ่อ!!!ลืมบอกครับ ถ้าแต่งงานแล้ว
ผมตั้งใจจะออกไปอยู่คอนโดกับเธอ เรื่องนี้ผมบอกเธอแล้ว
ตั้งแต่คบกันมาผมเลี้ยงดูแฟนตลอดครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน รถ ที่อยู่
ผมจ่ายให้เธอหมดครับ รถที่เธอใช้เป็นรถบ้านผม
เธออยู่คอนโดผม แต่เธอย้ายออกจากคอนโดผมไปแล้วตามแม่เธอสั่ง
รวมทั้งคืนรถผมแล้ว แค่เรายังไม่เลิกกัน
เธอทำงานประจำเงินเดือน 50,000 บาท+ค่างานฟรีแลนซ์
งานอะไรของเธออีกนิดหน่อย รายได้เดือนนึงประมาณแสนต้น
พีคสุด 200,000 แต่ไม่ค่อยถึงหรอกครับ
ส่วนผมเปิดมินิมาร์ท มี 2 สาขา ขายของอุปโภค-บริโภค ปลีก/ส่ง
และทำหอพัก เธอช่วยงานผมเยอะครับ รายได้ผม/เดือนมากกว่าเธอแน่นอน
ผมเลยเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลเธอมากกว่า นอกจากของส่วนตัวที่เธออยากได้ เธอจะซื้อเอง
อย่างเช่นพวกกระเป๋า รองเท้า ของแบรนเนมทั้งหลายแหล่
ผมคิดว่าผมอยากดูแลเธอแบบนี้ต่อไป เลยขอเธอแต่งงานครับ
ถ้ามีปัญหาแบบนี้ อย่างที่บอกไปแล้ว ผมขอเธอจดทะเบียนสมรสเอาดื้อๆเลย
ไม่รู้เธอจะว่ายังไงครับ แต่ตอนนี้ผมก็เป็นฝ่ายเร่งรัดเอาคำตอบจากเธอพอสมควรเลย
แม่แฟนจะให้เปลี่ยนไปใช้นามสกุลฝ่ายหญิง ถึงจะยอมให้แต่งงานกับลูกสาว
หลังจากที่แม่ผมโทรไปยื่นคำขาดกับแม่แฟน
ว่ายังไงก็ไม่ให้ผมกับแฟนแต่งงานกันตอนนี้
ถ้าจะแต่ง แฟนผมต้องท้องก่อนเท่านั้น
และจะไม่ให้สินสอดแม้แต่สลึงเดียว
ล่าสุดผมกับพ่อและพี่สาว ช่วยกันอธิบายให้แม่เข้าใจ
ซึ่งแม่ผมก็ยอมครับ และดูจะเข้าใจผม ขอโทษผม
ผมเองก็โกรธแม่ไม่ลงหรอกครับ เมื่อวันเสาร์ผมโทรไปขอโทษแม่แฟน
และบอกว่าวันอาทิตย์ ผมกับแม่จะไปเยี่ยมที่บ้าน
บ้านแฟนผมอยู่ต่างจังหวัดครับ แต่ตอนนี้แฟนผมเธอไปดูงานที่ต่างประเทศ
แม่แฟนผมก็โอเคครับ บอกว่าไม่ได้โกรธอะไรมากมายแล้ว ชวนเข้ามาทานข้าวกัน
ผมดีใจมากครับ รีบบอกแม่เลย แม่ผมเองก็บอกว่าตั้งใจจะขอโทษแม่แฟนเหมือนกัน
พอไปถึงบ้านแฟน ต้องบอกก่อนบ้านเธอเป็นร้านขายของ
หน้าบ้านคนเยอะ จอแจตลอดเวลา
แม่แฟนมารับผมหน้าบ้าน แล้วก็เข้าไปคุยกันในบ้าน
ผมถือดอกไม้ธูปเทียน ขอคมาแม่แฟน และแม่ผมอายุมากกว่าแม่แฟน
ก็ขอโทษแม่แฟนด้วยวาจาครับ แม่แฟนบอกว่า ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านไปแล้ว
ผมเลยพูดเรื่องแต่งงานอีกครั้ง แม่แฟนผมบอกว่า ถ้าจะแต่งกันก็ไม่ขัดข้องนะ
แต่ .. ผมต้องพร้อมเปลี่ยนมาใช้นามสกุลแฟน ไม่งั้นก็อย่าแต่งเลย
ผมนี่แบบสตั๊นครับ สตั๊นเลย แม่ผมก็เงิบไปแป๊บ คือไม่คิดว่าแม่แฟนจะพูดแบบนี้
คดีพลิกครับ แม่แฟนย้ำถามผมว่า ยังไงล่ะ ลองคิดดูแล้วกันนะ ว่าจะเอายังไง
แม่ผมพูดว่าแบบนี้ไม่ได้ ผู้ชายจะใช้นามสกุลผู้หญิงได้ไง
แม่แฟนบอกว่า ก็ไม่ได้บังคับ แค่ไม่ต้องแต่ง
ผมพูดไม่ออกครับ ตอนนั้นแม่ผมกับแม่แฟนด่ากันลั่นแล้ว
ผมพอรู้ครับว่าแม่แฟนผมก็ไม่เบา แต่ไม่คิดว่าจะคดีจะพลิกขนาดนี้
สรุปคือด่ากันเสียงดังลั่นซอยบ้านเค้า
หลังจากกลับมาถึงบ้านผมที่ กทม แม่ผมสั่งให้เลิกกับแฟนเลยครับ
ผมบอกแม่ว่า ถ้าตอนนั้นแม่ไม่พูดแบบนั้นเรื่องจะไม่เป็นแบบนี้
อาจจะดูว่าผมอกตัญญู แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
คืนนั้นผมโทรคุยกับแฟน เธออยู่สิงคโป
เธอบอกให้ผมใจเย็นๆ เรื่องนี้เพิ่งเกิด
เธอยอมเลื่อนงานแต่งงานไปก่อน
แต่ผมไม่อยากรอแล้วล่ะครับ เป็นเรื่องที่ไม่น่าต้องรอเลย
สรุปผมบอกแฟนว่า ถ้าเธอกลับมาแล้วจดทะเบียนสมรสกันก่อนนะ
ผมขอเธอแบบดื้อๆตรงๆเลยครับ เธอเองยังไม่ตัดสินใจ
ผมรอคำตอบเธออยู่ครับ อ่อ!!!ลืมบอกครับ ถ้าแต่งงานแล้ว
ผมตั้งใจจะออกไปอยู่คอนโดกับเธอ เรื่องนี้ผมบอกเธอแล้ว
ตั้งแต่คบกันมาผมเลี้ยงดูแฟนตลอดครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน รถ ที่อยู่
ผมจ่ายให้เธอหมดครับ รถที่เธอใช้เป็นรถบ้านผม
เธออยู่คอนโดผม แต่เธอย้ายออกจากคอนโดผมไปแล้วตามแม่เธอสั่ง
รวมทั้งคืนรถผมแล้ว แค่เรายังไม่เลิกกัน
เธอทำงานประจำเงินเดือน 50,000 บาท+ค่างานฟรีแลนซ์
งานอะไรของเธออีกนิดหน่อย รายได้เดือนนึงประมาณแสนต้น
พีคสุด 200,000 แต่ไม่ค่อยถึงหรอกครับ
ส่วนผมเปิดมินิมาร์ท มี 2 สาขา ขายของอุปโภค-บริโภค ปลีก/ส่ง
และทำหอพัก เธอช่วยงานผมเยอะครับ รายได้ผม/เดือนมากกว่าเธอแน่นอน
ผมเลยเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลเธอมากกว่า นอกจากของส่วนตัวที่เธออยากได้ เธอจะซื้อเอง
อย่างเช่นพวกกระเป๋า รองเท้า ของแบรนเนมทั้งหลายแหล่
ผมคิดว่าผมอยากดูแลเธอแบบนี้ต่อไป เลยขอเธอแต่งงานครับ
ถ้ามีปัญหาแบบนี้ อย่างที่บอกไปแล้ว ผมขอเธอจดทะเบียนสมรสเอาดื้อๆเลย
ไม่รู้เธอจะว่ายังไงครับ แต่ตอนนี้ผมก็เป็นฝ่ายเร่งรัดเอาคำตอบจากเธอพอสมควรเลย