ปัญหาเรื่องของสินสอด (อีกแล้ว...?)

สวัสดีค่ะ ปกติเราจะไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้เท่าไหร่ จะเน้นอ่าน ๆ ส่อง ๆ อย่างเดียว จะเห็นกระทู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหาของค่าสินสอดเยอะมากกกกกกกกกกกทุก ๆ ปี ไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาตั้งกระทู้แนวนี้ด้วยตัวเองเหมือนกัน ไอดีนี้ขอยืมเพื่อนมานะคะ...

เรากำลังจะแต่งงานค่ะ แฟนเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่คบกันมาหลายปีแล้ว
ผู้ใหญ่ทางบ้านเราและบ้านแฟนก็รู้จักกันและไม่ได้ขัดข้องอะไรกับการแต่งงาน
งานแต่งงานคิดว่าจะแต่งที่บ้านฝ่ายชายที่เมืองจีน ทีนี้ก็มาถึงเรื่องสินสอดเจ้าปัญหา...

ทางบ้านแฟนเราเขาบอกว่าทางประเพณีจีนแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันนี้
การแต่งงานคือทางฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะร่วมด้วยช่วยกันจัดงาน
เช่น ผู้ชายอาจจะยกสินสอดมาให้บ้านฝ่ายหญิง ทางฝ่ายหญิงก็จะต้อง
มีสินทรัพย์อย่างเช่นบ้าน หรือรถ หรือที่ดินในราคาที่พอ ๆ กับค่าสินสอด
หรือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันมาสู้เช่นกัน

ในกรณีที่ไม่มีสินทรัพย์ก็จะใช้เป็นการโปะเงินค่าสินสอดแทนถ้าหาก
ฝ่ายหญิงมีการเรียกสินสอด เช่น ฝ่ายหญิงเรียกสินสอด 1 แสน ทาง
ฝ่ายชายก็จะมอบสินสอดให้ 1 แสนโดยฝ่ายหญิงจะต้องมีการโปะ
ค่าสินสอดให้กลับมาเป็นเงินอีกหนึ่งเท่า ก็เท่ากับ 2 แสนแบบนี้เพื่อ
ไม่ให้เป็นการเสียหน้ากันทั้ง 2 ฝ่าย ประมาณว่าทางฝ่ายชายมีเงินพอ
ที่จะเลี้ยงดูฝ่ายหญิงได้ สามารถให้ได้ตามที่ฝ่ายหญิงขอมา แต่ทาง
ฝ่ายหญิงเองก็ไม่ได้มาตัวเปล่า ทางบ้านก็มีทรัพย์สินเงินทองไม่ได้
ยากไร้เช่นกัน เรียกได้ว่ามาอยู่กันด้วยความเท่าเทียมไม่มีใครได้ใครเสีย

ซึ่งค่าสินสอดหรือสินทรัพย์ทั้งหมดในงานแต่งงานที่ได้มานี้
จะตกเป็นของคู่บ่าวสาวเพื่อใช้ทำทุนหรือตั้งตัวชีวิตคู่ต่อไป ไม่ได้
ตกอยู่กับทางพ่อแม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราฟังดูก็คิดว่ายุติธรรมดี
เพราะสมัยนี้แล้วเราก็แต่งงานไปใช่ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ไม่ได้แต่งเข้าบ้าน
เขาไปเป็นคนรับใช้ หรือสะใภ้ทาสเหมือนในหนังจีนสมัยก่อน

ทีนี้ทางบ้านเรา พ่อเราบอกว่าไม่โอเคกับประเพณีแบบนี้ ไม่เคยพบเคยเห็น
หรือได้ยินมาก่อนว่าจัดงานแต่งงานฝ่ายหญิงจะต้องเสียเงินอะไรด้วย
เป็นประเพณีแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า เพราะถามเพื่อนถามใครก็ไม่เคยรู้จัก
จะมีก็แต่ฝ่ายชายยกสินสอดมาจัดงานแต่งกัน ถ้าพ่อไม่อะไรก็ยกเงินค่าสินสอด
กลับคืนไปเป็นทุนให้คู่แต่งงานอะไรแบบนี้ ซึ่งพ่อก็ยืนยันว่าไม่ได้คิด
จะเอาเงินค่าสินสอดอะไรอยู่แล้ว

เราก็เลยบอกพ่อว่าถ้าพ่อไม่ได้เรียกค่าสินสอดอะไรก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ก็จะไม่มีการโปะอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น จะเป็นงานแต่งแบบที่ไม่ต้องมีสินสอด
ซึ่งเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว พ่อก็ขึ้นเครื่องบินไปร่วมงานแต่ง
อย่างเดียวได้เลย ไม่ต้องเสียค่าอะไรนอกจากค่าตั๋วเครื่องบิน เพราะ
ทางบ้านแฟนเราจะดูแลเรื่องที่อยู่ที่พักเอง แต่พ่อเรากลับฮึดฮัดโวยวายขึ้นมา
แบบไม่พอใจว่า อะไรกัน แต่งงานแบบไม่มีสินสอดงี้คนก็มีค่าเท่ากับหมาน่ะสิ
เขาต้องเสียเงินค่าตั๋วเดินทางไปงานแต่งเราเพื่ออะไร สินสอดก็ไม่มี
คือเราฟังแล้วเราก็อึ้งไปเลยว่าพ่อคิดกับเราแบบนี้เหรอ คือจะไปงานแต่ง
ลูกสาวยังต้องมาคิดแบบนี้ เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน แต่คิดว่าปัญหา
ไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องค่าตั๋ว เพราะทางบ้านเราเป็นไทยเชื้อสายจีน แต่พ่อรักลูกชายที่สุด
และมีกิจการแบบกงสี พ่อมีเงินพอที่จะจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินได้

พ่อเราบอกถ้าเรื่องมากขนาดนั้นก็มาแต่งที่เมืองไทยนี่เอาแบบประเพณีไทย
ผู้ชายยกสินสอดมา แต่งงานเสร็จแล้วก็เอาเงินกลับคืนไปเพราะเขาไม่คิด
จะเอาเงินค่าสินสอดอยู่แล้ว ไม่ได้เรียกแต่เอามาเท่าไหร่ก็เท่านั้น
ถ้าต้องไปแต่งที่โน่นค่าตั๋วเครื่องบินเขาก็ต้องออกเอง ต้องออกให้คนในบ้านอีก
พ่อเราพูดเหมือนทางบ้านแฟนเราผิดที่ไม่ออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ด้วย (?)
เราเลยถามพ่อว่าถ้าแต่งงานที่ไทยแล้วพ่อจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ทางญาติ
ของแฟนเรามางานแต่งด้วยมั้ยล่ะ พ่อเราก็ทำนิ่งเฉยไป บ่นอุบ ๆ ไม่พูดอะไร
ได้แต่พูดว่าต้องเสียเงินไปจ่ายค่าตั๋วตั้งเยอะ ยังมีหน้ามาบอกเรื่องแต่งงานให้
คนละครึ่งอีก ไม่เคยพบเคยเจอประเพณีบ้าบออะไร ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่อยากไปหรอก
เราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่เขาพูดออกมาแบบนี้ เหมือนไม่ไว้หน้ากันเลย
แต่เราก็พยายามใจเย็น บอกพ่อว่าถ้าไม่งั้นพ่อก็คิดว่าไปเที่ยวก็ได้

พ่อเราก็พูดเสียงแข็งว่าเขาเคยไปมาแล้วเมืองจีนน่ะ ไม่อยากไปอีกหรอก
เปลืองเงิน ถ้าจะไปเที่ยวก็ให้พี่ชายเราไปแทนละกัน เขาเคยไปมาแล้วนี่
แล้วก็มาโวยวายว่างั้นเขาก็ไม่ต้องไปหรอก อยากแต่งก็ไปแต่งกันเองละกัน
งานแต่งเราเขาจะไม่ไป มาถึงตรงนี้เราเสียความรู้สึกมากไม่คิดว่าพ่อจะพูด
อะไรแบบนี้ออกมาได้ เราก็เลยเงียบไป ดีที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
เราทำงานอยู่ที่จังหวัดอื่น กลับบ้านทุกเสาร์อาทิตย์ เราเลยกลับบ้านกับแฟนเลย
ไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว ขนาดพ่อเราเองยังพูดกับเราแบบนี้เลย
ความรู้สึกตอนนี้คืออายแฟนมากกกกกกกกกก เขาคงอึ้งที่บ้านเรา
เป็นแบบนี้ แถมเราเองก็ไม่เข้าใจว่าพ่อเราไม่พอใจเรื่องอะไร

อยากให้มีสินสอด ก็เรียกได้ พอเรียกแล้วต้องโปะ ตัวเองก็ไม่เอา
พอบอกงั้นก็ไม่ต้องโปะ ไม่ต้องมีสินสอดก็ได้ ก็ไม่พอใจพูดเหมือน
เราไม่มีคุณค่า ซึ่งเราก็ไม่ได้มองคุณค่าตัวเองเป็นตัวเงินสินสอดแบบนั้น...
พอเราถามแฟนว่าถ้าพ่อเราไม่ไปงานแต่งงานของเราจะเป็นไรมั้ย
แฟนเราเขาเงียบไป เขาบอกว่างั้นก็คงจัดงานแต่งไม่ได้ เพราะถ้า
ฝ่ายหญิงมีญาติทางบ้าน งานแต่งงานก็ต้องมา ถ้าไม่มาถือว่าไม่ให้
เกียรติกันมาก และพ่อของเขาคงไม่ยอม เพราะมีคนรู้จักมากหน้าหลายตา
ที่อยู่เมืองจีน ตั้งใจจะมางานแต่งงานลูกชายคนเดียว ตอนนี้เราเลย
ทั้งกลุ้มทั้งเครียดมากเลย แทบจะร้องไห้...

นานาเสียใจ

ใครพอจะทราบประเพณีการแต่งงานของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่ชัดเจนในปัจจุบันมั้ยคะ เราคิดว่าแฟนเราไม่น่าจะโกหก แต่ก็อยากฟังหลาย ๆ ความคิดเห็นและเรื่องที่พ่อเราไม่พอใจก็เหมือนกัน เราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ จะเอาสินสอดหรือไม่เอาสินสอด...

ป.ล.เสริมอีกนิดเราไม่ค่อยอยากจัดงานที่เมืองไทยเพราะพ่อเราบอกออกมาเลยว่าเรื่องการจัดงานเป็นเรื่องของคน 2 คน ก็ให้ฝ่ายชายกับลูกสาวไปจัดการกันเอง (อืม คงเป็นเพราะเราเป็นลูกสาว) แต่ถ้าจัดงานที่เมืองจีนทางพ่อแม่แฟนเราจะเป็นธุระดูแลจัดการทุกอย่างให้ โดยเรื่องค่าใช้จ่ายเราก็จะช่วยกับทางบ้านฝ่ายชายออกด้วย (แต่เหมือนบ้านเราจะไม่ค่อยอยากช่วยอะไรนะ) เรารู้สึกว่ามันดูอบอุ่นกว่ามากและญาติของเขาก็เยอะมาก เลยตัดสินใจแต่งงานที่เมืองจีนน่าจะสะดวกกว่าน่ะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่