ไอดีนี้เป็นของแฟนเราค่ะ เราขอยืมใช้
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า เราเป็นคนที่เสพย์ติดการกำจัดขนด้วยการเลเซอร์ค่ะ
เริ่มจากขนรักแร้ เคยทำที่คลินิกมาก็หลายที่ แต่ไม่ทนค่ะเพราะมันเจ็บมาก
แล้ววันหนึ่งก็ได้มารู้จัก Salon ที่รับกำจัดขน พิกัดอยู่แถวๆพร้อมพงษ์ค่ะ
ด้วยการบอกต่อว่าการกำจัดขนที่นี่ไม่เจ็บค่ะ ก็เลยทำให้ตัดสินใจย้ายมาทำที่ร้านนี้
ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะกำจัดแต่ขนรักแร้อย่างเดียว
แต่วันนั้นพนักงานได้เสนอโปรโมชั่นกำจัดขน 2 จุด 1 เดือนต้องมาทำการกำจัดขน 1 จุด
เลยตัดสินใจทำคอร์สนี้ด้วยค่ะ เพราะเห็นว่าคุ้มค่าดี แล้วก็ด้วยความอยากมีแขนขาสวยเนียน
จุดที่ทำคือ ช่วงขาล่าง (ตั้งแต่หัวเข่าลงไปถึงเข้าเท้า) และ ช่วงแขนล่าง (ตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือ)
วิธีการกำจัดขนองทางร้านที่เขียนไว้บนหน้าเว็ปนะคะ
“เทคนิคกำจัดขนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บได้ด้วยเครื่องกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุด
เทคนิคกำจัดขนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บได้ด้วยเครื่องกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุด ใช้เครื่องกำจัดขน "M.S. Krypton", "MiniSilk FT" ที่ถูกพัฒนาเพื่อตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะโดยริษัท DEKA ของอิตาลีที่เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ชั้นนำของโลกและเครื่องกำจัดขน
การกำจัดขนด้วยวิธี S.S.C. คือ..
วิธีกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุดโดยอาศัยทฤษฎีSmooth Skin Control Method เป็นการฉายแสงคลิปทอนไปที่ beans gel ชนิดพิเศษที่มีส่วนประกอบที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนและช่วยปรับผิวขาว วิธีนี้ไม่ทำลายสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่ายแล้วยังให้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนได้ดีอีกด้วย”
เดือนแรกที่มาทำที่ร้านนี้ ทำตรงช่วงขากับรักแร้ค่ะ วิธีการทำก็คือพอมาถึงร้าน ขึ้นเตียง พนักงานจะนำผ้ามาปิดตาค่ะ แล้วก็นำเจลเย็นๆใสๆมาทาบริเวณที่จะทำการกำจัดขน จากนั้นจะใช้เครื่องยิงแสง ระหว่างยิงจะมีเสียงดัง ติ๊ด ๆ ๆ กับแสงออกมา ระหว่างที่ทำการกำจัดขน บริเวณที่ยิงแสงจะรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อยค่ะ ต่างจากเลเซอร์กำจัดขนที่เคยทำมาค่ะ มันจะเจ็บเหมือนหนังยางดีดเลย หลังจากทำที่ขามีแค่อาการเป็นตุ่มแดงขึ้นเล็กน้อย เหมือนแพ้ปกติค่ะ แต่ไม่เกินสองสามวันก็จะหายไปเอง ส่วนรักแร้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ประทับใจดีค่ะเพราะไม่เจ็บเลย พนักงานก็มีแนะนำว่าต้องบำรุงผิวดีๆไม่ให้แห้ง ไม่งั้นจะรู้สึกเจ็บขึ้นเวลากำจัดขนได้ค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ทาครีมทุกวันค่ะ เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง
เดือนที่สองที่มาทำเป็น แขนล่างและรักแร้ค่ะ ในส่วนแขนหลังจากการทำ คล้ายๆขาเลยค่ะ
มีคันๆบ้างเล็กน้อย แต่ไม่นานก็หายไปเอง ส่วนรักแร้ไม่มีปัญหาค่ะ
เดือนที่สาม วนกลับมาเป็นการกำจัดขนที่ขาล่างและรักแร้ค่ะ ครั้งนี้ต่างออกไปค่ะ
