สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องหนึ่งจะมาเล่า เกี่ยวกับการเสพติดโซเชียล จนเกือบเสียสุขภาพ เสียการเสียงาน ของตัวผมเอง
ผมเป็นคนยุค IT ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ผมไม่เคยกลัวเทคโนโลยี พวก facebook หรือ social
ที่ใครๆบอกว่า เล่นมากไประวังจะติด คือผมรู้ว่าควบคุมตัวเองได้ เวลาใครมาบอกว่า พวกนี้เล่นมากๆส่งผลกับชีวิต ผมรู้สึกตลก
เริ่มเลยนะครับ
พื้นเพตัวผมเป็นคนชอบการอ่าน อ่านทุกอย่างทั้งมีสาระหรือไม่มีสาระ เวลามีคนโพสต์อะไรลงใน facebook แล้วมีประเด็นน่าสนใจ
ผมจะตามอ่านคอมเม้นทั้งหมด รวมถึงคอมเม้นย่อย เพื่อจะดูว่า ใครมีความคิดยังไง บางทีเป็นพันๆเม้นก็นั่งอ่านจนเกลี้ยง
อารมณ์ตอนนั้นมันรู้สึกเพลิน เหมือนได้ใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ
เวลาว่างๆที่ไม่ได้ทำงาน ผมชอบเลื่อนหน้า news feed เล่น แล้วไล่อ่านตั้งแต่บนลงล่าง จนกว่าจะไม่มีอะไรใหม่
ซึ่งหน้านี้มันรวมทุกอย่าง ตั้งแต่เพจที่ติดตามไว้ โพสต์ของเพื่อนอวดผัว โพสต์ข่าว ถ้าผมสนใจตรงใหนจะตามไปดูเม้นย่อยๆอีก บางทีมีเปิดวาร์ป
ผมก็ตามวาร์ปไป บางทีอยากรู้ผัวเพื่อนโพสต์อะไรลงเฟซบ้าง ใหนขอดูหน่อยสิ
อารมณ์อยากรู้เรื่องทั้งหมด บางทีถ้าเป็นโพสต์มาจากเพจต่างๆ ผมจะเข้าไปดูในเพจอีก ว่ามีอะไรใหม่รึเปล่า ถ้ามีก็อ่านโพส อ่านเม้นจนหมดอีก
ขนาดเพจที่ไม่ค่อยมีเนื้อหา แบบเพจ E เจี๊ยบ ผมยังไปนั่งอ่านคนด่ามันเป็นพันๆเม้น (หรือที่ผมเป็นทั้งหมดเพราะพลังกาลกิณี?)
กระทู้พันทิปอันใหนขึ้นอันดับผมอ่านหมดทุกห้อง ก้นครัว บางขุนพรหม หว้ากอ มาบุญครอง
บางทีไม่สาใจ มาดูกระทู้ย่อยอีก เลื่อนเร็วกวาดตาผ่านๆ ตั้งแต่บนสุดจนถึงจุดเก่าที่เคยอ่าน
ประมวลผลแบบเร็ว ถ้าอันใหนน่าสนใจจำชื่อไว้ แล้วมาไล่กดเข้าอ่านอีกทีตอนหลัง
ช่วงแรกๆโซเชียลยังไม่บูมมาก ทำแบบนี้ยังพอไหว แต่หลังๆ เนื้อหามันไหลเร็วมาก มีข่าวดราม่ามีประเด็นให้ตามทุกวัน เวลาที่ผมไหลไปกับการอ่าน
ประเด็นข่าว อ่านคอมเม้น เริ่มมากขึ้นๆ จนกินเวลางาน บางทีอ่านแล้วย่อยไม่ทันเสร็จได้เวลาทำงาน ต้องเอามาคิดต่อเวลาทำงานอีก
เวลามีข่าวสะเทือนใจแบบ คนพิการรุมฆ่าลูกตำรวจ ผมจะดูคอมเม้นที่มีการแสดงความโกรธแค้น แล้วรู้สึกสะใจ
เหมือนโลกนี้ยังมีคนเข้าข้างคนดี อะไรแบบนี้ ไปๆมาๆเหมือนผมรับเอาความโกรธแค้นมาซะเอง นั่งทำงานไป หน้าตึงไป คิดแค้นคนที่ฆ่าคนอื่น
