โน้ตบุ๊คถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ส่วนมากในมุมของคนทั่วไปนั้น อาจจะมีประสิทธิภาพที่สูงสู้ในส่วนของคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะไม่ได้ แต่เชื่อหรือไม่ เงินสามารถแก้ปัญหานี้ถ้า ในกรณีที่เพื่อนๆ มีเงินมากพอ ก็สามารถที่จะซื้อโน้ตบุ๊คแรงๆ ซึ่งได้ในประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ แต่ก็แน่นอนว่าคนที่จะซื้อโน้ตบุ๊คที่มีราคาแพงนั้น งานก็ต้องให้ผลตอบแทนที่ดี ไม่ใช่แค่ว่าเอามาเล่น Facebook หรืออินเตอร์เน็ตทั่วไป (ฮา) ซึ่งถ้าพูดถึงที่สุดของโน้ตบุ๊คการทำงานล่ะก็ Mobile Workstation นั้นคือคำตอบ

สำหรับ HP ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชั้นนำของโลก โดยเปิดตัวโน้ตบุ๊ค Workstation Mobile ซีรีส์ ZBook เป็นครั้งแรกในปี 2013 ที่ถือว่าเป็นรุ่น G1 (Gen 1) โดยล่าสุด HP ก็ได้นำเสนอโน้ตบุ๊คในซีรีส์ ZBook G3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการเปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2015 ซึ่งในตอนนี้ทาง HP Thailand ก็พร้อมที่จะจัดจำหน่ายแล้ว แบ่งออกเป็น 4 รุ่นหลักๆ ดังนี้

- HP ZBook 15 G3 โน้ตบุ๊คตัวมาตรฐาน จอ 15″ สเปกจัดเต็มอัพได้สูงสุดเป็น Intel Xeon
- HP ZBook 17 G3 โน้ตบุ๊คตัวมาตรฐาน จอ 17″ สเปกจัดเต็มอัพได้สูงสุดเป็น Intel Xeon
- HP ZBook 15u G3 โน้ตบุ๊คบางเบา Ultrabook จอ 15″ หน้าจอ Ultra HD 4K
- HP ZBook Studio G3 โน้ตบุ๊คบางเบา Ultrabook จอ 15″ สวยงาม สเปกแรงสุด Intel Xeon (รุ่นที่รีวิวคือตัวนี้)

โดยความแตกต่างของ HP ZBook 15u กับ HP ZBook Studio โดยหลักๆ แล้วอยู่ที่ ดีไซน์ที่บางเบากว่า และภายในสเปก รวมไปถึงราคาค่าตัว ซึ่ง HP ZBook 15u ติดตั้งชิปประมวลผลได้สูงสุดคือ Core i7 รหัส U ส่วน HP ZBook Studio G3 จะเลือกติดตั้งชิปประมวลผลได้สูงสุดเป็น Xeon E3 ซึ่งตัวผมเองได้สเปกที่เป็น Xeon E3 นั่นเอง นับได้ว่าน่าตื่นเต้นทีเดียว เพราะโดยส่วนตัวก็ไม่เคยจับชิปประมวลผลระดับที่สูงกว่า Core i7 เหมือนกัน

HP ZBook Studio G3 นั้นเป็นโน้ตบุ๊คในระดับ Mobile Workstation ซึ่งมีความบางเบามากๆ เมื่อเทียบกับ Mobile Workstation ทั่วไป จัดว่าอยู่ในกลุ่มของ Ultrabook ได้เลย โดยมีหลากหลายสเปคให้เลือกซื้อ แต่สำหรับตัวที่เราได้มาทดสอบนั้นจะเป็นตัวที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Xeon E3-1505M v5 โดยเป็นสถาปัตยกรรมรุ่นล่าสุด มาพร้อมด้วยตัวประมวลผล 4 คอร์ 8 เธร์ด มีความเร็วอยู่ที่ 2.8 GHz และสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุด 3.7 GHz มาพร้อมกับการ์ดจอออนบอร์ด Intel HD Graphics P530 มีแรมของตัวเครื่องอยู่ที่ 32GB (16GB x 2) ในรูปแบบของ DDR4L บัส 2133 พร้อมด้วยฮาร์ดไดร์ฟแบบ SSD ความเร็วสูง เทคโนโลยี HP Z Turbo Drive G2 มาพร้อมความจุ 256GB

สำหรับการ์ดจอนั้นทาง HP ZBook Studio G3 เลือกที่จะใช้การ์ดจอ NVIDIA Quadro M1000M แรม DDR5 ขนาด 2GB ที่ออกแบบมาสำหรับงานเขียนแบบ และกราฟฟิคเฉพาะด้านทั้ง 2D และ 3D ต่างๆ โดยเฉพาะ โดยสามารถรองรับการทำงานได้ในระดับที่ดี จอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้ว LED แบบจอด้าน ใช้พาเนลจอแบบ DreamColor Display ที่ทาง HP การันตีว่าพาเนลจอตัวนี้จะช่วยเพิ่มความแม่นยำ และความสม่ำเสมอของเม็ดสีให้ภาพที่แสดงออกมามีความสวยงามสมจริงเหมือนต้นฉบับที่สุด ตัวจอมีความละเอียดแบบ 4K Ultra HD ที่ 3,840 x 2,160 พิกเซล พร้อมด้วย HD webcam และไมค์คู่แบบตัดเสียงรบกวนในตัวที่พร้อมอย่างยิ่งสำหรับทุกการทำงาน และการติดต่อสื่อสาร

