อยากแบ่งเรื่องราวหลังออกจาก รพ.  หลังได้รับการผ่าตัดมดลูก

ผ่าตัดมดลูกสาเหตุจากมีก้อนเนื้อประมาณ 10 cm. ที่ผนังมดลูก ตัดรังไข่ด้วยเนื่องด้วยวิจารณานของคุณหมอ ก้อนเนื้อที่ตัดออกมาได้ ก้อนโตน้ำหนักเกือบ 3 กิโล

แต่ประเด็นที่อยากแบ่งปันวันนี้คือ
หลังจากผ่าตัดได้ 9 วัน ออกมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านแล้ว 4-5วัน ก็เริ่มขับรถออกไปหาซื้อของกินของใช้ ช่วง 4 โมงเย็น พอ 6 โมงเย็นเริ่มมีเลือดไหลออกมามาก สีเลือดเหมือนประจำเดือน จึงใช้ผ้าอนามัย เมื่อผ้าอนามัยแผ่นแรกเต็ม ก็เริ่มวิตก เพราะใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็เต็ม แถมมีลิ่มเลือดออกมาพอควร จนตามมาด้วยแผ่นที่ 2-3 ก็โทรหาเพื่อนพยาบาลพร้อมส่งรูปก้อนลิ่มเลือดไปให้ดู เพื่อนพยาบาลบอกว่า ดูจากสีเลือดแล้ว น่าจะเป็นเลือดเก่า ทำให้รู้สึกเบาใจขึ้น แต่สิ่งที่กังวลตามมาคือ  ก้อนลิ่มเลือดออกมาเยอะมาก ลองนั่งโถแค่ช่วง 2-3 นาที จะมีก้อนลิ่มหลุดมา 2-3 ก้อน
แต่เพื่อนพยาบาลถามว่า มีอาการหน้ามืดจะเป็นลมด้วยมั้ย " ไม่มี" มีไข้ด้วยมั้ย "ไม่มี"  ปวดท้องด้วยมั้ย " ไม่ปวด"แค่รู้สึกกลัวจนร้อนวูบวาบ จนไม่กล้าหลับ  ถามเพื่อนว่าไป รพ.ดีมั้ย เพื่อนบอกว่า ถ้าไม่มีอาการที่ถาม ก็นอนดูอาการอยู่ที่บ้านน่าจะดีกว่า เพราะถึงมา รพ. หมอเวรก็คงนอนให้รอดูอาการ ถ้าเช้าแล้วยังไม่หยุดก็ค่อยมา

ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง ตี 4 เปลี่ยนผ้าอนามัยไป 9 แผ่น ทุกแผ่นเปียกโชก และมีลิ่มเลือด ลิ่มเลือดกัอนสุดท้ายที่ออกมาเมื่อตอนตี 4 ใหญ่ประมาณไข่เป็ด จนตอนนี้ เวลา 12:30 ไม่มีเลือดซักหยดติดผ้าอนามัย
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปหาหมอ แต่อาการเลือดไหลหยุดไปแล้วเหมือนปิดก้อก ส่วนอาการอื่นๆไม่มีมาเพิ่มเติม คิดว่าจะคุยสอบถามกับหมอทีเดียวตอนวันนัดที่  17 เดือนนี้

เพื่อนๆคนไหนผ่านเรื่องราวแบบนี้มาบ้าง มาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังนะคะ