หวัดดีจ้ะ

ขออนุญาตจ้ะ

ตามนี้นะจ๊ะ

ซีทีเอชยืนยันไม่ปิดกิจการ แค่เลิกบริการผ่านไทยคม

https://www.youtube.com/watch?v=btT9ujFyCok

ขอขอบคุณที่มาจ้ะ http://www.now26.tv/view/80284
พิกัดข่าวค่ำ
หลังจากเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) ได้เผยแพร่เพลทข้อความประชาสัมพันธ์ ใจความสรุปว่า จะยุติให้บริการแก่ลูกค้าที่รับช่องสัญญาณจากดาวเทียมไทยคม KU-Band จะไม่สามารถรับชมช่องรายการต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป  และขอให้ลูกค้าติดตามการอัพเดทข่าวสาร เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ชดเชยของลูกค้าทางเว็บไซต์ซีทีเอช

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวลือว่าซีทีเอช ซึ่งเริ่มธุรกิจเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อน ด้วยการประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ชนะกลุ่มทรู ด้วยเงินประมูลประมาณ 10,000 ล้าบาท จะปิดกิจการแล้วหรือไม่

ทีมพิกัดข่าว Now26 ได้สอบถามซีอีโอของซีทีเอช คือคุณอมฤต ศุขวณิช ได้ยืนยันว่า”ไม่ได้ปิดกิจการ” ประกาศนี้อาจทำให้ลูกค้าสับสนว่าปิดกิจการ และตรงกันข้าม บริษัทกำลังปรับกลยุทธ์ธุรกิจ โดยในเดือนสิงหาคมนี้จะเร่งทำตลาดลูกค้าระบบบอกรับเป็นสมาชิก หรือเพย์ทีวี  ด้วยจุดขายรายการบันเทิง ส่วนที่ต้องประกาศว่าจะยุติให้บริการผ่านดาวเทียมไทยคม KU Band  นายอมฤตยอมรับว่าปัจจุบันขาดทุน และยังมีหนี้สินกว่าหลักหมื่นล้าน จึงต้องการลดต้นทุนประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากต้นทุนเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมสูง และยังเป็นต้นทุนที่ซ้ำซ้อนกัน เพราะซีทีเอช ได้เช่าช่องสัญญาดาวเทียม KU band ของเวียดนามคือ วินาแสท (132.0°E) ด้วยอีกดวงหนึ่ง  


แผนการยุติเช่าไทยคมนี้ จะกระทบลูกค้าซีทีเอชกลุ่มพรีเพด หรือกลุ่มที่จ่ายเงินล่วงหน้า ที่มีอยู่หลักหมื่นราย ส่วนผู้ต้องการรับบริการต่อ บริษัทจะดำเนินการย้ายไปรับสัญญาณจากวินนาแสท สำหรับลูกค้ารายเดือนที่อยู่ในระบบวินาแสทมีอยู่หลักแสนราย

ทีมพิกัดข่าว Now 26 ได้ค้นข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทซีทีเอช ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับทีวีระบบบอกรับสมาชิก ยังคงมีนายวิชัย ทองแตง ผู้ถือหุ้นใหญ่เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ  และสมาชิกครอบครัววัชรพล เจ้าของไทยรัฐ ถือหุ้นใหญ่   มีการจดทะเบียนบริษัทลูกธุรกิจต่อเนื่อง เช่น อินเทอร์เน็ต ผลิตรายการ บริษัทโฆษณา บริษัทให้เช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยมีที่อยู่ด้วยกันในเขตประเวศ กรุงเทพ รวมประมาณ 10 บริษัท บริษัทที่มีเงินทุนจดทะเบียนสูงสุดคือ  ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2552 ทุนจดทะเบียน 5,555 ล้านบาท  ทุนชำระแล้ว 3,302,ล้านบาท หากรวมบริษัทในเครือทั้งหมดมีหนี้สินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท



ไปแล้วนะจ๊ะ


บายจ้ะ