นอกจากนี้ HP ZBook Studio G3 ก็ยังมีลำโพง Stereo ที่รองรับระบบเสียง Bang & Olufsen และมีพอร์ตเชื่อมต่ออย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, SD Card Reader, ช่องต่อลำโพง-ไมค์, HDMI, Thunderbolt V3 (USB 3.1 Type-C) สนนราคาก็ตั้งแต่ประมาณ 7x,xxx บาทขึ้นไป ตามแต่สเปกที่เราสามารถเลือกได้ตามต้องการโดยแปรผันตามงบประมาณ

ดีไซน์และการออกแบบโดยรวมของตัวเครื่อง HP ZBook Studio G3 ถือว่ามีความใกล้เคียงกับ HP ZBook 15u ทีเดียว ในเรื่องของความบางเบาก็อยู่ในเกณฑ์ของ Ultrabook หน้าจอ 15.6 นิ้ว กับน้ำหนัก 1.99 กิโลกรัม แต่มีความหนาเพียง 18 มิลลิเมตรเท่านั้นรวมไปถึงวัสดุก็ใช้เป็นคุณภาพสูงอย่างแม็กนีเซียมอัลลอยด์ผสานกับอลูมิเนียม เน้นไปโทนสีดำและสีเทาที่สื่อถึงความจริงจังและความเป็นมืออาชีพ เรียกได้ว่าเมื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ก็ดูลงตัว ประสิทธิภาพจากสเปกภายในให้การทำงานได้เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ Workstation เลยทีเดียว โดยบริเวณของฝาหลังนั้นจะเป็นวัสดุอลูมิเนียมที่แซมด้วยวัสดุพลาสติกเนื้อนิ่มคล้ายยางทำให้เวลาจับไม่ลื่นมือ ส่วนบริเวณที่พักมือและแป้นพิมพ์นั้นจะใช้วัสดุอลูเนียมตลอดทั้งตัว

ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นก็ยังคงออกแบบด้วยความเรียบง่ายเช่นกัน โดยใช้วัสดุพลาสติกสีเทาเข้มตลอดทั้งตัว โดยมีการเจาะช่องระบายความร้อนของเครื่องด้วยกันสองจุดที่มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี โดยมีการสกรีนโลโก้ของ HP รวมถึงชื่อรุ่นเอาไว้บริเวณด้านหลังเครื่องที่ก็สามารถมองเห็นอย่างชัดเจน นอกจากนี้ก็ยังมียางรองขาตัวเครื่อง ซึ่งสามารถซับแรงสั่นสะเทือนของตัวเครื่องขณะเปิดใช้งานได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าในการออกแบบรวมๆ นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างแน่นหนา และคำนึงถึงการใช้งานจริงได้ดีทีเดียว รวมไปถึงมีความบางเบาระดับ Ultrabook หน้าจอ 15.6 นิ้วอีกด้วย

หน้าจอของ HP ZBook Studio G3 เป็นพาเนลแบบ IPS คุณภาพสูง DreamColor ให้สีสันที่ตรงและผิดเพี้ยนน้อยมากๆ เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันอย่างการทำกราฟิกหรืองาน Artwork ต่างๆ อีกทั้งความละเอียดนี่ก็สุดๆ ด้วยระดับ Ultra HD 4K ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งให้ความละเอียดที่ตอบสนองการใช้งานได้น่าสนใจให้ความคอมชัดแบบสุดๆ แบบไม่เห็นรอยหยักเลย ด้วยการใช้งานด้านกราฟิกก็ยืดหยุ่นและใช้ร่วมกับโปรแกรมกับพื้นที่ได้มากกว่า ตามแต่ความต้องการของเรา เหมาะมากๆ กับมืออาชีพที่ซีเรียสเรื่องของความเที่ยงตรงของสีสัน

ส่วนคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นแบบโค้งเว้าเข้ากับนิ้ว ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ให้การตอบสนองเด้งรับที่ดี ในส่วนของไฟ Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว มาตรฐานแบบ Full Size ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง รวมไปถึงปุ่มคลิกซ้าย-ขวาจะเป็นแบบซ่อนในทัชแพด โดยระบบเสียง Bang & Olufsen พร้อมเทคโนโลยี Noise Reduction ได้มีการติดตั้งอยู่ข้างๆ กับแป้นคีย์บอร์ดช่วยให้การทำ Video Conference มีเสียงชัดเจนยิ่งขึ้น รองรับทุกการทำงานและความบันเทิงไม่แพ้กับโน้ตบุ๊คสายเอนเตอร์เทนเลยทีเดียว

แม้ว่า HP ZBook Studio G3 จะเป็น Mobile Workstation ที่ดีไซน์บางเบากว่าชาวบ้านเค้า แต่ก็ติดตั้งพอร์ตกการเชื่อมต่อที่ครบสุดๆ สำหรับมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C) จำนวนสองพอร์ต ที่ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วสุดๆ หรือจะแสดงผลความละเอียดสูงก็ทำได้เช่นกัน จัดได้ว่าเป็นพอร์ตสำคัญที่โน้ตบุ๊คปี 2016 ควรมี รวมถึงมี HDMI เพื่อการแสดงผลความละเอียดสูงอีกหนึ่งช่องทาง รวมไปถึงมี Ethernet LAN ตัวเต็มและพอร์ต USB 3.0 อีกสามพอร์ต แน่นอนว่าพวกช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรและ Card Reader ก็ติดตั้งมาด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยเข้าใช้งานด้วย Finger Print ได้อีกด้วย

ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมของ HP ZBook Studio G3 ต้องบอกว่าสมกับเป็น Mobile Workstation ยุคใหม่จริงๆ ที่ทั้งบางเบาพกพาได้ง่าย ติดตัวไปได้ทุกที่ ไม่เหมือนกับ Mobile Workstation เมื่อหลายปีก่อน ส่วนประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าแรงเหลือเฟือมากๆ สำหรับงานทั่วไป รวมไปถึงงานที่เป็นการประมวลผล 2 มิติ ทดสอบจากการโปรเซสภาพ หรือใช้งานหลายๆ โปรแกรม แต่สำหรับการใช้งานหนักๆ อย่างงาน 3 มิติ หรือเรนเดอร์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K นั้น ต้องบอกว่าอาจจะไม่รวดเร็วทันใจเท่ากับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ Workstation นัก อย่างไรก็ตามโดยรวมถือว่าสอบผ่านกับการใช้งานได้ดีทีเดียว ที่แม้ว่าประสิทธิภาพในการทำงานจะสูง แต่เมื่อใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในโหมดประหยัดพลังงานก็อยู่ได้ประมาณ 9 ชั่วโมงเลยล่ะ

สนนราคา HP ZBook Studio G3 ที่ผมรีวิวนี้เริ่มต้นอยู่ที่เจ็ดหมื่นกว่าบาทจนไปถึงแสนกว่าบาท ขึ้นอยู่กับสเปกที่เราสั่งและออฟชั่นอื่นๆ ที่ต้องการใช้งาน เริ่มต้นสเปกก็จะอยู่ที่ชิปประมวลผล Core i7 กับแรม 8GB พร้อมหน้าจอ Full HD ส่วนสเปกอื่นๆ ก็คล้ายๆ เดิม สำหรับการรับประกันอยู่ที่ 3 ปี พร้อมบริการ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ที่จัดว่าตรงนี้เหนือกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป รวมไป HP ZBook Studio G3 ก็อยู่ในจุดสูงสุดของซีรีส์ ZBook ด้วย ซึ่งตรงนี้ใครสนใจก็สามารถติดต่อกับทาง HP โดยตรงได้เลย หรือ Line ID: hpbiz เพราะ HP ZBook ไม่ได้มีขายตามหน้าร้านทั่วไปนะครับ เพราะต้องยอมรับว่าเป็นของเฉพาะทางจริงๆ

ปิดท้ายซะหน่อย คาดว่าในใจหลายๆ คนอาจจะเอาไปเทียบกับ MacBook Pro Retina 15 ที่ต้องบอกว่ามีหลายๆ อย่างที่ HP ZBook Studio G3 เหนือกว่าเยอะ ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผล แรม การ์ดจอ หน้าจอ พอร์ตการเชื่อมต่อ ...(ก็เกือบทั้งหมด) ที่ตรงนี้ต้องบอกเลยว่าใครไม่มีความจำเป็นต้องโปรแกรมที่มีเฉพาะ OS X ล่ะก็ HP ZBook Studio G3 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในฟากฝั่งของ Windows

จุดเด่นของ HP ZBook Studio G3

- ตัวเครื่องหนาเพียง 18 มิลลิเมตร 1.99 กิโลกรัม
- ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด 4K Ultra HD
- พาเนลจอ DreamColor Display สวยงามเป็นธรรมชาติ
- ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบที่อยู่ในระดับสูง
- แข็งแรง ทนทน ด้วยวัสดุและการออกแบบที่ใส่ใจ
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีมาก
- มาพร้อม Finger Print Reader
- พอร์ต Thunderbolt 3 (USB 3.1 Type-C) และ HDMI มาตรฐาน
- ใช้งานแบตเตอรี่ได้ราวๆ 9 ชั่วโมง
- ราคาต่อประสิทธิภาพสามารถปรับได้ตามต้องการ
- รับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ข้อสังเกตของ HP ZBook Studio G3

- ราคาสูงกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปมาก