ที่มาของกระทู้แรกของเราในครั้งนี้ เป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อน แม้อาจจะเป็นเรื่องภายในครอบครัว ที่ไม่ค่อยอยากเล่าให้คนภายนอกรับรู้สักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากเราอยากได้แนวคิด และคำแนะนำจากทุกคน จึงขอเล่าก่อนเข้าเรื่องปัญหานะคะ
เรื่องสุดช็อคที่เป็นที่มาของปัญหาคือ พ่อนอกใจแม่ ไปคบผู้หญิงคนอื่นซึ่งเป็นแม่ม่ายอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งแม่ก็รู้จักด้วย ตอนแรกก็อาจจะแอบคบ แต่ตอนหลังมาค่อนข้างจะเป็นที่เปิดเผย เดินเข้านอกออกใน ไปกินข้าวที่บ้านนั้นบ้าง นอนค้างบ้าง แล้วก็กลับมาบ้านในเช้าวันถัดไป ซึ่งในตอนแรกแม่ก็ระแคะระคายอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ปักใจ จนมีผู้หวังดีคอยแจ้งข่าวเป็นระยะ จนจับได้แน่ชัด ในตอนแรกพ่อไม่ยอมรับ ทั้งพ่อและแม่ก็ทะเลาะกันใหญ่โต ถึงขนาดที่แม่เผาเสื้อผ้าของใช้ของพ่อ จนพ่อโกรธมาก ประกาศว่าจะเลิก และไม่อยู่ร่วมกันอีกต่อไป แต่ไม่ว่ากับแม่ พ่อจะพูดยังไง กับเราพ่อก็ยังไม่ยอมรับความจริงที่ว่าพ่อนอกใจแม่อยู่ดี เราซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด รับรู้ได้จากการคุยโทรศัพท์เท่านั้น ทั้งทางฝั่งพ่อและแม่ พูดไม่เหมือนกันเลย จนเราลำบากใจ
แต่ในที่สุด ตอนที่เรากลับไปบ้าน เราก็คาดคั้นจนรู้ความจริงจนได้ พ่อยอมรับว่านอกใจจริง แต่ทำไปหลังจากที่แม่เผาของของพ่อแล้ว แม่ไม่เคยเรียกพ่อกินข้าว พ่อเลยต้องไปหากินที่อื่น จนที่สุดพ่อขอหย่ากับแม่ ไม่งั้นก็คงต้องค้างคาอย่างนี้ อยู่แบบ 3 คนผัวเมีย เทียวบ้านนั้นที บ้านนี้ที แต่แม่ไม่ยอมหย่า แม่ไม่ยอมให้พ่อไปเสวยสุขกับคนอื่นง่ายๆ แม่บอกว่า เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข กัดก้อนเกลือกินกันมา พอลืมตาอ้าปากได้ ลูกโตแล้ว กลับจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับคนอื่น เลยจะไม่หย่า ทีนี้พ่อกับแม่เลยเริ่มเล่นสงครามประสาทกัน จนเครียดกันทั้งสองฝ่าย ถึงขนาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้าย บ้างก็ว่าถึงกับขู่ฆ่า
และแล้ว เรื่องก็มาถึงจุดที่ต้องให้เห็นดำเห็นแดงกันไปข้างหนึ่ง เมื่อแม่บอกว่า พ่อคอยเร่งขอหย่ากับแม่ แต่พ่อจะเอาทรัพย์สินบางส่วน กับที่ดินไปขาย เพื่อใช้หนี้ และจะเอาไปสู่ขอผู้หญิงคนนั้น มาอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ซึ่งเงื่อนไขของฝ่ายนั้นคือจะยอมตกลงแต่ง ถ้าพ่อได้ใบหย่ามาเท่านั้น พ่อเร่งแม่จนแม่เครียด จนตัดสินใจจะไปเคลียร์กับพ่อ ที่บ้านผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่เจอพ่อ เจอคู่กรณีอยู่ ด้วยความโมโห จึงด่าว่า "อยากได้ผัวคนอื่นจนตัวสั่น เร่งเอาอะไรหนักหนากับใบหย่า !!" แต่โดนอีกฝ่ายตอบกลับมาว่า "ไม่ได้เร่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย ผู้ชายเขามายุ่งเอง" ได้ยินแล้วแม่จึงบันดาลโทสะ มือคว้าค้อนตอกตะปูที่อยู่ใกล้มือพอดี ทุบหัวคู่กรณีไปหนึ่งที !
