จากที่เคยมาตั้งกระทู้ถามว่ามีใครเคยไปประเทศเซนต์ลูเชียบ้างรึเปล่า จะขอข้อมูล ตอนนี้ได้กลับมาแล้วค่ะ เลยจะมาทำรีวิวไว้เผื่อใครจะไปจะได้มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ เพราะสำหรับเราแล้ว ยอมรับว่า เราไม่เคยรู้เลยว่า ในโลกนี้มีประเทศเซนต์ลูเชีย พอจะไปเที่ยว ก้เริ่มหาข้อมูล สายการบิน อะไรต่างๆ เริ่มเลยนะคะ
อันดับแรก หาข้อมูลประเทศ เซนต์ลูเชีย เป็นประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆอยู่ในทะเลแคริเบียน เป็นประเทศในเขตร้อนแทบจะตรงกับประเทศไทยเลยค่ะ แค่อยู่อีกฝั่งโลกนึง เวลาต่างกันประมาณ 12 ชม. ภาษาพูดคือ ภาษาท้องถิ่น ภาษาฝรั่งเศส และภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษ ใช้เงินดอลล่าแคริเบียน แต่ใช้ดอลล่าสหรัฐได้ค่ะ เขาชอบ
https://www.google.co.th/maps/place/St+Lucia/@13.9094848,-61.1164675,11z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x8c406065f12da31d:0x6e7486c4e8399df5!8m2!3d13.909444!4d-60.978893
วีซ่า คนไทยจะไปเซน์ลูเซีย ต้องมีวีซ่าค่ะ และเขาไม่มีสถานฑูตในประเทศไทย คราวนี้ยุ่งวุ่นวายเลย ทางขอวีซ่าคือยื่นขอผ่านสถานฑูตอังกฤษ แต่ไม่รู้ระยะเวลานานเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ หรือไปยื่นขอที่ไต้หวัน มีสถานฑูตเซนต์ลูเชียใกล้ที่สุด ทางสุดท้ายขอวีซ่าเมื่อไปถึง visa on arrival เราเลือกทางสุดท้ายค่ะ ฉะนั้นต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ ที่สำคัญคือ จดหมายเชิญ จดหมายรับรองที่พักจากโรงแรม สเตทเมนท์ รูปถ่าย ฟอร์มการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ โหลดได้จากเวบ เอกสารพร้อม
เส้นทางการบิน .. เราต้องอยู่บนเครื่องไม่ต่ำกว่า 25 ชม. เราจึงเลือกนั่งชั้นธุรกิจค่ะ จะได้สบายยืดขาได้ นอนได้ จากเมืองไทยเรามีสองตัวเลือก คือไปโดยบริติชแอร์เวย์ หรือเดลต้า เราเลือเดลต้า เพราะไม่ต้องเปลี่ยนสายการบินเลย และบินไปจากประเทศไทย – ลงนาริตะ ญี่ปุ่น – บินไปลงแอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา – บินไปลงเซนต์ลูเชีย ขากลับก็แบบเดิมค่ะ เพิ่มคือบินลงแอตแลนต้า ต่อเครื่องไปแอลเอ ไปลงนาริตะและบินกลับประเทศไทย พวกกระเป๋านั้น เราให้สายการบินส่งไปยังปลายทางเลย จะได้ไม่เสียเวลาโหลด บินสายการบินเดียวกันนั้นทำได้สบายมากค่ะ
ได้ข้อมูลละ ไปกันเลยค่ะ ตอนรอต่อเครื่องที่นาริตะ เราจะเข้าไปในสกายคลับของเดลต้า มีไวไฟ มีเครื่องดื่มมีของกิน เราเลือเบียร์มอลท์ของญี่ปุ่นค่ะ ชื่นใจ
เครื่องไปแอตแลนต้าเป็นไฟลท์ยาวนาน ที่นั่งสบาย เป็นส่วนตัว
จะรีวิวอาหารชั้นธุรกิขของเดลต้านิดหน่อยนะคะ เขาจะมีเมนูมาให้เลือกค่ะ
อันนี้เสริฟอาหารเรียกน้ำย่อย เป็นเนื้อเย็นๆ แต่อร่อยมาก
ละก้อาหารหลัก ละก็ขนมปิดท้าย เรากินไม่หมดค่ะ จากนั้นก็นั่งๆนอนๆ ไปอีกนาน พอดึกๆแอร์มาเรียกให้กินผลไม้ เรากินไม่ได้อีกแล้ว ละก็นอนยาวเลย จำไม่ได้ว่ากินอะไรไปบ้าง ทั้งเบียร์ทั้งไวน์ พอใกล้ถึงจุดหมายก็เสริฟอาหารอีกมื้อ ละก้ไปถึงแอตแลนต้า ตรงนี้ต้องรอต่อเครื่อง 18 ชม. ไปถึงตอนหัวค่ำ เลยหาโรงแรมนอน เลือกใกล้ๆสนามบินค่ะ ราคาประมาณ 110 เหรียญ มีรถรับส่งฟรี 24 ชม. มีอาหารเช้า สบายมากๆเลย เราจองจากเวบค่ะ
ออกจากสนามบิน มีรถเมล์ฟรีไปโรงแรมค่ะ ขออภัยอันนี้ไม่ได้ถ่ายรูป เรามึนงงมาก ออกไปนั่งรถที่เขาจัดไว้ไปอาคารภายในประเทศ ละที่นั่นจะมีรถของแต่ละโรงแรมมาคอยรับค่ะ และ ฟรี ... พอไปถึงโรงแรมก็เช็คอิน อาบน้ำละออกมาเดินเที่ยว ซื้อเบียร์มากินคนละกระป่อง ละลองมาม่า เผ็ดดีค่ะ
ชื่อโรงแรม โรงแรมเก่า แต่ก็สะอาดดีค่ะ
นอนคืนนึง ตื่นเช้ามากินอาหารในโรงแรมละก็ออกมาที่สนามบิน รถโรงแรมมารออยู่แล้ว สะดวกมากกกกก พอถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปเซนต์ลูเชียกัน บนเครื่องเสริฟอาหารอีก กินสิคะ รอไร ทริปตะกละตะกรามมาก
นั่งไปประมาณ 5 ชม. มองออกไปเห็นทะเลแคริเบียนแล้ว ใกล้แล้วเรา
ถึงแล้วค่ะ ประเทศเซนต์ลูเซีย สนามบินแห่งชาติชื่อ เฮวานอร่า
ยังไม่จบค่ะ ต้องไปขอวีซ่าก่อน จากนั้นก็ไปผ่าน ตม. ค่าธรรมเนียม 50 เหรียญสหรัฐค่ะ
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องรอคิว มีคนจีนสองสามคนมาขอเหมือนกัน จากนั้นก็ต้องนั่งรถไปโรงแรมค่ะ จุดที่เรามาถึงคือ Vieux Fort ทางใต้ของประเทศ เราต้องนั่งรถขึ้นเหนือไป Rodney Bay ที่เมือง Gros Islet ... ประมาณ สองชั่วโมงค่ะ
เที่ยวเซนต์ลูเชีย ตอน1 (หาข้อมูล)
อันดับแรก หาข้อมูลประเทศ เซนต์ลูเชีย เป็นประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆอยู่ในทะเลแคริเบียน เป็นประเทศในเขตร้อนแทบจะตรงกับประเทศไทยเลยค่ะ แค่อยู่อีกฝั่งโลกนึง เวลาต่างกันประมาณ 12 ชม. ภาษาพูดคือ ภาษาท้องถิ่น ภาษาฝรั่งเศส และภาษาราชการคือ ภาษาอังกฤษ ใช้เงินดอลล่าแคริเบียน แต่ใช้ดอลล่าสหรัฐได้ค่ะ เขาชอบ
https://www.google.co.th/maps/place/St+Lucia/@13.9094848,-61.1164675,11z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x8c406065f12da31d:0x6e7486c4e8399df5!8m2!3d13.909444!4d-60.978893
วีซ่า คนไทยจะไปเซน์ลูเซีย ต้องมีวีซ่าค่ะ และเขาไม่มีสถานฑูตในประเทศไทย คราวนี้ยุ่งวุ่นวายเลย ทางขอวีซ่าคือยื่นขอผ่านสถานฑูตอังกฤษ แต่ไม่รู้ระยะเวลานานเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ หรือไปยื่นขอที่ไต้หวัน มีสถานฑูตเซนต์ลูเชียใกล้ที่สุด ทางสุดท้ายขอวีซ่าเมื่อไปถึง visa on arrival เราเลือกทางสุดท้ายค่ะ ฉะนั้นต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ ที่สำคัญคือ จดหมายเชิญ จดหมายรับรองที่พักจากโรงแรม สเตทเมนท์ รูปถ่าย ฟอร์มการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศ โหลดได้จากเวบ เอกสารพร้อม