บางทีเจอกระทู้ ค่ายมือถือโกงลูกค้า แรกๆอ่านก็ เฉยๆ หลังๆเริ่มแค้นเหมือนไฟสุมใจ คิดว่ารวยแล้วทำแบบนี้กับลูกค้าได้หรอ อะไรประมาณนี้
หรือบางทีเจอคนตรรกะแย่ผมก็จะเอามานั่งคิดนอกเวลาว่า โตมาแบบใหน ทำไมความคิดแบบนี้ บลาๆ
ต่อมาผมเริ่มติดนิสัย เปิดเว็บหาตัวอย่างงาน ก็จะต้องแวะ facebook หน่อยนึง ว่ามีอะไรใหม แล้วรีบปิด
บางทีปิดไปแป๊บเดียวเปิดขึ้นมาใหม่อีกละ อารมณ์อยากติดตามข่าวตลอดเวลา แต่ทำงานอยู่
หลังๆเริ่มกลายเป็น ทำงานครึ่ง ท่อง facebook ครึ่งซะแล้ว บางทีมีคลิป ตามไปดูใน youtube เจอของน่าสนใจอีก ยาวเป็นชั่วโมงๆ
สุดท้ายเวลาพักผ่อนเริ่มโดนยึดไปหมด เกมเกิม ไม่ได้เล่น แบบ เล่นๆไป กำลังตีอยู่ อยากรู้และว่าในเฟซมีอะไร ปิดเกมเข้าเฟซ
เวลานอนเริ่มไม่ได้นอน ดึกดื่นเอามือถือมาปัดเล่น บางทีนอนดึก นั่งอ่านคอมเม้นตลกแล้วหัวเราะ อ่านคอมเม้นที่คนรุมด่า ความเห็นขวางโลก แล้วสะใจ
วันนั้นผมจำได้มีดราม่าคุณป้าโวยค่าส่ง grab bike 5 บาท ผมนั่งอ่านจนตีสี่!!
เพราะงี้จึงเริ่มตื่นสาย ตื่นมามีปวดหัวปวดตัว หลังๆปวดหัวมากจนทำงานไม่ได้ เหมือนสมองรับข้อมูลเยอะเกิน
เริ่มไม่อยากทำอะไรละนอกจากนอนเล่นมือถือหาอะไรอ่านไปเรื่อย อารมณ์ภายนอกก็เกรี้ยวกราดขึ้น เจอคนที่ทำอะไรไม่ตรงใจ จะนึกถึงพวกขวางโลกใน social แล้วจะโมโหแบบปรี๊ดขึ้นมาเลย อยากทุบอยากทำลายคนพวกนั้นให้หมด แล้วสุดท้ายทำไม่ได้ก็ปวดหัวเอง
จุดเปลี่ยน
-มานั่งนับดูว่าแต่ละวันเราหมดเวลาไปกับอะไร พบว่า ใช้อ่าน facebook เยอะมาก
-มานั่งนึกว่าทำไมเราอารมณ์หงุดหงิดจัง สืบไปสืบมา อ๋อ เราโกรธไอความเห็นนั้น ข่าวนั้น แล้วไม่มีที่ลง
-ปวดหัวจนทำงานไม่ได้ ทำไม ? พอมาลองคิดดู วันๆใช้สมอง อ่าน คิด ตลอดเวลา กระทั่งกลางคืน
-ประสิทธิภาพงานแย่ลง เพราะสมาธิไม่ได้จดจ่อที่งาน
ปฎิวัติ
-จำกัดรอบการอ่านข่าว เป็น เช้า เย็น แค่ 2 รอบ และแต่ละรอบ จำกัดเวลา 20 นาที
-พยายามดูอะไรตลกๆ ไม่ดราม่า นอกจากข่าวใหญ่
-เลือกอ่านแต่อันเนื้อเน้นๆ น้ำไม่เอา คอมเม้นย่อยช่างมัน
-อ่านแล้วอย่าอิน อย่าโกรธ ให้คิดซะว่า โลกต้องมีคนหลายๆแบบ
-เวลามือจะเลื่อนไปกดเปิดเฟสตอนทำงาน ให้หยุดทันที
ผลลัพธ์ หลังจากทำได้ซักพัก
-กลับมานอนเร็ว ตื่นเช้าได้เหมือนเดิม
-ทำงานได้นานขึ้น
-อาการปวดหัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