หลังจากนั้นก็มีผู้เห็นเหตุการณเข้ามาล็อกแขนแม่จากด้านหลัง ให้หยุด ซึ่งแม่บอกตอนหลังว่าไม่คิดจะตีซ้ำตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่โมโหคือ ขณะโดนล็อกแขนไว้ เกิดคู่กรณีเอามีดมาเสียบจากด้านหน้าล่ะ จะเป็นยังไง?
และเรื่องก็มาถึงตอนท้ายเรื่อง ต้นเหตุของคำถาม เมื่อผู้หญิงคนนั้นไปโรงพยาบาล เย็บแผล 2 เข็ม และเข้าแจ้งความ แม่เราโดนเรียกไปสอบปากคำ และไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก โดยคู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 100,000 บาท ตำรวจไกล่เกลี่ยจนทางนั้นบอกว่า 50,000 บาทก็ได้ ทางแม่ไม่ยอม เพราะเห็นว่าเรียกสูงเกินไป ตำรวจจึงจะทำสำนวนคดียื่นฟ้องให้ฝั่งนั้นเป็นโจทย์
มาถึงคำถามก็คือ 1. เราควรจะยอมขึ้นศาลดีมั้ย จะคุ้มค่าเงินและเวลาที่สูญเสียไปกับการขึ้นศาลหรือปล่าว
2. กรณีนี้ฝ่ายเราควรยอมจ่ายเท่าไหร่ จึงจะดูสมเหตุสมผล และสมควร
3. ถ้าทางเราจะยื่นฟ้องทางนั้น ข้อหาเป็นชู้กับพ่อเรา จะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ตอนนี้ทางนั้นและพ่อเราค่อนข้างระวังตัวมาก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นออกหน้าออกตา จนชาวบ้านร้านตลาด เค้ารู้กันทั่ว
ยังไงก็รบกวนขอคำแนะนำ และขอความคิดเห็นด้วยนะคะ เราค่อนข้างเครียดจริงๆ แม่เราคงเครียดกว่า ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ
อัพเดทเหตุการณ์วันนี้ 10 มิย ช่วงเช้า พ่อกลับมาเร่งแม่ให้หย่าอีกครั้ง หลังจากเงียบไปคราวที่มีคดีตีหัวกันได้สักพัก ไม่รู้โดนใครฝ่ายไหนเร่งมาอีก พอคุยกันทะเลาะกัน พ่อก็พุ่งปรี่เข้าหาแม่ แต่แม่ถือมีดไว้พร้อมจะแทงสวนทุกเมื่อถ้าเข้ามา นี่คือที่แม่เล่า แต่ที่พ่อเล่าคือ แม่เอามีดไล่แทงพ่อ ตอนนี้แม่หนีออกจากบ้านเพราะกลัวพ่อกลับมาทำอันตราย ซึ่งก็จริงอย่างว่า พ่อไล่ตามหาแม่ทุกที่ พร้อมอาวุธเหน็บเอวคือมีด โทรมาบอกเราว่าให้บอกให้แม่หย่า ขอเอกสารสิทธิ์ สปก คืนจากเรา (เราเป็นคนเก็บไว้) แกบอกจะขาย ทีนี้น้องสาวเราบอกว่า พ่อฝากบอกให้แม่มาเก็บของออกจากบ้านไปด้วย ถ้าไม่เอาไปจะเผาทิ้ง เค้าเป็นเจ้าบ้าน เค้ามีสิทธิ์
เรานี่เครียดหนักกว่าเดิม คราวนี้จะมารอกฎหมายเห็นทีจะสู้นอกกฎหมายไม่ได้เสียแล้ว เราพูดกับแม่เด็ดขาดว่าให้หย่า ให้เลิกยุ่ง ถ้าพ่อจะเรียกร้องเอาอะไร เราจะคุยกับพ่ออีกที พ่อขู่ว่า "อย่ามาหัวหมอกับกู" จะเอาให้หนักไม่ไว้หน้าเลย เรารู้สึกคว้างมาก ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดแตกหักกันขนาดนี้
11 มิ.ย.
โดนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าค่ะ จริงก็อยู่ในช่วงสืบพยาน ทำสำนวนคดีฟ้องศาล หากฟ้องคดีนี้จริง หากเราจะประกันตัวแม่ออกมาสู้คดี ต้องใช้เงินค่าประกันกว่า 3แสนบาท บอกตรงๆว่าเราไม่มีเงินขนาดนั้นค่ะ ที่ดินก็ไม่มีโฉนด หรือ นส. 3 ที่จะเอาไปยื่นประกันตัว เลยให้ตำรวจไกล่เกลี่ยอีกที คราวนี้เลยตกลงกันที่ 2หมื่น พรุ่งนี้จะไปดำเนินการจ่ายเงินค่าปรับ ค่าเสียหาย+ค่าทำขวัญ แล้วทางนั้นจะถอนฟ้อง
ส่วนเรื่องฟ้องชู้ คงไม่ได้ฟ้องแล้วค่ะ เพราะจะพาแม่ไปหย่ากับพ่อวันจันทร์นี้ เพราะกว่าเรื่องจะจบ แม่คงโดนระรานไม่เลิก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เราห่วงความปลอดภัยของแม่มากกว่าค่ะ
ขอขอบคุณทุกความเห็นที่แนะนำมานะคะ เราทำได้เท่าที่ทำได้แล้วค่ะ อาจไม่ได้จบอย่างที่หวัง แต่ก็หวังว่ามันจะจบค่ะ
คดีทำร้ายร่างกาย คู่กรณีเป็นแผลเย็บ 2 เข็ม โดนเรียกเงินค่าเสียหายและค่าทำขวัญรวม 50,000 บาท เราควรสู้คดีในชั้นศาลหรือไม่
เรื่องสุดช็อคที่เป็นที่มาของปัญหาคือ พ่อนอกใจแม่ ไปคบผู้หญิงคนอื่นซึ่งเป็นแม่ม่ายอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ซึ่งแม่ก็รู้จักด้วย ตอนแรกก็อาจจะแอบคบ แต่ตอนหลังมาค่อนข้างจะเป็นที่เปิดเผย เดินเข้านอกออกใน ไปกินข้าวที่บ้านนั้นบ้าง นอนค้างบ้าง แล้วก็กลับมาบ้านในเช้าวันถัดไป ซึ่งในตอนแรกแม่ก็ระแคะระคายอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ปักใจ จนมีผู้หวังดีคอยแจ้งข่าวเป็นระยะ จนจับได้แน่ชัด ในตอนแรกพ่อไม่ยอมรับ ทั้งพ่อและแม่ก็ทะเลาะกันใหญ่โต ถึงขนาดที่แม่เผาเสื้อผ้าของใช้ของพ่อ จนพ่อโกรธมาก ประกาศว่าจะเลิก และไม่อยู่ร่วมกันอีกต่อไป แต่ไม่ว่ากับแม่ พ่อจะพูดยังไง กับเราพ่อก็ยังไม่ยอมรับความจริงที่ว่าพ่อนอกใจแม่อยู่ดี เราซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด รับรู้ได้จากการคุยโทรศัพท์เท่านั้น ทั้งทางฝั่งพ่อและแม่ พูดไม่เหมือนกันเลย จนเราลำบากใจ
แต่ในที่สุด ตอนที่เรากลับไปบ้าน เราก็คาดคั้นจนรู้ความจริงจนได้ พ่อยอมรับว่านอกใจจริง แต่ทำไปหลังจากที่แม่เผาของของพ่อแล้ว แม่ไม่เคยเรียกพ่อกินข้าว พ่อเลยต้องไปหากินที่อื่น จนที่สุดพ่อขอหย่ากับแม่ ไม่งั้นก็คงต้องค้างคาอย่างนี้ อยู่แบบ 3 คนผัวเมีย เทียวบ้านนั้นที บ้านนี้ที แต่แม่ไม่ยอมหย่า แม่ไม่ยอมให้พ่อไปเสวยสุขกับคนอื่นง่ายๆ แม่บอกว่า เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข กัดก้อนเกลือกินกันมา พอลืมตาอ้าปากได้ ลูกโตแล้ว กลับจะไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับคนอื่น เลยจะไม่หย่า ทีนี้พ่อกับแม่เลยเริ่มเล่นสงครามประสาทกัน จนเครียดกันทั้งสองฝ่าย ถึงขนาดระแวงว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้าย บ้างก็ว่าถึงกับขู่ฆ่า
และแล้ว เรื่องก็มาถึงจุดที่ต้องให้เห็นดำเห็นแดงกันไปข้างหนึ่ง เมื่อแม่บอกว่า พ่อคอยเร่งขอหย่ากับแม่ แต่พ่อจะเอาทรัพย์สินบางส่วน กับที่ดินไปขาย เพื่อใช้หนี้ และจะเอาไปสู่ขอผู้หญิงคนนั้น มาอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา ซึ่งเงื่อนไขของฝ่ายนั้นคือจะยอมตกลงแต่ง ถ้าพ่อได้ใบหย่ามาเท่านั้น พ่อเร่งแม่จนแม่เครียด จนตัดสินใจจะไปเคลียร์กับพ่อ ที่บ้านผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่เจอพ่อ เจอคู่กรณีอยู่ ด้วยความโมโห จึงด่าว่า "อยากได้ผัวคนอื่นจนตัวสั่น เร่งเอาอะไรหนักหนากับใบหย่า !!" แต่โดนอีกฝ่ายตอบกลับมาว่า "ไม่ได้เร่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลย ผู้ชายเขามายุ่งเอง" ได้ยินแล้วแม่จึงบันดาลโทสะ มือคว้าค้อนตอกตะปูที่อยู่ใกล้มือพอดี ทุบหัวคู่กรณีไปหนึ่งที !
หลังจากนั้นก็มีผู้เห็นเหตุการณเข้ามาล็อกแขนแม่จากด้านหลัง ให้หยุด ซึ่งแม่บอกตอนหลังว่าไม่คิดจะตีซ้ำตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่โมโหคือ ขณะโดนล็อกแขนไว้ เกิดคู่กรณีเอามีดมาเสียบจากด้านหน้าล่ะ จะเป็นยังไง?
