[CR] มาเปรียบเทียบประกันการเดินทางกันเถอะว่าเลือกบริษัทไหนดี??

ก่อนอื่นใด ผมต้องขอแจ้งก่อนนะครับ ผมไม่มีส่วนได้เสียใดๆ ทั้งสิ้นไม่ว่ากับเพจชื่อดัง หรือ บริษัทประกันใดๆ ที่กล่าวถึงในบทความนี้ และความเห็นทั้งหลายเป็นความเห็นส่วนตัว กรุณาใช้วิจารณญาณ ในการตัดสินใจนะครับ และ หวังว่ากระทู้นี้คงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ  หาก มีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยและกรุณาแจ้งด้วยนะครับ เพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกต้องครับ

และถ้าใครว่างๆ ลองแวะเข้าไปคุยกันต่อได้นะครับที่ FB.COM/SAMSAAWPATIEW


เนื่องด้วยผมเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่สอยตั๋วไปกลับฮ่องกง กับสายการบิน Kenya airways ในราคาที่ถูกกว่านั่งเจ้าป้าไปกลับเชียงใหม่ซะอีก  ตอนนี้มานั่งเครียดกับค่าโรงแรมที่ฮ่องกงที่แพงหูฉี่ ตอนเดือนตุลาแทน 555

หลังจากดีใจได้ไม่กี่วัน ก็มีคนแชร์กระทู้ สายการบินดีเลย์ ขึ้นมาใน Facebook ผม  

เอาน่า!!  ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เท่าที่ดู flight status ในอดีตที่ผ่านมาไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุการณ์บน FlightAware เครื่อง จาก BKK ก็ออกตรงนะ  อาจเป็นเพราะ พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก มั้ง สายการบินเลย delay 6 ชั่วโมง 30 นาที





ไม่เป็นไรหลังจากนั้นผมก็เลย search ดูว่ามีประกันบริษัทไหนบ้างที่ จ่ายค่าคุ้มครองในกรณีที่มีการดีเลย์ 6 ชมบ้าง
เท่าที่เปรียบเทียบดู โดยเอาเฉพาะบริษัทหลักๆที่ซื้อผ่านทางออนไลน์ มาเทียบกันครับ อย่าง AXA บางแผนสูงๆ ที่ต้องส่งเอกสาร เช่น แผน platinum ผมไม่เอามาเทียบเพราะซื้อลำบาก

นอกจากนี้ผมยังเลือกเอาเฉพาะแผนที่คุ้มครองการล่าช้าของเที่ยวบินด้วย แผนที่ไม่มีผมไม่เอามาเปรียบเทียบเพราะ ตอนนี้เราเน้นหลักๆ คือ ดีเลย์ กระเป๋ามาช้า กระเป๋าพัง กระเป๋าหาย เป็นต้นครับ

หลังจากเทียบกัน ผมขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยใช้ ความคุ้มครองการเสียชีวิต เป็นเกณฑ์ในการแบ่งนะครับ

กลุ่มแรก คือกลุ่มที่ ความคุ้มครองอยู่ที่ 4 ล้านบาท ในกลุ่มนี้จะมี  
    Travel Guard Plan B, Allianz Good Sense, และ MSIG Easy 2

และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มีความคุ้มครองอยู่ที่   1-1.5 ล้านบาท  ในกลุ่มนี้จะมี
    Travel Guard Plan C, Cigna, AXA Gold, และ MSIG Easy 3




โดยกลุ่มแรก ผมได้ทำตารางเปรียบเทียบ ความคุ้มครองหลักๆ ไว้ดังนี้






สำหรับ 3 แผนนี้ ความคุ้มครอง ในกรณีที่เสียชีวิต และความคุ้มครองในการรักษาพยาบาล จะพอๆกัน ไม่หนีกันมากเท่าไหร่

เรามาดูเรื่องการล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง และ ล่าช้าของการเดินทางดีกว่า

สำหรับ Travel Guard Plan B หากกระเป๋าล่าช้าระหว่าง 8-16 ชั่วโมงทางประกันจะจ่ายสูงสุด 20% ของทุนประกันหรือ 5,000 บาท ศุงสุด 25,000 บาท เช่นเดียวกันกับของ MSIG Easy 2 ขณะที่ Allianz จะจ่าย เพียง 2,000 บาท ทุก 12 ชั่วโมง สูงสุด 20,000 บาท   หากนานกว่านั้นลองดู ตรง note สีเหลืองๆ ด้านบนครับ
ข้อนี้ผมให้ Travel Guard กับ MSIG  เสมอกันครับ

ในกรณีที่มีการพลาดในการต่อเครื่อง ทาง Travel Guard เขียนว่าหากการล่าช้าของการมาถึงของเที่ยวบิน รถไฟ หรือเที่ยวเรือ มายังจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางนั้น ทำให้พลาดการเดินทางต่อในต่างประเทศและไม่สามารถหายานพาหนะอื่นทดแทนได้ ภายใน 8 ชั่วโมง จะชดเชยค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนตั๋วเครื่องบิน) ไม่เกิน 10,000 บาท  ในขณะที่  Allianz จ่าย 5,000 บาท ทุก 12 ชั่วโมง สูงสุดมากถึง 50,000 บาท และ MSIG จ่าย 2,000 บาท ทุก 8 ชั่วโมง สูงสุด 10,000 บาท

งานนี้ให้คะแนนลำบากครับ ถ้าเป็นระยะสั้นๆ อย่างไม่เกิน 8 ชั่วโมง Travel Guard เคลมได้สูงถึง 10,000 เทียบกับ Allianz ต้องดีเลย์ถึง 24+ ถึงได้ความคุ้มครองเดียวกัน  สำหรับ MSIG ผมคงไม่กล่าวถึงเพราะ จ่าย 2,000 บาท ทุก 8 ชั่วโมง จนเต็ม 10,000 บาท ที่ 40 ชั่วโมงขึ้นไป  

สำหรับการเดินทาง BKK-HKG  ที่ไม่มีการต่อเครื่องคงไม่จำเป็นที่จะต้องมองจุดๆนี้ แต่ถ้ามีการต่อเครื่อง อาจดูว่าเครื่องที่ต่อไปจุดหมายถัดไปบินบ่อยแค่ไหน ถ้าวันนึงมีบินไฟล์ทเดียว Allianz อาจเป็นทางเลือกที่น่ามองครับ ถ้ามีเครื่องออก ทุก 3-4 ชั่วโมง ผมว่า เลือก Travel Guard ดีกว่า เพราะโอกาสที่พลาด 24 ชั่วโมงขึ้นไปอาจมีน้อย

ข้อต่อไปคือจุดประสงค์สำคัญที่ผมมาทำเปรียบเทียบข้อมูลประกัน คือการชดเชยความล่าช้าในการเดินทางครับ
Travel Guard จ่าย 10% ของทุนประกันหรือ 2,500 บาท ทุก 6 ชั่วโมง  แต่ MSIG จ่าย 20% ของทุนประกันหรือ 5,000 บาท ทุก 8 ชั่วโมง ทั้งสองบริษัทข้างต้นมีทุนประกันสูงสุดแค่ 25,000 ขณะที่ Allianz สูงถึง 50,000 บาท แต่ จ่าย 5,000 บาท ทุก 12 ชั่วโมง  งานนี้ผมตัด Allianz ออกครับเพราะโอกาส ที่ดีเลย์เกิน 2 วันน่าจะน้อยมากถึงน้อยที่สุด โดยเฉพาะไฟล์ทจากฮ่องกงมาไทย

เลื่อนมาดูที่ราคา
ส่วนใหญ่คนไปฮ่องกงประมาณ 3-7 วัน
ราคา ที่ 3-5 วันของ Allianz จะสูงกว่าบริษัทอื่นพอสมควร แต่พอ 7 วัน ราคาเริ่มขยับใกล้กันขึ้นครับ แต่ Allianz ยังสูงที่สุดอยู่ดี ทำให้ตัวเลือกของผมลดลงมาเหลือ แค่ 2 บริษัทเท่านั้น คือ Travel Guard และ MSIG  สำหรับกรณีทริปฮ่องกงนี้ ผมคงเลือก Travel Guard ด้วยเหตุผลง่ายๆ เลย คือเพราะ จ่ายถ้าดีเลย์ 6 ชั่วโมง ส่วนค่าเบี้ยที่เพิ่มคงเป็นผลประโยชน์ที่เพิ่มมาในส่วนค่าชดเชย ค่าผลประโยช์ในกรณีที่ป่วย



กลุ่มที่สองผมก็ได้ทำตารางเปรียบเทียบไว้เช่นเดียวกับกลุ่มแรก






เช่นเดียวกันครับ ผลประโยชน์เสียชีวิต และรักษาพยาบาลไม่ค่อยหนีกันเท่าไหร่ อยู่ ประมาณ 1-1.5 ล้านบาท สำหรับเสียชีวิต และ 2 ล่านในกรณีรักษาพยาบาล แต่ Cigna กับ AXA ไม่จ่ายในกรณีที่มารักษาต่อเนื่องที่ไทยนะครับ

