แฟนผมนิสัยแปลกมาก จนผมเริ่มไม่แน่ใจว่า จะรักกับเขาได้อีกนานแค่ไหน

ผมอยากเล่าย้อนไปตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ซึ่งผมอาจจะพิมยาวมาก ใครที่ขี้เกียจอ่านปล่อยผ่านเลยครับ
ผมจะพิมไปเรื่อยๆ ผมนึกอะไรได้ผมจะพิม เพราะผมชอบและมีความสุขกับเรื่องราวที่ผ่านมา มากกว่าเรื่องที่ผมเจออยู่ทุกวันนี้

เริ่มเลยแล้วกันนะครับ  ผมอายุ27 ผมรู้จักกับเขามาหลายปีอยู่ แต่พึ่งได้มาเป็นแฟนกันได้ไม่นานมาก แต่เดือนหน้าครบปีแล้ว
รู้จักมาจากเพื่อนของน้องชายผม แรกๆผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนค่อนข้างปิดตัวเอง แต่ก็มีบางทีก็เปิดกว้างมากเล่าทุกเรื่อง
ผมยังจำได้ดี ก่อนที่ผมจะได้เจอเขาตัวเป็นๆครั้งแรก ผมอยากเจอมากเลย  เพราะได้ฟังเรื่องของเขา จากปากต่อปากมานาน
เช่น สวยมาก สายเปย์หนักมาก นิสัยแปลกมาก วีนเหวี่ยงมากประมาณนั้น พอได้มาเจอครั้งแรก ผมก็อืม
คงจะจริงอย่างที่ได้ยินมา  ตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร
    
     ต่อมายิ่งได้มีโอกาสเจอกันบ่อยขึ้น (ทุกครั้งจะเจอตามงานปาร์ตี้) ได้เห็นเขา ได้พูดคุยบ้างนิดหน่อย ได้รู้เรื่องเวลาเขาเจอปัญหาบ้าง
ทำให้ผมกลับสงสารเขาแทน ซึ่งตอนแรกผมค่อนข้างชื่นชมเยินยอเขา ที่ว่าเออเขาโชคดีน่ะ ต้นทุนชีวิตเขาดี สวย รวย พราวสเน่ห์
แต่เอาเข้าจริงกลับรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสาร ที่คนนอกคิดว่าเขาเพอเฟ็ค ช่วงนั้นไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมก็คิดถึงแต่เขาแทบตลอด24ชม.
รู้สึกเป็นห่วงอยากมีโอกาสได้ดูแลเอาใจใส่ พูดง่ายๆว่าหลงรักเขาแล้วแหละ จนเวลาผ่านไปเกือบ 2 ปีได้  ผมก็เจอเขาเหมือนเดิมตามงานต่างๆ
ทักทายพูดคุยกันผิวเผิน ผมจีบสาวไม่เก่ง ผมขี้อายด้วย ยิ่งกับคนสวยๆผมจะยิ่งอายมาก

     ครั้งแรกที่ผมได้คุยกับเขาอย่างจริงจัง คือที่งานวันเกิดงานหนึ่ง เขาก็ไป ผมก็ไป ต่างคนต่างไปเจอกันในงาน ผมเป็นคนสะสมนาฬิกา
คืนนั้นผมเห็นเขาใส่นาฬิการุ่นหนึ่ง บวกกับผมหาเรื่องจะคุยกับเขาอยู่แล้ว ผมเลยเริ่มเข้าไปชวนคุย แต่ในงานเสียงดังมืดด้วย คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง
เขาก็บอกว่าจะออกไปสูบบุหรี่ไปไหม ผมก็เดินตามไป ในใจผมก็แอบเหวอ เขาสูบบุหรี่ด้วยเหรอ คือผมไม่สูบ 55555 แต่ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร
สูบก็สูบไปเรื่องส่วนตัว พอคุยเรื่องนาฬิกาอยู่ ผมก็เห็นรอยแผลที่ข้อมือ แถมยังไม่หายดี ผมก็เหวออีกรอบ
เขาก็เห็นว่าผมเห็น หน้าเขาก็เหมือนกังวลหน่อยๆ ผมเลยแซวเปลี่ยนบรรยากาศไปว่า  แมวที่บ้านผม ก็ชอบข่วนแบบนี้แหละ
แมวมันชอบแสงวาวๆจากนาฬิกา  เขาก็ขำออกมา ผมเลยทำเป็นขำตาม 55555 ผมกำลังขำอยู่ เขาก็พูดขึ้นมาให้ผมหูดับว่า
“นี่มาจีบ...เหรอ” (เขาพูดชื่อตัวเอง) เขาเปิดมาขนาดนี้ เวลานั้นผมก็วัดดวงเลย ตอบไปว่า ใช่ อยากจีบมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง 5555
เขาบอก เขานิสัยไม่ดีนะ เอาแต่ใจตัวเองนะ พูดไม่เพราะนะ ชอบทุบนะเวลาไม่พอใจ มือไวมากนะหลบดีๆแล้วกัน  ผมก็บอกดีเลยผมชอบ
ผมหลบเก่งนะ เขาก็ยิ้มๆไม่พูดไร พอบุหรี่หมด เขาก็เดินเข้างานไปเลย ตอนนั้นผมก็งงงวยทำไรไม่ถูก ไม่รู้จีบสาวติดไหม ในงานก็เห็นเขาบ้างผุบๆโผล่ๆ ตอนจะกลับผมหาเขาไม่เจอ ว่าจะขอไปส่ง หรืออย่างน้อยแลกไลน์อะไรไว้ก็ยังดี แต่คืนนั้นหาไม่เจอ ผมพยามหาเรื่องจะเจอเขาหลายรอบมากในช่วงนั้น
แต่เป็นเดือนๆก็ไม่ได้เจอ ใครชวนไปไหนผมไปหมด เพราะผมอยากเจอเขา แต่ไปงานไหนก็ไม่เจอ
(ตอนนั้นฟอมอยู่ไม่กล้าถามหาเขาจากคนอื่น กลัวคนอื่นรู้ว่าจะจีบ เผื่อจีบแล้วไม่ติด จะอาย) พยามเองเป็นเดือนๆไม่มีข่าวคราว
หาเองไม่เจอ เลยเนียนไปส่องรายชื่อเพื่อนในเฟสของเพื่อนๆหลายคน แต่ก็ไม่เจอ จนมารู้ทีหลังว่าเขาไม่เล่นเฟส
    
    และแล้วเทศกาลงานรับปริญญาของรุ่นน้องในกลุ่มก็มาถึง ก็ได้เจอเขา ไม่คิดว่าจะเจอก็ได้เจอ แต่ก็เหวออีกรอบเพราะเขาเรียกบัณฑิตว่าพี่
คุยไปคุยมาทำให้รู้ว่าเขายังเรียนอยู่ พึ่งเริ่มปี2 อีกต่างหาก ผมคิดว่าเขาโตวัยทำงานเหมือนผมแล้ว ตอนนั้นเหวอมากแต่ทำไงได้ปักใจรักไปแล้ว
ไม่เปลี่ยนใจแน่ แต่ก็ต้องวัดดวงว่าเขาจะมีใจให้คนที่โตกว่าไหม ตอนนั้นผมนะครุ่นคิดหนัก นี่ผมแอบรักเด็กเหรอเนี่ย ย้อนเวลาไปตอนเจอแรกๆ
เขาวัยมัธยมเลยนะ คุกลอยมาเลย 5555 แต่การเข้าสังคม การแต่งตัวเขาดูภูมิฐานเหมือนเป็นผู้ใหญ่เลย ยิ่งงานแต่งตามโรงแรม
เสื้อผ้าหน้าผมของเขา ดูดีดูมีกาลเทศะกว่าผู้ใหญ่บางคนในงานอีก       ต่อๆ
    