หลังจากเลเซอร์ในวันที่ 12 มิถุนายน ตอนกลางคืน วันที่ 13-14 เริ่มมีอาหารคันขาค่ะ รู้สึกคันทั่วขา คันมากกว่าครั้งแรกๆที่ทำ
แต่ยังไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นนะคะ จนวันที่ 15 มาสังเกตุขาตัวเองตอนเช้า เป็นตามในภาพค่ะ เริ่มมีรอยแดง
และปูดขึ้นมาตามรอยที่กำจัดขนเหมือนทางรถไฟเลยค่ะ ส่วนอาการก็คันมากๆ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นจึงได้พยายามติดต่อไปทางร้าน พอสอบถามกลับเข้าไปทางร้านว่าควรทำอย่างไร
ทางร้านก็ให้ส่งรูปเข้าไปทางเฟสบุค และส่งคำตอบกลับมาว่า
แล้วก็ทิ้งท้ายว่า “แต่ถ้า 2-3วัน อาการไม่ดีขึ้น โทรกลับมาอีกทีนะคะ”
"ไม่ต้องตกใจนะคะ" "รบกวนปฏิบัติตัวตามที่แจ้งไว้นะคะ ^^"
วันที่ 16 มิถุนายน หลังจากนั้นก็ทำตามคำแนะนำที่ทางร้านแนะนำมาค่ะ
แต่ก็ไม่ดีขึ้น แถมรอยแดงชัดขึ้นกว่าเดิมอีก ตามภาพเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จึงเฟสบุคไปทางร้านพร้อมส่งรูปให้ดูค่ะ ว่ามันแดงชัดขึ้น ใจเราก็กลัวจะเป็นแผลเป็น
ทางร้านแจ้งกลับมาว่า “ถ้าอีก 2 วันไม่ดีขึ้น อาจจะต้องให้ปรึกษาคุณหมอค่ะ”
ดิฉันเลยถามกลับไปว่า “ถ้าไม่ดีขึ้นสามารถปรึกษาคุณหมอได้ที่ไหนหรอคะ”
เพราะไม่แน่ใจค่ะว่าที่ซาลอนมีคุณหมอไหม จากการไปทำสามครั้งที่ผ่านมาดิฉันพบแต่พนักงานในร้านค่ะ
แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบในเย็นวันนั้น ด้วยความร้อนใจเลยไปหาหมอที่รพ.วิภาวดีก่อน เพื่อความสบายใจค่ะ
ขาเป็นแบบนี้รอไม่ไหวจริงๆค่ะ T^T
พอได้พบคุณหมอ ดิฉันถามทางคุณหมอไปว่า ถ้าทิ้งไว้อีก 2-3 วันจะหายไหม
คุณหมอก็ตอบกลับมาว่า “แล้วที่ผ่านมาคุณปล่อยไว้มันหายดีไหมละ? มีแต่จะเป็นมากขึ้น” T_T
คุณหมอให้ยาทากับยากินมาค่ะ ผลการตรวจคือ ผิวหนังอักเสบค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่น่าแพ้เจลที่ใช้
เพราะรอยปื้นๆที่ผิวหนังเกิดการอักเสบ มันเป็นตามรอยที่ยิงแสงค่ะ
หลังจากเย็นวันนั้นดิฉันเพิ่งได้รับคำตอบจากทางร้านค่ะ ตอน 23.47 น.
ว่าหากไม่ดีขึ้นให้ไปพบคุณหมอที่ รพ.ผิวหนังอโศกค่ะ
หลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน ดิฉันจึงได้สอบถามทางร้านไปว่า หากต้องไปพบแพทย์จริงๆ ใครจะเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ทางร้านก็บอกว่าทางร้านออกให้ แต่เนื่องจากมันไกล ดิฉันไปบ่อยๆไม่สะดวกค่ะ จึงสอบถามไปอีกว่า
หากไปตรวจที่อื่นและนำใบรับรองแพทย์ไปให้ที่ร้านจะได้ไหม ซึ่งทางพนักงานก็ตอบกลับมาว่า
"ต้องถามข้อมูลก่อน แล้วจะติดต่อกลับมาอีกที" จากนั้นก็เงียบไปค่ะ
ตอนเย็นพอโทรตามก็โทรไม่ติดค่ะ เลยส่งข้อความสอบถามทิ้งไว้ทางเฟสบุคร้าน แต่ก็ยังไม่ตอบค่ะ
ขาประจำวันศุกร์ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน เราเลยพยายามโทรไปอีกหลายรอบค่ะ
แล้วก็ได้รับการติดต่อกลับมาจากพนักงานตอน 17.02 น. ว่า ให้ไปพบแพทย์ได้ที่รพ.อโศกเท่านั้น โดยต้องมีพนักงานพาไปค่ะ
พร้อมสอบถามว่ายังคันหรือรอยแผลปูดอยู่ไหม เลยตอบไปว่า ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะเนื่องจากพบแพทย์มาก่อนแล้ว
แต่ที่กังวลคิดว่ามันน่าจะเป็นแผลเป็นแน่ๆค่ะ ทางร้านก็เลยสอบถามวันว่างเพื่อจะจัดไปรพ.
