น.ต. อลงกต พูลสุข ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติการของสายการบินให้เกิดความปลอดภัย เปิดเผยว่า กฎหมาย กพท. ครอบคลุมและสามารถเอาผิดได้เฉพาะกรณีข่มขู่คุกคามด้านความปลอดภัยด้านการบินที่เกิดจากทางวาจาหรือพฤติกรรมที่แสงดงออกเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวเป็นการคุกคามที่เกิดขึ้นจากสื่อโซเชียลมีเดีย กฎหมายยังครอบคุลมไม่ถึง รวมทั้งขณะนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อความดังกล่าว ส่วนเรื่องจริยธรรมของตัวนักบินนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละสายการบินจะต้องไปสอบสวนเอาผิดและลงโทษกันเอง กพท.มีหน้าที่ตรวจสอบและออกใบอนุญาตนักบินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กพท.มีอำนาจในการว่ากล่าวตักเตือนไปยังสายการบินได้
"ผมโทรศัพท์ไปสอบถามฝ่ายดูแลนักบินของนกแอร์แล้ว ขอให้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับมาภายใน 3-4 วัน รวมทั้งได้ส่งหนังสือไปยังสายการบินทุกสายการบิน ให้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการแสดงทัศนคติและความเห็นของนักบินผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการบิน รวมทั้งให้เน้นย้ำเรื่องวินัยการบินด้วยว่าห้ามนำความเห็นส่วนตัวมาใช้ระหว่างทำการบิน" น.ต.อลงกตระบุ
ยังไม่ผิดร้ายแรงถึงขั้นทำแตกตื่น
น.ต. อลงกตกล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้รับทราบว่านักบินคนดังกล่าวเป็นนักบินใหม่ที่ยังมีอายุน้อย ซึ่งความเป็นนักบินกว่าจะปลูกฝังให้เป็นมืออาชีพได้ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างนาน 5-7ปี ทั้งนี้ยอมรับ ว่าการเริ่มต้นเป็นนักบินก็อาจทำถูกบ้างผิดบ้าง แต่ทั้งหมดก็ต้องดูที่เจตนารมณ์ว่าทำไปเพื่ออะไร
"เรื่องนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 เพราะเป็นการโพสต์ข้อความพูกคุยกันภายใน ไม่ได้มีการประกาศออกสู่สาธารณชนให้รับทราบ จึงไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารหรือประชาชนทั่วไปเกิดอาการแตกตื่นจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางด้านการบิน ซึ่งแตกต่างกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับหลายๆสายการบิน คือกรณีที่ผู้โดยสารบนเครื่องได้พูดล้อเล่นด้วยการประกาศบนเครื่องบินว่ามีระเบิดบนเครื่อง เพราะกรณีหลังนั้น คำพูดที่ประกาศออกมาได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนบนเครื่องบิน ซึ่งตามกฎหมายถือว่ามีความผิดมีบทลงโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" น.ต.อลงกตกล่าว
นกแอร์สั่งพักงานมือโพสต์ 2 สัปดาห์
ร.ท. นรหัส พลอยใหญ่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายการบินนกแอร์กล่าวถึงการสอบสวนนักบินผู้ช่วยของสายการบินนกแอร์ ที่โพสต์ข้อความผ่านไลน์ในกลุ่มของนักบินที่จบการศึกษาด้านการบินในรุ่นเดียวกันว่า จากการสอบสวนพบว่านักบินผู้ช่วยคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นการโพสต์ข้อความพูดคุยกันในกลุ่มไลน์กับเพื่อนนักบินด้วยความคึกคะนอง แต่มีการใช้คำไม่สุภาพคือคำว่าเหยื่อ ซึ่งปกติจะต้องใช้คำว่า VVIP ขณะนี้ได้สั่งพักการบิน 1-2 สัปดาห์"
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 มิ.ย.
http://www.thairath.co.th/newspaper
ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยยัน ผช.นักบินยังไม่ผิดร้ายแรงถึงขั้นทำแตกตื่น
"ผมโทรศัพท์ไปสอบถามฝ่ายดูแลนักบินของนกแอร์แล้ว ขอให้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับมาภายใน 3-4 วัน รวมทั้งได้ส่งหนังสือไปยังสายการบินทุกสายการบิน ให้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลการแสดงทัศนคติและความเห็นของนักบินผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยด้านการบิน รวมทั้งให้เน้นย้ำเรื่องวินัยการบินด้วยว่าห้ามนำความเห็นส่วนตัวมาใช้ระหว่างทำการบิน" น.ต.อลงกตระบุ
ยังไม่ผิดร้ายแรงถึงขั้นทำแตกตื่น
น.ต. อลงกตกล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้รับทราบว่านักบินคนดังกล่าวเป็นนักบินใหม่ที่ยังมีอายุน้อย ซึ่งความเป็นนักบินกว่าจะปลูกฝังให้เป็นมืออาชีพได้ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างนาน 5-7ปี ทั้งนี้ยอมรับ ว่าการเริ่มต้นเป็นนักบินก็อาจทำถูกบ้างผิดบ้าง แต่ทั้งหมดก็ต้องดูที่เจตนารมณ์ว่าทำไปเพื่ออะไร
"เรื่องนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 เพราะเป็นการโพสต์ข้อความพูกคุยกันภายใน ไม่ได้มีการประกาศออกสู่สาธารณชนให้รับทราบ จึงไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารหรือประชาชนทั่วไปเกิดอาการแตกตื่นจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยทางด้านการบิน ซึ่งแตกต่างกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับหลายๆสายการบิน คือกรณีที่ผู้โดยสารบนเครื่องได้พูดล้อเล่นด้วยการประกาศบนเครื่องบินว่ามีระเบิดบนเครื่อง เพราะกรณีหลังนั้น คำพูดที่ประกาศออกมาได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นแล้ว เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนบนเครื่องบิน ซึ่งตามกฎหมายถือว่ามีความผิดมีบทลงโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" น.ต.อลงกตกล่าว
นกแอร์สั่งพักงานมือโพสต์ 2 สัปดาห์
ร.ท. นรหัส พลอยใหญ่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายการบินนกแอร์กล่าวถึงการสอบสวนนักบินผู้ช่วยของสายการบินนกแอร์ ที่โพสต์ข้อความผ่านไลน์ในกลุ่มของนักบินที่จบการศึกษาด้านการบินในรุ่นเดียวกันว่า จากการสอบสวนพบว่านักบินผู้ช่วยคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นการโพสต์ข้อความพูดคุยกันในกลุ่มไลน์กับเพื่อนนักบินด้วยความคึกคะนอง แต่มีการใช้คำไม่สุภาพคือคำว่าเหยื่อ ซึ่งปกติจะต้องใช้คำว่า VVIP ขณะนี้ได้สั่งพักการบิน 1-2 สัปดาห์"
ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 มิ.ย. http://www.thairath.co.th/newspaper