[วิเคราะห์] Ultimecia แม่มดแห่งกาลเวลาผู้ติดอยู่ในบ่วงแห่งวังวนไร้จุดจบเสียเอง

ช่วงนี้ว่าง + ซีซันนี้ไม่ค่อยดูเมะมากเลยมีเวลาไปนั่งขุดคุ้ยเรื่องของ Ultimecia มาเล่าสู่กันฟังครับ

เริ่มจากทวนความจำกันเล็กน้อยก่อนเพื่อใครลืมไปแล้วว่าเนื้อเรื่องคร่าวๆ เป็นยังไงบ้าง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Ultimecia เป็นแม่มดจากอนาคตอันห่างไกลผู้ทำการย้อนอดีตมาเพื่อแก้ไขชะตาที่ตนเองนั้นจะต้องถูกสังหารด้วยวีรบุรุษแห่ง SeeD โดยทำการสร้าง Singularity ให้ตนเองนั้นเป็นทุกสิ่งซึ่งจะทำให้เธอมีชีวิตเป็นนิรันดร์

แน่นอนว่าคนที่เคยเล่นมาแล้วนั้นล้วนแล้วแต่เห็นจุดจบของเธอมาแล้วว่าเป็นอย่างไหร แต่ผมอยากให้ลองย้อนกลับไปดูดีๆ อีกซักนิด (Ultimecia จะมีสำเนียงการพูดแปลกๆ นิดเธอจะชอบใช้ตัว k แทน c เวลาพูด)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Theme ลึกลับและบทที่ดูจะกำกวมนั้นทำให้เกิดทฤษฏีจากแฟนๆ มากมายอย่างเช่น
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แม้จะฟังดูน่าสนใจแต่ทฤษฏีเหล่านี้ก็ยังมีช่องโหว่อยู่มากมายแต่ถึงอย่างนั้นก็ช่วยรวบรวมข้อมูลเก็บตกจำนวนเอาไว้ด้วยเช่นกัน
http://www.gamefaqs.com/ps/197343-final-fantasy-viii/faqs/34215

ทีนี้มาดูจุดเริ่มต้นและจุดจบกันครับ SeeD ที่เธอเกลียดชังนักเกลียดชังหนานั้นถูกก่อตั้งมาเพื่อจัดการกับ Ultimecia เองเนื่องจากการปรากฏตัวตนของเธอในอดีต ช่างเป็นเรื่องลักลั่นย้อนแย้งในเมื่อเธอเองนั้นย้อนเวลากลับมาเพื่อหนีชะตาที่ต้องตายเพราะวีรบุรุษของ SeeD ที่ไล่ล่าเธอมาทั้งชีวิต นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดและเป็นจุดจบของเรื่องทั้งหมดเช่นกัน

ลูปนิรันดร์วนเวียนไม่รู้จบสำหรับเธอที่เป็นทั้งเหยื่อและผู้กระทำไม่ต่างจาก Garland จาก FF 1 แม้ Ultimecia จะขึ้นชื่อว่าเป็นแม่มดแห่งกาลเวลาแต่เธอเองนั้นกลับแทบไม่ใช้เวทย์อย่าง Haste Slow Stop ในการต่อสู้แม้แต่ครั้งเดียว มีเพียงเวทย์ Time compression เพียงเท่านั้นที่เป็นเวทย์มนตร์แห่งกาลเวลาหนึ่งเดียวที่เธอใช้ แม้แต่การส่งจิตสำนึกของเธอย้อนเวลากลับมานั้นก็หาใช่พลังเวทย์มนตร์ของ Ultimecia ไม่ แต่เป็นเครื่องจักรเวทย์จำลองพลังของ Ellone พี่สาวไม่แท้ของ Squall

การแก้ไขอดีตในเนื้อเรื่องของ Final fantasy 8 นั้นน่าจะใกล้เคียงกับเรื่อง Steins gate มากกว่า Butterfly effect เนื่องจาก Ellone ผู้เป็นต้นแบบของเครื่องส่งจิตข้ามกาลเวลาเองนั้นกลับไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ดังใจนึก เธอพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าจนยอมแพ้และตระหนักว่าอดีตนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ซึ่งนั้นไม่จริงอย่างแน่นอนเพราะ Ultimecia นั้นได้เข้ามาเปลี่ยนแปลง Timeline ไปแล้ว

ไม่มีใครรู้ว่า Time line ดั้งเดิมนั้นเป็นอย่างไรและใครเป็นคนเปลี่ยนแปลงมันจนกลายมาเป็น Endless 8 อย่างนี้แต่อย่างไรเสีย Ellone ก็จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนเพราะเธอคือแม่มดผู้สามารถส่งจิตข้ามกาลเวลาได้จนน่าจะเรียกว่าแม่มดแห่งกาลเวลามากกว่า Ultimecia

และอีกคนหนึ่งซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางตรงก็ทางอ้อมกับการเปลี่ยนแปลง Time line นั้นก็คือ Dr. Odine ที่เรียกได้ว่า mad scientist อย่างเต็มปากเต็มคำเลยทีเดียว เขาคนนี้คือผู้พัฒนา Para-Magic หรือระบบเวทย์ใน FF8 นี้ทำให้คนธรรมดาสามารถใช้เวทย์ได้เช่นเดียวกับแม่มดซึ่งเดิมทีนั้นไม่สามารถใช้ได้ เครื่องส่งจิตย้อนเวลาที่ Ultimecia ใช้นั้นก็ถูกพัฒนาโดยชายผู้นี้เช่นกันซึ่งเขาพัฒนามันจากการจับตัว Ellone มาศึกษาวิจัยซึ่งเธอนั้นถูกลักพาตัวมาด้วยจุดประสงค์หลักในการเป็นผู้สืบทอดพลังของแม่มด Adel เจ้าผู้ปรกครองประเทศ Esthar ที่เขาอยู่อาศัย

ตัวตนของ Adel เองนั้นก็น่ากังขาไม่น้อย แม้ในเรื่องเธอจะมีบทพูดแค่ไม่กี่ประโยคแต่ Lore แวดล้อมเกี่ยวกับเธอนั้นมีพอสมควรทีเดียวหนึ่งในนั้นคือไดอารี่ของ Selphie ที่พูดถึงความคล้ายคลึงกันในการขึ้นสู่อำนาจของเธอและ Edea ผู้ก่อตั้ง SeeD ที่ Ultimecia สืบทอดพลังให้ในตอนจบและ Ultimecia ในลูปใหม่ได้เข้าความคุมเธอและยึดอำนาจเข้าปรกครองประเทศ Galbadia

ดังนี้เท่าที่ข้อมูลปรากฏออกมานั้นน่าจะเป็นไปได้ว่า Ultimecia นั้นควบคุม Adel ด้วยเช่นกันซึ่งนั้นแปลว่า Timeline นี้นั้นถูกบิดเบื้อนมาตั้งแต่รุ่น Adel โดยที่ Ultimecia เองไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งเธอย้อนเวลาไปไกลซักเพียงใดเธอยิ่งผูกเงื่อนปมให้ซับซ้อนและยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น การที่เธอพยายามจับตัว Ellone มาเพื่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ไกลยิ่งขึ้นนั้นก็ยิ่งเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกยิ่งขึ้นเพียงเท่านั้น

อย่างไรก็ดีหากมาคิดดูว่าถ้า Ultimecia ไม่มายุ่งกับอดีตแล้วประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไปอย่างไร
1. เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีสงครามระหว่าง Galbadia และ Esthar
2. Laguna ที่ไม่ต้องไปสงครามนั้นอาจจะไม่ได้พบกับ Raine และไม่มี Squall
3. Rinoa อาจจะไม่ได้เกิดเพราะเดิมทีนั้น Laguna คบกับ Julia ผู้เป็นแม่ของ Rinoa ซึ่งใน Timeline ของเรื่องนั้นเธอตัดใจจาก Laguna แล้วไปแต่งงานกับพ่อของ Rinoa เนื่องจาก Laguna นั้นไม่กลับมา
4. Ellone ที่อาจจะได้อยู่กับครอบครัวของเธอที่ถูกสังหารใน Timeline ของเรื่องเนื่องจากทหารของ Esthar ตามล่าไล่จับตัวเธอ
5. Dr. Odine อาจจะไม่ได้มีอำนาจและเงินทุนวิจัยมากนักเนื่องจากใน Timeline นี้นั้นคนที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของเขาคือ Adel
6. SeeD นั้นเดิมทีไม่เคยอยู่ในความคิดของ Edea และ Cid แม้แต่ใน Timeline ของเรื่องจนกระทั้ง Ultimecia และ Squall ย้อนเวลากลับมาพบเธอ

ดังนี้ผมคิดว่าต้นตอของการเปลี่ยน Timeline ครั้งแรกนั้นน่าจะมาจาก Ellone ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขบางสิ่งซึ่งนำมาสู่ Timeline 2 ที่ซึ่งถือกำเนิด Ultimecia และพัฒนามาเป็น Timeline ในเรื่องที่กลายเป็นวังวนไร้จุดจบจากการที่ Ultimecia ค้นพบเครื่องส่งจิตข้ามกาลเวลาและส่งจิตของเธอเข้ามาควบคุมแม่มดในอดีต

ปริศนาใน Timline 2 นั้นคือ Ultimecia เริ่มต้นการย้อนเวลาได้อย่างไร ? เธอย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตด้วยตัวของเธอเองหรือว่าเครื่องส่งจิตข้ามกาลเวลานั้นถูกพัฒนาขึ้นแล้วใน Timeline 2 และสาเหตุอะไรที่ทำให้เธอย้อนเวลากลับไป ? เป็นไปได้หรือไม่ว่า SeeD หรือองค์กรคล้ายๆ กันที่มีจุดประสงค์ในการล่าแม่มดนั้นเกิดขึ้น ณ Timeline 2 แล้วและทำการไล่ล่าเธอจนเธอกลายเป็น Ultimecia อย่างที่เราได้เห็นกันใน Timeline ของเรื่อง

ปริศนาอีกอย่างหนึ่งในแนวคิดนี้ของผมก็คือนิสัยของ Ellone ใน Timeline แรก การเลี้ยงดูเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างจะทำให้เธอมีนิสัยแต่ต่างออกไปมากจาก Timeline ในเรื่องมากแค่ไหน เป็นไปได้ไหมที่เธอนั้นจะเข้าสู่ด้านมืดจนทำให้ใน Timeline 2 นั้นมีการจัดตั้งองค์กรสำหรับการต่อสู้กับแม่มดอย่างเธอขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งลุกลามไปถึงอนาคต

อย่างไรก็ดี Ultimesia ได้กล่าวว่าเธอนั้นคือแม่มดคนสุดท้ายซึ่งสามารถเป็นไปได้ในอีกทางหนึ่ง หากเธออาศัยเครื่องส่งจิตข้ามกาลเวลาในการค้นหาแม่มดด้วยกันแล้วไม่พบแม่มดในยุคที่เธออยู่เลยสรุปว่าในยุคเธอนั้น Ultimecia เป็นแม่มดคนสุดท้าย ทว่าในอนาคตนั้นอาจจะมีแม่มดเกิดขึ้นมาใหม่อีกและอาจะเป็นไปได้ว่าเครื่องส่งจิตข้ามกาลเวลานี้นั้นไม่สามารถส่งจิตไปยังอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นได้

ใน Timeline ของเรื่องนั้น Ellone ไม่สามารถส่งจิตไปอนาคตได้ตรงๆ แต่อาศัย Time compression ของ Ultimecia ช่วยในการส่งแก๊ง Squall ไปยังอนาคตเพื่อจัดการกับ Ultimecia ทำให้ผมคิดว่าเป็นไปได้สูงที่พลังของเธอจะไม่สามารถเดินทางข้ามกาลเวลาไปยังอนาคตได้ทำให้ข้อสงสัยที่ Ellone จะไปยุ่งกับอนาคตใน Timeline แรกนั้นเป็นไปได้ยากมาก

ดังนี้ผมจึงเห็นว่า Ultimecia แม่มดแห่งกาลเวลาผู้นำพาตนเองมาติด Endless 8 loop เสียเองนี้ได้เพราะเธอนั้นแก้เงื่อนผิดปมใน Timeline 2 ซึ่งคนที่เธอควรจะหยุดนั้นคือ Ellone จาก Timeline แรกไม่ใช่องค์กรไล่ล่าแม่มด ทว่าน่าจะด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้นที่พวกเขาทำลายชีวิตของเธอเลยทำให้ Ultimecia นั้นตัดสินใจจากข้อมูลที่ไม่รอบด้านจนนำพาเธอมาสู่โศกนาฏกรรมไร้จุดสิ้นสุดของเธอใน Timeline ของเรื่อง



ท่านใดมีความเห็น แนวคิด หรือทฤษฏีอื่นๆ เกี่ยวกับ FF8 แวะมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้นะครับ


แปะ Dissidia 012 : Duodecim เพิ่มเติมที่ตัวละครต่างๆ พูดถึง Ultimecia
Garland : Time cannot be altered. เวลานั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้(แต่เจ้าตัวติดลูปไปซะหลายรอบกว่าจะหลุดออกมาได้)
Emperor : Controlling time is but a folly. ควบคุมเวลาเป็นเรื่องโง่เขลา
Cecil : The past not bind you. อดีตนั้นไม่ได้ผูกมัดเจ้า(เจ้าต่างหากที่เป็นฝ่ายผูกมันอดีตเอาไว้กับตัวเจ้าเอง Ultimecia)
Golbez : You are the one enslaved to time. เจ้าต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกจองจำโดยกาลเวลา (2 พี่น้องนี่เป็นปี่เป็นขลุ่ยกันดีจริงๆ)
Kain : I've no wish to erase my past. ข้าไม่มีความปรารถนาที่จะลืมเลือนอดีตของข้า (การใช้ GF ทำให้ลืมอดีตของตัวเองไปคล้ายๆ กับการตายใน Log horizon ซึ่งผมไม่รู้ว่า Kain พูดถึงจุดนี้หรือเรื่องที่ Ultimesia จะทำ Singularity กันแน่)
Sephiroth : You should let go of your past. เจ้าน่าจะปล่อยอดีตความหลังของเจ้าไป(เลิกยึดติดความหลังได้แล้ว น่าจะเป็นความหลังที่เธออยู่อย่างหวาดกลัวเคียดแค้นขณะโดนไล่ล่า)
To Terra : It's okay to cry. จะร้องไห้ก็ไม่เป็นไร (อันนี้แปลก Ultimecia ดูจะเอ็นดู Terra ราวกับว่าเธอเห็นตัวตอนของเธอเองใน Terra)
To herself : A witch has many faces, my dear. แม่มดนั้นมีหลากหลายรูปลักษณ์ (ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว)
Kuja : Time can be so cruel, hm ? กาลเวลานั้นช่างโหดร้าย...งั้นหรือ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่