ดิฉันว่างแค่วันเสาร์-อาทิตย์ และวันธรรมดาประมาณ 19.00 ค่ะ พนักงานไม่เข้างานวันอาทิตย์
แต่บอกไว้ว่าจะดูว่าคิวแพทย์เฉพาะทางมาวันไหนบ้างแล้วจะติดต่อกลับมาค่ะ
วันอาทิตย์ ทุกอย่างก็ยังคงเงียบค่ะ รอยที่ขาก็ยังคงเรียงกันสวยงาม แต่ดีที่ไม่ปูดไม่คันแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันจันทร์ จนถึงตอนนี้ทางร้านก็ยังเงียบไปค่ะ อา เป็นแผลเป็นแน่ๆเลย TT จริงๆก็แอบปลงนิดๆแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยากให้กระทู้นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆหรือใครที่คิดอยากกำจัดขน ไม่ว่าด้วยวิธีใดนะคะ
ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ถ้าไม่ดีพอแบบเรานั้นอาจจะโชคร้ายแบบเราก็ได้ค่ะ
ให้ขาเราเป็นตัวอย่างผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
คนที่เคยทำอะไรคล้ายๆเราแล้วไม่เป็นอะไรก็โชคดีไปค่ะ
แต่ถ้าเป็นหรือเกิดอาการแพ้หนักๆขึ้นมาแบบเรา ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครเป็นครั้งที่สองค่ะ
เลยอยากเตือนเพื่อนๆไว้ค่ะ
ตอนนี้รู้ซึ้งแล้วค่ะว่าการมีหมอสำคัญแค่ไหน
อุทาหรณ์เตือนใจคนอยากไปกำจัดขนถาวรที่ Salon กำจัดขนค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนว่า เราเป็นคนที่เสพย์ติดการกำจัดขนด้วยการเลเซอร์ค่ะ
เริ่มจากขนรักแร้ เคยทำที่คลินิกมาก็หลายที่ แต่ไม่ทนค่ะเพราะมันเจ็บมาก
แล้ววันหนึ่งก็ได้มารู้จัก Salon ที่รับกำจัดขน พิกัดอยู่แถวๆพร้อมพงษ์ค่ะ
ด้วยการบอกต่อว่าการกำจัดขนที่นี่ไม่เจ็บค่ะ ก็เลยทำให้ตัดสินใจย้ายมาทำที่ร้านนี้
ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะกำจัดแต่ขนรักแร้อย่างเดียว
แต่วันนั้นพนักงานได้เสนอโปรโมชั่นกำจัดขน 2 จุด 1 เดือนต้องมาทำการกำจัดขน 1 จุด
เลยตัดสินใจทำคอร์สนี้ด้วยค่ะ เพราะเห็นว่าคุ้มค่าดี แล้วก็ด้วยความอยากมีแขนขาสวยเนียน
จุดที่ทำคือ ช่วงขาล่าง (ตั้งแต่หัวเข่าลงไปถึงเข้าเท้า) และ ช่วงแขนล่าง (ตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือ)
วิธีการกำจัดขนองทางร้านที่เขียนไว้บนหน้าเว็ปนะคะ
“เทคนิคกำจัดขนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บได้ด้วยเครื่องกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุด
เทคนิคกำจัดขนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บได้ด้วยเครื่องกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุด ใช้เครื่องกำจัดขน "M.S. Krypton", "MiniSilk FT" ที่ถูกพัฒนาเพื่อตลาดญี่ปุ่นโดยเฉพาะโดยริษัท DEKA ของอิตาลีที่เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ชั้นนำของโลกและเครื่องกำจัดขน
การกำจัดขนด้วยวิธี S.S.C. คือ..
