...สวัสดีครับ ผมมีเรื่องที่ติดค้างคาใจ อยากจะขอคำปรึกษาจากท่านสมาชิกดังนี้....
ผมมีแฟนอยู่คนนึงครับ เธอชื่อ น. ผมและเธอเราคบกันจนถึงวันสุดท้ายรวมระยะเวลา 4 ปี ครับ เราคบกันมาด้วยดีตลอด มีทะเลาะ มีงอน กันบ้าง แต่ก็จะไม่ปล่อยให้เวลานั้นยืดยาว ให้กำลังใจกัน ไปหา พาไปเที่ยวบ่อยครั้ง
วันหนึ่ง...ต้นปี 58 เธอป่วยกระทันหัน เธอลาป่วยไปโรงพยาบาล ผมให้กำลังใจเธอ คิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมาก แต่อนิจจา!! เธอตรวจพบเนื้อร้ายบริเวณรังไข่ "มะเร็ง" ใช่ครับ เธอเป็นมะเร็ง และต้องผ่าตัดตัดรังไข่ทิ้งทั้ง 2 ข้าง เธอไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป เธอร้องห่มร้องไห้ อยู่กับผมที่เตียงนอนของโรงพยาบาล ทุกครั้งที่เธอต้องให้ยาคีโม เธอบ่นเจ็บปวดทุกครั้ง ให้ตายเถอะ! ผมอยากเจ็บแทนเธอ หรืออยากแบ่งความเจ็บปวดนั้นมาไว้ที่ผมบ้างซักครึ่งนึง พอให้เธอได้พอบรรเทา ...เธอผมร่วง เธอผอมลง เธอหวาดกลัว มีแต่ผมและน้องสาวเธอ ที่คอยอยู่ดูแล เพราะแม่เธอทำงานอยู่ต่างประเทศ ปีหนึ่งจะกลับเมืองไทย ซักครั้ง ผมโกนผมให้เธอ ผมสงสารเธอที่เธอวันนี้ ผมยาวๆที่เธอเคยรัก มันจะต้องลาจากศรีษะเธอไป
ผมดูแลเธออยู่ร่วม 1 ปี จนเธอเริ่มอาการดีขึ้น ค่ามะเร็งลดน้อยลง ไม่มีครั้งไหนที่เธอไปโรงพยาบาลแล้วจะไม่มีผมอยู่ข้างๆ ผมทำหน้าที่แทนแม่เธอได้ทั้งหมด แม่เธอฝากความหวังไว้กับผม ซึ่งผมก็เต็มใจ แต่วันเวลาแห่งความสุขก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอ ในวันที่เธอเริ่มดีขึ้น มันก็มีเอฟเฟค กับร่างกาย
เธออารมณ์ร้อนขึ้น ฉุนเฉียว โกรธง่าย ที่หนักที่สุด คือ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ กับผม ถ้าผมทำอะไรให้เธอไม่ถูกใจ ผมทนให้เธอทำและระบายอยู่นานหลายครั้ง นานนับหลายเดือน เบาหน่อยก็ปูดบวม หนักหน่อยก็ถึงเลือด เพราะผมโดนส้อมแทง
แล้ววันหนึ่งก็ถึงที่สุดของความอดทน ผมบอกเลิกเธอ เพราะทนกับการกระทำของเธอไม่ไหว เราเลิกกันหลายครั้งมากครับ ทุกครั้งที่เราเลิกกัน เธอก็จะไปมีผู้ชายใหม่ ทุกครั้ง แต่ทุกครั้ง เธอก็จะขอผมกลับมาคืนดี เพราะผู้ชายคนใหม่ไม่ได้ดีกับเธอ ผมก็ยอมเพราะรัก
ครั้งสุดท้ายล่าสุด เราเลิกกันเมื่อต้นเดือนเมษา 59 สาเหตุคือ เธอสนใจแต่โลกโซเชียล ติดมือถือ เธอออ้างว่า โลกโซเชียลมีแต่คนให้กำลังใจเธอ ผิดกับโลกความจริง ที่แม้แต่ผมก็ไม่เคยให้กำลังใจเธอเลย เธอหลงกับคำพูดในโลกโซเชียล แต่เธอกับหลงลืมคนที่เคยลำบากมาด้วยกัน เราเลิกกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอโมโหร้ายมาก บอกว่า "ผมไร้สาระ แค่โลกโซเชียล จะอะไรนักหนา งี่เง่า ปัญญาอ่อน" สุดท้ายเราก็เลิกกัน เธอไปบอกกับใครต่อใคร ว่าตลอดเวลาที่เธอเป็นมะเร็ง เธอไม่มีใครดูแลเลย เธอดูแลตัวเองมาตลอด มีแต่ผมที่ไปง้อขอคืนดีเธอ และตอนนี้เธอก็ฝากเพื่อนผมมาบอก ว่าตอนนี้เธอมีคนคุย อยู่ 3-4 คนแล้ว ไม่ต้องไปตามง้อเธออีก
ผมควรทำอย่างไร? ผมผิดไหมที่ผมบอกเลิกเธอ? ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ไปไหนผมก็คิดถึง ทำอะไรก็นึกถึง ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ผมไม่คิดถึงเธอเลย ผมเป็นทุกข์มาก ไม่เคยมีวันไหนที่ผมจะมีความสุขตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน....
ผิดไหมที่ผมบอกเลิกเธอ??
ผมมีแฟนอยู่คนนึงครับ เธอชื่อ น. ผมและเธอเราคบกันจนถึงวันสุดท้ายรวมระยะเวลา 4 ปี ครับ เราคบกันมาด้วยดีตลอด มีทะเลาะ มีงอน กันบ้าง แต่ก็จะไม่ปล่อยให้เวลานั้นยืดยาว ให้กำลังใจกัน ไปหา พาไปเที่ยวบ่อยครั้ง
วันหนึ่ง...ต้นปี 58 เธอป่วยกระทันหัน เธอลาป่วยไปโรงพยาบาล ผมให้กำลังใจเธอ คิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมาก แต่อนิจจา!! เธอตรวจพบเนื้อร้ายบริเวณรังไข่ "มะเร็ง" ใช่ครับ เธอเป็นมะเร็ง และต้องผ่าตัดตัดรังไข่ทิ้งทั้ง 2 ข้าง เธอไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไป เธอร้องห่มร้องไห้ อยู่กับผมที่เตียงนอนของโรงพยาบาล ทุกครั้งที่เธอต้องให้ยาคีโม เธอบ่นเจ็บปวดทุกครั้ง ให้ตายเถอะ! ผมอยากเจ็บแทนเธอ หรืออยากแบ่งความเจ็บปวดนั้นมาไว้ที่ผมบ้างซักครึ่งนึง พอให้เธอได้พอบรรเทา ...เธอผมร่วง เธอผอมลง เธอหวาดกลัว มีแต่ผมและน้องสาวเธอ ที่คอยอยู่ดูแล เพราะแม่เธอทำงานอยู่ต่างประเทศ ปีหนึ่งจะกลับเมืองไทย ซักครั้ง ผมโกนผมให้เธอ ผมสงสารเธอที่เธอวันนี้ ผมยาวๆที่เธอเคยรัก มันจะต้องลาจากศรีษะเธอไป
ผมดูแลเธออยู่ร่วม 1 ปี จนเธอเริ่มอาการดีขึ้น ค่ามะเร็งลดน้อยลง ไม่มีครั้งไหนที่เธอไปโรงพยาบาลแล้วจะไม่มีผมอยู่ข้างๆ ผมทำหน้าที่แทนแม่เธอได้ทั้งหมด แม่เธอฝากความหวังไว้กับผม ซึ่งผมก็เต็มใจ แต่วันเวลาแห่งความสุขก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอ ในวันที่เธอเริ่มดีขึ้น มันก็มีเอฟเฟค กับร่างกาย
เธออารมณ์ร้อนขึ้น ฉุนเฉียว โกรธง่าย ที่หนักที่สุด คือ ถึงขั้นลงไม้ลงมือ กับผม ถ้าผมทำอะไรให้เธอไม่ถูกใจ ผมทนให้เธอทำและระบายอยู่นานหลายครั้ง นานนับหลายเดือน เบาหน่อยก็ปูดบวม หนักหน่อยก็ถึงเลือด เพราะผมโดนส้อมแทง
แล้ววันหนึ่งก็ถึงที่สุดของความอดทน ผมบอกเลิกเธอ เพราะทนกับการกระทำของเธอไม่ไหว เราเลิกกันหลายครั้งมากครับ ทุกครั้งที่เราเลิกกัน เธอก็จะไปมีผู้ชายใหม่ ทุกครั้ง แต่ทุกครั้ง เธอก็จะขอผมกลับมาคืนดี เพราะผู้ชายคนใหม่ไม่ได้ดีกับเธอ ผมก็ยอมเพราะรัก
ครั้งสุดท้ายล่าสุด เราเลิกกันเมื่อต้นเดือนเมษา 59 สาเหตุคือ เธอสนใจแต่โลกโซเชียล ติดมือถือ เธอออ้างว่า โลกโซเชียลมีแต่คนให้กำลังใจเธอ ผิดกับโลกความจริง ที่แม้แต่ผมก็ไม่เคยให้กำลังใจเธอเลย เธอหลงกับคำพูดในโลกโซเชียล แต่เธอกับหลงลืมคนที่เคยลำบากมาด้วยกัน เราเลิกกันอีกครั้ง ครั้งนี้เธอโมโหร้ายมาก บอกว่า "ผมไร้สาระ แค่โลกโซเชียล จะอะไรนักหนา งี่เง่า ปัญญาอ่อน" สุดท้ายเราก็เลิกกัน เธอไปบอกกับใครต่อใคร ว่าตลอดเวลาที่เธอเป็นมะเร็ง เธอไม่มีใครดูแลเลย เธอดูแลตัวเองมาตลอด มีแต่ผมที่ไปง้อขอคืนดีเธอ และตอนนี้เธอก็ฝากเพื่อนผมมาบอก ว่าตอนนี้เธอมีคนคุย อยู่ 3-4 คนแล้ว ไม่ต้องไปตามง้อเธออีก
ผมควรทำอย่างไร? ผมผิดไหมที่ผมบอกเลิกเธอ? ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ไปไหนผมก็คิดถึง ทำอะไรก็นึกถึง ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ผมไม่คิดถึงเธอเลย ผมเป็นทุกข์มาก ไม่เคยมีวันไหนที่ผมจะมีความสุขตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน....