คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
"ชัยชนะมิใช่มีเพราะโชคช่วยโดยบังเอิญเด็ดขาด ท่านต้องการชัยชนะก็ต้องทุ่มเทคุณค่าออกไป"
.....เหยี่ยวเดือนเก้า (โก้วเล้ง).......
ในเรื่องเหยี่ยวเดือนเก้า ขลุ่ยหยกเง็กเซียวฝึกวิชาต่อสู้ที่ง่ายดาย ไม่ต้องเปลืองเรี่ยวแรงก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่ายดายยิ่ง
นั่นคือฝึกเพลงขลุ่ยมอมเมาประสาทคู่ต่อสู้ เมื่อฟังแล้วจะเคลิบเคลิ้มซึมเซาบ้าง หดหู่หมดกำลังใจบ้าง แล้วใช้อาวุธลับจัดการ
เง็กเซียวเชี่ยวชาญการใช้เล่ห์กลมาตลอดทำให้ลำพองใจ จนกระทั่งเจอก๊วยเต๋งผู้ที่จับจุดได้ เพลงขลุ่ยนั้นไม่ได้ผลอีก
และต้องจบชีวิตเพราะความเคยตัวที่มักใช้เล่ห์กลแทนที่จะทุ่มเทฝึกฝนเพลงยุทธทั้งที่ตนมีความสามารถ
คนบางจำพวกโชคดีมีต้นทุนสูง หากแต่ยินดีในการใช้เล่ห์กลทำลายคู่ต่อสู้มากกว่าจะฝึกฝนหรือทุ่มเททำสิ่งดี
ในการเมืองไทย ซูเทพและเหล่าคนพรรคนั้น ประหนึ่งฝึกวิชานกหวีดมรณะเป็นอาจิณ คอยเป่าสะกดวิญญาณ
มอมเมาประสาทผู้คน ล่อลวงผู้คนให้งมงาย ถนัดการใช้อาวุธลับคือการป้ายสีคู่ต่อสู้ ไม่เคยฝึกวิชาที่ต้องลงแรง
หรือฝ่าฟันความยากลำบากใดๆ ใช้วิธีนี้เรื่อยมาตลอดอายุขัยพรรค
สักวันหนึ่งเมื่อผู้คนตื่นจากหลับใหล หรือเจอคู่ต่อสู้ที่มีดีกว่า วิชามารจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
นักการเมืองที่ทุ่มเททำสิ่งดีเพื่อประชาชน ย่อมได้รับชัยชนะ นั่นคือใจของประชาชน
นักการเมืองที่ชอบใช้เครื่องมือพิเศษ โจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง วันหนึ่งย่อมแพ้ภัยตัวเอง
.....เหยี่ยวเดือนเก้า (โก้วเล้ง).......
ในเรื่องเหยี่ยวเดือนเก้า ขลุ่ยหยกเง็กเซียวฝึกวิชาต่อสู้ที่ง่ายดาย ไม่ต้องเปลืองเรี่ยวแรงก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่ายดายยิ่ง
นั่นคือฝึกเพลงขลุ่ยมอมเมาประสาทคู่ต่อสู้ เมื่อฟังแล้วจะเคลิบเคลิ้มซึมเซาบ้าง หดหู่หมดกำลังใจบ้าง แล้วใช้อาวุธลับจัดการ
เง็กเซียวเชี่ยวชาญการใช้เล่ห์กลมาตลอดทำให้ลำพองใจ จนกระทั่งเจอก๊วยเต๋งผู้ที่จับจุดได้ เพลงขลุ่ยนั้นไม่ได้ผลอีก
และต้องจบชีวิตเพราะความเคยตัวที่มักใช้เล่ห์กลแทนที่จะทุ่มเทฝึกฝนเพลงยุทธทั้งที่ตนมีความสามารถ
คนบางจำพวกโชคดีมีต้นทุนสูง หากแต่ยินดีในการใช้เล่ห์กลทำลายคู่ต่อสู้มากกว่าจะฝึกฝนหรือทุ่มเททำสิ่งดี
ในการเมืองไทย ซูเทพและเหล่าคนพรรคนั้น ประหนึ่งฝึกวิชานกหวีดมรณะเป็นอาจิณ คอยเป่าสะกดวิญญาณ
มอมเมาประสาทผู้คน ล่อลวงผู้คนให้งมงาย ถนัดการใช้อาวุธลับคือการป้ายสีคู่ต่อสู้ ไม่เคยฝึกวิชาที่ต้องลงแรง
หรือฝ่าฟันความยากลำบากใดๆ ใช้วิธีนี้เรื่อยมาตลอดอายุขัยพรรค
สักวันหนึ่งเมื่อผู้คนตื่นจากหลับใหล หรือเจอคู่ต่อสู้ที่มีดีกว่า วิชามารจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
นักการเมืองที่ทุ่มเททำสิ่งดีเพื่อประชาชน ย่อมได้รับชัยชนะ นั่นคือใจของประชาชน
นักการเมืองที่ชอบใช้เครื่องมือพิเศษ โจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง วันหนึ่งย่อมแพ้ภัยตัวเอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งซึ่งติดตามจอมยุทธในวงการยุทธจักรมาหลายๆสมัย
เลื่อมใสประมุขเม้งก้าหลายๆคนในอดีตที่ถูกตราหน้าจากยุทธจักร พวกผู้ดีจอมปลอมว่า เป็นมารร้าย ต้องทำลายล้างให้สิ้นไปจากยุทธภพ
ในยุคสมัยมังกรหยก ก็มีเตียบ่อกี้ ประมุขเม้งก้า ที่มาจากพรรคบู้ตึงซึ่งเป็นพรรคที่สังคมชาวยุทธยอมรับว่า เป็นสำนักฝ่ายคุณธรรม
ในยุคสมัยกระบี่ไร้เทียมทาน เจ้าสำนักบู้ตึงถูกลอบสังหาร ฮุ้นปวยเอี๋ยง ผู้ถูกประณามจากสังคมชาวยุทธว่า เป็นผู้สังหารอาจารย์ ซึ่งความจริง เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่อยู่ไม่ได้ ต้องหลบหนีไป
ส่วนผู้ชั่วช้า ซึ่งเป็นฆาตกรตัวจริง กลับได้ดี ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนที่ ผู้ที่ตัวเองลอบฆ่า
ในยุคสมัยกระบี่เย้ยยุทธจักร ประมุขมาร หรือสมาชิกในพรรคมารบางท่าน กลับดียิ่งกว่า ฝ่ายที่อ้างว่า ตนเป็นคนดี แต่ที่แท้ เป็นคนดีจอมปลอม
ในยุคสมัยจอมกระบี่เทพเจ้า เจ้าสำนักดาบเทวะ ก็เช่นกัน ผู้ดีจอมปลอม ก็มีไม่น้อย
ข้าพเจ้าสลดใจที่แวดวงยุทธจักรเป็นเช่นนี้ และที่น่าสลดใจไปกว่านั้น
คือมีคนถ่อยปัญญา ยังลุ่มหลงงมงายในบรรดาผู้ดีจอมปลอมทั้งหลาย
เพราะเป็นเช่นนี้เอง จึงทำให้ แวดวงยุทธจักรปั่นป่วน วุ่นวาย ไม่รู้จักจบจักสิ้น.
เลื่อมใสประมุขเม้งก้าหลายๆคนในอดีตที่ถูกตราหน้าจากยุทธจักร พวกผู้ดีจอมปลอมว่า เป็นมารร้าย ต้องทำลายล้างให้สิ้นไปจากยุทธภพ
ในยุคสมัยมังกรหยก ก็มีเตียบ่อกี้ ประมุขเม้งก้า ที่มาจากพรรคบู้ตึงซึ่งเป็นพรรคที่สังคมชาวยุทธยอมรับว่า เป็นสำนักฝ่ายคุณธรรม
ในยุคสมัยกระบี่ไร้เทียมทาน เจ้าสำนักบู้ตึงถูกลอบสังหาร ฮุ้นปวยเอี๋ยง ผู้ถูกประณามจากสังคมชาวยุทธว่า เป็นผู้สังหารอาจารย์ ซึ่งความจริง เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่อยู่ไม่ได้ ต้องหลบหนีไป
ส่วนผู้ชั่วช้า ซึ่งเป็นฆาตกรตัวจริง กลับได้ดี ขึ้นเป็นเจ้าสำนักแทนที่ ผู้ที่ตัวเองลอบฆ่า
ในยุคสมัยกระบี่เย้ยยุทธจักร ประมุขมาร หรือสมาชิกในพรรคมารบางท่าน กลับดียิ่งกว่า ฝ่ายที่อ้างว่า ตนเป็นคนดี แต่ที่แท้ เป็นคนดีจอมปลอม
ในยุคสมัยจอมกระบี่เทพเจ้า เจ้าสำนักดาบเทวะ ก็เช่นกัน ผู้ดีจอมปลอม ก็มีไม่น้อย
ข้าพเจ้าสลดใจที่แวดวงยุทธจักรเป็นเช่นนี้ และที่น่าสลดใจไปกว่านั้น
คือมีคนถ่อยปัญญา ยังลุ่มหลงงมงายในบรรดาผู้ดีจอมปลอมทั้งหลาย
เพราะเป็นเช่นนี้เอง จึงทำให้ แวดวงยุทธจักรปั่นป่วน วุ่นวาย ไม่รู้จักจบจักสิ้น.
แสดงความคิดเห็น
....พ่ายตั้งแต่เดินหมากพลาดตาแรก โดนกินสามต่อเข้าฮอสฟรีๆ จนป่านนี้ยังไม่รู้ตัว....
ลานประลองยุทธ์ที่เคยเป็นเวทีเปิดสำหรับผู้กล้าจากสารทิศขึ้นประลองเพลงกระบี่กัน ตอนนี้แทบจะกลายเป็นโรงเตี๊ยมร้างกลางป่าชัฏ....เสียงคมกระบี่ที่เคยตวัดอากาศและเสียงกระทบกันของโลหะในแต่ละวันได้หายไปแทบสนิท ในยามนี้อย่าว่าแต่เสียงเพลงกระบี่เลย แม้เสียงสกุณาสลัดขนอ่อนยังได้ยินก้องทั่วลานประลองยุทธ์ นับตั้งแต่จอมยุทธ์ซูเทพแหกกฏยุทธภพ นำพลพรรคพร้อมกระบี่ออกไปห้ำหั่นชาวยุทธ์นอกเวทีลานประลองยุทธ์ในครานั้น ลานประลองยุทธ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็หมดคุณค่าอีกต่อไป....
การ “ก้าวขึ้น” สู่ตำแหน่งจ้าวยุทธภพของท่านแม่ทัพตู้และการ “ก้าวลง” จากตำแหน่งของแม่นางปู้ มองเผินๆ ก็เป็นเสมือนการละเล่นที่เรียกว่า “กระดานหก” นั่นก็คือเมื่อฝ่ายหนึ่งขึ้นอีกฝ่ายก็ย่อมลง แต่ก็ไม่ควรชะล่าใจ...ผิว่าเมื่อใดที่ฝ่ายอยุ่ตำแหน่งที่ต่ำเลิกเล่นแล้วลุกเดินจากไปเสียแล้ว ผลก็คือฝ่ายที่ขึ้นสูงอยู่ก็ย่อมร่วงตกลงมาอย่างรวดเร็ว ธรรมชาติของกระดานหกก็ถือเป็นสัจจธรรมได้อย่างหนึ่ง สรรพสิ่งเมื่อมีขึ้นแล้วก็ย่อมมีลง แต่...การละเล่นก็คือการละเล่น กระดานหกก็คงเปรียบได้โดยผิวเผิน แต่เกมส์ชีวิตจริง....ย่อมมีอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่านั้นมากมาย
การห้ามมิให้แม่นางปู้ออกนอกยุทธภพเป็นเสมือนหนึ่งการลงโทษที่สร้างความพึงพอใจให้กับฝ่ายตรงข้ามเธอ แต่ใครเลยจะเชื่อว่า....แม่นางปู้กลับพลิกสถานการณ์ขึ้นมาเป็นต่อได้อย่างชาญฉลาด การปรากฏกายในที่ต่างๆ ของแม่นางได้เชือดเฉือนความรู้สึกแก่ใครบางคนได้อย่างเจ็บปวดยิ่ง หากมิอาศัยกำลังภายในเข้าข่มความรู้สึกตรงนั้นเอาไว้ ธาตุลมภายในคงตีกลับดับเส้นชีพจรเป็นแน่ หรือหากมิอาศัยระบายโทสะกับบรรดา “ม้าเร็ว” ที่นำข่าวมารายงานอย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะคลุ้มคลั่งอยู่คนเดียวก็เป็นได้
ตำแหน่งจ้าวแห่งยุทธภพถูกเปลื่นมือมาหลายคน และอดีตก็ได้พิสูจน์ให้ประจักษ์ต่อสายตาชาวยุทธ์แล้วว่า ลำพังเพียง “อำนาจ” และ “วาสนา” ก็ไม่อาจทำให้ใครต่อใครเป็นจ้าวยุทธภพที่ดีได้ ต้องมี “ศรัทธา” เป็นตัวคอยช่วยเกื้อกูลและส่งเสริม ฟ้าอาจะประทานอำนาจและวาสนาไว้ให้ แต่ศรัทธาที่มาจากประชาชนนั้น.......ยามใดที่ขาดมันไปเสียแล้ว......กงล้อแห่งประวัติศาสตร์ก็จะหมุนเวียนกลับมาอีก และยุทธภพก็จะยังวนๆ เวียนๆ ตกอยู่ในสถานการณ์เดิมๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีกชั่วกัปป์ชั่วกัลป์