จขกท.ยังเป็นเบบี้อยู่เลยตอนหนังฉาย มีโอกาสซื้อแผ่น(เป็นVCD)มาดูบ่องตงเอิบอิ่มมากดูซ้ำเกิน10รอบ บางฉากในแผ่นดูขาดๆเลยไปค้นซีนที่ถูกตัด โอ้โหไม่น่าตัดเลยไม่งั้นฟีลลิ่งจะยิ่งสุดๆกว่านี้ เนื่องจากจขกท.ไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยไปขอยืมคำแปลมาลงละกัน กระทู้ก่อนที่ลงcut scencesวิดิโอโดนลบหมดแล้วและกระทู้ก็เป็นเวอร์ชั่นเก่า
แปลโดยคุณDanclave
http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/03/A11808607/A11808607.html ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่มาให้ความรู้
คลิปที่1
-
"I'll be the first"
เป็นฉากที่โรสกำลังจัดห้องขอเธอด้วยภาพเขียนต่างๆ เพิ่มเติมจากที่อยู่ในหนัง เป็นการแชร์ความรู้สึกของทรูดี้ที่ได้ขึ้นเรือใหม่ และช่วงเวลาที่โรสรู้สึกประหม่า
-ฉาก Brock's Dilemma ซึ่งจะต่อเนื่องกับฉากที่โรสลงไปหาแจ็คที่ชั้นสาม และสาเหตุที่ต้องตัดฉากนี้ออก เพราะว่าฉากนี้จะนำไปสู่การจบอีกแบบนั่นเอง (ท่าถือสร้อยของบล้อก โลเวตต์)
-Rose Visits Third Class/ Rose go to 3rd class
ความจริงแล้วฉากนี้เป็นฉากต่อเนื่องกับฉาก Block's Dilemma ฉากนี้เป็นวันต่อมาหลังจากการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ โรสได้ตัดสินใจลงไปยังที่พักผู้โดยสารชั้นสามเพื่อตามหาแจ็ค ซึ่งในฉากนี้จะเป็นการแสดงรายละเอียดของห้องเอนกประสงค์ของผู้โดยสารชั้นสาม และการใช้ชีวิตโดยทั่วไปของพวกเขา ซึ่งเราจะเห็น เด็กวิ่งเล่น การพูดคุยกัน ฟาบริซิโอจีบเฮลก้า แจ็คกับคอร่า(และพ่อแม่) ทอมมี่ ไรอันส์ ที่กำลังทึ่งกับผลงานการวาดภาพของแจ็ค และสายตาที่ประหลาดใจของผู้โดยสารชั้นสามที่เห็นโรสลงมายังชั้นของพวกเขา และกลายเป็นจุดรวมสายตา ก่อนที่จะเรียกแจ็คไปคุยส่วนตัวโดยไปเดินเล่นที่ดาดฟ้าผู้โดยสารชั้นหนึ่ง โรสเด่นจริงๆคนชั้น3คงงงว่าสาวชั้น1มาได้จังได๋?
