ใครเสียหาย..ฟ้องได้! มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ชี้ผู้บริโภคที่ซื้อบริการจากร้านค้าต่างๆ ผ่านทางเอ็นโซโก้ก่อนที่บริษัทจะปิดกิจการ แต่ถูกปฏิเสธสามารถฟ้องร้องค่าเสียหายจากเว็บไซต์และร้านค้าได้
จากกรณีที่เอ็นโซโก้ (Ensogo) เว็บไซต์ขายข้อตกลงคูปองสินค้าและบริการ ประกาศปิดกิจการกะทันหันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าต้องการรักษาสภาพคล่องของบริษัทเนื่องจากขาดทุนอย่างหนักนั้น ทำให้ผู้บริโภคหลายรายที่ซื้อบริการหรือข้อตกลงผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว ไม่สามารถนำคูปองที่ได้มาไปใช้กับร้านค้าต่างๆ ได้
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค(มพบ.) กล่าวว่าเอ็นโซโก้เป็นเว็บไซต์ขายตรงที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งเมื่อประกาศปิดกิจการกะทันหัน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้รับความเสียหาย หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง สคบ. ก็ควรออกมาทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
นอกจากนี้การที่เว็บไซต์ดังกล่าวต้องการจะปิดกิจการเพราะรู้ว่าบริษัทขาดทุนอยู่แล้ว แต่ยังเสนอขายคูปองส่วนลดหรือบริการต่างๆ ให้ผู้บริโภค อาจเข้าข่ายเจตนาหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้บริโภค ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ซึ่งผู้บริโภคสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ โดยผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายสามารถรวมตัวกันและร้องเรียนโดยตรงได้ที่ สคบ. หรือส่งเรื่องมายังศูนย์พิทักษ์สิทธิเพื่อให้ทำหน้าที่ฟ้องร้องแทน โดยควรเตรียมเอกสาร หลักฐานการซื้อขายมาประกอบการร้องเรียนด้วย
นางนฤมลกล่าวเพิ่มเติมว่า ร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ควรปฏิเสธการให้บริการกับผู้บริโภคที่ซื้อคูปองส่วนลดไปแล้ว หรือควรออกมาชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมถึงปฏิเสธ เพราะผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าก่อนหน้านี้ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวกับร้านค้าได้มีข้อตกลงกันอย่างไร ผู้บริโภคทราบแค่ว่าต้องจ่ายเงินให้เอ็นโซโก้ ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังร้านค้าต่างๆ เท่านั้นทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
ที่มา ภัทรพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส
ใครเสียหาย กรณี Ensogo...มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ฟ้องได้
จากกรณีที่เอ็นโซโก้ (Ensogo) เว็บไซต์ขายข้อตกลงคูปองสินค้าและบริการ ประกาศปิดกิจการกะทันหันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าต้องการรักษาสภาพคล่องของบริษัทเนื่องจากขาดทุนอย่างหนักนั้น ทำให้ผู้บริโภคหลายรายที่ซื้อบริการหรือข้อตกลงผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว ไม่สามารถนำคูปองที่ได้มาไปใช้กับร้านค้าต่างๆ ได้
นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค(มพบ.) กล่าวว่าเอ็นโซโก้เป็นเว็บไซต์ขายตรงที่จดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งเมื่อประกาศปิดกิจการกะทันหัน ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากได้รับความเสียหาย หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่าง สคบ. ก็ควรออกมาทำหน้าที่ดูแลคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
นอกจากนี้การที่เว็บไซต์ดังกล่าวต้องการจะปิดกิจการเพราะรู้ว่าบริษัทขาดทุนอยู่แล้ว แต่ยังเสนอขายคูปองส่วนลดหรือบริการต่างๆ ให้ผู้บริโภค อาจเข้าข่ายเจตนาหลอกลวงหรือฉ้อโกงผู้บริโภค ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ซึ่งผู้บริโภคสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ โดยผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายสามารถรวมตัวกันและร้องเรียนโดยตรงได้ที่ สคบ. หรือส่งเรื่องมายังศูนย์พิทักษ์สิทธิเพื่อให้ทำหน้าที่ฟ้องร้องแทน โดยควรเตรียมเอกสาร หลักฐานการซื้อขายมาประกอบการร้องเรียนด้วย
นางนฤมลกล่าวเพิ่มเติมว่า ร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ควรปฏิเสธการให้บริการกับผู้บริโภคที่ซื้อคูปองส่วนลดไปแล้ว หรือควรออกมาชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมถึงปฏิเสธ เพราะผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าก่อนหน้านี้ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวกับร้านค้าได้มีข้อตกลงกันอย่างไร ผู้บริโภคทราบแค่ว่าต้องจ่ายเงินให้เอ็นโซโก้ ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังร้านค้าต่างๆ เท่านั้นทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
ที่มา ภัทรพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส