ขอความช่วยเหลือจากแม่ ๆ ด่วนค่ะ กลุ้มใจมาก รันทด แย่มากแล้วทั้งแม่ทั้งลูก

เรื่องทั่วไปก่อนนะคะ
ลูก 6 ขวบกว่า เพิ่งขึ้น ป.1 ค่ะ
ลูกเกิดมาต้องผ่าตัดค่ะ ลำไส้มีปัญหา ทำให้เป็นคนขับถ่ายบ่อย ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังถ่ายเหลว บางวันก็ 2-3 ครั้ง
ลูกหูหนวก ผ่าตัดใส่เครื่องช่วยฟังตั้งแต่ 1 ขวบ พูดยังไม่ชัดมาก แต่เรียนโรงเรียนปกติมาตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนเลย ตอนนี้อ่านภาษาไทยได้เยอะมากแล้ว
ไม่มีพ่อ เห็นหน้าพ่อบ้าง แต่พ่อไม่เคยสนใจ ไม่เคยเลี้ยง
แม่อารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ตีลูก ตีเบาบ้าง แรงบ้าง ใช้ไม้ตีบ้าง ตีขา แขน มือ และเล่นกับลูก เล่นกีฬา เล่นเกมส์ กอดรัดฟัดเหวี่ยง สอนให้หัดพูดให้ชัด สอนให้รับผิดชอบ ทำงานบ้าน ขยี้ผ้าที่เปื้อนอุจาระได้ เก็บของเล่นเอง ลูกรักแม่ ไม่ค่อยดื้อเฉพาะกับแม่ แต่แม่มักโมโหเวลาบอกให้รีบแล้วไม่รีบ เช่นตื่นมาแล้วให้ถอดเสื้ออาบน้ำ เขาจะโยกโย้ทุกอย่างจนแม่โมโห เวลาเขาไม่ได้ใส่เครื่องช่วยฟัง เช่นกำลังจะอาบน้ำ เราพูดเขาก็ไม่ได้ยิน มือจึงไปก่อน คือตีบ่อย เรื่องตีนี่เริ่มประมาณ 3 ขวบ และลดลงเรื่อย ๆ เพราะเขาพูดรู้เรื่องมากขึ้น และไม่ค่อยดื้อกับแม่ เหลือแต่เรื่องที่ทำให้โมโหคือ ขับถ่ายแล้วไม่บอก นั่งเล่นต่อไปทั้ง ๆ ที่รู้  อันนี้จะโมโหมาก  

ปัญหาคือ  เตรียมอนุบาลนะคะ
- ตั้งแต่เข้าเตรียมอนุบาล มีปัญหาอารมณ์ฉุนเฉียว ชอบถอดเครื่องช่วยฟังปาทิ้ง เวลาอารมณ์ไม่ดีหรือไม่ต้องการรับฟังใครอบรมสั่งสอน
- ไม่ชอบนั่งเรียนนิ่ง ๆ รวมกับเพื่อนๆ แต่จะไปมุดโต๊ะ ปีนตู้ แต่เรียนนะคะ ครูถามอะไรก็ตะโกนตอบมา
- มีปัญหาขับถ่ายบ่อย ถ่ายเหลว ถ่ายแล้วไม่บอก ไม่ยอมไปล้างก้น
- เล่นแรง กะแรงไม่ถูก
- เดิน ๆ เซแล้วล้มเลย แต่ถ้าปกติจะดูว่าแข็งแรงมาก ปีนป่ายได้

ที่โรงเรียนคิดว่ามีปัญหาทางสติปัญญา จึงให้ไปพบแพทย์ แม่พาไปตรวจทุกอย่าง ทั้งจิตแพทย์ ตรวจลายนิ้วมือด้วยเครื่องสแกนคอมพิวเตอร์ และพบนักกายภาพบำบัด ผลคือไม่เป็นอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นออทิสติกหรือสมาธิสั้น แต่มีปัญหาเรื่องข้อเท้านิดหน่อย โตไปก็หาย ให้เล่นกีฬาก็จะดีขึ้น
โรงเรียนเตรียมอนุบาลไม่พร้อมกับเด็กแบบนี้ สุดท้ายเมื่อเรียนครบ 1 ปี เลยออก ไปเข้าโรงเรียนอนุบาล 1-3 อีกที่หนึ่ง ที่นี่ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย ครูไม่เคยรายงานอะไรในแง่ลบ บอกแต่ว่าเอาอยู่ แม้กับเพื่อนและผู้ปกครองของเพื่อน ก็ไม่มีปัญหาเลย มีเรื่องเล่นแรง แต่ครูบอกว่าเด็กผู้ชายในห้อง เป็นเหมือน ๆ กัน จะมีบ้างคือวิชาภาษาอังกฤษ เขามักจะไปหลบหนั่งอ่านหนังสือ หรือเล่นของเล่น(บริเวณห้องเรียน ซึ่งมีของเล่นและหนังสือด้วย)คนเดียว แต่พอครูสอนเสร็จ หมดเวลา เขาก็จะเดินไปหาครู คือชอบให้สอนตัวต่อตัว

