ในที่สุด
วันนี้ก็ได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เคยกราบไหว้ต้นธาตุต้นธรรมที่บอกว่า อวตารลงมาเพื่อปราบมารนั้น
มันนั่นแหละ ที่เป็น พญามารอันยิ่งใหญ่แห่งกึ่งพุทธกาล ตัวจริง
ไม่มีใครที่สามารถสร้างความหายนะให้กับลูกศิษย์และผู้เกี่ยวข้องได้ขนาดนี้อีกแล้ว
นายศุภชัย ผู้ทำบุญอย่างมากกับวัดนี้
แทนที่จะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนเป็นพัน จากสหกรณ์คลองจั่น
เขาเป็นใคร แล้วทำไมถึงโดนจับ แล้วพัวพันสาวไปถึง พญามารจำแลงเป็นต้นธาตุอย่างไร
ลองดูสองคลิปนี้แล้วจะเข้าใจชัดเจนขึ้น

คลิปที่ 2 นี้เริ่มจะชัดเจนว่า ทำไม พญามารตนนี้ถึงโดนคดีนี้ด้วย
นอกจากนี้ หมอที่ออกใบรับรองแพทย์ส่วนตัว แต่ดันไปเอาฟอร์มของโรงพยาบาลมาใช้ แล้วประทับตราโรงพยาบาล
ทั้งที่ไม่เคยมีการตรวจใดๆที่โรงพยาบาล
แล้วเป็นอย่างไร เวลานี้ ไม่เพียงโดนโรงพยาบาลสอบ ยังจะโดนแพทยสภาสอบด้วย มีสิทธิ โดนถอนใบอนุญาติประกอบวิชาชีพด้วย
เพราะอะไร
แพทยสภาเริ่ม สงสัยและไม่เชื่อใจว่า พญามารไม่ได้ป่วยจริง จากการที่ปฎิเสธไม่ยอมให้ทีมแพทยสภาเข้าไปตรวจ
ยังไม่พอ
วันที่ DSI เข้าไปจับกุม ก็ไปเอาสาวกมานั่งตากลมตากฝนอย่างไม่เคยคิดห่วงใยในชีวิตเขาเลย
จริงอยู่ เหล่าสาวกต่างก็ยอมตายเพื่อพญามารตนนี้ได้ทั้งนั้น
แต่ถ้าไชยบูลย หรือ พระที่ห่มเหลืองทั้งหลายในวัดธรรมกายนั้น มีจิตเมตตา รักสาวก "อย่างจริงใจ" ย้ำนะว่า "เมตตาและรักสาวกอย่างจริงใจ"
เขาจะไม่มีใครยอม ให้เอาลูกศิษย์ ที่รักตัวเอง ไปลำบากลำบนขนาดนั้น
ที่สำคัญคือ การนั่งขัดขวางการจับกุม นั่นคือความผิดอาญาบ้านเมือง สาวกเหล่านั้นจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีแน่นอน
ไชยบูลย์กับพระห่มเหลืองทั้งหลาย กลับ โยนความผิดต่อหน้า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่า ลูกศิษย์ ไม่ให้เข้า
การให้การแบบนี้ คือ ทำให้ลูกศิษย์ต้องถูกดำเนินคดี ไปแล้ว 3 ข้อหา เพราะ DSI แจ้งความแล้ว
นี่หรือคือต้นธาตุต้นธรรม ผู้อวตารมาปราบมาร จะกระทำต่อลูกศิษย์ของตัวเอง
ดีแต่สร้างคำหวาน หลอกลวงมอมเมาลูกศิษย์ แต่จิตใจกลับอำมหิตยิ่งนักไม่ต่างจาก พญามารใหญ่เลย
เพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้กระทั่งสังเวยชีวิตคนที่เป็นศิษย์จะต้องถูกดำเนินคดี ไปกี่ชีวิต มันก็ยอม
หมาที่เราเลี้ยงไว้ ให้ข้าวให้น้ำมันกินอยู่ยังชีพ ถึงเวลามีภัยมา หมาที่เราเลี้ยงก็ย่อมปกป้องเรา พลีชีพเพื่อเราผู้ให้ข้าวให้น้ำแก่มัน
ไชยบูลย์และเหล่าพระทั้งหลายในวัดธรรมกาย
ท่านกินและอยู่ด้วย อาหารและน้ำจากศรัทธาญาติโยมที่ให้ท่านได้ยังชีพอยู่ทุกวัน
แต่ท่านกลับทรยศเขาด้วยการให้ เขามาพลีชีพ เพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ให้ต้องถูกจับดำเนินคดีนั้น
นี่คือการตอบแทน ศรัทธาญาติโยม ที่เลวร้ายที่สุด
เวลา หลอกเขาว่า นั่งสมาธิกลางฝน ยิ่งเปียกยิ่งได้บุญมาก ในขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ในที่ร่มไม่โดนฝนเปียกใดๆเลยนั้น
ความละอายใจตัวเองมันหายไปไหนหมด
นี่แหละเขาถึงว่า พญามารเมื่อหลอกคนว่าตัวเองเป็นต้นธาตุ ย่อมสร้างศรัทธาได้อย่างมากมาย
แต่สุดท้าย ผู้เจ็บปวดเผ็ดร้อนมากที่สุด ก็คือ สาวกผู้ด้อยปัญญานั่นแหละ
!!!!เมื่อพญามารอวตารลงมาหลอกคนด้อยปัญญาว่าเราคือ ต้นธาตุต้นธรรม ความชอกช้ำจึงเกิดขึ้นแก่สาวกผู้โง่เขลา!!!!!
วันนี้ก็ได้เห็นแล้วว่า สิ่งที่เคยกราบไหว้ต้นธาตุต้นธรรมที่บอกว่า อวตารลงมาเพื่อปราบมารนั้น
มันนั่นแหละ ที่เป็น พญามารอันยิ่งใหญ่แห่งกึ่งพุทธกาล ตัวจริง
ไม่มีใครที่สามารถสร้างความหายนะให้กับลูกศิษย์และผู้เกี่ยวข้องได้ขนาดนี้อีกแล้ว
นายศุภชัย ผู้ทำบุญอย่างมากกับวัดนี้
แทนที่จะได้ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ แต่กลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนเป็นพัน จากสหกรณ์คลองจั่น
เขาเป็นใคร แล้วทำไมถึงโดนจับ แล้วพัวพันสาวไปถึง พญามารจำแลงเป็นต้นธาตุอย่างไร
ลองดูสองคลิปนี้แล้วจะเข้าใจชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ หมอที่ออกใบรับรองแพทย์ส่วนตัว แต่ดันไปเอาฟอร์มของโรงพยาบาลมาใช้ แล้วประทับตราโรงพยาบาล
ทั้งที่ไม่เคยมีการตรวจใดๆที่โรงพยาบาล
แล้วเป็นอย่างไร เวลานี้ ไม่เพียงโดนโรงพยาบาลสอบ ยังจะโดนแพทยสภาสอบด้วย มีสิทธิ โดนถอนใบอนุญาติประกอบวิชาชีพด้วย
เพราะอะไร
แพทยสภาเริ่ม สงสัยและไม่เชื่อใจว่า พญามารไม่ได้ป่วยจริง จากการที่ปฎิเสธไม่ยอมให้ทีมแพทยสภาเข้าไปตรวจ
ยังไม่พอ
วันที่ DSI เข้าไปจับกุม ก็ไปเอาสาวกมานั่งตากลมตากฝนอย่างไม่เคยคิดห่วงใยในชีวิตเขาเลย
จริงอยู่ เหล่าสาวกต่างก็ยอมตายเพื่อพญามารตนนี้ได้ทั้งนั้น
แต่ถ้าไชยบูลย หรือ พระที่ห่มเหลืองทั้งหลายในวัดธรรมกายนั้น มีจิตเมตตา รักสาวก "อย่างจริงใจ" ย้ำนะว่า "เมตตาและรักสาวกอย่างจริงใจ"
เขาจะไม่มีใครยอม ให้เอาลูกศิษย์ ที่รักตัวเอง ไปลำบากลำบนขนาดนั้น
ที่สำคัญคือ การนั่งขัดขวางการจับกุม นั่นคือความผิดอาญาบ้านเมือง สาวกเหล่านั้นจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีแน่นอน
ไชยบูลย์กับพระห่มเหลืองทั้งหลาย กลับ โยนความผิดต่อหน้า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่า ลูกศิษย์ ไม่ให้เข้า
การให้การแบบนี้ คือ ทำให้ลูกศิษย์ต้องถูกดำเนินคดี ไปแล้ว 3 ข้อหา เพราะ DSI แจ้งความแล้ว
นี่หรือคือต้นธาตุต้นธรรม ผู้อวตารมาปราบมาร จะกระทำต่อลูกศิษย์ของตัวเอง
ดีแต่สร้างคำหวาน หลอกลวงมอมเมาลูกศิษย์ แต่จิตใจกลับอำมหิตยิ่งนักไม่ต่างจาก พญามารใหญ่เลย
เพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้กระทั่งสังเวยชีวิตคนที่เป็นศิษย์จะต้องถูกดำเนินคดี ไปกี่ชีวิต มันก็ยอม
หมาที่เราเลี้ยงไว้ ให้ข้าวให้น้ำมันกินอยู่ยังชีพ ถึงเวลามีภัยมา หมาที่เราเลี้ยงก็ย่อมปกป้องเรา พลีชีพเพื่อเราผู้ให้ข้าวให้น้ำแก่มัน
ไชยบูลย์และเหล่าพระทั้งหลายในวัดธรรมกาย
ท่านกินและอยู่ด้วย อาหารและน้ำจากศรัทธาญาติโยมที่ให้ท่านได้ยังชีพอยู่ทุกวัน
แต่ท่านกลับทรยศเขาด้วยการให้ เขามาพลีชีพ เพื่อปกป้องตัวเอง ไม่ให้ต้องถูกจับดำเนินคดีนั้น
นี่คือการตอบแทน ศรัทธาญาติโยม ที่เลวร้ายที่สุด
เวลา หลอกเขาว่า นั่งสมาธิกลางฝน ยิ่งเปียกยิ่งได้บุญมาก ในขณะที่ตัวเองนั่งอยู่ในที่ร่มไม่โดนฝนเปียกใดๆเลยนั้น
ความละอายใจตัวเองมันหายไปไหนหมด
นี่แหละเขาถึงว่า พญามารเมื่อหลอกคนว่าตัวเองเป็นต้นธาตุ ย่อมสร้างศรัทธาได้อย่างมากมาย
แต่สุดท้าย ผู้เจ็บปวดเผ็ดร้อนมากที่สุด ก็คือ สาวกผู้ด้อยปัญญานั่นแหละ