ผมทำงานบ้านให้เมีย แล้วเจอแม่ด่า T T

พาพื้นที่ระบาย จะพยายามสรุปแล้วกัน อึดอัด ไม่รู้จะทำอะไรเท่าไหร่ จริงๆ ก็พอมีทางออกในหัว แต่ก็คิดว่า 'ทำไมต้องเป็นอย่างนี้วะ'
เรื่องของเรื่องคือผมกับแฟน(ภรรยาแต่ขอพิมพ์ง่ายๆ) ปกติอยู่ด้วยกัน 2 คนในกทม. ปกติผมจะทำงานบ้านในสัดส่วน 70: 30 กับแฟน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะผมเจ้าระเบียบมากกว่า จุกจิกกว่า แต่สาเหตุหนึ่งคือผมทำงานอยู่กับห้อง ส่วนแฟนต้องเดินทางเวลาผมจึงมากกว่า ผมก็ไม่เกี่ยงอะไร เพราะทำมาตั้งแต่ 10 ขวบกว่าๆ ตอนอยู่มัธยม(อยู่หอ) จนตอนนี้ 35 แล้ว และไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเบี้ยล่าง หรือเป็นสามีต้นแบบอะไรหรอก
ประเด็นคือหลังจากแต่งงานได้ ปีกว่าๆ เราก็มีเจ้าตัวเล็ก และคิดพิจารณาถึงการย้ายกลับมาอยู่ตจว. นั่นอาจจะเป็นแผนในอนาคต
ตอนนี้แฟนเพิ่งคลอดลูกได้ 2 อาทิตย์ เธอลาคลอด 3 เดือน ผมเลยพากลับมาตจว. เพื่อจะได้มีคนช่วยเลี้ยงหลาน มีพื้นที่ ได้เจอญาติ ฯลฯ
ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์ไม่นับปัญหาเรื่องความเชื่อ(การอยู่ไฟ อาหาร อ่อ ผมเรียนทางด้านฝั่งแพทย์คณะหนึ่งผมไม่เห็นด้วยหลายๆ อย่าง) แต่ปัญหา
ที่ทำให้อึดอัดมาก อึดอัดกว่าที่พิมพ์ จนเมื่อวานนี่หลั่งน้ำตาเลย คือ

ผมทำงานบ้านให้เมีย แล้วเจอแม่ด่า T T
คือผมมีเหตุผลนะ เมียผมผ่าคลอด เจ็บแผล ผมอยากให้แผลหายเร็วๆ แต่นั่นยังเป็นเรื่องรอง คือส่วนตัวผมคิดว่าการเลี้ยงลูกมันหนักมากอยู่แล้ว (ผมก็ช่วยเลี้ยง) แต่ลูกไม่ค่อยงอแงตอนอยู่กับผมอาจจะเพราะนม หรือจิตวิทยาผมเรียนสายนี้มากกว่า (เมียจบบัญชี)) ผมก็คิดว่าการทำงานบ้านมันไม่ใช่ปัญหาอะไร ปกติก็ช่วยๆ กันอยู่แล้ว

แม้ผมจะทำงานบ้านมากกว่า + ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่อำนาจการตัดสินใจต่างๆ ผมก็ตัดสินใจตลอด ไม่ใช่คนกลัวเมียนะ ไม่งั้นคงไม่ได้มาอยู่บ้านผมตอนนี้ระหว่างลาคลอด

ประเด็นคือ แม่ผมนี่แหล่ะ คือผมก็รักแม่นะ พาหลานมาอยู่ด้วยช่วงนี้ อนาคตก็คิดถึงการส่งหลานมาเลี้ยงที่นี่ เพราะจะทั้งประหยัด บลาๆ แต่แม่น่ะ ก็บอกว่ารักแฟนเหมือนลูก พยายามทำอะไรให้หลายอย่าง แต่แกดูจะมีทัศนคติมาก่อนตั้งแต่ช่วงผมพาแฟนมาบ้านประมาณว่าแฟนผมไม่ 'ขยัน'

เราเป็นคนกลางก็ไม่เคยอยากให้แฟนถูกมองไม่ดี ที่ผ่านๆ มาแฟนก็ล้างจานให้ตลอด แต่งานอย่างอื่นในบ้าน คือมันเป็นบ้านของพ่อแม่ไง เธอจะทำอะไรอาจจะเงอะๆ เงิ่นๆ อันนี้ผมเข้าใจเธอมาก เพราะแม้ตอนอยู่ด้วยกัน แฟนจะบอกว่าผมขยันมาก ซึ่งผมเป็นปกติของผม แต่ผมเจอปัญหาเดียวกันพอกลับบ้าน จะดูเหมือนถูกมองว่าเป็น 'คนขี้เกียจที่สุดในโลก' ในสายตาพ่อแม่เลยทีเดียว

พอช่วงนี้ลูกเพิ่งคลอด ผมทำทุกอย่างให้แฟนเลยนะ ผมคิดว่าการตื่นมาให้นมทุกๆ 3 ชั่วโมง และจัดการของใช้เด็กก็เหนื่อยพอแล้ว ไม่นับว่าเจ็บแผลคลอดอีก
แต่ลับหลัง พอผมได้นั่งคุยกับพ่อแม่ แม่พยายามบอกให้แฟนเราขยันขึ้น และบอกว่าแกมองมานานแล้วยกเรื่องเก่าๆ ที่ไม่เป็นเรื่องบอกบ้านโน้นบ้านนี้ อีกหน่อยจะเหมือนลุงข้างบ้านเมียชี้นิ้วสั่งทำงานทุกอย่าง อะไรจะขนาดนั้น
คือเราเข้าใจว่าแม่เป็นห่วง แต่วิธีการพูด หรือทัศนคติต่อแฟนของเรา ซึ่งเราเป็นสามีก็ไม่อยากให้เมียตัวเองถูกมองอย่างนั้น แต่เพราะแกได้อยู่แค่ช่วงที่เรากลับบ้าน หรือมีข้อมูลต่างๆ ไม่ค่อยดี เหมือนจะ ‘ฝังหัว’
ยกตัวอย่างเช่นตอนพ่อแม่เราไปเจอกัน เยี่ยมเยียนกัน ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างพูดเรื่องไม่ค่อยดีของลูกตัวเอง ประมาณว่าทำงานไกลคนแถวบ้านไม่รู้จักครบ(ร ถูกแล้ว) และกลับบ้านก็ไม่ทำอะไร (แหงสิเราทำงานของเราก็เหนื่อยกลับบ้านเวลากลับขับรถทั้งวัน กลับไปที 2-3 วันไม่พักได้ไง)

คือสรุปว่า การทำงานบ้านให้แฟนเป็นเรื่องที่ดูจะผิดสำหรับแม่ และทำให้เราคิดถึงปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ ทำให้เรากังวลมาก อนาคตเรื่องจะเอาหลาน(ลูกเรา)มาอยู่ หรือกลับมาทำงานแถวบ้าน เพื่อดูแลพ่อแม่ทำให้เราชะงักไปเลย คือปกติกลับบ้านถ้ายาวๆ เป็นอาทิตย์ ผมเองก็โดนกับตัว ไม่ต้องแฟนหรอก ขนาดตัวเองยังทนไม่ค่อยได้ แล้วถ้าแฟนโดนผมว่าไม่ดีแน่ๆ

ตอนนี้ผมคิดว่าน่าจะอยู่บ้านไม่ถึง 3 เดือน เดี๋ยวคงอ้างโน่นอ้างนี่กลับไปเร็วหน่อย จริงๆ ก็เข้าใจหมดนะวัฒนธรรมตอนนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน แม่มักจะพูดว่าเมื่อก่อนเลี้ยงลูก 2 คนทำงานบ้านไปด้วยได้ ไม่เห็นเป็นไร(แม่คลอดเอง) และแกก็ขยันมากๆ จริงๆ ทำงานบ้านกับอยู่ร้านไปด้วย

แต่เราจะให้แฟนเรามาขยันเหมือนแม่คงเป็นไปไม่ได้(เลย) แฟนเราก็ทำงานประจำ เงินเดือนก็มีแม้จะน้อยกว่าเราไปบ้าง เราก็ไม่คิดว่ามันเอาเปรียบหรือลำบากยังไง พูดจริงๆ ต่อให้ทำจนแก่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสเมียอะไรเลย ของแบบนี้ผมคิดว่าต้องช่วยๆ กัน แม้สังเกตว่าหลายๆ บ้านยังมีวัฒนธรรมให้ผู้หญิงทำเองทุกอย่างหมด

เราคิดว่าวัฒนธรรมนี้มันควรจะยกเลิกไปด้วยซ้ำ ถ้าเมียอยู่บ้านเฉยๆ สามีทำงานก็ว่าไปอย่าง กลับกันถ้าสามีไม่ทำงาน เมียหาเงิน สามีก็ควรจะทำงานบ้านอะไรแบบนี้

แต่ตอนนี้รู้สึกปวดตับ นี่ก็แม่ นี่ก็เมีย เวลาแม่พูดโน่นพูดนี่ รู้สึกเศร้ามาก อนาคตผมจะลำบากขนาดนั้นเลยรึ...
ทางแก้ผมมีในใจแล้ว ถ้าแฟนหายเจ็บคงให้ทำอะไรมากขึ้น แต่ก็นั่นอีกแหล่ะ ผมคิดว่าเลี้ยงลูกก็หนักมากแล้ว และปัญหาใหญ่คือมันไม่สามารถล้าง 'ภาพลักษณ์' ที่ฝังหัวที่แม่ พูดตรงๆ ถ้าแฟนทำอะไรคงเหมือนเอาหน้าแหล่ะ ส่วนตัวผมเลยอยากให้แฟนเป็นธรรมชาติ แค่คงพยายามให้ผ่านช่วงนี้ไปได้(แฟนยังไม่ได้โดนอะไร ผมเนี่ยแหล่ะโดน แบกรับทุกอย่างเอง)

