อายุ 22 ศาลพิพากษา จำคุก3ปี ทั้งๆที่คนผิดตอนนี้ยังลอยนวล

ดนศาลพิพากษา ตัดสินจำคุก 3 ปี ทั้งที่คนกระทำความผิดจริงๆยังลอยนวล

สวัดดีค่ะ ขอเล่าเรื่องเลยนะค่ะ หนู เป็นพนักงานบริษัทเอกชน แห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีลูก 1 คน ก่อนทำงานจะไปส่งไว้ที่บ้านแม่แฟนแล้วพอเลิกงานจะไปรับกลับทุกวัน

วันที่เกิดเหตุ 24/07/58 กำลังทำงานอยู่ปกติ มีเจ้าหน้าที่ ตำรวจนอกเครื่องแบบ 3 คนเข้าจับกุม
ตอนนั้นงงมาก กลัวทุกอย่างนึกว่าพวกแก๊งต้มตุ๋น เพราะดูในสื่อเยอะมาก นึกว่าพวกคนไม่ดี อยู่ๆ ถือกระดาษมา 1 ชุด เป็นหมายศาล ตอนนั้นไม่มีความรู้จริงๆคะ เกิดมา พึ่งเคยเจอครั้งแรกในชีวิต จะเอาตัวหนูไปให้ได้ เป็นใครใครก็กลัวคะ แล้วถามว่าพาไปไหน บอกว่าไปจังหวัด ภาคใต้จังหวัดนึง ต้องส่งตัววันนี้ จนพี่ๆบริษัทช่วยๆกันห้ามไม่ไห้ไป จนสุดท้ายเลยตกลงกัน
ขอไปโรงพักก่อน พอไปโรงพัก ทุกอย่างกระจ่างทันที หนูโดนหมายศาลจับกุม ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง เอาเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ทั้งๆที่ ไม่รู้เรื่องเลย ตอนนั้นรู้สึกงงมาก ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น สับสนไปหมด ตอนเกิดเหตุ พึ่งคลอดบุตรได้ 4เดือน ยังให้นมอยู่เลย ลูกจะอยู่ยังไง จะทำยังไง คิดถึงลูกคิดถึงทุกอย่าง เครียดไปหมด พอหลังจากนั้น เขาก็พาไปกองปราบรวบรวมผู้ต้องหา แล้วก็ส่งตัวไปภาคใต้ แห่งหนึ่ง ระหว่างรอ รถมารับนั้นได้สอบถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนู มันเกิดได้ยังไง ใครเป็นคนแจ้ง แล้วเรื่องอะไรกัน เขาเลยให้เอกสารมาดูว่า มีเด็กผู้หญิงอายุ16 แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ จังหวัด ภาคใต้ ว่าหนูชื่อนี้นามสกุลนี้ ได้โกงเงินเขาไป ไปนัดเจอกันที่จังหวัด นี้ ในวันที่ 11/01/58 และได้มารับเงินไป จำนวน 2,500 บาท แล้วได้บอกว่าถ้าผ่อนจนครบ 25,000 บาท จะส่งโทรศัพย์ 5s ให้ และได้โอนเงิน เข้าบัญชี บุคคลอีกคน เป็นผู้ชาย ซึ่งเราไม่รู้จักมาก่อน ไม่คุ้นเลยด้วย เขาโอนครั้งละ 2,500-3,000 บาท ประมาน5 ครั้ง แล้วก็ไม่ได้ส่ง โทรศัพย์ให้ ก็เลยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจได้ส่งหมายเรียกแล้ว แต่ไม่มีการติดต่อกลับ เลยออกหมายจับ หนูเป็นคนต่างจังหวัดคะ บ้านเกิดอยู่จังหวัด ภาคอีสานแห่งหนึ่ง ทะเบียนบ้านก็อยู่ แม่เสียชีวิตแล้ว พ่อมีครอบครัวใหม่ มาอยู่ กทม ตั้งแต่ ม4กับน้องสาวเรียนไปด้วย ทำงานด้วย กู้กยศด้วย จน ปัจจุบันอายุ 22 ปีแล้ว ที่บ้านจะมีแค่ปู่กับย่า แล้วไม่ได้ติดต่อมาหลายปีมากแล้ว จนมาเกิดคดีขึ้น
พอเขานำตัวหนูถึง จังหวัด ภาคใต้ ก็มีแฟนหนู กับแม่แฟน ที่เอาลูกมาด้วย ตามมาแล้วได้ ประกันตัวคะ 8,000 บาท