     วันนั้นพอถ่ายรูปไรเสร็จในแพลน ก็มีเลี้ยงข้าวกันพร้อมพ่อแม่และญาติๆของบัณฑิต และ ตอนกลางคืนก็เลี้ยงฉลองกันกับเพื่อนอีกรอบ ผมก็เนียนถามว่าเขาไปไหม เขาก็ตอบว่า ถ้าไปก็เห็น  ผมก็เลยบอกเข้าไปว่า ถ้าได้เจอเขาจะดีใจมาก เพราะอยากเจอเขามานานมาก ตั้งแต่วันนั้นแล้ว  แต่ไม่ได้เจอเลย  เขาพูดแหย่ผมเล่นว่า ผมไม่มีบุญ 555 สรุปคืนนั้นแหละผมมีโอกาสได้ดูแลเขาอย่างที่หวังไว้  แต่ได้รับโอกาสนั้นแบบเหวอๆนะ 555
     ขากลับผมก็อาสาไปส่งสาวๆเพราะดึกแล้ว เตรียมพร้อมเลยไม่ดื่มเพื่องานนี้โดยเฉพาะพอเพื่อนผมลงรถ  ผมก็ขอเขาเป็นแฟนในรถนั่นแหละ
พูดจบเขาพูดสวนมาทันทีว่า เปิดเพลงหน่อยคะ ตอนนั้นผมเดดแอร์มาก และระหว่างทางเขาเงียบใส่ผม เล่นโทรศัพท์ไม่สนใจผมเลย ผมแกล้งถามทางเวลาเจอแยก เข้าเงยหน้ามองทางแล้วตอบผม ไม่มองผมเลยสักนิดจนถึงบ้านเขา ผมขับรถไปคิดไปต่างๆนานา คิดคำพูด108ว่าจะพูดยังไงดีตอนเขาลงรถ จะได้ไม่เสียเขาไป ตามตรงเลยตอนนั้นผมรู้แค่ว่า ถึงไม่มีโอกาสเป็นแฟน ขอแค่เขาไม่หายไปจากชีวิตผม ให้ผมได้เจอได้เห็นเขาบ้างก็ยังดี
    แต่เขาทำให้เหวอหนักอีกรอบ ตอนเขาลงรถ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรอยู่ดีเลย ผมเลยโบกมือบายๆแบบเงียบๆ แต่เขาไม่ยอมปิดประตูรถ เหมือนตั้งใจให้ผมมองไปที่เขา  รถผมค่อนข้างเตี้ย มองไปไม่เห็นหน้าเขา ตอนนั้นผมก็งงว่า เอ้าไม่ปิด แถมไม่เดินออกจากรถ ผมงงอยู่ เขาก็ก้มมายิ้มให้ แล้วหัวเราะ แล้วพูดคำเดียวว่า คะ ผมยังไม่ทันพูดอะไร เขาก็วิ่งเข้าบ้านเหมือนเด็กๆ ผมทั้งงงทั้งดีใจเหวออยู่บนรถ “คะ” นี่คงหมายถึงตกลงคบสินะ
ผมดีใจมากหุบยิ้มไม่ได้ เหนือความคาดหมายอีกรอบ ขับรถออกมายังไม่พ้นปากซอยบ้านเขา ไลน์ก็ขึ้นว่า เขาแอดผมมาจากเบอร์ แต่ไม่ได้พิมอะไรมา
แต่แค่นั้นผมก็ดีใจมาก ที่ว่าเขาก็สนใจผมในระดับหนึ่ง แถมยังไปถามหาเบอร์ผมมาอีก แปลว่าใจเราตรงกันแล้วมั้ง ต่างคนต่างชอบมั้ง
นั้นคือความประทับใจแรกของผมที่มีต่อเขา
        ประโยคแรกๆที่เราคุยไลน์กัน ก็เป็นเรื่องส่วนตัวพื้นเพทั่วไป  ผมก็บอกเขาไปเล่าทุกเหตุการณ์ๆแบบที่ผมพิมในกระทู้นี้เลย ว่าผมพยามแค่ไหน
และดีใจมากแค่ไหนที่ได้เป็นแฟนกับเขา  ผมบอกเขาว่าผมโตแล้วนะ รักใครผมรักจริง อย่าทำร้ายน้ำใจกันนะ ถ้าคิดจะคบผมเล่นๆให้รีบบอกให้ผมรู้ตัวตั้งแต่ตอนนี้ เขาบอกผมว่า เขาเกลียดการเล่นกับความรู้สึกคน อะไรที่เขาเกลียดเขาจะไม่ทำแน่ๆ ผมดีใจมากกับคำตอบเขา
จากนั้นผมก็เปลี่ยนประเด็นไม่ให้ซีเรียสไปว่า ผมแก่อ่ะ เขารักคนแก่เหรอ 55555 เขาบอกไม่แก่ ผมยังไม่ 30 เลย ผมเลยแกล้งแหย่เขาไปว่า
อ่าวนี่ถ้าเราเป็นแฟนกันไป 3 ปี ผม 30 ผมก็แก่ จะทิ้ง ผมไหม ผมได้รับคำตอบทั้งเหวอทั้งประทับใจมาว่า
“ถ้าเขารักใครแล้ว ถึงเขาจะอายุแค่นี้  ต่อให้คนๆนั้นจะอายุ 50 หรือ 100 ถ้าเขารัก เขาก็จะรัก” ตลอดเวลาช่วงนั้นที่คบกันใหม่ๆ เขาสร้างความประทับใจใหม่ๆให้ผมตลอดเวลา ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขารู้ตัวไหม แต่ผมประทับใจจริงๆ เขาเหมือนเป็นผู้ใหญ่แต่แค่เขาเกิดช้า แต่เขาก็มีความเอาแต่ใจตัวเอง
ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห เหมือนเด็กๆอยู่ด้วย แต่ผมรับได้ ผมจะบอกอะไรสักอย่างหนึ่งให้พวกคุณที่อ่านอยู่เห็นภาพแล้วกัน
    