"Come Josephine"
ฉากนี้เกิดหลังหลังจากงานปาร์ตี้ที่ชั้นสามเสร็จลง แจ็คเดินมาส่งโรสยังส่วนของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และร้องเพลง Come Josephine, In My Flying Machine ซึ่งเป็นเพลงที่ดังมากในขณะนั้น ที่ร้องในฉากบิน และตอนอยู่ในน้ำ(เกาะชิ้นส่วนเรือ)
-แจ๊คแอบปีนขึ้นชั้น1 มีทอมมี่กับฟาบลิซิโอ้ช่วยแต่2คนนี้ถูกลูกเรือไล่ลงมา เห็นความแตกต่างจริงจิ๊งๆถึงกับมีป้าย
คลิปที่2
A Kiss in the Boiler Room
การจูบกันในห้องบอยเลอร์ของทั้งคู่
Wireless Room - The Californian / Shut up! I am working Cape Race
เป็นฉากในห้องโทรเลข 40 นาทีก่อนที่ไททานิกจะชนน้ำแข็ง พนักงานโทรเลขของเรือแคลิฟอเนียน พยายามเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งกับไททานิกว่ามีธารน้ำแข็งใหญ่อยู่ข้างหน้าพวกเขา ทำให้ต้องหยุดเรือเพราะไม่สามารถไปต่อได้ แต่ก็ต้องถูกตัดบทโดยพนักงานโทรเลข แจ็ค ฟิลลิป ที่กำลังยุ่งและอารมณ์ไม่ดีจากการที่ผู้โดยสารต้องการใช้บริการมากมายจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น จึงได้ตอบกลับไปยังเรือแคลิฟอร์เนียนว่า "Shut up, shut up, I am busy; I am working Cape Race" ทำให้เรือแคลิฟอร์เนียนถึงกับเหวอและตัดสินใจปิดการสื่อสาร
เกร็ดน่ารู้ : เนื่องจากในสมัยนั้นบริษัทโทรเลขไม่ได้ขึ้นตรงกับเรือ แต่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทของมาร์โคนี่ และหน้าที่หลักของห้องโทรเลขในสมัยนั้นคือ บริการผู้โดยสาร เนื่องจากสมัยนั้นมีโทรศัพท์ใช้แล้วก็จริง แต่เนื่องจากโทรศัพท์บนเรือกับแผ่นดินนั้นยังไม่มี การติดต่อโทรเลขจึงสำคัญมาก เพราะการเดินเรือนั้นบางทีกินเวลาเป็นสัปดาห์เป็นเดือน ส่วนหน้าที่ในการติดต่องานเรือนั้นเป็นเรื่องรอง และยังไม่มีระบบการส่งข้อความถึงกับตันอย่างเป็นรูปเป็นร่างอีกด้วย
"How 'bout a little ice?"
ฉากนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากการชนน้ำแข็งของเรือ ซึ่งคนโดยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์คิดว่าเป็นเรื่องปกติ โดยฉากนี้มอลลี่บราวน์จะนั่งอยู่ใน The veranda cafe and palm court ซึ่งเป็นคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีการประดับด้วยต้นปาล์มจริงๆ
Flirting with Ice / You're going overboard
เป็นฉากจีบกันเล็กๆของแจ็คกับโรสหลังจากการชนน้ำแข็ง
Ismay Panics
เป็นฉากที่เจ้าของไวท์สตาร์ไลนส์ เจ บรูซ อิสเมย์รู้สึกตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เพราะคิดว่าการจัดการต่างๆของเจ้าหน้าที่นั้นช้าเกินไป จึงโดนดุโดยเจ้าหน้าที่ระดับห้า แฮโรลด์ โลว์ (หนึ่งในวีรบุรุษไททานิค)
Ismay "Do you know who I am?"
Loew "You are a passenger and I'm a ship bloody officer Now do as I told"
Molly Brown's Rowing School
เรือบดลำที่หกที่เพิ่งออกตัวได้จากเรือ ลูกเรือคนหนึ่งพายเหมือนไม่เคยพายมาก่อน มอลลี่จึงได้อาสาเปลี่ยนตัวเป็นคนพายซะเอง
คลิปที่3 https://www.youtube.com/watch?v=maxlmgTsOnM
2ซีนแรกซ้ำด้านบน
Ida Strauss Won't Leave
คือฉากคู่สามีภรรยาสเตราส์ อิซิลดูร์อยากให้ไอด้าลงเรือไป แต่ไอด้าไม่ยอมไปและบอกว่า "เราอยู่ด้วยกันมาตั้งสี่สิบปีแล้ว และไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ฉันจะไปด้วย อย่าเถียงฉันนะอิซิลดูร์ คุณก็รู้ว่ามันไม่ดี"
Farewell to Helga
ฉากนี้เป็นตอนที่แจ็คกลับมาเจอฟาบริซิโอ และทอมมี่อีกครั้งที่ทางขึ้นชั้นบนที่ถูกล้อก ทำให้พวกแจ็คตัดสินใจจะไปหาทางออกทางอื่นแต่ เฮลก้าตัดสินใจจะอยู่กับครอบครัว
Boat Six Won't Return
เป็นฉากที่เรือบดลำที่หกไปได้พอสมควรแล้ว แต่กัปตันเห็นว่าเรือจุคนเพียงนิดเดียวเลยเรียกกลับ แต่ทางลูกเรือไม่ยอมกลับไป(จขกท.เศ้รามากฉากนี้ เพราะฉากนี้ชี้ให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของลูกเรือที่ทอดทิ้งคำสั่งของกัปตัน) ต่อมาเราจะได้เห็นฉากยิมออกกำลังกายของผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนดาดฟ้า เราจะได้เห็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ทั้ง จอห์น เจค้อบ แอสเตอร์ และเมียคนที่สอง แมดเดลีน ฯลฯ และเปิดตัวลูกเรือ(พ่อครัว) ที่ดื่มเหล้าและสุดท้ายได้ไปอยู่ท้ายเรือกับคู่พระ - นางที่บั้นท้ายเรือ
A Husband's Letter
ฉากนี้เป็นตอนที่แจ็คจะพาโรสลงเรือบด (ใช่ ก่อนถึงฉากเรียกน้ำตากระโดดเกาะเรือ you jump I jump Remember? อันลือลั่น มีผู้โดยสารชายคนหนึ่งฝากจดหมายให้โรสและบอกว่าถ้าคุณรอดช่วยส่งให้ภรรยาเขาด้วย
คลิปที่4
Jack VS. Lovejoy
ฉากนี้เป็นฉากหลังจากที่แคลไล่ยิงทั้งคู่จนกระสุนหมด และฉากนี้จะต่อด้วยที่แคลบอกเลิฟจอยว่าจะให้เพชรไปเลยถ้าตามล่าสองคนนั่นได้ (เพชรอยู่ในกระเป๋าเสื้อโรส) และก็บ้าจี้ตามไป และเป็นการประทะกันระหว่างแจ็คกับเลิฟจอย ซึ่งจะตอบโจทย์ในฉากที่เรือหักว่า "ทำไมเลิฟจอยมีแผลที่หน้าและหัวได้"
คลิปที่5
Cora's Fate สงสารหนูน้อยคอร่ามากๆ คอร่าคือเด็กที่ติดแจ๊คแจเลย
คลิปที่6
Chinese Man Rescue
เป็นฉากที่เจ้าหน้าที่ระดับ 5 แฮโรลด์ โลว์ นำเรือกลับมาค้นหาผู้รอดชีวิตในน้ำ ซึ่งก่อนจะพบโรสก็ได้พบคนจีนคนหนึ่งก่อน
คลิปที่7
Extended Carpathia Sequence (Ismay's Guilt)
เป็นฉากขยายของเรือคาร์เพเทียที่มาช่วยครับ แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังและหมดเรี่ยวแรงของผู้รอดชีวิตได้อย่างดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีฉากที่อิสเมย์ต้องเดินผ่านกลุ่มผู้โดยสารและลูกเรือที่รอดชีวิตด้วยสายตาที่ไม่ดีนัก จขกท.ว่าไม่น่าตัดออกเลย ฟีดแบ๊คหลังเรือจม
ฉากจบอีกแบบ หรือ Alternate Ending เค้าถ่ายมาอีกทีนะ และไม่จบด้วยตัดไปก่อนนิดนึง
บทแปลต่อไปนี้เป็นซีนที่จขกท.หาวิดิโอไม่เจอ
Rose Feels Trapped
เป็นฉากหลังจาก Dinner ที่โรสเล่าถึงความอึดอัดของตนเองถึงความเป็นผู้ดี และเข้ามาระเบิดอารมณ์ในห้องตนเองก่อนที่จะวิ่งออกไปที่ท้ายเรือเพื่อฆ่าตัวตาย
Guggenheim and Astor
การพบกันของสองมหาเศรษฐีใหญ่ เบนจามิน กุ๊กเกนไฮม์ ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศรอรับความตาย กับ จอห์น เจค้อบ แอสเตอร์ ที่ถือว่ารวยที่สุดในขณะนั้น
Rose's Dreams
เป็นฉากที่คุยกันเรื่องความฝันของโรส ที่อยากเป็นศิลปิน ออกไปท่องโลกกว้าง ไม่ต้องยึดติดอยู่กับระเบียบต่างๆ ก่อนจะถึงฉาก Spit
Extended Escape from Lovejoy
เป็นฉากขยายของการวิ่งหนีเลิฟจอยหลังจากวาดรูป ก่อนจะลงไปที่ห้องถ่านหิน
I'm Not Going
เป็นฉากห้องโทรเลข ที่แจ็คฟิลลิปพยายามส่งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือไปเรื่อยๆอย่างบ้าคลั่ง (เหมือนกับรู้สึกผิดที่ไม่ฟังคำเตือนละมั้ง) และปฏิเสธที่จะหนีจากการชวนของ แฮโรลด์ ไบรด์ เพื่อนเจ้าหน้าที่โทรเลขอีกคน
"Come on, we're gonna be eatin' sand for breakfast!"
"I'm NOT Going!!"
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือในสมัยนั้นจริงๆจะใช้สัญญาณ CQD (Come Quick Danger) ซึ่งในตอนแรกก็ใช้สัญญาณนั้น ส่วน SOS นั้นเป็นสัญญาณใหม่ ซึ่งพอหลังๆฟิลลิปเห็นว่า CQD ไม่ได้ผล จึงเริ่มส่งสัญญาณ SOS ออกไป ซึ่งถือว่าเป็นเรือลำแรกในโลกที่ใช้ SOS ในการขอความช่วยเหลือ
เหตุการณ์จริงของทั้งคู่หลังจากนั้นคือ ไบรด์รอดชีวิตแต่ถูกหิมะกัดเท้า ส่วนฟิลลิปเสียชีวิต
Extended Jack and Rose in Water / Die Sooner
เป็นฉากขยายตอนแจ็คกับโรสเกาะชิ้นส่วนไม้อยู่ในน้ำ มีชายคนหนึ่งว่ายมาหวังเกาะไว้ด้วยแต่แจ็คไม่ยอมเพราะรับน้ำหนักได้คนเดียว แต่ชายคนนั้นก็บอกอีกว่าขอลองหน่อย ยังไงพวกเราก็ไกล้จะตายอยู่แล้ว และแจ็คก็ตอบไปว่า "ถ้านายเข้ามาไกล้ เราก็จะตายเร็วขึ้น"
"How dare you!"
ฉากนี้เป็นฉากที่เจ้าหน้าที่โลว์ ตัดสินใจถ่ายโอนผู้โดยสารไปไว้ที่เรืออีกลำหนึ่ง เพื่อนำเรือที่ว่างไปค้นหาผู้โดยสารที่รอดชีวิตในน้ำ ซึ่งฉากนี้จะมีผู้ชายที่คลุมผ้าปลอมเป็นผู้หญิงขึ้นมาบนเรือด้วย
ปิดท้ายด้วย ทุกคนบนไททานิคกำลังรอโรสอยู่ ประทับใจมากค่ะใส่มาเฉยๆมีทุกเวอร์ชั่น
ปล.แผ่นของจขกท.เป็นvcdไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นdvdฉากที่ตัดจะมีป่าว เพราะจขกท.ลองมาเช็คบนเว็บ(คนมีดีวีดีน่าจะอัพ)ก็ไม่ต่างจากแผ่นของจขกท. อยากได้แบบครบทุกซีนมาก มีขายมั๊ยคะ?
