สวัสดีค่ะ หายไปนานไม่ได้อัพเดต จะชวนเพื่อนๆมาถ่ายรูปเล่นกันอีกแล้ว แต่คราวนี้จะเป็นภาคกลางคืนนะ.. ได้มาด้วยความไม่ตั้งใจ เลยได้มีโอกาสเอาเทคนิคดีๆที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันอีกแล้วค่ะ เราจะมาต่อกันกับเนื้อหาคราวก่อน..
http://ppantip.com/topic/35219595
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และคราวก่อนๆ
http://ppantip.com/topic/35194816
http://ppantip.com/topic/35204764
ตามไปกันเลยค่า..
สวนเฉลิมหล้า (ภาคกลางคืน)
มาต่อภาคสองกัน อยากจะย้ำอีกครั้งนึงว่า สวนเฉลิมหล้านี้ เป็นสถานที่ที่โดนใจวัยรุ่นอย่างเราๆมากเลย ทำให้เราใช้เวลาอยู่ในสวนเล็กๆนี้ เนิ่นนานไปโดยไม่สนใจสิ่งรอบด้าน
สนุกสนาน
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แสงหาย จนไม่สามารถถ่ายรูปได้แล้ว เลยจะเดินกลับออกไป แต่พบว่า
ประตูโดนล๊อค!
ความรู้สึกเริ่มกลับสู่ความเป็นจริง เลยทำให้เห็นว่าในสวนนั้นมืดไม่มีไฟเลย แสงที่พอเห็นได้บ้างก็มาจากไฟริมถนนหลักกับไฟบ้านคนในซอยแถวนั้น เลยเริ่มหาประตูอื่น ที่ยังไม่ได้ล็อค เดินหารอบเลย ก็ไม่มี..ฮ่าาาา แย่แล้วทำไงดี จริงๆรั้วเหล็กข้างๆประตูก็พอมีช่องว่างอยู่นะ ถ้าเป็นเด็กคงพอแทรกตัวออกไปได้ แต่เหมือนเราจะอ้วนไป -..-
ตอนยังสว่างอยู่
อ้อ ลืมเล่า คู่เราไม่ได้โดนขังแบบไม่ได้ตั้งใจแค่ 2 คนนะ ยังมีน้องที่มาถ่ายชุดครุยส์รับปริญญาอีก 3-4 คน ฮ่าๆ (ดี มีเพื่อน อย่างน้อยก็ไม่เหงา) น้องบอกว่า จะโทรหาเขตให้ช่วยมาเปิดประตูให้ ได้ฟังดังนั้น ก็สบายใจแล้วววว ระหว่างนั่งรอ สายตาก็เหลือบไปเห็นชิงช้าทางฝั่งถนนใหญ่ ตอนกลางวันก็เดินผ่านอยู่ รู้สึกว่าธรรมด๊าธรรมดามาก แต่พอตอนนี้(หมายถึงตอนนั้น) ด้วยแสงไฟริมรั้วสีส้ม สะท้อนพื้นทราย มีใบไม้เรืองแสงจากไฟถนน และ แสงจากบ้านเรือนฝั่งตรงข้าม มันช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตามากกกกก
รออะไรล่ะ วิ่งเลยยย
มีทริคอยู่นิดนึง คือ ในที่ที่แสงน้อยมากๆ(ตกลงจะน้อยหรือมาก) เอาเป็นว่า ในที่ที่มืดๆอ่ะ กล้องก็จะเห็นว่ามืดเหมือนกัน ทำให้เมื่อเรากดปุ่มถ่ายภาพ กล้องจะเปิดหน้ากล้องนานกว่าปรกติ เพื่อเก็บแสงให้นานขึ้น ถึงจะได้ภาพที่สว่างพอดี งงมั๊ยเนี่ย