แต่อยากเล่าเผื่อเพื่อนๆ มาแชร์ประสบการณ์หรือมีทางออกยังไง แต่นาทีนี้ผมกับแฟนคิดว่าคงจะเลี้ยงลูกกันเองแล้วแหล่ะ เรื่องกลับมาอยู่บ้านด้วย ผมคิดว่าตัวผมเองก็ทนไม่ได้ ทั้งๆ ่ที่ก็รักพ่อแม่มากนะ แต่เรื่องตรงนี้เคลียร์กันไม่ได้ ต้องบอกว่าเรื่องเหตุผลผมไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดแบบโบราณของบ้านเราตรงนี้เลย

ใครมีทางออกหรือวิธีผ่อนคลายสถานการณ์แนะนำกันมาบ้าง ผมมีคำตอบว่าการทำงานบ้านให้เมียไม่ผิดนะ ถามเองตอบเองก่อน แต่ใครมีความเห็นยังไงบ้าง? เรื่องดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันเล่าได้แค่นี้แหล่ะ ต้องนึกภาพเพิ่มเติมกันเอาเอง รู้ว่าทุกอย่างเป็นช่องว่างระหว่างวัย ยุคสมัย ท่องไว้เลยว่าตัวเองในอนาคตอย่าเป็นแบบนี้ไม่รู้จะกรรมสนองหรือทำได้ไหม แต่ผมยังคิดว่าวิธีคิดของผมไม่น่าผิดนะ หรือใครๆ ว่ายังไง? และเอาไงดีกับอนาคต?

เชื่อว่าหลายคนอาจจะเจอนะ เวลาพยายามอธิบายพ่อแม่เราจะมองเราเป็นเด็กอยู่เสมอ แบบพูดอะไรก็ไม่ฟัง แต่จริงๆ อยากบอกพ่อแม่ทั้งหลายว่าฟังเหตุผลของลูกบ้างด้วย ผมมีลูกพี่ลูกน้องหลายคนที่วัยๆ ห่าง หลายคนเขาจะปรึกษาผมเลือกไม่ปรึกษาพ่อแม่เขา คราวนี้เป็นเรื่องตัวเองบ้าง ไม่ได้มีอะไรมาก อยากใช้ชีวิตสงบสุข ผ่อนคลาย มีความสุขกว่านี้

การที่แม่เห็นเราอาบน้ำให้ลูก, เช็ดตูด, เช็ดสะดือ, ทำทุกอย่างยกเว้นให้นม(จากเต้า) มันอาจจะแปลกตาสำหรับคนรุ่น 60 อัพจนเกินรับขนาดนั้นหรือ ? เศร้าจัง

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คุณ จขกท เป็นสามีที่น่ารักมากค่ะ ไม่ใช่เพราะช่วยภรรยาทำงานบ้านนะคะ แต่เพราะเข้าอกเข้าใจภรรยา เข้าใจถึงความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง การทำงานนอกบ้าน การเปลี่ยนความคิดผู้อื่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เห็นด้วยกับคห.1 ว่าการแยกบ้านน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะคะ
ความคิดเห็นที่ 12
ขอเล่าจากประสบการณ์ หลังคลอดต้องไปอยู่บ้านพ่อแม่แฟน เราร้องไห้ทุกวันเลย เพราะความต่างทางความคิด ลองคุยกับแฟน จขกท ว่าอยู่แล้วมีความสุขไหม เค้าคงรู้ทัศนคติของแม่ จขกท แล้ว แต่ไม่พูดอะไรมากกว่า คงกลัว จขกท ลำบากใจ

แฟน จขกท โชคดี ได้ จขกทเข้าใจ
ตอนเราต้องไปอยู่บ้านพ่อแม่เค้า แฟนเราไม่เข้าใจเราเลย เค้ามองว่ามาอยู่บ้านพ่อแม่เค้า เราสบาย มีคนช่วยเลี้ยงลูก มีคนทำอาหารให้กิน แต่ความจริงคือเราอึดอัด ทัศนคติการเลี้ยงเด็กก็ต่างกัน มีปัญหา เราผิดตลอด น้ำนมมีน้อยก็ว่าเรา สั่งโน้นนี่นั่นตลอด ห้ามโน้นนี่นั้น ส่วนสามีเรา เค้าก็ถูกใช้งานโน้นนี่นั้น ไม่ค่อยอยู่บ้าน ลูกก็ไม่ได้อุ้ม เพราะแม่เค้าไม่ยอมให้อุ้ม เราตั้งตารอให้หมดการอยู่เดือนแล้วกลับบ้านทุกวันเลย ช่วงนั้นนะ
ความคิดเห็นที่ 1
พอลูกโตนี่น่ากลัวจะโดนแม่บงการมากเลยครับ บางทีคุณอยากเอาไปเข้าโรงเรียนนึง แต่แม่คุณอาจจะสั่งให้ไปอีกโรงเรียนดีกว่า ไกลหน่อยแต่ดี
หรือว่าต้องนั่นนี่กะหลาน คุณจะไม่มีอิสระกับลูกคุณเลย

แยกบ้านไปดีสุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่