ไททานิค รวมDeleted Scences ที่ไม่มีในเวอร์ชั่นปกติ
แปลโดยคุณDanclave http://topicstock.ppantip.com/chalermthai/topicstock/2012/03/A11808607/A11808607.html ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่มาให้ความรู้
คลิปที่1
-"I'll be the first"
เป็นฉากที่โรสกำลังจัดห้องขอเธอด้วยภาพเขียนต่างๆ เพิ่มเติมจากที่อยู่ในหนัง เป็นการแชร์ความรู้สึกของทรูดี้ที่ได้ขึ้นเรือใหม่ และช่วงเวลาที่โรสรู้สึกประหม่า
-ฉาก Brock's Dilemma ซึ่งจะต่อเนื่องกับฉากที่โรสลงไปหาแจ็คที่ชั้นสาม และสาเหตุที่ต้องตัดฉากนี้ออก เพราะว่าฉากนี้จะนำไปสู่การจบอีกแบบนั่นเอง (ท่าถือสร้อยของบล้อก โลเวตต์)
-Rose Visits Third Class/ Rose go to 3rd class
ความจริงแล้วฉากนี้เป็นฉากต่อเนื่องกับฉาก Block's Dilemma ฉากนี้เป็นวันต่อมาหลังจากการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ โรสได้ตัดสินใจลงไปยังที่พักผู้โดยสารชั้นสามเพื่อตามหาแจ็ค ซึ่งในฉากนี้จะเป็นการแสดงรายละเอียดของห้องเอนกประสงค์ของผู้โดยสารชั้นสาม และการใช้ชีวิตโดยทั่วไปของพวกเขา ซึ่งเราจะเห็น เด็กวิ่งเล่น การพูดคุยกัน ฟาบริซิโอจีบเฮลก้า แจ็คกับคอร่า(และพ่อแม่) ทอมมี่ ไรอันส์ ที่กำลังทึ่งกับผลงานการวาดภาพของแจ็ค และสายตาที่ประหลาดใจของผู้โดยสารชั้นสามที่เห็นโรสลงมายังชั้นของพวกเขา และกลายเป็นจุดรวมสายตา ก่อนที่จะเรียกแจ็คไปคุยส่วนตัวโดยไปเดินเล่นที่ดาดฟ้าผู้โดยสารชั้นหนึ่ง โรสเด่นจริงๆคนชั้น3คงงงว่าสาวชั้น1มาได้จังได๋?
"Come Josephine"
ฉากนี้เกิดหลังหลังจากงานปาร์ตี้ที่ชั้นสามเสร็จลง แจ็คเดินมาส่งโรสยังส่วนของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง และร้องเพลง Come Josephine, In My Flying Machine ซึ่งเป็นเพลงที่ดังมากในขณะนั้น ที่ร้องในฉากบิน และตอนอยู่ในน้ำ(เกาะชิ้นส่วนเรือ)
-แจ๊คแอบปีนขึ้นชั้น1 มีทอมมี่กับฟาบลิซิโอ้ช่วยแต่2คนนี้ถูกลูกเรือไล่ลงมา เห็นความแตกต่างจริงจิ๊งๆถึงกับมีป้าย
คลิปที่2
A Kiss in the Boiler Room
การจูบกันในห้องบอยเลอร์ของทั้งคู่
Wireless Room - The Californian / Shut up! I am working Cape Race
เป็นฉากในห้องโทรเลข 40 นาทีก่อนที่ไททานิกจะชนน้ำแข็ง พนักงานโทรเลขของเรือแคลิฟอเนียน พยายามเตือนเรื่องภูเขาน้ำแข็งกับไททานิกว่ามีธารน้ำแข็งใหญ่อยู่ข้างหน้าพวกเขา ทำให้ต้องหยุดเรือเพราะไม่สามารถไปต่อได้ แต่ก็ต้องถูกตัดบทโดยพนักงานโทรเลข แจ็ค ฟิลลิป ที่กำลังยุ่งและอารมณ์ไม่ดีจากการที่ผู้โดยสารต้องการใช้บริการมากมายจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น จึงได้ตอบกลับไปยังเรือแคลิฟอร์เนียนว่า "Shut up, shut up, I am busy; I am working Cape Race" ทำให้เรือแคลิฟอร์เนียนถึงกับเหวอและตัดสินใจปิดการสื่อสาร
เกร็ดน่ารู้ : เนื่องจากในสมัยนั้นบริษัทโทรเลขไม่ได้ขึ้นตรงกับเรือ แต่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทของมาร์โคนี่ และหน้าที่หลักของห้องโทรเลขในสมัยนั้นคือ บริการผู้โดยสาร เนื่องจากสมัยนั้นมีโทรศัพท์ใช้แล้วก็จริง แต่เนื่องจากโทรศัพท์บนเรือกับแผ่นดินนั้นยังไม่มี การติดต่อโทรเลขจึงสำคัญมาก เพราะการเดินเรือนั้นบางทีกินเวลาเป็นสัปดาห์เป็นเดือน ส่วนหน้าที่ในการติดต่องานเรือนั้นเป็นเรื่องรอง และยังไม่มีระบบการส่งข้อความถึงกับตันอย่างเป็นรูปเป็นร่างอีกด้วย
"How 'bout a little ice?"
ฉากนี้เป็นเหตุการณ์หลังจากการชนน้ำแข็งของเรือ ซึ่งคนโดยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์คิดว่าเป็นเรื่องปกติ โดยฉากนี้มอลลี่บราวน์จะนั่งอยู่ใน The veranda cafe and palm court ซึ่งเป็นคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีการประดับด้วยต้นปาล์มจริงๆ
Flirting with Ice / You're going overboard
เป็นฉากจีบกันเล็กๆของแจ็คกับโรสหลังจากการชนน้ำแข็ง
Ismay Panics
เป็นฉากที่เจ้าของไวท์สตาร์ไลนส์ เจ บรูซ อิสเมย์รู้สึกตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก เพราะคิดว่าการจัดการต่างๆของเจ้าหน้าที่นั้นช้าเกินไป จึงโดนดุโดยเจ้าหน้าที่ระดับห้า แฮโรลด์ โลว์ (หนึ่งในวีรบุรุษไททานิค)
Ismay "Do you know who I am?"
Loew "You are a passenger and I'm a ship bloody officer Now do as I told"
Molly Brown's Rowing School
เรือบดลำที่หกที่เพิ่งออกตัวได้จากเรือ ลูกเรือคนหนึ่งพายเหมือนไม่เคยพายมาก่อน มอลลี่จึงได้อาสาเปลี่ยนตัวเป็นคนพายซะเอง
คลิปที่3 https://www.youtube.com/watch?v=maxlmgTsOnM
2ซีนแรกซ้ำด้านบน
Ida Strauss Won't Leave
คือฉากคู่สามีภรรยาสเตราส์ อิซิลดูร์อยากให้ไอด้าลงเรือไป แต่ไอด้าไม่ยอมไปและบอกว่า "เราอยู่ด้วยกันมาตั้งสี่สิบปีแล้ว และไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ฉันจะไปด้วย อย่าเถียงฉันนะอิซิลดูร์ คุณก็รู้ว่ามันไม่ดี"
Farewell to Helga
ฉากนี้เป็นตอนที่แจ็คกลับมาเจอฟาบริซิโอ และทอมมี่อีกครั้งที่ทางขึ้นชั้นบนที่ถูกล้อก ทำให้พวกแจ็คตัดสินใจจะไปหาทางออกทางอื่นแต่ เฮลก้าตัดสินใจจะอยู่กับครอบครัว
Boat Six Won't Return
เป็นฉากที่เรือบดลำที่หกไปได้พอสมควรแล้ว แต่กัปตันเห็นว่าเรือจุคนเพียงนิดเดียวเลยเรียกกลับ แต่ทางลูกเรือไม่ยอมกลับไป(จขกท.เศ้รามากฉากนี้ เพราะฉากนี้ชี้ให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวของลูกเรือที่ทอดทิ้งคำสั่งของกัปตัน) ต่อมาเราจะได้เห็นฉากยิมออกกำลังกายของผู้โดยสารชั้นหนึ่งบนดาดฟ้า เราจะได้เห็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ทั้ง จอห์น เจค้อบ แอสเตอร์ และเมียคนที่สอง แมดเดลีน ฯลฯ และเปิดตัวลูกเรือ(พ่อครัว) ที่ดื่มเหล้าและสุดท้ายได้ไปอยู่ท้ายเรือกับคู่พระ - นางที่บั้นท้ายเรือ
A Husband's Letter
ฉากนี้เป็นตอนที่แจ็คจะพาโรสลงเรือบด (ใช่ ก่อนถึงฉากเรียกน้ำตากระโดดเกาะเรือ you jump I jump Remember? อันลือลั่น มีผู้โดยสารชายคนหนึ่งฝากจดหมายให้โรสและบอกว่าถ้าคุณรอดช่วยส่งให้ภรรยาเขาด้วย
คลิปที่4
Jack VS. Lovejoy
ฉากนี้เป็นฉากหลังจากที่แคลไล่ยิงทั้งคู่จนกระสุนหมด และฉากนี้จะต่อด้วยที่แคลบอกเลิฟจอยว่าจะให้เพชรไปเลยถ้าตามล่าสองคนนั่นได้ (เพชรอยู่ในกระเป๋าเสื้อโรส) และก็บ้าจี้ตามไป และเป็นการประทะกันระหว่างแจ็คกับเลิฟจอย ซึ่งจะตอบโจทย์ในฉากที่เรือหักว่า "ทำไมเลิฟจอยมีแผลที่หน้าและหัวได้"
คลิปที่5
Cora's Fate สงสารหนูน้อยคอร่ามากๆ คอร่าคือเด็กที่ติดแจ๊คแจเลย
คลิปที่6
Chinese Man Rescue
เป็นฉากที่เจ้าหน้าที่ระดับ 5 แฮโรลด์ โลว์ นำเรือกลับมาค้นหาผู้รอดชีวิตในน้ำ ซึ่งก่อนจะพบโรสก็ได้พบคนจีนคนหนึ่งก่อน
คลิปที่7
Extended Carpathia Sequence (Ismay's Guilt)
เป็นฉากขยายของเรือคาร์เพเทียที่มาช่วยครับ แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังและหมดเรี่ยวแรงของผู้รอดชีวิตได้อย่างดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีฉากที่อิสเมย์ต้องเดินผ่านกลุ่มผู้โดยสารและลูกเรือที่รอดชีวิตด้วยสายตาที่ไม่ดีนัก จขกท.ว่าไม่น่าตัดออกเลย ฟีดแบ๊คหลังเรือจม
ฉากจบอีกแบบ หรือ Alternate Ending เค้าถ่ายมาอีกทีนะ และไม่จบด้วยตัดไปก่อนนิดนึง
บทแปลต่อไปนี้เป็นซีนที่จขกท.หาวิดิโอไม่เจอ
Rose Feels Trapped
เป็นฉากหลังจาก Dinner ที่โรสเล่าถึงความอึดอัดของตนเองถึงความเป็นผู้ดี และเข้ามาระเบิดอารมณ์ในห้องตนเองก่อนที่จะวิ่งออกไปที่ท้ายเรือเพื่อฆ่าตัวตาย
Guggenheim and Astor
การพบกันของสองมหาเศรษฐีใหญ่ เบนจามิน กุ๊กเกนไฮม์ ที่แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศรอรับความตาย กับ จอห์น เจค้อบ แอสเตอร์ ที่ถือว่ารวยที่สุดในขณะนั้น
Rose's Dreams
เป็นฉากที่คุยกันเรื่องความฝันของโรส ที่อยากเป็นศิลปิน ออกไปท่องโลกกว้าง ไม่ต้องยึดติดอยู่กับระเบียบต่างๆ ก่อนจะถึงฉาก Spit
Extended Escape from Lovejoy
เป็นฉากขยายของการวิ่งหนีเลิฟจอยหลังจากวาดรูป ก่อนจะลงไปที่ห้องถ่านหิน
I'm Not Going
เป็นฉากห้องโทรเลข ที่แจ็คฟิลลิปพยายามส่งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือไปเรื่อยๆอย่างบ้าคลั่ง (เหมือนกับรู้สึกผิดที่ไม่ฟังคำเตือนละมั้ง) และปฏิเสธที่จะหนีจากการชวนของ แฮโรลด์ ไบรด์ เพื่อนเจ้าหน้าที่โทรเลขอีกคน
"Come on, we're gonna be eatin' sand for breakfast!"
"I'm NOT Going!!"
เกร็ดเล็กๆน้อยๆ
การส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือในสมัยนั้นจริงๆจะใช้สัญญาณ CQD (Come Quick Danger) ซึ่งในตอนแรกก็ใช้สัญญาณนั้น ส่วน SOS นั้นเป็นสัญญาณใหม่ ซึ่งพอหลังๆฟิลลิปเห็นว่า CQD ไม่ได้ผล จึงเริ่มส่งสัญญาณ SOS ออกไป ซึ่งถือว่าเป็นเรือลำแรกในโลกที่ใช้ SOS ในการขอความช่วยเหลือ
เหตุการณ์จริงของทั้งคู่หลังจากนั้นคือ ไบรด์รอดชีวิตแต่ถูกหิมะกัดเท้า ส่วนฟิลลิปเสียชีวิต
Extended Jack and Rose in Water / Die Sooner
เป็นฉากขยายตอนแจ็คกับโรสเกาะชิ้นส่วนไม้อยู่ในน้ำ มีชายคนหนึ่งว่ายมาหวังเกาะไว้ด้วยแต่แจ็คไม่ยอมเพราะรับน้ำหนักได้คนเดียว แต่ชายคนนั้นก็บอกอีกว่าขอลองหน่อย ยังไงพวกเราก็ไกล้จะตายอยู่แล้ว และแจ็คก็ตอบไปว่า "ถ้านายเข้ามาไกล้ เราก็จะตายเร็วขึ้น"
"How dare you!"
ฉากนี้เป็นฉากที่เจ้าหน้าที่โลว์ ตัดสินใจถ่ายโอนผู้โดยสารไปไว้ที่เรืออีกลำหนึ่ง เพื่อนำเรือที่ว่างไปค้นหาผู้โดยสารที่รอดชีวิตในน้ำ ซึ่งฉากนี้จะมีผู้ชายที่คลุมผ้าปลอมเป็นผู้หญิงขึ้นมาบนเรือด้วย
ปิดท้ายด้วย ทุกคนบนไททานิคกำลังรอโรสอยู่ ประทับใจมากค่ะใส่มาเฉยๆมีทุกเวอร์ชั่น
ปล.แผ่นของจขกท.เป็นvcdไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นdvdฉากที่ตัดจะมีป่าว เพราะจขกท.ลองมาเช็คบนเว็บ(คนมีดีวีดีน่าจะอัพ)ก็ไม่ต่างจากแผ่นของจขกท. อยากได้แบบครบทุกซีนมาก มีขายมั๊ยคะ?