เรื่องนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

ผมอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่งในย่านลาดพร้าว 101 กับพี่อีกหนึ่งคน ที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศเดียวกัน แต่ผมมักจะอยู่คนเดียวอยู่บ่อยครั้งเพราะพี่เขาไม่ค่อยกลับบ้านบ่อยนัก ซึ่งผมต้องอยู่ลำพังเพียงคนเดียวในบ้านเช่าหลังเก่าท้ายซอย ที่น่าจะมีอายุราว 20 ปีมาแล้ว มีต้นโพธิ์ ที่ถูกตัดเหลือแต่ตออยู่หน้าบ้าน ถูกคลุมไว้ด้วยถุงดำ และพอสังเกตุได้ว่า ณ บริเวณนี้มีเคยมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ ซึ่งบ้านที่ดูทึบทึมเก่าแก่หลังนี้ คิดว่าน่าจะมีประวัติศาสต์ลี้ลับซ่อนอยู่โดยที่ผมไม่อาจรู้มาก่อน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากนักเพราะผมเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเยซูคริสต์เจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด

ก่อนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ผมรู้สึกได้ตั้งแต่คืนแรกที่เข้ามาอยู่ สัมผัสได้ถึงความเงียบงันระคนวังเวง ราวกับอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ ไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงลมหายใจของตัวเองเมื่อไฟในห้องดับลง ซึ่งบางครั้งผมก้อแอบจินตนาการถึงเรื่องลี้ลับอยู่บ่อยครั้งเมื่อมีเสียงหมาในซอยพร้อมใจกันหอนราวกับคืนวันเพ็ญ

แต่ถึงกระนั้นมัน ผมเองก็ยังไม่เคยเจอแบบจังๆ จนทระทั่ง....

ณ เวลา 4 ทุ่มเศษๆ ของวันอาทิตย์ที่ 9 เดือน เมษายน ของปีนี้ที่ร้อนระอุในขณะที่ผมอยู่บ้านเพียงลำพังเช่นเคยบ้านเงียบสงบ ผมปิดประตูห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ทันใดนั้นก็มีสิ่งที่ทำให้ผมต้องขนลุกซู่ไปทั้งร่าง ผมสะดุ้งและตกใจ ในขณะเดียวกันก็พยายามรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนมาให้เร็วที่สุด แต่ร่างกายยังชาและค้างเกร็งอยู่ใต้ฝักบัวเพราะสิ่งนั้น ในหัวผมพยายามที่จะไม่กลัวและตั้งสติ คิดว่าคงไม่ใช่อย่างนั้นเป็นแน่ มันไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่ใช่ มันต้องไม่ใช่ และภาวนาว่าขอให้มันไม่ใช่อย่างที่ผมกลัว

ผมรวบรวมความกล้าและอาบน้ำจนเสร็จแต่ก็เร็วกว่าครั้งไหนๆ รีบออกจากห้องน้ำด้วยความสับสน อธิบายไม่ได้ว่า สิ่งที่ผมเจอไปเมื่อสักครู่ มันคืออะไร และผมยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าเป็นความผิดพลาดจากกลไกลของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือมีพลังงานบางอย่างที่ผมมองไม่เห็นซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้จริงๆ
เพราะน้ำที่ผมอาบมันอุ่นขึ้นมาได้อย่างไร ในเมื่อผมไม่ได้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นเลย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