แต่ถ้ามองเฉพาะหลักๆ สำหรับ การดีเลย์ ผมตัด Travel Guard Plan C ทิ้งก่อนเลยครับ เหตุเพราะ ชดเชยการล่าช้าสูงสุด 2500 บาท แต่จ่าย 10%  หรือ 250 บาท ทุก 6 ชั่วโมง จะน้อยไปไหนกัน เพิ่ม 300 บาทเอา Plan B เลยดีกว่า  ทำให้ประกันที่ จ่ายทุก 6 ชั่วโมงเหลือเพียง Cigna แม้ว่าจะคุ้มครองไม่ค่อยเยอะ แต่ราคาถูก เร้าใจกว่าเพื่อนเลย 256 บาท สำหรับ 3 วัน ในขณะบริษัทอื่น เริ่ม 400 เข้าไปแล้ว  แต่อย่าลืมดูตรงความเสียหายด้วยนะครับ ถ้าเจอแบบคราวป้ายิ้ม รอบที่แล้ว 5 หมื่นก็ไม่อยู่ Cigna คุ้มครองสูงสุด แค่หมื่นเดียว ในขณะที่บริษัทอื่นๆ 30,000 ขึ้น
ส่วนตัวผมงานนี้คงเลือก Cigna เป็นอันดับ 1 และ MSIG Easy 3 เป็นอันดับ สองครับ

นอกจากนี้อย่าลืมว่าตอนคุณรูดบัตรซื้อตั๋วเครื่องบิน ส่วนมากบัตรเครดิตเหล่านั้นจะมี ประกันการเดินทางแถมให้ครับ แต่เป็นประกันอุบัติเหตุเท่านั้นนะครับ เจ็บป่วยไม่เกี่ยว และ ไม่รวมระหว่างคุณเดินเล่นเดินเที่ยว  

ผมจะดูว่าประกันที่ผมได้ครอบคลุมอะไรบ้าง แต่ส่วนหลักๆ มักจะครอบคลุมถึง การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง การพลาดต่อเที่ยวบิน ชดเชยการล่าช้าในการเดินทาง ฯลฯ แม้กระทั่งประกันชีวิตที่ทำกันบางครั้งก็รวมถึงการเคลื่อนย้ายคนป่วยด้วยนะครับ  ส่วนเกินค่อยมาซื้อกับบริษัทประกันก็ได้ครับ เช่นพวกเจ็บป่วย เสียชีวิต


ตัวอย่างเช่นของบัตรเครดิต CIMB Preferred Platinum


•    ประกันอุบัติเหตุการเดินทาง วงเงินคุ้มครองสูงสุด 6,000,000 บาท*
•    ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุในต่างประเทศสูงสุด 250,000 บาท
•    คุ้มครองเที่ยวบินล่าช้า หรือกระเป๋าเดินทางล่าช้า หรือสูญหายสูงสุด 10,000 บาท

นอกเหนือจากนี้ลองติดต่อสอบถาม บริษัทบัตรเครดิตที่ใช้ได้เลยครับ
หรือลองดู ที่คุณ JusTBELievE เคยทำไว้ ในกระทู้นี้เลยครับ
http://ppantip.com/topic/35108074

KTC - GSB Visa Platinum, JCB Platinum
- อุบัติเหตุ 8,000,000 บาท
- กระเป๋าเสีย, กระเป๋าหาย 40,000 บาท

Citi - Reward Titanium MasterCard
- อุบัติเหตุ $200,000 (7,000,000 บาท)
- เที่ยวบินล่าช้า, กระเป๋าล่าช้า $200 (7,000 บาท)
- กระเป๋าหาย $700 (25,000 บาท)

TMB - So Fast Visa Platinum, So Smart Visa Platinum
- อุบัติเหตุ 7,000,000 บาท
- เที่ยวบินล่าช้า, กระเป๋าเดินทางล่าช้า, กระเป๋าเดินทางหาย, วันเดินทางถูกลด 17,500 บาท

Krungsri - HomePro Visa Platinum, JCB Platinum
- อุบัติเหตุ 6,000,000 บาท
- เที่ยวบินล่าช้าหรือถูกยกเลิก 10,000 บาท
- กระเป๋าล่าช้า 10,000 บาท

KTC - Dhipaya Titanium MasterCard
- อุบัติเหตุ 4,000,000 บาท

TMB - So Chill Titanium MasterCard
- อุบัติเหตุ 3,000,000 บาท
ชื่อสินค้า:   บริษัทประกันทั้งหลาย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่