เส้นทางการบิน .. เราต้องอยู่บนเครื่องไม่ต่ำกว่า 25 ชม. เราจึงเลือกนั่งชั้นธุรกิจค่ะ จะได้สบายยืดขาได้ นอนได้ จากเมืองไทยเรามีสองตัวเลือก คือไปโดยบริติชแอร์เวย์ หรือเดลต้า เราเลือเดลต้า เพราะไม่ต้องเปลี่ยนสายการบินเลย และบินไปจากประเทศไทย – ลงนาริตะ ญี่ปุ่น – บินไปลงแอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา – บินไปลงเซนต์ลูเชีย ขากลับก็แบบเดิมค่ะ เพิ่มคือบินลงแอตแลนต้า ต่อเครื่องไปแอลเอ ไปลงนาริตะและบินกลับประเทศไทย พวกกระเป๋านั้น เราให้สายการบินส่งไปยังปลายทางเลย จะได้ไม่เสียเวลาโหลด บินสายการบินเดียวกันนั้นทำได้สบายมากค่ะ
ได้ข้อมูลละ ไปกันเลยค่ะ ตอนรอต่อเครื่องที่นาริตะ เราจะเข้าไปในสกายคลับของเดลต้า มีไวไฟ มีเครื่องดื่มมีของกิน เราเลือเบียร์มอลท์ของญี่ปุ่นค่ะ ชื่นใจ
เครื่องไปแอตแลนต้าเป็นไฟลท์ยาวนาน ที่นั่งสบาย เป็นส่วนตัว
จะรีวิวอาหารชั้นธุรกิขของเดลต้านิดหน่อยนะคะ เขาจะมีเมนูมาให้เลือกค่ะ
อันนี้เสริฟอาหารเรียกน้ำย่อย เป็นเนื้อเย็นๆ แต่อร่อยมาก
ละก้อาหารหลัก ละก็ขนมปิดท้าย เรากินไม่หมดค่ะ จากนั้นก็นั่งๆนอนๆ ไปอีกนาน พอดึกๆแอร์มาเรียกให้กินผลไม้ เรากินไม่ได้อีกแล้ว ละก็นอนยาวเลย จำไม่ได้ว่ากินอะไรไปบ้าง ทั้งเบียร์ทั้งไวน์ พอใกล้ถึงจุดหมายก็เสริฟอาหารอีกมื้อ ละก้ไปถึงแอตแลนต้า ตรงนี้ต้องรอต่อเครื่อง 18 ชม. ไปถึงตอนหัวค่ำ เลยหาโรงแรมนอน เลือกใกล้ๆสนามบินค่ะ ราคาประมาณ 110 เหรียญ มีรถรับส่งฟรี 24 ชม. มีอาหารเช้า สบายมากๆเลย เราจองจากเวบค่ะ
ออกจากสนามบิน มีรถเมล์ฟรีไปโรงแรมค่ะ ขออภัยอันนี้ไม่ได้ถ่ายรูป เรามึนงงมาก ออกไปนั่งรถที่เขาจัดไว้ไปอาคารภายในประเทศ ละที่นั่นจะมีรถของแต่ละโรงแรมมาคอยรับค่ะ และ ฟรี ... พอไปถึงโรงแรมก็เช็คอิน อาบน้ำละออกมาเดินเที่ยว ซื้อเบียร์มากินคนละกระป่อง ละลองมาม่า เผ็ดดีค่ะ
ชื่อโรงแรม โรงแรมเก่า แต่ก็สะอาดดีค่ะ
นอนคืนนึง ตื่นเช้ามากินอาหารในโรงแรมละก็ออกมาที่สนามบิน รถโรงแรมมารออยู่แล้ว สะดวกมากกกกก พอถึงเวลาก็ขึ้นเครื่องไปเซนต์ลูเชียกัน บนเครื่องเสริฟอาหารอีก กินสิคะ รอไร ทริปตะกละตะกรามมาก
นั่งไปประมาณ 5 ชม. มองออกไปเห็นทะเลแคริเบียนแล้ว ใกล้แล้วเรา
ถึงแล้วค่ะ ประเทศเซนต์ลูเซีย สนามบินแห่งชาติชื่อ เฮวานอร่า
ยังไม่จบค่ะ ต้องไปขอวีซ่าก่อน จากนั้นก็ไปผ่าน ตม. ค่าธรรมเนียม 50 เหรียญสหรัฐค่ะ
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่ต้องรอคิว มีคนจีนสองสามคนมาขอเหมือนกัน จากนั้นก็ต้องนั่งรถไปโรงแรมค่ะ จุดที่เรามาถึงคือ Vieux Fort ทางใต้ของประเทศ เราต้องนั่งรถขึ้นเหนือไป Rodney Bay ที่เมือง Gros Islet ... ประมาณ สองชั่วโมงค่ะ