-อารมณ์ดีขึ้น
-มีเวลาไปทำอย่างอื่นเยอะขึ้นมาก
-มองเห็นรายละเอียดเล็กๆรอบตัวมากขึ้น เมื่อก่อนสนใจแต่โลก social
บทสรุป
- การสิงอยู่ในโลก social ต้องเลือกกรองข้อมูลที่จะเข้าหัวเรา ทั้งปริมาณ คุณภาพ ความสำคัญ ไม่อย่างนั้นข้อมูลจะล้นหัว
แล้วจะเหมือนเสพติด ต้องคอยเติมใหม่เรื่อยๆ
- การที่มีข้อมูลใหม่ๆอัพเดตตลอดเวลา อาจทำให้เราอยากรู้ อยากดู จนสุดท้ายเสียเวลาไปกับมันมากมาย เลือกดูเป็นครั้งคราวดีกว่าครับ
- การอินกับเหตุการณ์บ้านเมือง คือ ไหลตามดราม่า ทำให้สุขภาพจิตเราแย่ลง มาก ย้ำว่า มาก
สุดท้ายนี้หวังว่าเรื่องของผมจะเป็นข้อคิดให้คนอ่านทุกๆคนใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่ไหลไปตามเทคโนโลยีและโลก social นะครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ขอ Tag ชานเรือน เผื่อคนที่มีบุตรหลานกำลังมีปัญหานี้ครับ
เมื่อผมตัดสินใจ ลดการเล่น Facebook [ยาวมากแต่มีสาระแน่นอน]
ผมเป็นคนยุค IT ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ผมไม่เคยกลัวเทคโนโลยี พวก facebook หรือ social
ที่ใครๆบอกว่า เล่นมากไประวังจะติด คือผมรู้ว่าควบคุมตัวเองได้ เวลาใครมาบอกว่า พวกนี้เล่นมากๆส่งผลกับชีวิต ผมรู้สึกตลก
เริ่มเลยนะครับ
พื้นเพตัวผมเป็นคนชอบการอ่าน อ่านทุกอย่างทั้งมีสาระหรือไม่มีสาระ เวลามีคนโพสต์อะไรลงใน facebook แล้วมีประเด็นน่าสนใจ
ผมจะตามอ่านคอมเม้นทั้งหมด รวมถึงคอมเม้นย่อย เพื่อจะดูว่า ใครมีความคิดยังไง บางทีเป็นพันๆเม้นก็นั่งอ่านจนเกลี้ยง
อารมณ์ตอนนั้นมันรู้สึกเพลิน เหมือนได้ใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ
เวลาว่างๆที่ไม่ได้ทำงาน ผมชอบเลื่อนหน้า news feed เล่น แล้วไล่อ่านตั้งแต่บนลงล่าง จนกว่าจะไม่มีอะไรใหม่
ซึ่งหน้านี้มันรวมทุกอย่าง ตั้งแต่เพจที่ติดตามไว้ โพสต์ของเพื่อนอวดผัว โพสต์ข่าว ถ้าผมสนใจตรงใหนจะตามไปดูเม้นย่อยๆอีก บางทีมีเปิดวาร์ป
ผมก็ตามวาร์ปไป บางทีอยากรู้ผัวเพื่อนโพสต์อะไรลงเฟซบ้าง ใหนขอดูหน่อยสิ
อารมณ์อยากรู้เรื่องทั้งหมด บางทีถ้าเป็นโพสต์มาจากเพจต่างๆ ผมจะเข้าไปดูในเพจอีก ว่ามีอะไรใหม่รึเปล่า ถ้ามีก็อ่านโพส อ่านเม้นจนหมดอีก
ขนาดเพจที่ไม่ค่อยมีเนื้อหา แบบเพจ E เจี๊ยบ ผมยังไปนั่งอ่านคนด่ามันเป็นพันๆเม้น (หรือที่ผมเป็นทั้งหมดเพราะพลังกาลกิณี?)
กระทู้พันทิปอันใหนขึ้นอันดับผมอ่านหมดทุกห้อง ก้นครัว บางขุนพรหม หว้ากอ มาบุญครอง
บางทีไม่สาใจ มาดูกระทู้ย่อยอีก เลื่อนเร็วกวาดตาผ่านๆ ตั้งแต่บนสุดจนถึงจุดเก่าที่เคยอ่าน
ประมวลผลแบบเร็ว ถ้าอันใหนน่าสนใจจำชื่อไว้ แล้วมาไล่กดเข้าอ่านอีกทีตอนหลัง
ช่วงแรกๆโซเชียลยังไม่บูมมาก ทำแบบนี้ยังพอไหว แต่หลังๆ เนื้อหามันไหลเร็วมาก มีข่าวดราม่ามีประเด็นให้ตามทุกวัน เวลาที่ผมไหลไปกับการอ่าน
ประเด็นข่าว อ่านคอมเม้น เริ่มมากขึ้นๆ จนกินเวลางาน บางทีอ่านแล้วย่อยไม่ทันเสร็จได้เวลาทำงาน ต้องเอามาคิดต่อเวลาทำงานอีก
เวลามีข่าวสะเทือนใจแบบ คนพิการรุมฆ่าลูกตำรวจ ผมจะดูคอมเม้นที่มีการแสดงความโกรธแค้น แล้วรู้สึกสะใจ
เหมือนโลกนี้ยังมีคนเข้าข้างคนดี อะไรแบบนี้ ไปๆมาๆเหมือนผมรับเอาความโกรธแค้นมาซะเอง นั่งทำงานไป หน้าตึงไป คิดแค้นคนที่ฆ่าคนอื่น
บางทีเจอกระทู้ ค่ายมือถือโกงลูกค้า แรกๆอ่านก็ เฉยๆ หลังๆเริ่มแค้นเหมือนไฟสุมใจ คิดว่ารวยแล้วทำแบบนี้กับลูกค้าได้หรอ อะไรประมาณนี้
หรือบางทีเจอคนตรรกะแย่ผมก็จะเอามานั่งคิดนอกเวลาว่า โตมาแบบใหน ทำไมความคิดแบบนี้ บลาๆ
ต่อมาผมเริ่มติดนิสัย เปิดเว็บหาตัวอย่างงาน ก็จะต้องแวะ facebook หน่อยนึง ว่ามีอะไรใหม แล้วรีบปิด
บางทีปิดไปแป๊บเดียวเปิดขึ้นมาใหม่อีกละ อารมณ์อยากติดตามข่าวตลอดเวลา แต่ทำงานอยู่
หลังๆเริ่มกลายเป็น ทำงานครึ่ง ท่อง facebook ครึ่งซะแล้ว บางทีมีคลิป ตามไปดูใน youtube เจอของน่าสนใจอีก ยาวเป็นชั่วโมงๆ
สุดท้ายเวลาพักผ่อนเริ่มโดนยึดไปหมด เกมเกิม ไม่ได้เล่น แบบ เล่นๆไป กำลังตีอยู่ อยากรู้และว่าในเฟซมีอะไร ปิดเกมเข้าเฟซ
เวลานอนเริ่มไม่ได้นอน ดึกดื่นเอามือถือมาปัดเล่น บางทีนอนดึก นั่งอ่านคอมเม้นตลกแล้วหัวเราะ อ่านคอมเม้นที่คนรุมด่า ความเห็นขวางโลก แล้วสะใจ
วันนั้นผมจำได้มีดราม่าคุณป้าโวยค่าส่ง grab bike 5 บาท ผมนั่งอ่านจนตีสี่!!