เอาใหม่นะ ลองนึกภาพตามดังนี้ เปรียบกล้องเป็นแก้วน้ำ เปรียบแสงสว่างเป็นน้ำในก๊อก ถ้าคุณถือแก้วรองน้ำไว้ แล้วเปิดก๊อกให้แรงสุด แป๊บเดียวก็เต็มแก้ว อันนี้คือแบบแสงปรกติ จบ... แต่ถ้าคุณเปิดน้ำค่อยๆไหล เหมือนแสงน้อยๆ คุณต้องต้องถือแก้วรองไว้นานมาก กว่าจะเต็มแก้ว ok มะ เห็นภาพยัง
กล้องก็เหมือนกัน พอแสงน้อย คุณก็ต้องถือกล้องให้นานขึ้น ก็จะเกิดปัญหาภาพสั่น ภาพเบลอ เพราะมือไม่นิ่งพอ บางครั้งอาจจะทำให้ภาพเละดูไม่รู้เรื่องเลย ปัญหานี้แก้เบื้องต้นได้ด้วยการปรับ iso ในกล้อง
ถ้าอธิบายว่า iso คืออะไรแบบสั้นๆ ให้แบบเราๆท่านๆเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก ก็คือ ค่าความไวแสงของกล้องนั่นแหละ ยิ่งปรับ iso ค่าสูงๆ ภาพที่ได้ก็จะสว่างขึ้น พอสว่างขึ้น เราก็ไม่ต้องถือกล้องนาน พอไม่ถือกล้องนาน ภาพก็จะสั่นน้อยลง แต่ข้อดีก็มีข้อเสียแหละ ยิ่งปรับ iso สูงขึ้นมากๆ ภาพก็จะแตก ไม่ละเอียด ไม่คม สีไม่สด โดยรวมว่าไม่สวยนั่นแหละ ก็ต้องแลกเอา
ทีนี้ มันมีอีกวิธีนึง ที่เราจะใช้ตอนนี้ นั่นคือ เพื่อป้องกันกล้องสั่นจากการถือกล้องนาน เราก็เลือกไม่ต้องถือกล้องแทน กวนดีมั๊ย แต่จริงๆมันแบบนี้แหละ คือใช้วิธีตั้งกล้องวางบนพื้นเอาเลย จบปิ้ง (ถ้าเป็นคนรักษากล้องมาก ก็เอาผ้ารอง หรือกระเป๋ากล้องนี่แหละรองอีกชั้นนึงได้) คราวนี้จะเปิดหน้ากล้องเป็นชั่วโมง(เว่อร์ไป) ก็ไม่มีทางสั่นแน่นอน และพื้นที่เราวางกล้อง เป็นพื้นทรายพอดี นั่นคือ เราสามารถเอาทรายมาหนุนกล้องหรือกระเป๋า กำหนดจุดได้เลย ว่าจะให้กล้องแหงนแค่ไหน เยี่ยม !
ทีนี้ วางกล้องแล้วปรับแสงได้ตามชอบได้เลย ปรับแสงได้ถูกใจแล้ว ก็วิ่งเข้าฉากเล้ยยย
แต่เดี๋ยวก่อน !
ยังไม่หมดจ้า จังหวะที่กดปุ่มชัตเตอร์น่ะ มือเราก็ต้องโดนกล้อง ทำให้กล้องขยับอยู่ดี ต้องลองแล้วจะนึกภาพออก ทางแก้คือ เราต้องทำการตั้งเวลาถ่ายภาพไว้เล็กน้อยด้วย ซัก 3 วินาที จะทำให้ตอนเรากดปุ่ม กล้องจะยังไม่ทำการเปิดหน้ากล้องเพื่อถ่ายรูป ดังนั้น ถึงกล้องขยับตอนนั้น ก็จะไม่มีผลต่อภาพ เพราะกล้องจะเปิดหน้ากล้องถ่ายเก็บภาพจริง หลังจากที่เรากดปุ่มไป 3 วินาที จังหวะนั้นกล้องก็นิ่งสนิท