วิธีกำจัดขนที่ทันสมัยที่สุดโดยอาศัยทฤษฎีSmooth Skin Control Method เป็นการฉายแสงคลิปทอนไปที่ beans gel ชนิดพิเศษที่มีส่วนประกอบที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนและช่วยปรับผิวขาว วิธีนี้ไม่ทำลายสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่ายแล้วยังให้ผลลัพธ์ในการกำจัดขนได้ดีอีกด้วย”
เดือนแรกที่มาทำที่ร้านนี้ ทำตรงช่วงขากับรักแร้ค่ะ วิธีการทำก็คือพอมาถึงร้าน ขึ้นเตียง พนักงานจะนำผ้ามาปิดตาค่ะ แล้วก็นำเจลเย็นๆใสๆมาทาบริเวณที่จะทำการกำจัดขน จากนั้นจะใช้เครื่องยิงแสง ระหว่างยิงจะมีเสียงดัง ติ๊ด ๆ ๆ กับแสงออกมา ระหว่างที่ทำการกำจัดขน บริเวณที่ยิงแสงจะรู้สึกอุ่นๆเล็กน้อยค่ะ ต่างจากเลเซอร์กำจัดขนที่เคยทำมาค่ะ มันจะเจ็บเหมือนหนังยางดีดเลย หลังจากทำที่ขามีแค่อาการเป็นตุ่มแดงขึ้นเล็กน้อย เหมือนแพ้ปกติค่ะ แต่ไม่เกินสองสามวันก็จะหายไปเอง ส่วนรักแร้ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ประทับใจดีค่ะเพราะไม่เจ็บเลย พนักงานก็มีแนะนำว่าต้องบำรุงผิวดีๆไม่ให้แห้ง ไม่งั้นจะรู้สึกเจ็บขึ้นเวลากำจัดขนได้ค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ทาครีมทุกวันค่ะ เพื่อไม่ให้ผิวแห้ง
เดือนที่สองที่มาทำเป็น แขนล่างและรักแร้ค่ะ ในส่วนแขนหลังจากการทำ คล้ายๆขาเลยค่ะ
มีคันๆบ้างเล็กน้อย แต่ไม่นานก็หายไปเอง ส่วนรักแร้ไม่มีปัญหาค่ะ
เดือนที่สาม วนกลับมาเป็นการกำจัดขนที่ขาล่างและรักแร้ค่ะ ครั้งนี้ต่างออกไปค่ะ
หลังจากเลเซอร์ในวันที่ 12 มิถุนายน ตอนกลางคืน วันที่ 13-14 เริ่มมีอาหารคันขาค่ะ รู้สึกคันทั่วขา คันมากกว่าครั้งแรกๆที่ทำ
แต่ยังไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นนะคะ จนวันที่ 15 มาสังเกตุขาตัวเองตอนเช้า เป็นตามในภาพค่ะ เริ่มมีรอยแดง
และปูดขึ้นมาตามรอยที่กำจัดขนเหมือนทางรถไฟเลยค่ะ ส่วนอาการก็คันมากๆ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากนั้นจึงได้พยายามติดต่อไปทางร้าน พอสอบถามกลับเข้าไปทางร้านว่าควรทำอย่างไร
ทางร้านก็ให้ส่งรูปเข้าไปทางเฟสบุค และส่งคำตอบกลับมาว่า
แล้วก็ทิ้งท้ายว่า “แต่ถ้า 2-3วัน อาการไม่ดีขึ้น โทรกลับมาอีกทีนะคะ”
"ไม่ต้องตกใจนะคะ" "รบกวนปฏิบัติตัวตามที่แจ้งไว้นะคะ ^^"
วันที่ 16 มิถุนายน หลังจากนั้นก็ทำตามคำแนะนำที่ทางร้านแนะนำมาค่ะ
แต่ก็ไม่ดีขึ้น แถมรอยแดงชัดขึ้นกว่าเดิมอีก ตามภาพเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จึงเฟสบุคไปทางร้านพร้อมส่งรูปให้ดูค่ะ ว่ามันแดงชัดขึ้น ใจเราก็กลัวจะเป็นแผลเป็น
ทางร้านแจ้งกลับมาว่า “ถ้าอีก 2 วันไม่ดีขึ้น อาจจะต้องให้ปรึกษาคุณหมอค่ะ”
ดิฉันเลยถามกลับไปว่า “ถ้าไม่ดีขึ้นสามารถปรึกษาคุณหมอได้ที่ไหนหรอคะ”
เพราะไม่แน่ใจค่ะว่าที่ซาลอนมีคุณหมอไหม จากการไปทำสามครั้งที่ผ่านมาดิฉันพบแต่พนักงานในร้านค่ะ
แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบในเย็นวันนั้น ด้วยความร้อนใจเลยไปหาหมอที่รพ.วิภาวดีก่อน เพื่อความสบายใจค่ะ
ขาเป็นแบบนี้รอไม่ไหวจริงๆค่ะ T^T
พอได้พบคุณหมอ ดิฉันถามทางคุณหมอไปว่า ถ้าทิ้งไว้อีก 2-3 วันจะหายไหม
คุณหมอก็ตอบกลับมาว่า “แล้วที่ผ่านมาคุณปล่อยไว้มันหายดีไหมละ? มีแต่จะเป็นมากขึ้น” T_T
คุณหมอให้ยาทากับยากินมาค่ะ ผลการตรวจคือ ผิวหนังอักเสบค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่น่าแพ้เจลที่ใช้
เพราะรอยปื้นๆที่ผิวหนังเกิดการอักเสบ มันเป็นตามรอยที่ยิงแสงค่ะ
หลังจากเย็นวันนั้นดิฉันเพิ่งได้รับคำตอบจากทางร้านค่ะ ตอน 23.47 น.