เพราะงี้จึงเริ่มตื่นสาย ตื่นมามีปวดหัวปวดตัว หลังๆปวดหัวมากจนทำงานไม่ได้ เหมือนสมองรับข้อมูลเยอะเกิน
เริ่มไม่อยากทำอะไรละนอกจากนอนเล่นมือถือหาอะไรอ่านไปเรื่อย อารมณ์ภายนอกก็เกรี้ยวกราดขึ้น เจอคนที่ทำอะไรไม่ตรงใจ จะนึกถึงพวกขวางโลกใน social แล้วจะโมโหแบบปรี๊ดขึ้นมาเลย อยากทุบอยากทำลายคนพวกนั้นให้หมด แล้วสุดท้ายทำไม่ได้ก็ปวดหัวเอง
จุดเปลี่ยน
-มานั่งนับดูว่าแต่ละวันเราหมดเวลาไปกับอะไร พบว่า ใช้อ่าน facebook เยอะมาก
-มานั่งนึกว่าทำไมเราอารมณ์หงุดหงิดจัง สืบไปสืบมา อ๋อ เราโกรธไอความเห็นนั้น ข่าวนั้น แล้วไม่มีที่ลง
-ปวดหัวจนทำงานไม่ได้ ทำไม ? พอมาลองคิดดู วันๆใช้สมอง อ่าน คิด ตลอดเวลา กระทั่งกลางคืน
-ประสิทธิภาพงานแย่ลง เพราะสมาธิไม่ได้จดจ่อที่งาน
ปฎิวัติ
-จำกัดรอบการอ่านข่าว เป็น เช้า เย็น แค่ 2 รอบ และแต่ละรอบ จำกัดเวลา 20 นาที
-พยายามดูอะไรตลกๆ ไม่ดราม่า นอกจากข่าวใหญ่
-เลือกอ่านแต่อันเนื้อเน้นๆ น้ำไม่เอา คอมเม้นย่อยช่างมัน
-อ่านแล้วอย่าอิน อย่าโกรธ ให้คิดซะว่า โลกต้องมีคนหลายๆแบบ
-เวลามือจะเลื่อนไปกดเปิดเฟสตอนทำงาน ให้หยุดทันที
ผลลัพธ์ หลังจากทำได้ซักพัก
-กลับมานอนเร็ว ตื่นเช้าได้เหมือนเดิม
-ทำงานได้นานขึ้น
-อาการปวดหัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
-อารมณ์ดีขึ้น
-มีเวลาไปทำอย่างอื่นเยอะขึ้นมาก
-มองเห็นรายละเอียดเล็กๆรอบตัวมากขึ้น เมื่อก่อนสนใจแต่โลก social
บทสรุป
- การสิงอยู่ในโลก social ต้องเลือกกรองข้อมูลที่จะเข้าหัวเรา ทั้งปริมาณ คุณภาพ ความสำคัญ ไม่อย่างนั้นข้อมูลจะล้นหัว
แล้วจะเหมือนเสพติด ต้องคอยเติมใหม่เรื่อยๆ
- การที่มีข้อมูลใหม่ๆอัพเดตตลอดเวลา อาจทำให้เราอยากรู้ อยากดู จนสุดท้ายเสียเวลาไปกับมันมากมาย เลือกดูเป็นครั้งคราวดีกว่าครับ
- การอินกับเหตุการณ์บ้านเมือง คือ ไหลตามดราม่า ทำให้สุขภาพจิตเราแย่ลง มาก ย้ำว่า มาก
สุดท้ายนี้หวังว่าเรื่องของผมจะเป็นข้อคิดให้คนอ่านทุกๆคนใช้ชีวิตอย่างมีสติไม่ไหลไปตามเทคโนโลยีและโลก social นะครับ
ขอบคุณครับ
ปล. ขอ Tag ชานเรือน เผื่อคนที่มีบุตรหลานกำลังมีปัญหานี้ครับ