[CR] ผู้หญิงคนเดียว นั่งรถไฟไปเที่ยว “ปีนัง- กัวลาลัมเปอร์- สิงคโปร์” กับ half marathon ครั้งแรกที่สิงคโปร์

คำเตือน ถ้าคุณไม่เคยได้ฉายาว่าถึก อย่าได้คิดจัดทริปอย่างนี้ก่อนไปวิ่งมาราธอน เพราะมันเหนื่อยมากกก(แต่ประสบการณ์เยอะมากเช่นกัน)

สวัสดีค่ะ เป็นครั้งที่สองแล้วกับการได้มีโอกาสแบกเป้ไปต่างประเทศคนเดียว ค่อนข้างจะทิ้งระยะห่างกันมากทีเดียว เพราะเนื่องด้วยเวลาไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ ครั้งแรกที่ลุยเดี่ยวเลย คือไป ค่ายอาสาที่เกาหลีใต้ เป็นทริปแรกที่ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ แม้กระทู้จะเก่าไปหน่อย แต่เป็นค่ายที่ไม่ค่อยมีข้อมูลในไทย เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เพราะตอนติดไปเองครั้งแรกก็แอบกลัวว่าค่ายมันจะมีจริงหรือเปล่า 555

ตามลิ้งนี้เลยครัช ^_^
http://ppantip.com/topic/33518182

มาเริ่มที่ต้นเรื่องของความเป็นมาของกระทู้นี้เลยแล้วกัน
หลังจากเรียนจบทำงานอย่างเดียวเริ่มรู้สึกว่าชีวิตเริ่มอับเฉา ต้องออกไปหาแรงบันดาลใจให้กับชีวิตซักที  


ภาพไม่สวยแต่รวยประสบการณ์(มั้ง 555)

Main หลักของทริปนี้คือ “ฉันอยากไปวิ่งมาราธอนที่ต่างประเทศดูซักครั้ง”  นี่คือความคิดที่เกิดขึ้น หลังจากเริ่มเป็นมือสมัครเล่นในวงการ วิ่งมาได้ 2 เดือนกว่า กับประสบการณ์ในสนามจริง  7 ครั้ง ในระยะของ mini marathon(10 km) และอยากจะเลื่อนขั้นตัวเองเข้าสู่ Half marathon (21 km) บ้าง

แต่... จะเล่น half ทั้งทีดันเรื่องมากอยากสร้าง profile ดีๆให้เป็นเกียรติแก่การวิ่งตัวเองซักหน่อย 555 เพราะ half แรก มันเกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว เลยหางานวิ่งที่จะจัดขึ้นใกล้ๆช่วงนั้นว่ามีที่ไหนที่ตัวเองสนใจบ้าง ก็ไปเจองานวิ่งที่สิงคโปร์งานหนึ่ง ซึ่งจัดให้วิ่งตอนกลางคืน เลยคิดว่าไปวิ่งที่สิงคโปร์นี่แหละ ไปง่ายดี 55  และด้วยความต้องการเที่ยวส่วนตัว คืออยาก ไปปีนังมานานแล้ว เห็นเค้าว่าเป็นเมืองชิคๆ เที่ยวง่าย เมื่อนำสองอย่างมารวมกันเลย ได้ข้อสรุปว่า ชั้นจะไปวิ่งมาราธอนที่สิงคโปร์นะ แต่ขอนั่งรถไฟนอนไปเดินเล่นที่ปีนังก่อนแล้วกัน ค่อยต่อรถไปสิงคโปร์  เลยเกิดทริปไฟไหม้ขึ้นอีกครั้ง คือคิดแล้วจองตั๋วไปเลยประมาณนั้น