ว่าหากไม่ดีขึ้นให้ไปพบคุณหมอที่ รพ.ผิวหนังอโศกค่ะ
หลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน ดิฉันจึงได้สอบถามทางร้านไปว่า หากต้องไปพบแพทย์จริงๆ ใครจะเป็นคนจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ทางร้านก็บอกว่าทางร้านออกให้ แต่เนื่องจากมันไกล ดิฉันไปบ่อยๆไม่สะดวกค่ะ จึงสอบถามไปอีกว่า
หากไปตรวจที่อื่นและนำใบรับรองแพทย์ไปให้ที่ร้านจะได้ไหม ซึ่งทางพนักงานก็ตอบกลับมาว่า
"ต้องถามข้อมูลก่อน แล้วจะติดต่อกลับมาอีกที" จากนั้นก็เงียบไปค่ะ
ตอนเย็นพอโทรตามก็โทรไม่ติดค่ะ เลยส่งข้อความสอบถามทิ้งไว้ทางเฟสบุคร้าน แต่ก็ยังไม่ตอบค่ะ
ขาประจำวันศุกร์ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน เราเลยพยายามโทรไปอีกหลายรอบค่ะ
แล้วก็ได้รับการติดต่อกลับมาจากพนักงานตอน 17.02 น. ว่า ให้ไปพบแพทย์ได้ที่รพ.อโศกเท่านั้น โดยต้องมีพนักงานพาไปค่ะ
พร้อมสอบถามว่ายังคันหรือรอยแผลปูดอยู่ไหม เลยตอบไปว่า ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะเนื่องจากพบแพทย์มาก่อนแล้ว
แต่ที่กังวลคิดว่ามันน่าจะเป็นแผลเป็นแน่ๆค่ะ ทางร้านก็เลยสอบถามวันว่างเพื่อจะจัดไปรพ.
ดิฉันว่างแค่วันเสาร์-อาทิตย์ และวันธรรมดาประมาณ 19.00 ค่ะ พนักงานไม่เข้างานวันอาทิตย์
แต่บอกไว้ว่าจะดูว่าคิวแพทย์เฉพาะทางมาวันไหนบ้างแล้วจะติดต่อกลับมาค่ะ
วันอาทิตย์ ทุกอย่างก็ยังคงเงียบค่ะ รอยที่ขาก็ยังคงเรียงกันสวยงาม แต่ดีที่ไม่ปูดไม่คันแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันจันทร์ จนถึงตอนนี้ทางร้านก็ยังเงียบไปค่ะ อา เป็นแผลเป็นแน่ๆเลย TT จริงๆก็แอบปลงนิดๆแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อยากให้กระทู้นี้เป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆหรือใครที่คิดอยากกำจัดขน ไม่ว่าด้วยวิธีใดนะคะ
ศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ถ้าไม่ดีพอแบบเรานั้นอาจจะโชคร้ายแบบเราก็ได้ค่ะ
ให้ขาเราเป็นตัวอย่างผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
คนที่เคยทำอะไรคล้ายๆเราแล้วไม่เป็นอะไรก็โชคดีไปค่ะ
แต่ถ้าเป็นหรือเกิดอาการแพ้หนักๆขึ้นมาแบบเรา ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครเป็นครั้งที่สองค่ะ
เลยอยากเตือนเพื่อนๆไว้ค่ะ
ตอนนี้รู้ซึ้งแล้วค่ะว่าการมีหมอสำคัญแค่ไหน