หลังจากหนัง ศาลได้ ให้มารายงานตัวทุก 15 วัน แล้วเดินทางไกลมากด้วย ประมาณ10 ชม. แล้วก็มารายงานตัวอยู่เรื่อยๆ ประมาณ 5-6 ครั้ง ตอนนั้นเหนื่อยมาก ทั้งทำงาน ทั้งเลี้ยงลูก ที่บริษัทกลัวจะโดนไล่ออก ค่าใช้จ่ายตอนเดินทางก็เยอะ ลูกก็ยังเล็กใช้เงินเยอะมากๆ เงินเดือนหนู 10,xxx บาทคะ ลาที่ก็ต้อง 2-3วัน ค่าโรงแรม ค่ากิน ค่ารถ เดินทางเหนื่อยมาก ท้อกับทุกสิ่งทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย ลูกก็ห่วง แรกๆก็พามาด้วย เพราะต้องกินนม หลังๆก็ปั้มนมไว้ ฟากแม่แฟนเลี้ยง เพราะสงสารเขาต้องตากแดดตากลม นั่งรถ10ชม อันตรายด้วย จนท้อมากๆคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง ที่บ้านก็ปลอบใจ นึกถืงลูกไว้ จะอยู่ยังไง จนครั้งที่ 2 น้องคนนั้นได้มาชี้ตัว เราก็ดีใจจะจบเสียที น้องเขาบอกว่าไม่ใช่คนที่เจอคะ เราก็คิดว่าทุกอย่างจะจบ ศาลคงสั่งยกฟ้องแน่ๆ หลังจากนั้นก็ ต้องมารายงานตัวอีก เรื่อยๆ จนวันนึง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาบอกว่า น้องคนนั้นกลับการให้การนะ อัยการสั่งฟ้อง เราก็ตกใจ ทำไมเราเจอกันแล้วบอกไม่ใช่ ทำไมมาตอนนี้ บอกใช่ จนเราต้องให้ทางบริษัทช่วย จัดหาทนายให้หน่อย เราเล่าเรื่องให้เขา ฟังๆ จนเขาได้จัดหา ทนายให้ แล้วเขาก็ให้เราไปหา หลักฐานมา ตอนนั้นก็คิดว่าไม่ใช่ตัวเราแน่ๆ ขึ้นศาลยังไงต้องผ่านไปได้ด้วยดี เราเลยหาหลักฐานเท่าที่เราหาได้ เราได้ให้ภาพถ่ายในเฟทบุคไป วันเกิดเหตุ เราอยุ่คอนโด เราได้มีการอัพเฟทบุค แล้วก็มีต่ำแหน่งที่อยู่ แล้วก็มีใบสแกนนิ้วเวลาทำงาน วันที่ 12/01/58 แล้วก็ทำงานปกติตลอดช่วงนั้น แต่วันเกิดเหตุ 11/01/58 วันอาทิตอีก หลักฐานอีกชิ้นคือ ใบเกิดบุตร ตอนนั้นเราตั้งครร 7เดือน เดินอุ่ยอ่ายท้องโต ยังไงก็ไม่ใช่คนร้ายเพราะเขาบอก สูงขาวผมยาวดัดฟัน เราผมสั้นก็ไม่ได้สูงแถมท้อง แต่เราดัดฟันคะ แต่พอสืบพยานทุกอย่างแล้ว ฝั่งนั้นเขามีหลักฐานแค่สำเนาบัตรประชาชนของเรา เราไม่รู้ว่าเขาเอาไปได้ยังไง เขาให้การว่า วันเกิดเหตุ ที่นัดเจอรับเงิน เขาได้ขอดูบัตรประชาชน และได้ถ่ายรูปไว้ในโทรศัพย์มือถือ เป็นบัตรประชาชนใบเดียวกับที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน เราไม่รุ้ว่าเขามีได้ยังไง หรือเอา สำเนาไปไช้ได้ยังไง บัตรอยู่กับเราตลอด  จนวันตัดสิน ศาลพิพากษาจำคุก ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง รับโทษสูงสุด จำคุก 3 ปี เราแพ้คดี เนื่องจาก หลักฐานที่เรายื่น เชื่อถือไม่ได้ เราขาอ่อนเลยคะ ใจหายแบบที่สุด หมดสิ้นทุกอย่าง เราร้องไห้ตลอดทำใจไม่ได้เลย ทำไมเรื่องพวกนี้ต้องเกิดขึ้น ไม่ได้เจอสถานการแบบเราไม่เข้าใจจริงๆ ตอนนี้เราหมดหนทางคะ

ตอนนี้เราได้ยื่นอุทร แล้วพยายามหาหลักฐานเพิ่ม แต่มืดแปดด้าน เราไม่รู้จะหาจากไหน คอนโดเรามีกล้องวงจรปิด วันที่เกิดเหตุเราอยู่คอนโด มีการเดินเข้าออก เห็นหน้าเราชัดเจนแน่ๆ แต่สอบถามเขาแล้ว บอกดูย้อนหลังได้แค่ 3 เดือน แล้วเรามีโทรศัพย์ ที่ใช้อยู่ซึ้งเปิด ตำแหน่งไว้ แล้ววันที่11/01/58 เราได้มีการถ่ายรุปเราตอนอยุ่คอนโดไว้ มันสามารถนำเป็นหลักฐานได้ไหม หรือ กล้องวงจรปิดที่คอนโด สามารถแบคอัพข้อมูลได้ไหม หรือใครมีทางไหนที่พอจะช่วยได้ แนะนำให้ทีนะค่ะ คิดว่าเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตอนนี้มืดไปหมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่