ชักจะเยอะเนอะ แต่ลองทำความเข้าใจดีๆ มันนิดดดดเดียวเอง อีกนิดนึงนะ ฮ่า อย่าทำหน้างี้ดิ่ อย่าพึ่งท้อๆ คืองี้ ดูรูปเลยละกัน ง่ายดี เราจะถ่ายรูปคู่ที่ชิงช้า โดยมีดวงไฟอยู่ด้านหลัง (สามโน๊ตแรก เราถ่ายรูปกันโดยอาศัยแต่แสงจากมุมของดวงอาทิตย์เป็นหลัก) ก็ให้มองหลอดไฟ เป็นแบบเดียวกับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันได้เลย เพื่ออะไรๆที่ง่ายขึ้น ทีนี้หลักการถ่ายภาพย้อนแสงแบบนี้ ต้องเลี่ยงที่จะเล็งกล้องไปที่แสงโดยตรง เพื่อไม่ให้แสงฟุ้ง(ภาพไม่คมนั่นแหละ แต่บางคนชอบนะ มันดูนวลดี) และจะติดแฟร์เข้ามาในกล้อง(เป็นแสงจุดๆที่แทรกเข้ามาในภาพ ต้องลองเล็งย้อนแสงดู แล้วจะเห็น)
ลืมใส่เรื่องตั้งเวลาไปในรูป -..-
กรณีเราเนี่ย เลี่ยงไฟไม่ได้ เพราะกล้องจำเป็นต้องตั้งกับพื้น ทำให้มุมแหงนไปโดนแสงเต็มๆ จึงแก้ปัญหาโดย เล็งกล้อง ให้ใบไม้บังหลอดไฟพอดี ทำให้หลอดไฟไม่เข้ามาในกล้องเต็มๆ ลดแสงแฟร์ได้เยอะเลย
การถ่ายภาพย้อนแสงแบบนี้ เด็ดตรงที่ว่า มีเงาที่พื้น ที่เกิดจากเราไปยืนบังไฟด้วย มีลวดลายเพิ่มเติม น่าสนใจดีนะ อ่ะจบ ทีนี้ ก็แล้วแต่การแอ็คท่าของแต่ละคู่แล้ว อีกนิดนึง เนื่องจากกล่าวไปแล้วว่า สถานที่มืดมาก กล้องจึงเปิดหน้ากล้องนาน
ดังนั้น คู่คุณเนี่ย ต้องยืนแอ๊คนิ่งๆซักนิดนึง ห้ามขยับจนกว่ากล้องจะปิด(ปรกติก็ไม่ได้นานหรอก แค่หลักวินาที) เพราะถ้าคุณขยับ ภาพก็จะสั่น เช่นเดียวกับการใช้มือยกกล้องถ่ายรูปเช่นเดียวกัน และแอ็คให้พอดีกับผู้ช่วยที่คอยกดปุ่มให้นะ นับจังหวะให้ทัน 3 วิด้วยล่ะ ขอให้สนุกเน้ออออ...
ความรู้ในโลก ไม่มีจบสิ้น... ถ้าคิดว่ามีประโยชน์ ก็ shared กันให้เพื่อนรู้ด้วยดิ่
รออะไรล่ะ ไปถ่ายรูปกัน…
ได้รูปที่โดนใจ แล้วเอามาอวดกันด้วยล่ะ รอดูอยู่
ถ่ายรูปเล่นๆ ให้เหมือนเป็นพรีเวดดิ้ง ภาค 4 สวนเฉลิมหล้า (ภาคกลางคืน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตามไปกันเลยค่า..
มาต่อภาคสองกัน อยากจะย้ำอีกครั้งนึงว่า สวนเฉลิมหล้านี้ เป็นสถานที่ที่โดนใจวัยรุ่นอย่างเราๆมากเลย ทำให้เราใช้เวลาอยู่ในสวนเล็กๆนี้ เนิ่นนานไปโดยไม่สนใจสิ่งรอบด้าน
มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แสงหาย จนไม่สามารถถ่ายรูปได้แล้ว เลยจะเดินกลับออกไป แต่พบว่า ประตูโดนล๊อค!
ความรู้สึกเริ่มกลับสู่ความเป็นจริง เลยทำให้เห็นว่าในสวนนั้นมืดไม่มีไฟเลย แสงที่พอเห็นได้บ้างก็มาจากไฟริมถนนหลักกับไฟบ้านคนในซอยแถวนั้น เลยเริ่มหาประตูอื่น ที่ยังไม่ได้ล็อค เดินหารอบเลย ก็ไม่มี..ฮ่าาาา แย่แล้วทำไงดี จริงๆรั้วเหล็กข้างๆประตูก็พอมีช่องว่างอยู่นะ ถ้าเป็นเด็กคงพอแทรกตัวออกไปได้ แต่เหมือนเราจะอ้วนไป -..-
อ้อ ลืมเล่า คู่เราไม่ได้โดนขังแบบไม่ได้ตั้งใจแค่ 2 คนนะ ยังมีน้องที่มาถ่ายชุดครุยส์รับปริญญาอีก 3-4 คน ฮ่าๆ (ดี มีเพื่อน อย่างน้อยก็ไม่เหงา) น้องบอกว่า จะโทรหาเขตให้ช่วยมาเปิดประตูให้ ได้ฟังดังนั้น ก็สบายใจแล้วววว ระหว่างนั่งรอ สายตาก็เหลือบไปเห็นชิงช้าทางฝั่งถนนใหญ่ ตอนกลางวันก็เดินผ่านอยู่ รู้สึกว่าธรรมด๊าธรรมดามาก แต่พอตอนนี้(หมายถึงตอนนั้น) ด้วยแสงไฟริมรั้วสีส้ม สะท้อนพื้นทราย มีใบไม้เรืองแสงจากไฟถนน และ แสงจากบ้านเรือนฝั่งตรงข้าม มันช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตามากกกกก
มีทริคอยู่นิดนึง คือ ในที่ที่แสงน้อยมากๆ(ตกลงจะน้อยหรือมาก) เอาเป็นว่า ในที่ที่มืดๆอ่ะ กล้องก็จะเห็นว่ามืดเหมือนกัน ทำให้เมื่อเรากดปุ่มถ่ายภาพ กล้องจะเปิดหน้ากล้องนานกว่าปรกติ เพื่อเก็บแสงให้นานขึ้น ถึงจะได้ภาพที่สว่างพอดี งงมั๊ยเนี่ย
เอาใหม่นะ ลองนึกภาพตามดังนี้ เปรียบกล้องเป็นแก้วน้ำ เปรียบแสงสว่างเป็นน้ำในก๊อก ถ้าคุณถือแก้วรองน้ำไว้ แล้วเปิดก๊อกให้แรงสุด แป๊บเดียวก็เต็มแก้ว อันนี้คือแบบแสงปรกติ จบ... แต่ถ้าคุณเปิดน้ำค่อยๆไหล เหมือนแสงน้อยๆ คุณต้องต้องถือแก้วรองไว้นานมาก กว่าจะเต็มแก้ว ok มะ เห็นภาพยัง
กล้องก็เหมือนกัน พอแสงน้อย คุณก็ต้องถือกล้องให้นานขึ้น ก็จะเกิดปัญหาภาพสั่น ภาพเบลอ เพราะมือไม่นิ่งพอ บางครั้งอาจจะทำให้ภาพเละดูไม่รู้เรื่องเลย ปัญหานี้แก้เบื้องต้นได้ด้วยการปรับ iso ในกล้อง
ถ้าอธิบายว่า iso คืออะไรแบบสั้นๆ ให้แบบเราๆท่านๆเข้าใจง่ายไม่ยุ่งยาก ก็คือ ค่าความไวแสงของกล้องนั่นแหละ ยิ่งปรับ iso ค่าสูงๆ ภาพที่ได้ก็จะสว่างขึ้น พอสว่างขึ้น เราก็ไม่ต้องถือกล้องนาน พอไม่ถือกล้องนาน ภาพก็จะสั่นน้อยลง แต่ข้อดีก็มีข้อเสียแหละ ยิ่งปรับ iso สูงขึ้นมากๆ ภาพก็จะแตก ไม่ละเอียด ไม่คม สีไม่สด โดยรวมว่าไม่สวยนั่นแหละ ก็ต้องแลกเอา
ทีนี้ มันมีอีกวิธีนึง ที่เราจะใช้ตอนนี้ นั่นคือ เพื่อป้องกันกล้องสั่นจากการถือกล้องนาน เราก็เลือกไม่ต้องถือกล้องแทน กวนดีมั๊ย แต่จริงๆมันแบบนี้แหละ คือใช้วิธีตั้งกล้องวางบนพื้นเอาเลย จบปิ้ง (ถ้าเป็นคนรักษากล้องมาก ก็เอาผ้ารอง หรือกระเป๋ากล้องนี่แหละรองอีกชั้นนึงได้) คราวนี้จะเปิดหน้ากล้องเป็นชั่วโมง(เว่อร์ไป) ก็ไม่มีทางสั่นแน่นอน และพื้นที่เราวางกล้อง เป็นพื้นทรายพอดี นั่นคือ เราสามารถเอาทรายมาหนุนกล้องหรือกระเป๋า กำหนดจุดได้เลย ว่าจะให้กล้องแหงนแค่ไหน เยี่ยม !
ทีนี้ วางกล้องแล้วปรับแสงได้ตามชอบได้เลย ปรับแสงได้ถูกใจแล้ว ก็วิ่งเข้าฉากเล้ยยย
ยังไม่หมดจ้า จังหวะที่กดปุ่มชัตเตอร์น่ะ มือเราก็ต้องโดนกล้อง ทำให้กล้องขยับอยู่ดี ต้องลองแล้วจะนึกภาพออก ทางแก้คือ เราต้องทำการตั้งเวลาถ่ายภาพไว้เล็กน้อยด้วย ซัก 3 วินาที จะทำให้ตอนเรากดปุ่ม กล้องจะยังไม่ทำการเปิดหน้ากล้องเพื่อถ่ายรูป ดังนั้น ถึงกล้องขยับตอนนั้น ก็จะไม่มีผลต่อภาพ เพราะกล้องจะเปิดหน้ากล้องถ่ายเก็บภาพจริง หลังจากที่เรากดปุ่มไป 3 วินาที จังหวะนั้นกล้องก็นิ่งสนิท
ชักจะเยอะเนอะ แต่ลองทำความเข้าใจดีๆ มันนิดดดดเดียวเอง อีกนิดนึงนะ ฮ่า อย่าทำหน้างี้ดิ่ อย่าพึ่งท้อๆ คืองี้ ดูรูปเลยละกัน ง่ายดี เราจะถ่ายรูปคู่ที่ชิงช้า โดยมีดวงไฟอยู่ด้านหลัง (สามโน๊ตแรก เราถ่ายรูปกันโดยอาศัยแต่แสงจากมุมของดวงอาทิตย์เป็นหลัก) ก็ให้มองหลอดไฟ เป็นแบบเดียวกับแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันได้เลย เพื่ออะไรๆที่ง่ายขึ้น ทีนี้หลักการถ่ายภาพย้อนแสงแบบนี้ ต้องเลี่ยงที่จะเล็งกล้องไปที่แสงโดยตรง เพื่อไม่ให้แสงฟุ้ง(ภาพไม่คมนั่นแหละ แต่บางคนชอบนะ มันดูนวลดี) และจะติดแฟร์เข้ามาในกล้อง(เป็นแสงจุดๆที่แทรกเข้ามาในภาพ ต้องลองเล็งย้อนแสงดู แล้วจะเห็น)
กรณีเราเนี่ย เลี่ยงไฟไม่ได้ เพราะกล้องจำเป็นต้องตั้งกับพื้น ทำให้มุมแหงนไปโดนแสงเต็มๆ จึงแก้ปัญหาโดย เล็งกล้อง ให้ใบไม้บังหลอดไฟพอดี ทำให้หลอดไฟไม่เข้ามาในกล้องเต็มๆ ลดแสงแฟร์ได้เยอะเลย การถ่ายภาพย้อนแสงแบบนี้ เด็ดตรงที่ว่า มีเงาที่พื้น ที่เกิดจากเราไปยืนบังไฟด้วย มีลวดลายเพิ่มเติม น่าสนใจดีนะ อ่ะจบ ทีนี้ ก็แล้วแต่การแอ็คท่าของแต่ละคู่แล้ว อีกนิดนึง เนื่องจากกล่าวไปแล้วว่า สถานที่มืดมาก กล้องจึงเปิดหน้ากล้องนาน
ดังนั้น คู่คุณเนี่ย ต้องยืนแอ๊คนิ่งๆซักนิดนึง ห้ามขยับจนกว่ากล้องจะปิด(ปรกติก็ไม่ได้นานหรอก แค่หลักวินาที) เพราะถ้าคุณขยับ ภาพก็จะสั่น เช่นเดียวกับการใช้มือยกกล้องถ่ายรูปเช่นเดียวกัน และแอ็คให้พอดีกับผู้ช่วยที่คอยกดปุ่มให้นะ นับจังหวะให้ทัน 3 วิด้วยล่ะ ขอให้สนุกเน้ออออ...
รออะไรล่ะ ไปถ่ายรูปกัน…
ได้รูปที่โดนใจ แล้วเอามาอวดกันด้วยล่ะ รอดูอยู่