สำหรับใครที่เป็น backpack อยู่แล้ว บอกเลยว่าทริปนี้มันง่ายมาก (มันก็ง่ายจริงๆ นั่นแหละ) แต่... คุณต้องย้อนกลับไปมองตอนที่คุณเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่วงการ backpack ใหม่ๆ ถ้าใครเก๋าอยู่แล้ว เที่ยวมานานอาจจะนึกไม่ออก คุณอาจจะลืมไปแล้ว แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มอย่าง จขกท บอกเลยว่ามันก็แอบหวั่นเหมือนกันนะ 555 เอาเป็นว่า ผญ คนไหนอยากจะไป backpack บ้าง เชื่อเถอะคุณไปได้แน่ ขนาด จขกท อิ้งไก่กา ก็เอาตัวรอดกลับมาได้ พูดไม่ได้ก็ใช้ภาษามือเข้าช่วย แล้วคุณจะพบว่าชีวิตการเดินทางของคุณจะมีสีสันขึ้น ป่ะ แพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกัน
หวั่นในการเดินทางเที่ยวไปแระ อีกใจก็แอบเป๋ กับเรื่องระยะวิ่งมาราธอน นี่มัน half แรกนะ ข้าจะไหวไหม อ่อนซ้อมด้วย และทริปที่จัดก็ค่อนข้างโหด(มั้ง) สำหรับผู้หญิงบอบบางอย่างเราอ่ะนะ 555  เพราะเดินทางตลอดก่อนวันวิ่งจริง  เอาเป็นว่ามาดูแผนการเดินทางคร่าวๆกันก่อนเลย

การเดินทางครั้งนี้ แพลนไว้ว่า จะนั่งรถไฟ >เรือเฟอร์รี่>รถทัวร์>เครื่องบิน คืออีนี่เล่นหมดทุกพาหนะ
ทริปนี้ ไปวันที่ 23-29 พ.ค.59
23 พ.ค. นั่งรถไฟด่วนพิเศษ ขบวนที่ 35 สายกรุงเทพ-บัตเตอร์เวอร์ธ
24 พ.ค.  เดินทางถึงบัตเตอร์เวอร์ธ ตอนบ่ายโมง และต่อเรือ เฟอร์รี่ ไปปีนัง นอนค้างปีนัง 1 คืน
25 พ.ค  ข้ามฝั่งจากปีนังมา บัตเตอร์เวอร์ธ มาขึ้นรถทัวร์ต่อไปกัวลาลัมเปอร์รอบ ห้าทุ่ม (นอนบนรถทัวร์)
26 พ.ค ถึง กัวลาลัมเปอร์ เที่ยว 1 วันและต่อรถทัวร์ไปสิงคโปร์ รอบ ห้าทุ่ม (นอนบนรถทัวร์)
27 พ.ค ถึงสิงคโปร์ นอน hostel
28 พ.ค. รับเสื้อและ bib , งานวิ่งมาราธอน นอน hostel
29 พ.ค. เดินทางกลับกรุงเทพ โดยเครื่องบิน

ทริปนี้ความพร้อมไม่ค่อยมีเท่าไหร่ แลกเงินก็แลกตอนเช้าก่อนไปเพียงไม่กี่ ชม แต่ก็ยังแอบกลัวไม่รอดเลยจอง ตั๋วรถ กับ hostel ไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ยังไม่เก๋าพอที่จะ walk in เข้าไปกลัวไม่ได้ที่พัก 555



วันแรกของการเดินทาง สำหรับการนั่งรถไฟ เราชอบมาก เป็นความคิดที่อยากทำมานานอีกแระแต่ไม่กล้าซักที รถไฟนอนยิ่งมีข่าวไม่ดี คนก็ยิ่งกลัวไม่กล้านั่งไปคนเดียวสำหรับผู้หญิงด้วย (คืออยากเป็นผู้ชายบ้าง จะได้ลุยให้เยอะกว่านี้ T^T)  
รถไฟออกจากชานชาลาที่หัวลำโพง เวลา 14.45 น. คือด้วยความไม่เคยนั่งรถไฟนอน รู้สึกว่าเบาะนั่งสบายมาก ดีกว่ารถไฟฟรีที่เคยนั่งไปกาญ เยอะเลย ตอนออกที่หัวลำโพง เราเลือกเตียงนอนที่ 22 ชั้นล่าง เพราะเค้าบอกว่ามันมีที่ชาร์ทแบต(คือดูๆตาม กระทู้เก่า) แต่พอไปแระ ไหนอ่ะที่ชาร์ท คือพิกัดมันอยู่ตรงไหน ข้าหาไม่เจอจริงๆ วานผู้รู้ช่วยชี้ทางหน่อยนะคะ
ในตอนแรกเค้าจะทำเป็นเบาะนั่งให้ก่อน จนกว่าจะถึงตอนเย็น ถึงเปลี่ยนเป็นเตียงนอน ระหว่างการเดินทาง ก็จะมีพนักงานมาถามว่าจะสั่งอาหารไหม เราแอบมองแล้ว ร้อยกว่าบาท say goodbye อย่างเดียวเลยจ้า 55 แพงมาก อีกอย่างเราซื้อขนมมาตุนไว้สำหรับการเดินทางอยู่แล้ว และรอที่จะกินก๋วยเตี่ยว ราชบุรี ที่เค้าบอกว่าคนนั่งรถไฟต้องลองกัน ฉะนั้น รอเวลาครัช


บรรยากาศบนรถไฟนอน ขบวนพิเศษที่ 35

รถไฟเคลื่อนตัวมาถึงราชบุรี และจอดที่สถานี เรานี่ตื่นเต้นมาก เย้ๆ จะได้กินก๋วยเตี๋ยวแล้ว แต่... จนขบวนรถเคลื่อนออกไปก็ยังไม่มีแม่ค้ามาเดินขายของเลย แง้ อดกินเหรอเรา ไม่เป็นไร มันอาจจะอยู่สถานีถัดไป แต่ก็ยังไม่มี ซวยแระเรา อดจนได้  จนมาจอดที่สถานีหนึ่ง ได้ยินเสียงแม่ค้าตะโกนว่า ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี ไหมจ๊ะ
เรานี่เรียกแทบไม่ทัน เลยสั่งมา 4 กล่องเลยจ้า กินคนเดียวเลย 555 ในที่สุดก็ได้กิน มีความฟินขั้น max


หน้าตาของก๋วยเตี๋ยวในตำนาน


หลังจากกินเสร็จ เวลาประมาณ หกโมงกว่า เจ้าหน้าที่ก็มาจัดเตียงนอนให้เรา เฮ้อได้นอนแล้ว นั่งตูดด้านมานาน ที่นอนนิ่มมากนอนหลับสบาย แต่ว่ามันก็จะมีความโคลงเคลง และเสียงดังตลอดเวลาเช่นกัน แต่ก็หลับได้เพราะร่างกายรู้สึกล้ามาก  การนอนบนรถไฟและมีฝนตกปรอยๆ นี่มันฟินดีจริงๆ มองหยดน้ำเกาะน่าต่างแล้วเผลอหลับไป ตอนนั้นไม่ได้กลัวเลยกับข่าวที่เคยได้ยินมา 55


ได้เวลาปิดม่านนอนกันแล้ว


น้ำฝนเกาะหน้าต่างในตอนเช้า


ตื่นมาอีกที ตอน 6 โมงเช้า มาถึงพัทลุงแล้วเหรอเนี่ย  ซักพักก็เดินทางไปถึงหาดใหญ่ ที่นี่จะจอดรถไฟนานกว่าที่อื่น เพราะเค้าถอดโบกื้อื่นที่ไม่ได้เดินทางไปมาเล ออก และก็มีคนเดินขึ้นมาขายของ เค้าบอกว่ามาหาดใหญ่ อย่าลืมกินไก่ทอดหาดใหญ่ เราเลยจัดไปอีก 1 ชุด ^^ (คือ เกิดทริปนี้ได้ก็อาศัยรีวิวเก่าๆทั้งนั้น เค้าพาทำอะไรทำหมด 555)


ไก่ทอดหาดใหญ่ที่เค้าบอกว่าต้องลอง

หลังจากนั้นก็เดินทางต่อเพื่อไปมาเลเซีย เราจะไปถึงด่าน ปาดังเบซาร์ก่อน เพื่อผ่าน ตม เข้าเมือง โดยคุณต้องยื่น ตม ไทยเพื่อออกจากประเทศไทยก่อน เค้าจะให้ใบ immigration มาเขียน เอาที่ ตม เลย พอทำเรื่องออกนอกประเทศเสร็จ ก็เดินไปอีกฝั่ง ก็คือ ด่าน ตม ของ มาเลเซีย มาเลไม่ต้องเขียนใบ immigration เค้าใช้ระบบ scan ลายนิ้วมือเอา คือสะดวกดีอ่ะ ชอบ 55 แค่ยื่นพาสปอร์ต และสแกนนิ้วมือ ก็เป็นอันเรียบร้อย

พอเดินออกมาเพื่อจะขึ้นรถไฟต่อไปบัตเตอร์เวร์ธ เอิ่ม แล้วรถไฟขบวนเดิมข้าหายไปหนายยยย ก็เคยดูในรีวิวเค้าบอกว่ามันเป็นรถไฟขบวนเดิมไม่ใช่เหรอ งง เลยครัช แต่เห็นว่ามันเขียนว่าไปบัตเตอร์เวอร์ธ และคนอื่นๆก็เดินขึ้นไป เอาว่ะ ไหนๆ จุดหมายมันก็คือบัตเตอร์เวอร์ธ ก็คงถึงเหมือนกันแหละน่า

