ที่มา :
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1466137164
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2559 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน โดยมีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เป็นผู้ลงนาม
โดยกรอบของบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันศึกษาและวิจัยด้านการกำกับดูแลบริการโทรคมนาคมและบริการทางการเงินและการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นให้มีการส่งเสริมการให้บริการที่มีความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ
เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการโทรคมนาคมและบริการทางการเงินได้เริ่มผนวกเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น การให้ความรู้แก่ผู้บริโภค และคุ้มครองผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ด้านผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยงานมีความร่วมมือระหว่างกันมาตลอด อาทิ การยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพิสูจน์ตัวบุคคลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงสนับสนุนให้มีบริการ พร้อมเพย์-Promptpay ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ National e-Payment ที่จะให้ประชาชนและภาคธุรกิจโอนเงินได้สะดวกขึ้น ผ่านการใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และเลขบัตรประชาชนแทนเลขที่บัญชีเงินฝาก
กสทช.จับมือ ธปท. มุ่งพัฒนาโมบายเพย์เม้นท์หนุน "พร้อมเพย์"
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2559 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน โดยมีนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. เป็นผู้ลงนาม
โดยกรอบของบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันศึกษาและวิจัยด้านการกำกับดูแลบริการโทรคมนาคมและบริการทางการเงินและการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นให้มีการส่งเสริมการให้บริการที่มีความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ
เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า ปัจจุบันการให้บริการโทรคมนาคมและบริการทางการเงินได้เริ่มผนวกเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้น การให้ความรู้แก่ผู้บริโภค และคุ้มครองผู้ใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ด้านผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้ง 2 หน่วยงานมีความร่วมมือระหว่างกันมาตลอด อาทิ การยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพิสูจน์ตัวบุคคลผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงสนับสนุนให้มีบริการ พร้อมเพย์-Promptpay ที่พัฒนาขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ National e-Payment ที่จะให้ประชาชนและภาคธุรกิจโอนเงินได้สะดวกขึ้น ผ่านการใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่และเลขบัตรประชาชนแทนเลขที่บัญชีเงินฝาก