พอจบอนุบาล ขึ้นป.1  มีปัญหามากกกก
-  ขับถ่ายไม่บอก พอครูทราบ บอกให้ไปล้างก้น ก็ไม่ยอมไป แช่อยู่อย่างนั้น
-  ผลักเพื่อนล้ม เตะเพื่อน
-  เดินทั่วห้อง ทำให้เพื่อนไม่มีสมาธิในการเรียน ครูพูดก็ไม่เชื่อ
เรียนได้ 1 สัปดาห์ โดนไล่ออก

เข้าโรงเรียนประถมอีกที่หนึ่ง  ปัญหาคือ
-  แกล้งเพื่อนทุกวัน  เหลาดินสอแล้วเอาขี้ดินสอเทใส่หัวเพื่อน พ่นน้ำลายใส่หน้าเพื่อน ล็อคคอเพื่อน
-  ใช้ความรุนแรง
-  ข่มขู่เอาเงินเพื่อน  คือเขาเคยขอแม่ แต่แม่ไม่ให้ เพราะเตรียมขนมที่เขาชอบ และนมถั่วเหลือง (เพื่อลดการกระตุ้นการขับถ่าย) ไปให้ บอกให้เขากินช่วงสาย ส่วนนมอีกกล่อง กินช่วงเย็น จะได้มาถ่ายที่บ้าน ซึ่งดีขึ้นมากเรื่องขับถ่ายระหว่างวัน
-  โกหกแม่ว่าไม่ได้ทำอะไร แต่เพื่อนมารุมฟ้องตอนที่เจอหน้าแม่

ที่ไม่เป็นปัญหาคือเรื่องเรียน อ่านได้ ยอมทำงานตามที่ครูสั่ง
แต่เข้ากับเพื่อนไม่ได้เลย

แม่และครูคิดว่า อยากมีเพื่อน แต่ปรับตัวเข้ากับคนอื่นไม่ได้
แม่คิดว่าเป็นความผิดของแม่ที่รุนแรงกับเขา ถึงจะไม่ได้ทุบตีแบบรุนแรงในทีวี แต่ก็ตีและตะโกนใส่เขาบ่อย แม่เครียด ขี้โมโห
ทุกวันนี้หลังเลิกเรียนให้เรียนพิเศษตัวต่อตัววิชาภาษาอังกฤษ กับภาษาจีนอย่างละครึ่งชั่วโมง เขาชอบเรียนภาษาจีนมาก ครูที่สอนพิเศษเอ็นดูเขามาก
วันเสาร์อาทิตย์ เรียนว่ายน้ำ เทนนิส และอิเล็คโทน ก็ไม่มีปัญหา เรียนได้ทุกอย่าง มีต้องบ่นกันบ้างคือว่ายน้ำ เพราะไม่ค่อยชอบ แต่แม่คิดว่าจำเป็น ยังไงก็อยากให้ว่ายเป็น เขาก็ยอมเรียน โดนบ่นบ้างก็นิดหน่อยเวลาโยกโย้ขอเลิกว่ายก่อนเวลา

อีกส่วนหนึ่งคือ เขาคงเป็นคนขี้โมโหอยู่แล้ว เพราะแสดงออกตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล ซึ่งตอนนั้น แม่ไม่เคยตีหรือดุรุนแรงเลย

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ คิดว่ายังไม่สายเกินไปที่แม่และลูกจะปรับตัว  เครียด ร้องไห้บ่อย สงสารตัวเอง สงสารลูก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่