และเรื่องก็มาถึงตอนท้ายเรื่อง ต้นเหตุของคำถาม เมื่อผู้หญิงคนนั้นไปโรงพยาบาล เย็บแผล 2 เข็ม และเข้าแจ้งความ แม่เราโดนเรียกไปสอบปากคำ และไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก โดยคู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 100,000 บาท ตำรวจไกล่เกลี่ยจนทางนั้นบอกว่า 50,000 บาทก็ได้ ทางแม่ไม่ยอม เพราะเห็นว่าเรียกสูงเกินไป ตำรวจจึงจะทำสำนวนคดียื่นฟ้องให้ฝั่งนั้นเป็นโจทย์
มาถึงคำถามก็คือ 1. เราควรจะยอมขึ้นศาลดีมั้ย จะคุ้มค่าเงินและเวลาที่สูญเสียไปกับการขึ้นศาลหรือปล่าว
2. กรณีนี้ฝ่ายเราควรยอมจ่ายเท่าไหร่ จึงจะดูสมเหตุสมผล และสมควร
3. ถ้าทางเราจะยื่นฟ้องทางนั้น ข้อหาเป็นชู้กับพ่อเรา จะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง ตอนนี้ทางนั้นและพ่อเราค่อนข้างระวังตัวมาก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นออกหน้าออกตา จนชาวบ้านร้านตลาด เค้ารู้กันทั่ว
ยังไงก็รบกวนขอคำแนะนำ และขอความคิดเห็นด้วยนะคะ เราค่อนข้างเครียดจริงๆ แม่เราคงเครียดกว่า ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ
อัพเดทเหตุการณ์วันนี้ 10 มิย ช่วงเช้า พ่อกลับมาเร่งแม่ให้หย่าอีกครั้ง หลังจากเงียบไปคราวที่มีคดีตีหัวกันได้สักพัก ไม่รู้โดนใครฝ่ายไหนเร่งมาอีก พอคุยกันทะเลาะกัน พ่อก็พุ่งปรี่เข้าหาแม่ แต่แม่ถือมีดไว้พร้อมจะแทงสวนทุกเมื่อถ้าเข้ามา นี่คือที่แม่เล่า แต่ที่พ่อเล่าคือ แม่เอามีดไล่แทงพ่อ ตอนนี้แม่หนีออกจากบ้านเพราะกลัวพ่อกลับมาทำอันตราย ซึ่งก็จริงอย่างว่า พ่อไล่ตามหาแม่ทุกที่ พร้อมอาวุธเหน็บเอวคือมีด โทรมาบอกเราว่าให้บอกให้แม่หย่า ขอเอกสารสิทธิ์ สปก คืนจากเรา (เราเป็นคนเก็บไว้) แกบอกจะขาย ทีนี้น้องสาวเราบอกว่า พ่อฝากบอกให้แม่มาเก็บของออกจากบ้านไปด้วย ถ้าไม่เอาไปจะเผาทิ้ง เค้าเป็นเจ้าบ้าน เค้ามีสิทธิ์
เรานี่เครียดหนักกว่าเดิม คราวนี้จะมารอกฎหมายเห็นทีจะสู้นอกกฎหมายไม่ได้เสียแล้ว เราพูดกับแม่เด็ดขาดว่าให้หย่า ให้เลิกยุ่ง ถ้าพ่อจะเรียกร้องเอาอะไร เราจะคุยกับพ่ออีกที พ่อขู่ว่า "อย่ามาหัวหมอกับกู" จะเอาให้หนักไม่ไว้หน้าเลย เรารู้สึกคว้างมาก ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดแตกหักกันขนาดนี้
11 มิ.ย.
โดนแจ้งข้อหาพยายามฆ่าค่ะ จริงก็อยู่ในช่วงสืบพยาน ทำสำนวนคดีฟ้องศาล หากฟ้องคดีนี้จริง หากเราจะประกันตัวแม่ออกมาสู้คดี ต้องใช้เงินค่าประกันกว่า 3แสนบาท บอกตรงๆว่าเราไม่มีเงินขนาดนั้นค่ะ ที่ดินก็ไม่มีโฉนด หรือ นส. 3 ที่จะเอาไปยื่นประกันตัว เลยให้ตำรวจไกล่เกลี่ยอีกที คราวนี้เลยตกลงกันที่ 2หมื่น พรุ่งนี้จะไปดำเนินการจ่ายเงินค่าปรับ ค่าเสียหาย+ค่าทำขวัญ แล้วทางนั้นจะถอนฟ้อง
ส่วนเรื่องฟ้องชู้ คงไม่ได้ฟ้องแล้วค่ะ เพราะจะพาแม่ไปหย่ากับพ่อวันจันทร์นี้ เพราะกว่าเรื่องจะจบ แม่คงโดนระรานไม่เลิก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เราห่วงความปลอดภัยของแม่มากกว่าค่ะ
ขอขอบคุณทุกความเห็นที่แนะนำมานะคะ เราทำได้เท่าที่ทำได้แล้วค่ะ อาจไม่ได้จบอย่างที่หวัง แต่ก็หวังว่ามันจะจบค่ะ