เชลซียุคคอนเต้คุมทีม

ตั้งใจถ่างตารอดูแทคติคคอนเต้คุมทีมชาติเต็มที่ ต้องบอกเลยไม่ผิดหวังครับ  สิ่งหนึ่งที่ยอมรับเลยว่าคอนเต้แกเก่งแทคติคจริงๆ  สามารถยันพลังหนุ่มของนักเตะเบลเยี่ยมไว้ได้  บุกสวนกลับแต่ละทีมีลุ้นตลอด   จริงอยู่ครับว่าอิตาลียุคนี้เรียกได้ว่าถ่ายเลือดทั้งตำแหน่งกองกลางและกองหน้า อีกทั้งทรัพยกรมีจำกัดเพราะทั้งเจ็บ ทั้งถอนตัวทีมชาติ และมีนักเตะหน้าใหม่ๆ จึงทำให้เกมก่อนแข่งหลายคนมองว่าเป็นรองเบลเยี่ยมที่สตาร์เต็มทีม  แต่วันนี้ที่ชนะผมยกความเก๋าเกมของคอนเต้ที่มีนักเตะหมุนเวียนแทบจำกัด  แต่สามารถสร้างสรรค์ปิดจุดอ่อนของตัวเองโดยอาศัยการใช้เกมรับปิดจุดอ่อนในเกมรุก(ที่ยังกระท่อนกระแท่นไม่เข้าที่)  อีกทั้งยังสร้างจิตวิทยากระตุ้นลูกทีมตลอดครบ90นาที  

ส่วนการเข้ามาทำทีมของคอนเต้กับเชลซี  คิดว่าคงไม่มีอะไรปรับไปมากนัก แต่จะเน้นนักเตะที่มีอยู่ให้เล่นตามระบบแทคติคของแก คือรับแน่น สวนกลับคมๆ
ซึ่งเชลซีความเหมาะสมและถนัดกับแผนการเล่นนี้อยู่แล้ว   อีกทั้งชื่อชั้นนักเตะของเชลซีส่วนมากก็จัดอยู่ในเรตระดับที่ดีกว่าอีกหลายๆทีม  ส่วนการซื้อขายคงจะหานักเตะที่พอจะหมุนเวียนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยืดหยุ่น

เอาหล่ะครับมาดูขุมกำลังของเชลซีกับแทคติคคอนเต้กัน
กองหลัง
          หากมองกองหลังเชลซีคอนเต้คงจะปรับทัพพอสมควร  โดยที่จะใส่ความเขี้ยวที่เป็นจุดเด่นของคอนเต้ในการเล่นเกมรับให้รัดกุมมากขึ้น  ผสมผสานใช้ขุมกำลังเก๋า+สด   นักเตะที่คอนเต้เก็บไว้ใช้งานก็คือ  ซูม่าซึ่งเด่นในเรื่องเกมรับ พละกำลัง   อัสปิกวยต้าจะถูกเล่นเป็นตำแหน่งเหมือนเดิม ผสมผสานตัวเก๋าอย่างเคฮิลล์หรืออิวาโนวิชในร่างเวอร์ชั่นอิตาเลี่ยน  หรืออาจจะมีการซื้อเซนเตอร์หรือแบ็คอีกซักคนเพียงเท่านั้น

กองกลาง  
           กองกลางรุกของเชลซีมีเลือกให้เลือกสรรค์ใช้งานอย่างครบครันและตอบโจทย์เกมโต้กลับของคอนเต้แน่นอน   เช่นอาซาร์ ที่สามารถทะลุทะลวงเกมรับของฝ่ายตรงข้ามทั้งริมเส้นหรือตัดเข้ากลางได้ดี (คิดว่าคอนเต้เก็บไว้ใช้งานแน่นอนครับ)  และเปรโด  วิลเลี่ยนจะเป็นอีกหนึ่งที่คอนเต้  เลือกจะใช้งานในการจู่โจมฝั่งริมเส้น  ส่วนเชส ฟาเบกัส ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกเหมือนเดิม  หากดูอิตาลีวันนี้แล้วจะพบว่าจะมีบางช่วงที่อิตาลีอาศัยบอลยาวที่แม่นในการโจมตี  ซึ่งเชส  ฟาเบกัส เป็นนักเตะคนเดียวที่มีสกิลการผ่านบอลสั้นและยาวดีที่สุดในทีม  จึงเป็นไปได้มากที่คอนเต้เลือกจะใช้เชสเป็นขุนพลหลักในฤดูกาลหน้าพร้อมกับอาซาร์    สิ่งหนึ่งที่เชลซีรู้จุดอ่อนของตัวเองคือเรื่องกลางรับ ที่สกรีนบอลได้ช้าและไม่แน่นอน  ทำให้เกมรุกฝ่ายตรงข้ามทะลวงมาที่หลังได้อย่างรวดเร็ว ( จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เชลซีเสียประตูมากมายในฤดูกาลก่อนมาจากขาดนักเตะกลางรับนี่แหละ)  เพราะฉะนั้นข่าวเชลซีต้องการซื้อกลางรับตลอดมาอย่าง เนียงโกลัน หรือ กองเต้  ก็คงสร้างความพอใจและะเอาใจในระดับหนึ่งให้กับโค้ชใหม่อย่างคอนเต้  (ไม่แน่ อาจจะเป็นคอนเต้สั่งตรงก็ได้ครับ )  

กองหน้า

           กองหน้าคงเป็นสไตล์เก็บบอลและสร้างสรรค์กับเพื่อนร่วมทีมได้  แต่น่าคิดอย่างหนึ่งว่ากองหน้าเบอร์หนึ่งของเชลซีฤดูกาลหน้าจะเป็นใคร เพราะดูแล้วไม่แน่ไม่นอน คอสต้าก็มีข่าวจะย้ายกลับ  และก็มีข่าวจะซื้อกองหน้าเพิ่มในกรณีเสียคอสต้าไป เช่น  อิกวาอิน  โมราต้า  กรีซมัน  เป็นต้น เพราะฉะนั้นต้องจับตาหลังยูโรเสร็จสิ้น

สิ่งที่ต้องระวังสำหรับคอนเต้ คือเกมพรีเมียร์ที่ต้องใช้พละในการปะทะสูงและเกมที่เร็วมาก (ผมว่าแกคงรู้อยู่แล้วหล่ะ) และเรื่องของความคาดหวังหรือการเข้มงวดที่มากเกินไป จนทำให้เกิดภาวะกดดันของตัวนักเตะเอง อันนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างนักเตะกับโค้ช (นักเตะเชลซีอารมณ์อ่อนไหว และมีอำนาจแฝง)

สรุป  
       ทรัพยากรของเชลซีดีอยู่แล้วหล่ะครับ แต่คอนเต้จะปรับทัพไม่กี่ตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อน และใช้แทคติครูปแบบของตัวเองที่เด่นใส่ไปในเกมและผู้เล่น คือรับแน่นหนา สวนกลับเร็วและคม  สร้างสรรค์โอกาสเพื่อจังหวะจบสกอร์   ตามฉบับหลักของ"คาเตนัคโช" อิตาเลี่ยนแท้ๆ  ต้องมารอดูหลังจบยูโรหล่ะครับว่าตำแหน่งผู้เล่นจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ปล1. รถบัสมีแน่นอนครับ แต่ไม่ใช่รถบัสที่รับมั่วๆ ส่งมั่วๆ  แต่เป็นรถบัสแบบมีระบบแบบแผน  ตามสไตล์คาเตนัคโช ตีหัวเข้าบ้าน
ปล2.  ฝ่ายตรงข้ามคงมีเหนื่อยและต้องพยายามหน่อยนะครับในการยิงประตู  -   -"
ปล3.  เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับในการวิเคราะห์ โดยอ้างอิงที่ดูจากการศึกษาแผนการเล่นของคอนเต้ในนัด อิตาลี-เบลเยี่ยม  ท่านอื่นจะเสริมแลกเปลี่ยนความรู้กันก็ได้นะครับ    ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ  ^____^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่