สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นเกี่ยวกับความรักของเราก่อนนิดนึงนะคะ คือ
เรารู้จักกับแฟนมา 1 ปีแล้วค่ะ แฟนอายุมากกว่าเรา 3 ปี
แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นานที่คบกัน แต่เรากับแฟนมีความจริงจังต่อกันค่ะ
เราวางแผนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน และแต่งงานกันอีก 2 ปีข้างหน้า
ดังนั้นเราจึงอยากรู้จักตัวตนของแฟนให้มาก และอยากแน่ใจว่าเรากับเค้าจะเข้ากันได้ดี
ในตอนที่เราอาจมีปัญหากัน อยากแน่ใจว่าเราและเค้าจะผ่านปัญหานั้นไปด้วยความเข้าใจ
เราเป็นคนชอบถาม เพราะแฟนเราเป็นคนพูดน้อย เราชอบฟังความคิดเห็นของแฟน
ว่าเค้าคิดยังไง คิดเหมือนกันกับเราไหม แล้วก็จะเกิดประเด็น Discuss กัน
เมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น มันก็จะทำให้เรารู้ความคิดของอีกฝ่ายมากขึ้นค่ะ
แต่ความรักของเราอาจจะแตกต่างจากคู่อื่นๆ อยู่นิดนึง
ตรงที่คู่อื่นเวลามีเรื่องไม่เข้าใจกัน ก็จะคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น หรืออาจจะทะเลาะกัน
และเราเองก็คิดว่าการคุยกัน หรือการทะเลาะกันของคู่รักเป็นเรื่องปกติ
คิดว่าเป็นเรื่องดี หากการทะเลาะกันทำให้เรารู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น
แต่แฟนเราอาจจะถูกเลี้ยงมาต่างจากเราค่ะ ด้วยพื้นฐานครอบครัวของเค้า
พ่อแม่เค้าไม่เคยทะเลาะกันเลย และก็ยังอยู่ด้วยกันได้ดีจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น เค้าจึงเป็นคนไม่ชอบความขัดแย้ง และจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการลดความขัดแย้งลงเสมอ
ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องใดๆ และเรื่องความรักก็เช่นกันค่ะ
แฟนไม่เคยทะเลาะกับเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนมากจะเป็นเราเองฝ่ายเดียวที่งอน น้อยใจ และทุกครั้งที่เรารู้สึกไม่เข้าใจ
เราก็จะไม่เก็บไว้ในใจคนเดียวค่ะ จะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนเสมอว่า
ตอนนี้เราสองคนกำลังมีปัญหาเรื่องอะไรกันอยู่ อะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ไม่พอใจ
อะไรที่เราต้องการ แล้วอะไรที่เค้าต้องการ เพื่อหาจุดตรงกลางระหว่างกัน
และปรับตัวเข้าหากัน เราคิดเสมอว่าความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญในการคบหากัน
จากที่เล่ามาดูๆ แล้วเหมือนเราจะเป็นฝ่ายหาเรื่องแฟนใช่ไหมคะ
แฟนเราก็เคยพูดเหมือนกันว่าเราชอบหาเรื่องเค้า (ซึ่งยิ่งเราได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งนะ..)
แต่จริงๆแล้ว เราเป็นพวกบ้าเหตุผล ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องถาม ขอเหตุผลอยู่เสมอค่ะ
แล้วเหตุผลที่ได้มานั้นต้องเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วยนะคะ
ถ้าแฟนให้เหตุผลอะไรมาที่ฟังไม่ขึ้น หรือหาเหตุผลมาสนับสนุนไม่ได้ เราก็จะยิ่งไม่เข้าใจ
ส่วนมากเวลาเรารู้สึกไม่ดี หรือไม่เข้าใจในตัวแฟน
เราจะถามแฟนนั่นนี่ ตามสเต๊ปของเราไปเรื่อยๆ แล้วให้แฟนตอบ (อารมณ์เหมือนกำลังสอบปากคำ)
แฟนก็จะพยายามทำบรรยากาศให้ดูน่ารัก อ้อนเรา บอกรักเรา
ยกตัวอย่างเช่นประโยคนี้ "ถึงเบ๊บจะคิดไม่ออก พูดไม่เก่ง อธิบายไม่ถูก แต่เบ๊บก็รักบี๊นะ"
ก็ยอมรับนะว่าประโยคนี้ทำให้เรายิ้ม แล้วก็เอ็นดูในความน่ารักของแฟน ทำให้ใจเราเย็นลง
หรือบางทีเราถามจนเค้าตอบไม่ถูก เค้าก็จะตอบคำถามน่ารักๆ กลับมา เช่น
Q: แล้วบี๊จะเชื่อเบ๊บได้ไง เบ๊บจะหลอกบี๊ไหม?
A: ม่ายยย เบ๊บเป็นไดโนเสาร์ ไดโนเสาร์ไม่หลอกบี๊
นั่นก็ถือว่าเป็นข้อดีในตัวของเค้าใช่ไหมคะ
แต่ต่อให้ความโมโห ความหงุดหงิดของเราจะหายไป
เราก็ยังไม่ได้เหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้เราเข้าใจเค้าค่ะ
มีเหตุการณ์หนึ่งค่ะ แฟนบอกเราล่วงหน้าไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องไปทานข้าวกับที่ทำงาน
ลูกค้าต้องการเลี้ยงพูดคุยสังสรรค์ (ที่ร้านอาหารโรงเบียร์เยอร์มันฯ)
แล้วเค้าก็ไปกับน้องๆในทีมที่ทำงาน เราขอไปด้วย แต่เค้าไม่อยากให้เราไป
และบอกว่าคนอื่นๆ ก็ไม่ได้พาแฟนไปด้วย เราก็ตกลงว่าจะไม่ไป
วันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์ค่ะ พอเลิกงานแล้วเราก็รู้สึกเหงาและหิวผิดปกติ
เลยตัดสินใจแอบไปที่โรงเบียร์เยอร์มันฯ คนเดียว และเลือกนั่งโต๊ะชั้นสอง
เพื่อจะได้มองเห็นโต๊ะที่แฟนและเพื่อนร่วมงานนั่งกันอยู่ค่ะ
เชื่อไหมคะว่า ตอนนั้นรู้สึกแฮปปี้มาก เหมือนแฟนอยู่ใกล้ๆเรา ลดความคิดถึงแฟนลงไปได้นิดนึง
นั่งจิบเบียร์ไป แล้วก็มองดูพฤติกรรมของแฟน ตอนที่เค้าอยู่นอกสายตาเรา เค้ายังน่ารักเหมือนเดิมค่ะ ^^
แล้วประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ เรามองไปอีกทีก็ไม่เห็นเค้านั่งที่โต๊ะแล้ว
เราจึงเดินไปที่โต๊ะของเค้า แล้วถามเพื่อนร่วมงานของเค้าว่า เค้าไปไหน จึงรู้ว่าเค้าขอตัวกลับไปก่อน
เราเลยบอกเพื่อนร่วมงานของแฟนว่า ไม่ต้องบอกแฟนนะว่าเราแอบตามมา จากนั้นเราก็กลับบ้านไป
เช้าวันต่อมา แฟนถามว่า "เมื่อวานนี้บี๊ไปทานข้าวที่ไหนมา"
แต่เราไม่ยอมบอกเค้าค่ะ เค้าก้อไม่ได้ซัก หรือเซ้าซี้จะเอาคำตอบอะไร
แฟนก็พูดว่า "ถ้าบี๊ไม่อยากบอกก็ไม่เปนไรครับ"
จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ผ่านมาประมาณหลายเดือนอยู่
ทุกครั้งที่เรากับแฟนขับรถผ่านโรงเบียร์นั้น เราก็จะพูดถึงโรงเบียร์เสมอๆ
หรือบางทีก็แกล้งถามเค้าว่า "สมมติว่าถ้าเค้าไปงานเลี้ยงกับที่ทำงาน แล้วไม่ให้เราไป
แต่เราแอบตามไป เค้าจะโกรธเราไหม? "
เค้าก็ตอบว่า "ไม่โกรธครับ จะโกรธทำไมในเมื่อบี๊อยากไปหาเบ๊บ"
จนในที่สุด เราก็สารภาพกับแฟนค่ะว่า วันนั้นเราแอบตามเค้าไป แฟนก็ตอบกลับมาว่า "อ้าวหรอ?"
แต่ปรากฎว่าเหมือนเราถูกเซอร์ไพร์สกว่าค่ะ เพราะเราจับอาการในน้ำเสียงเค้าได้ว่า
เค้ารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่เค้าแกล้งทำเป็นไม่รู้
เราเลยถามแฟนว่าเค้ารู้เรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม แล้วรู้ได้ไง ใครบอกเค้า
คือรู้จากเพื่อนร่วมงานของแฟนแหละค่ะ รู้ตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นจากคืนนั้น
แล้วเราก็รู้สึกแย่ค่ะ อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจว่าเมื่อเค้ารู้แล้วแต่ทำไมไม่ยอมเปิดใจคุยกับเรา
แล้วก็คงรู้สึกแย่เพราะเสียเซลฟ์ด้วยค่ะ เลยพาลโกรธแฟนไปเฉยๆ
เราอยากคบกันแบบเปิดใจคุยกันทุกเรื่อง แล้วตอนนั้นก็พาลคิดมากไปอีกว่า
ทำไมเค้าไม่ยอมเปิดใจ ทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
แล้วก็กังวลไปอีกว่า แล้วต่อไปภายหน้า แฟนจะเปิดใจคุยกับเราทุกเรื่องรึป่าว บลาๆ
ด้วยความกังวล + ความหงุดหงิด เลยพูดจาแรงใส่แฟนไป
แล้วแฟนก็ถามเรากลับว่า "ทำไมต้องว่าเบ๊บด้วย"
เราก็เลยรู้สึกตัวขึ้นมาค่ะ ว่าพูดแรงไปจริงๆ เลยรีบขอโทษแฟน
จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ แฟนบอกเราแค่ว่า อย่าคิดมาก
เค้าเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร เค้าคิดแต่สิ่งดีๆ
แล้วก้อสอนเราอีกว่าให้เราคิดแต่สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาเอง
แต่ด้วยความเป็นเรา เราเป็นหญิงผู้ชอบคิดมาก ก็ยังคิดมากเรื่องที่เราพูดกับเค้าแรงไป
เสียใจที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วทำร้ายจิตใจแฟน
แล้วช่วงที่เรากำลังหงุดหงิดอยู่ ต่อให้แฟนพูดอธิบายอะไร เราก็ไม่ค่อยได้ยินได้ฟังเค้าหรอกค่ะ
ตอนนี้มานั่งทบทวนแล้วก็คิดได้ค่ะ ว่าคงเป็นเพราะความที่แฟนไม่ชอบความขัดแย้ง
และเค้าก็อาจจะกลัวว่าถ้าถามหรือพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เราอาจจะไม่พอใจแล้วทะเลาะกันก็ได้
แฟนเลยเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ และอาจเป็นเพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าเราไปไหนมา
ในเมื่อเราเองไม่ยอมบอกแฟนตั้งแต่แรกว่าเราไปไหนมา เค้าเลยรอให้เราเป็นคนบอกเอง
ถึงแม้ตอนนี้แฟนจะไม่ยอมทะเลาะกับเราก็ตาม หรือมองว่าเรื่องเล็กน้อยนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร
แล้วก็คิดและคุยกับเราแต่เรื่องดีๆ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรารู้จักและเข้าใจเค้ามากขึ้นไปอีกว่า
ยังไงๆ เค้าก้อไม่ยอมทะเลาะกับเราค่ะ
สรุป การที่เราจะรู้จักกัน หรือเข้าใจกันมากขึ้นไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันก็ได้
แต่เราสามารถเรียนรู้กันและกันในรูปแบบอื่นได้
ปล. ควรหยุดหาเรื่องแฟน
(ถ้าเขียนบกพร่องตรงไหน ขออภัยนะคะ)
แชร์เรื่องความรักค่ะ แฟนไม่ยอมทะเลาะด้วย แล้วจะเข้าใจกันได้ไง?
เรารู้จักกับแฟนมา 1 ปีแล้วค่ะ แฟนอายุมากกว่าเรา 3 ปี
แม้จะเป็นระยะเวลาไม่นานที่คบกัน แต่เรากับแฟนมีความจริงจังต่อกันค่ะ
เราวางแผนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน และแต่งงานกันอีก 2 ปีข้างหน้า
ดังนั้นเราจึงอยากรู้จักตัวตนของแฟนให้มาก และอยากแน่ใจว่าเรากับเค้าจะเข้ากันได้ดี
ในตอนที่เราอาจมีปัญหากัน อยากแน่ใจว่าเราและเค้าจะผ่านปัญหานั้นไปด้วยความเข้าใจ
เราเป็นคนชอบถาม เพราะแฟนเราเป็นคนพูดน้อย เราชอบฟังความคิดเห็นของแฟน
ว่าเค้าคิดยังไง คิดเหมือนกันกับเราไหม แล้วก็จะเกิดประเด็น Discuss กัน
เมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น มันก็จะทำให้เรารู้ความคิดของอีกฝ่ายมากขึ้นค่ะ
แต่ความรักของเราอาจจะแตกต่างจากคู่อื่นๆ อยู่นิดนึง
ตรงที่คู่อื่นเวลามีเรื่องไม่เข้าใจกัน ก็จะคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น หรืออาจจะทะเลาะกัน
และเราเองก็คิดว่าการคุยกัน หรือการทะเลาะกันของคู่รักเป็นเรื่องปกติ
คิดว่าเป็นเรื่องดี หากการทะเลาะกันทำให้เรารู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น
แต่แฟนเราอาจจะถูกเลี้ยงมาต่างจากเราค่ะ ด้วยพื้นฐานครอบครัวของเค้า
พ่อแม่เค้าไม่เคยทะเลาะกันเลย และก็ยังอยู่ด้วยกันได้ดีจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น เค้าจึงเป็นคนไม่ชอบความขัดแย้ง และจะแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการลดความขัดแย้งลงเสมอ
ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องใดๆ และเรื่องความรักก็เช่นกันค่ะ
แฟนไม่เคยทะเลาะกับเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนมากจะเป็นเราเองฝ่ายเดียวที่งอน น้อยใจ และทุกครั้งที่เรารู้สึกไม่เข้าใจ
เราก็จะไม่เก็บไว้ในใจคนเดียวค่ะ จะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนเสมอว่า
ตอนนี้เราสองคนกำลังมีปัญหาเรื่องอะไรกันอยู่ อะไรที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ไม่พอใจ
อะไรที่เราต้องการ แล้วอะไรที่เค้าต้องการ เพื่อหาจุดตรงกลางระหว่างกัน
และปรับตัวเข้าหากัน เราคิดเสมอว่าความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญในการคบหากัน
จากที่เล่ามาดูๆ แล้วเหมือนเราจะเป็นฝ่ายหาเรื่องแฟนใช่ไหมคะ
แฟนเราก็เคยพูดเหมือนกันว่าเราชอบหาเรื่องเค้า (ซึ่งยิ่งเราได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งนะ..)
แต่จริงๆแล้ว เราเป็นพวกบ้าเหตุผล ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องถาม ขอเหตุผลอยู่เสมอค่ะ
แล้วเหตุผลที่ได้มานั้นต้องเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วยนะคะ
ถ้าแฟนให้เหตุผลอะไรมาที่ฟังไม่ขึ้น หรือหาเหตุผลมาสนับสนุนไม่ได้ เราก็จะยิ่งไม่เข้าใจ
ส่วนมากเวลาเรารู้สึกไม่ดี หรือไม่เข้าใจในตัวแฟน
เราจะถามแฟนนั่นนี่ ตามสเต๊ปของเราไปเรื่อยๆ แล้วให้แฟนตอบ (อารมณ์เหมือนกำลังสอบปากคำ)
แฟนก็จะพยายามทำบรรยากาศให้ดูน่ารัก อ้อนเรา บอกรักเรา
ยกตัวอย่างเช่นประโยคนี้ "ถึงเบ๊บจะคิดไม่ออก พูดไม่เก่ง อธิบายไม่ถูก แต่เบ๊บก็รักบี๊นะ"
ก็ยอมรับนะว่าประโยคนี้ทำให้เรายิ้ม แล้วก็เอ็นดูในความน่ารักของแฟน ทำให้ใจเราเย็นลง
หรือบางทีเราถามจนเค้าตอบไม่ถูก เค้าก็จะตอบคำถามน่ารักๆ กลับมา เช่น
Q: แล้วบี๊จะเชื่อเบ๊บได้ไง เบ๊บจะหลอกบี๊ไหม?
A: ม่ายยย เบ๊บเป็นไดโนเสาร์ ไดโนเสาร์ไม่หลอกบี๊
นั่นก็ถือว่าเป็นข้อดีในตัวของเค้าใช่ไหมคะ
แต่ต่อให้ความโมโห ความหงุดหงิดของเราจะหายไป
เราก็ยังไม่ได้เหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้เราเข้าใจเค้าค่ะ
มีเหตุการณ์หนึ่งค่ะ แฟนบอกเราล่วงหน้าไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องไปทานข้าวกับที่ทำงาน
ลูกค้าต้องการเลี้ยงพูดคุยสังสรรค์ (ที่ร้านอาหารโรงเบียร์เยอร์มันฯ)
แล้วเค้าก็ไปกับน้องๆในทีมที่ทำงาน เราขอไปด้วย แต่เค้าไม่อยากให้เราไป
และบอกว่าคนอื่นๆ ก็ไม่ได้พาแฟนไปด้วย เราก็ตกลงว่าจะไม่ไป
วันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์ค่ะ พอเลิกงานแล้วเราก็รู้สึกเหงาและหิวผิดปกติ
เลยตัดสินใจแอบไปที่โรงเบียร์เยอร์มันฯ คนเดียว และเลือกนั่งโต๊ะชั้นสอง
เพื่อจะได้มองเห็นโต๊ะที่แฟนและเพื่อนร่วมงานนั่งกันอยู่ค่ะ
เชื่อไหมคะว่า ตอนนั้นรู้สึกแฮปปี้มาก เหมือนแฟนอยู่ใกล้ๆเรา ลดความคิดถึงแฟนลงไปได้นิดนึง
นั่งจิบเบียร์ไป แล้วก็มองดูพฤติกรรมของแฟน ตอนที่เค้าอยู่นอกสายตาเรา เค้ายังน่ารักเหมือนเดิมค่ะ ^^
แล้วประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ เรามองไปอีกทีก็ไม่เห็นเค้านั่งที่โต๊ะแล้ว
เราจึงเดินไปที่โต๊ะของเค้า แล้วถามเพื่อนร่วมงานของเค้าว่า เค้าไปไหน จึงรู้ว่าเค้าขอตัวกลับไปก่อน
เราเลยบอกเพื่อนร่วมงานของแฟนว่า ไม่ต้องบอกแฟนนะว่าเราแอบตามมา จากนั้นเราก็กลับบ้านไป
เช้าวันต่อมา แฟนถามว่า "เมื่อวานนี้บี๊ไปทานข้าวที่ไหนมา"
แต่เราไม่ยอมบอกเค้าค่ะ เค้าก้อไม่ได้ซัก หรือเซ้าซี้จะเอาคำตอบอะไร
แฟนก็พูดว่า "ถ้าบี๊ไม่อยากบอกก็ไม่เปนไรครับ"
จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ ผ่านมาประมาณหลายเดือนอยู่
ทุกครั้งที่เรากับแฟนขับรถผ่านโรงเบียร์นั้น เราก็จะพูดถึงโรงเบียร์เสมอๆ
หรือบางทีก็แกล้งถามเค้าว่า "สมมติว่าถ้าเค้าไปงานเลี้ยงกับที่ทำงาน แล้วไม่ให้เราไป
แต่เราแอบตามไป เค้าจะโกรธเราไหม? "
เค้าก็ตอบว่า "ไม่โกรธครับ จะโกรธทำไมในเมื่อบี๊อยากไปหาเบ๊บ"
จนในที่สุด เราก็สารภาพกับแฟนค่ะว่า วันนั้นเราแอบตามเค้าไป แฟนก็ตอบกลับมาว่า "อ้าวหรอ?"
แต่ปรากฎว่าเหมือนเราถูกเซอร์ไพร์สกว่าค่ะ เพราะเราจับอาการในน้ำเสียงเค้าได้ว่า
เค้ารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่เค้าแกล้งทำเป็นไม่รู้
เราเลยถามแฟนว่าเค้ารู้เรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม แล้วรู้ได้ไง ใครบอกเค้า
คือรู้จากเพื่อนร่วมงานของแฟนแหละค่ะ รู้ตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นจากคืนนั้น
แล้วเราก็รู้สึกแย่ค่ะ อาจเป็นเพราะไม่เข้าใจว่าเมื่อเค้ารู้แล้วแต่ทำไมไม่ยอมเปิดใจคุยกับเรา
แล้วก็คงรู้สึกแย่เพราะเสียเซลฟ์ด้วยค่ะ เลยพาลโกรธแฟนไปเฉยๆ
เราอยากคบกันแบบเปิดใจคุยกันทุกเรื่อง แล้วตอนนั้นก็พาลคิดมากไปอีกว่า
ทำไมเค้าไม่ยอมเปิดใจ ทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
แล้วก็กังวลไปอีกว่า แล้วต่อไปภายหน้า แฟนจะเปิดใจคุยกับเราทุกเรื่องรึป่าว บลาๆ
ด้วยความกังวล + ความหงุดหงิด เลยพูดจาแรงใส่แฟนไป
แล้วแฟนก็ถามเรากลับว่า "ทำไมต้องว่าเบ๊บด้วย"
เราก็เลยรู้สึกตัวขึ้นมาค่ะ ว่าพูดแรงไปจริงๆ เลยรีบขอโทษแฟน
จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ แฟนบอกเราแค่ว่า อย่าคิดมาก
เค้าเองก็ไม่ได้คิดมากอะไร เค้าคิดแต่สิ่งดีๆ
แล้วก้อสอนเราอีกว่าให้เราคิดแต่สิ่งดีๆ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาเอง
แต่ด้วยความเป็นเรา เราเป็นหญิงผู้ชอบคิดมาก ก็ยังคิดมากเรื่องที่เราพูดกับเค้าแรงไป
เสียใจที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วทำร้ายจิตใจแฟน
แล้วช่วงที่เรากำลังหงุดหงิดอยู่ ต่อให้แฟนพูดอธิบายอะไร เราก็ไม่ค่อยได้ยินได้ฟังเค้าหรอกค่ะ
ตอนนี้มานั่งทบทวนแล้วก็คิดได้ค่ะ ว่าคงเป็นเพราะความที่แฟนไม่ชอบความขัดแย้ง
และเค้าก็อาจจะกลัวว่าถ้าถามหรือพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เราอาจจะไม่พอใจแล้วทะเลาะกันก็ได้
แฟนเลยเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ และอาจเป็นเพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าเราไปไหนมา
ในเมื่อเราเองไม่ยอมบอกแฟนตั้งแต่แรกว่าเราไปไหนมา เค้าเลยรอให้เราเป็นคนบอกเอง
ถึงแม้ตอนนี้แฟนจะไม่ยอมทะเลาะกับเราก็ตาม หรือมองว่าเรื่องเล็กน้อยนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร
แล้วก็คิดและคุยกับเราแต่เรื่องดีๆ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เรารู้จักและเข้าใจเค้ามากขึ้นไปอีกว่า
ยังไงๆ เค้าก้อไม่ยอมทะเลาะกับเราค่ะ
สรุป การที่เราจะรู้จักกัน หรือเข้าใจกันมากขึ้นไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันก็ได้
แต่เราสามารถเรียนรู้กันและกันในรูปแบบอื่นได้
ปล. ควรหยุดหาเรื่องแฟน
(ถ้าเขียนบกพร่องตรงไหน ขออภัยนะคะ)