NEWS: “นกใหญ่” จำใจปล่อย "หน่องคลาสสิค"
จิตปัญญา ทิสุด ซบรังปราสาทสายฟ้า
ชัยนาทฮอร์บิล บรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัว "หน่อง" จิตปัญญา ทิสุด ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ในไทยลีก
พวกเรามีหนึ่งบทความแทนความรู้สึกส่งถึง "หน่องคลาสสิค"
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ขวบปีที่ 2 ของชัยนาท เอฟซี (ชื่อเดิม) บนเวทีไทยพรีเมียร์ลีก ที่ต้องโคจรมาพบกับ เกร็กคู ลูกทัฟฟ้า ปทุมธานี เอฟซี ทีมฟุตบอลระดับ ดิวิชั่น 2 ในรายการโตโยต้าลีกคัพ 2013 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย วันนั้นเป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่น่าจดจำของสาวก “นกใหญ่พิฆาต” ในฐานะทีมใหญ่ในลีกสูงสุด กลับต้องพ่ายให้กับทีมระดับดิวิชั่น 2
หากแต่วันนั้นใครจะรู้ ว่าชัยนาท เอฟซี ได้ค้นพบเพชรเม็ดงาม เม็ดหนึ่งที่มีชื่อว่า จิตปัญญา ทิสุด เด็กหนุ่มวัย 22 ปี (ขณะนั้น)
ได้แสดงศักยภาพให้เห็นถึงความเป็นเพชร เขาเป็นผู้ที่ครองบอล คุมเกม คุมจังหวะ ของเกร็กคู ฯ ต่อสู้กับ ชัยนาท เอฟซี ได้อย่างไม่เกรงกลัวทีมจากไทยลีก จนกระทั่ง “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสร ชัยนาท เอฟซี ถึงกับเอ่ยปากกับต้นสังกัดของจิตปัญญา ที่จะดึงให้เจ้าตัวมาร่วมทีมในคืนนั้นทันที
จนกระทั่งต้นปี พ.ศ.2557 (2014) หลังหมดสัญญากับเกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี เอฟซี “ หน่อง คลาสสิก ” ก็ได้ย้ายมาร่วมงานกับชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ได้เปลี่ยนชื่อทีมในปีนั้นด้วย
“หน่อง” มาพร้อมกับคำถามของแฟนบอลชัยนาท ว่าเด็กคนนี้คือใคร ฝีเท้าเป็นอย่างไร ทำไมทีมถึงคว้าตัวเขามาร่วมทีม แต่ เพชร ก็คือ เพชร ถึงแม้ว่าการเริ่มต้นค้าแข้งของเขากับทีมชัยนาท จะไม่ค่อยสวยสักเท่าไร เมื่อเขาเจ็บหนักในการอุ่นเครื่องช่วงต้นซีซั่น 2014 ต้องพักยาวอย่างน้อย 4เดือน และกว่าจะกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ ก็ปาเข้าไปเลก 2 แต่ชัยนาท ฮอร์นบิล ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเขา ทีมงานทุกส่วนช่วยกันฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขา จนฟิตสมบูรณ์ กลับมาเล่นได้อีกครั้ง และนั่นก็ถือเป็นการเริ่มต้นของ “หน่องคลาสสิก” หลายต่อหลายเกมที่หน่องลงสนาม สายตาหลายพันคู่ จับจ้องยามที่เขาได้บอล มักจะเป็นภาพที่ติดตราตรึงใจ เมื่อเขาโชว์ลีลา ดั่งร่ายเวทย์มนต์ ทั้งลูกฟรีคิกที่เรียกได้ว่า “จับวาง” และอีกหนึ่งความทรงจำของแฟนบอลชัยนาท ฮอร์นบิล รวมถึงแฟนฟุตบอลไทยที่มีต่อเจ้าตัว เมื่อ จิตปัญญา ทิสุด ซัดสองตุง พาชัยนาท ฮอร์นบิล บุกไปเชือด “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปลายฤดูกาล 2015 ที่ผ่านมา เป็นชัยชนะที่สวยงามอีกนัดหนึ่งของชัยนาท ฮอร์นบิล
ในขณะที่ “หน่องคลาสสิก” สร้างผลงานให้กับชัยนาท ฮอร์นบิล อยู่นั้นก็มีสายตาคู่หนึ่ง สายตาคู่นั้นคือบิ๊กบอสของสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบนลีกสูงสุดของเมืองไทย ที่เห็นถึงความสามารถของเขา และอยากจะได้ "หน่อง" ไปร่วมทีม จึงได้ติดต่อสอบถามมายังสโมสร ถึงความเป็นไปได้ ที่จะคว้า จิตปัญญา ทิสุด ไปร่วมทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล แม้สโมสรจะรักและหวงแหนในตัวจิตปัญญา ไม่ต้องการให้เขาออกจากถิ่นเขาพลองไป แต่ด้วยสโมสรมองเห็นถึงถึงโอกาสที่ ”หน่อง” จะได้รับหลังจากนี้ ทั้ง การพัฒนาฝีเท้าเติบโตสูงสุดในสายอาชีพลูกหนัง โอกาสในการติดทีมชาติ โอกาสในการสร้างชื่อเสียง เงินทอง รวมทั้งเกียรติยศ ในภายภาคหน้า สโมสรจึงไม่อาจปิดกั้นโอกาสนั้นของเขา แม้ว่าเจ้าตัวแทบจะปฏิเสธในวินาทีแรกตั้งแต่สโมสรแจ้งข่าวนี้กับเขา แม้ในอีกไม่นานนี้เขาจะจากเราไป แต่เขาก็ยังยืนยันกับสโมสรที่ว่าพร้อมที่จะลงเล่นทุกนัดที่เหลือในเลก1 อย่างเต็มกำลังความสามารถ และยังคงความรักในสโมสรชัยนาทแห่งนี้ ตลอดไป
ชัยนาท ฮอร์นบิล รู้ดีถึงความรู้สึกของแฟนบอลที่จะต้องเห็น จิตปัญญา ในสีเสื้ออื่นที่ไม่ใช่สีชมพู แต่นี่แหละที่เรียกว่า “วิถีของฟุตบอลอาชีพ” มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ หากเราได้เห็นคนที่เรารัก ประสบความสำเร็จในชีวิต เราก็คงต้องอวยพรให้เขาคนนั้นโชคดีกับต้นสังกัดใหม่ เมื่อถึงวันนั้นเราทุกคนก็จะมีความสุข ที่ได้เห็นคนที่เรารักประสบความสำเร็จ
“โชคดีครับ หน่องคลาสสิก”
สโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล
https://www.facebook.com/chainatfootballclub/photos/a.127413344000793.29690.127411184001009/1059068780835240/?type=3
"นกใหญ่" จำใจปล่อย "หน่องคลาสสิค" ซบ "ปราสาทสายฟ้า"
จิตปัญญา ทิสุด ซบรังปราสาทสายฟ้า
ชัยนาทฮอร์บิล บรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัว "หน่อง" จิตปัญญา ทิสุด ให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ในไทยลีก
พวกเรามีหนึ่งบทความแทนความรู้สึกส่งถึง "หน่องคลาสสิค"
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ขวบปีที่ 2 ของชัยนาท เอฟซี (ชื่อเดิม) บนเวทีไทยพรีเมียร์ลีก ที่ต้องโคจรมาพบกับ เกร็กคู ลูกทัฟฟ้า ปทุมธานี เอฟซี ทีมฟุตบอลระดับ ดิวิชั่น 2 ในรายการโตโยต้าลีกคัพ 2013 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย วันนั้นเป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่น่าจดจำของสาวก “นกใหญ่พิฆาต” ในฐานะทีมใหญ่ในลีกสูงสุด กลับต้องพ่ายให้กับทีมระดับดิวิชั่น 2
หากแต่วันนั้นใครจะรู้ ว่าชัยนาท เอฟซี ได้ค้นพบเพชรเม็ดงาม เม็ดหนึ่งที่มีชื่อว่า จิตปัญญา ทิสุด เด็กหนุ่มวัย 22 ปี (ขณะนั้น)
ได้แสดงศักยภาพให้เห็นถึงความเป็นเพชร เขาเป็นผู้ที่ครองบอล คุมเกม คุมจังหวะ ของเกร็กคู ฯ ต่อสู้กับ ชัยนาท เอฟซี ได้อย่างไม่เกรงกลัวทีมจากไทยลีก จนกระทั่ง “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสร ชัยนาท เอฟซี ถึงกับเอ่ยปากกับต้นสังกัดของจิตปัญญา ที่จะดึงให้เจ้าตัวมาร่วมทีมในคืนนั้นทันที
จนกระทั่งต้นปี พ.ศ.2557 (2014) หลังหมดสัญญากับเกร็กคู ลูกทัพฟ้า ปทุมธานี เอฟซี “ หน่อง คลาสสิก ” ก็ได้ย้ายมาร่วมงานกับชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ได้เปลี่ยนชื่อทีมในปีนั้นด้วย
“หน่อง” มาพร้อมกับคำถามของแฟนบอลชัยนาท ว่าเด็กคนนี้คือใคร ฝีเท้าเป็นอย่างไร ทำไมทีมถึงคว้าตัวเขามาร่วมทีม แต่ เพชร ก็คือ เพชร ถึงแม้ว่าการเริ่มต้นค้าแข้งของเขากับทีมชัยนาท จะไม่ค่อยสวยสักเท่าไร เมื่อเขาเจ็บหนักในการอุ่นเครื่องช่วงต้นซีซั่น 2014 ต้องพักยาวอย่างน้อย 4เดือน และกว่าจะกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ ก็ปาเข้าไปเลก 2 แต่ชัยนาท ฮอร์นบิล ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเขา ทีมงานทุกส่วนช่วยกันฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของเขา จนฟิตสมบูรณ์ กลับมาเล่นได้อีกครั้ง และนั่นก็ถือเป็นการเริ่มต้นของ “หน่องคลาสสิก” หลายต่อหลายเกมที่หน่องลงสนาม สายตาหลายพันคู่ จับจ้องยามที่เขาได้บอล มักจะเป็นภาพที่ติดตราตรึงใจ เมื่อเขาโชว์ลีลา ดั่งร่ายเวทย์มนต์ ทั้งลูกฟรีคิกที่เรียกได้ว่า “จับวาง” และอีกหนึ่งความทรงจำของแฟนบอลชัยนาท ฮอร์นบิล รวมถึงแฟนฟุตบอลไทยที่มีต่อเจ้าตัว เมื่อ จิตปัญญา ทิสุด ซัดสองตุง พาชัยนาท ฮอร์นบิล บุกไปเชือด “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปลายฤดูกาล 2015 ที่ผ่านมา เป็นชัยชนะที่สวยงามอีกนัดหนึ่งของชัยนาท ฮอร์นบิล
ในขณะที่ “หน่องคลาสสิก” สร้างผลงานให้กับชัยนาท ฮอร์นบิล อยู่นั้นก็มีสายตาคู่หนึ่ง สายตาคู่นั้นคือบิ๊กบอสของสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบนลีกสูงสุดของเมืองไทย ที่เห็นถึงความสามารถของเขา และอยากจะได้ "หน่อง" ไปร่วมทีม จึงได้ติดต่อสอบถามมายังสโมสร ถึงความเป็นไปได้ ที่จะคว้า จิตปัญญา ทิสุด ไปร่วมทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล แม้สโมสรจะรักและหวงแหนในตัวจิตปัญญา ไม่ต้องการให้เขาออกจากถิ่นเขาพลองไป แต่ด้วยสโมสรมองเห็นถึงถึงโอกาสที่ ”หน่อง” จะได้รับหลังจากนี้ ทั้ง การพัฒนาฝีเท้าเติบโตสูงสุดในสายอาชีพลูกหนัง โอกาสในการติดทีมชาติ โอกาสในการสร้างชื่อเสียง เงินทอง รวมทั้งเกียรติยศ ในภายภาคหน้า สโมสรจึงไม่อาจปิดกั้นโอกาสนั้นของเขา แม้ว่าเจ้าตัวแทบจะปฏิเสธในวินาทีแรกตั้งแต่สโมสรแจ้งข่าวนี้กับเขา แม้ในอีกไม่นานนี้เขาจะจากเราไป แต่เขาก็ยังยืนยันกับสโมสรที่ว่าพร้อมที่จะลงเล่นทุกนัดที่เหลือในเลก1 อย่างเต็มกำลังความสามารถ และยังคงความรักในสโมสรชัยนาทแห่งนี้ ตลอดไป
ชัยนาท ฮอร์นบิล รู้ดีถึงความรู้สึกของแฟนบอลที่จะต้องเห็น จิตปัญญา ในสีเสื้ออื่นที่ไม่ใช่สีชมพู แต่นี่แหละที่เรียกว่า “วิถีของฟุตบอลอาชีพ” มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ หากเราได้เห็นคนที่เรารัก ประสบความสำเร็จในชีวิต เราก็คงต้องอวยพรให้เขาคนนั้นโชคดีกับต้นสังกัดใหม่ เมื่อถึงวันนั้นเราทุกคนก็จะมีความสุข ที่ได้เห็นคนที่เรารักประสบความสำเร็จ
“โชคดีครับ หน่องคลาสสิก”
สโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล
https://www.facebook.com/chainatfootballclub/photos/a.127413344000793.29690.127411184001009/1059068780835240/?type=3