ความตื่นเต้นมันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ผ่านด่าน ตม มาเลเซียมาได้ เอาล่ะนะ ตอนนี้แกจะรอดได้ก็ต่อเมื่อใช้อิ้งที่มีอยู่น้อยนิดออกมาใช้ พูดไทยจะไม่มีใครเข้าใจแกแล้ว นั่งได้ประมาณ 1 ชม.ก็มาถึง บัตเตอร์เวอร์ธ แผนต่อไปคือต้องนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งปีนัง จะมีป้ายบอกทางซึ่งสามารถเดินไปได้ให้เดินไปตามป้ายเลย ค่าโดยสารเรือ 1.2 RM จ่ายแค่ขาไป ขากลับไม่ต้องจ่าย



รถไฟที่เปลี่ยนขบวนใหม่หลังจากผ่านด่าน ตม ของมาเลเซีย


เมื่อมองลงไปด้านล่าง ตรงอาคารพักผู้โดยสาร KTM


เดินตามป้ายที่เขียนว่า Ferry ไปตลอดเลยจะเจอท่าเรือข้ามฟากไปปีนัง


สวัสดีปีนัง ในที่สุดข้าก็มาถึงจนได้ เริ่มปฏิบัติการหา hostel ที่จองไว้ก่อนเลยจ้า คืนนี้พักที่ Noobs hostel กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะต้องแบกเป้เดิน ความจริงเค้ามีรถเมล์ฟรีนะ แต่เราไม่รู้ว่าต้องลงตรงไหน เลยเดินๆ หาเอา ถือซะว่าสำรวจเมืองเค้าไปก่อน อิอิ พอมาถึง hostel แล้วเค้าก็ขออาบน้ำก่อนแล้วกันไม่ไหวแล้วก่อนไปลุยถ่ายภาพ street art
คือตอนแรกไม่เข้าใจว่าจะถ่ายไปทำไมนะอี street art เนี่ย แต่ว่ามันก็เป็นจุดขายของเมืองอย่างหนึ่งเลย จากตอนแรกไม่ได้จริงจัง แต่พอเริ่มหาเจอ ก็เริ่มอยากหาอีกภาพไปเรื่อยๆ สนุกดี ตรงไหนเห็นคนรุมเยอะๆก็ตรงนั้นแหละต้องมีซักภาพ  เดินหาไปเรื่อยๆ จนเริ่มเย็น เลยไปหาของกิน แต่บอกเลยเราไม่รู้ว่าต้องไปกินตรงไหน ไม่หาข้อมูล เลยเลาะๆไปตามๆเมือง เจอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ที่เป็นรถเข็น เลยตัดสินใจกินร้านนี้แหละ แต่เจ้าของแกดันพูดอิ้งไม่ได้ เค้าก็พยายามสื่อสารกับเรานะ เราบอกว่าเอาก๋วยเตี๋ยวไก่อันหนึ่ง ก็บอก chicken noodle ไป แล้วทำไม้ทำมือบอกว่า 1 ถุง เค้าก็เหมือนเข้าใจ บอก ก๋วยเตี๋ยว %#$^^&$3 อะไรก็ไม่รู้ เราก็งงสิครัช สรุปตรูจะได้ไหมเนี่ย จนมีคนที่มาซื้อก๋วยเตี๋ยวข้างๆ เค้าพูดอิ้งได้ เลยสั่งให้เรา แต้งกิ้วมากๆ เลยคร้า เกือบไม่ได้กินแล้วไหมเรา 555 หลังจากได้มาแล้วก็เอากลับไปกิน ที่ hostel เสร็จแล้วก็อาบน้ำเข้านอนเลย เพราะรู้สึกว่าพลังงานหมด ขอชาร์ทแบตก่อนแล้วกัน


ร้านค้าย่าน street art


ที่นอนคืนแรกใน Noobs hostel


street art

ไว้เดี๋ยวมาเล่าต่อพรุ่งนี้นะคะ
ชื่อสินค้า:   Penang-Kuala lumpur-Singapore & The 1st time with Half Marathon
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่