กฏข้อที่หนึ่งของเทอร์โมไดนามิกส์ มีพื้นฐานมาจากกฎอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีใจความว่า “พลังงานสามารถเปลี่ยนจากรูปหนึ่งไปเป็นอีกรูปหนึ่งได้ แต่ไม่สามารถสร้างหรือทำให้พลังงานหายไปได้ กรณีที่เชื่อกันนี้เป็นความจริงเฉพาะกรอบที่เราทำการสังเกตในแง่มุมหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นจริงตลอดไปในกาลอวกาศ ตัวอย่างที่เห้นได้ชัดตือดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัส ซึ่งมีความร้อนที่เกิดจากแรงไทดัลจากดาวพฤหัสบดีบีบนวดผิวดาวทุกวันจนเป็นดวงจันทร์ที่ร้อนที่สุดในระบบสุริยะ
ความร้อนที่เกิดขึ้นในดวงจันทร์ไอโอแปรมาจากพลังงานจลน์จากการที่ผิวดาวยกตัวและยุบตัวลงจากแรงโน้มถ่วง พลังงานที่เกิดไม่ได้แปรเปลี่ยนจากพลังงานอื่นแต่มาจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งไม่ได้หมดเปลิองไปตามกาลเวลา พลังงานจึงเกิดจากแรงโน้มถ่วงโดยไม่ได้แปรรูปมาจากพลังงานอื่น ซึ่งแรงโน้มถ่วงไม่ได้ถือว่าเป็นพลังงานตามนิยามของพลังงานที่เราใช้ แต่เป็นแรงพื้นฐานในจักรวาล พลังงานฟรีจึงมีในจักรวาล
ระบบดาวกับดวงจันทร์บริวารอาจจัดได้ว่าเป็นระบบปิดที่มีพลังงานเกิดขึ้นเองจากแรงโน้มถ่วงโดยไม่ต้องแปรรูปจากพลังงานอื่น กฎเทอร์โมไดนามิกส์จึงใช้ไม่ได้กับระบบใหญ่ๆอย่างอวกาศ หรือระบบเล็กๆแบบควอนตัม กฎข้อนี้จึงใช้ได้กับกรอบอ้างอิงที่มนุษย์กำหนดขอบเขตขึ้นในโลกเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นจริงตลอดทุกกาลอวกาศ
กฏข้อที่หนึ่งของเทอร์โมไดนามิกส์ไม่เป็นความจริงเสมอไป
ความร้อนที่เกิดขึ้นในดวงจันทร์ไอโอแปรมาจากพลังงานจลน์จากการที่ผิวดาวยกตัวและยุบตัวลงจากแรงโน้มถ่วง พลังงานที่เกิดไม่ได้แปรเปลี่ยนจากพลังงานอื่นแต่มาจากแรงโน้มถ่วง ซึ่งไม่ได้หมดเปลิองไปตามกาลเวลา พลังงานจึงเกิดจากแรงโน้มถ่วงโดยไม่ได้แปรรูปมาจากพลังงานอื่น ซึ่งแรงโน้มถ่วงไม่ได้ถือว่าเป็นพลังงานตามนิยามของพลังงานที่เราใช้ แต่เป็นแรงพื้นฐานในจักรวาล พลังงานฟรีจึงมีในจักรวาล
ระบบดาวกับดวงจันทร์บริวารอาจจัดได้ว่าเป็นระบบปิดที่มีพลังงานเกิดขึ้นเองจากแรงโน้มถ่วงโดยไม่ต้องแปรรูปจากพลังงานอื่น กฎเทอร์โมไดนามิกส์จึงใช้ไม่ได้กับระบบใหญ่ๆอย่างอวกาศ หรือระบบเล็กๆแบบควอนตัม กฎข้อนี้จึงใช้ได้กับกรอบอ้างอิงที่มนุษย์กำหนดขอบเขตขึ้นในโลกเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นจริงตลอดทุกกาลอวกาศ