     เขาอายุเท่านี้ แต่เขามหัศจรรย์จริงๆ เข้าสามารถเรียนได้ Aทุกตัวตอนปี1 มารู้ไม่นานนี้จากพ่อเขาว่า เขาเรียนเป็นที่1 ของห้องมาตั้งแต่เด็กๆ จะมีบางช่วงเท่านั้น ที่ได้ที่ 2 3 แย่สุดคือ ที่4 (แม่เจ้าแฟนผมเป็นเด็กอัจฉริยะ) เนื่องจากเขาเรียนเก่งพ่อเขาก็จะอวดเรื่องเขาเรียนเก่งเกือบทุกรอบที่ทานอาหารกัน เพราะเขาเป็นคนแบบนี้ จึงทำให้ผมถีบตัวเอง ตั้งใจช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างจริงจังบ้าง จนพ่อแม่ผมผิดสังเกต งงว่าทำไมผมขยันผิดปกติ จนผมเล่าว่าผมมีแฟน และเราเรื่องราวของเขาให้ท่านฟัง และเล่าว่าเขาคือจุดเปลี่ยนจุดผลักดันผม ท่านก็ดีใจอยากเจอเขา  ปกติท่านไม่เคยยินดีกับแฟนผมที่ผ่านมาเลยสักคน พอได้เจอก็เข้ากันได้ดีอย่างหน้าเหลือเชื่อ ลับหลังเขาพ่อแม่ผมก็ชื่นชมเขาไม่ขาดปาก ท่านบอกถูกชะตา เรียกเขาว่าลูกสาวเลยที่เดียว พ่อแม่เคยทานข้าวพร้อมแฟนผมและพ่อของเขาแล้วด้วย แถมดูเข้ากันได้ดี พ่อกับแม่ผมเกริ่นๆไปว่าจองตัวลูกสาวนะ รีบเรืยนให้จบ อยากมีลูกสะใภ้ แต่แฟนผมพูดขึ้นมาเลยว่าจะต่อโทคะ พ่อแม่ผมท่านก็พูดแก้เกมเลยว่า ต่อให้ต่อเอก ก็รอได้  เขาก็ยิ้มๆ5555
      
     แต่ในขณะเดียวกันนั้น เขาก็เป็นนักเที่ยวตัวยงนะ เที่ยวก็เก่งเรียนก็เก่งอีก ช่วยพ่อเขาทำงานได้อีกด้วย  เขามีเรียนบ่าย เขาสามารถไปคุยกับลูกค้าแทนพ่อของเขาได้ก่อนไปเรียน ทั้งๆที่เมื่อคืนไปเที่ยวกับเพื่อนๆเขาและผม กลับบ้านก็เกือบเช้าแล้ว มารู้ทีหลังว่าเขามีรายได้ของตัวเองมานานแล้วจากการฝึกเล่นหุ้นตามพ่อของเขา และส่วนแบ่งจากกิจการที่บ้านเขา แถมยังทำอาหารเก่ง ทำขนมก็เก่ง ไม่ได้ทำเล่นๆนะ เขาเรียนกับเชฟตัวจริงที่ตปท.เลย  และยังเล่นเครื่องดนตรีเป็นหลายอย่างมาก กีฬาก็ด้วย  ทุกครั้งที่มีคนชมเขา เขาก็ยกยอไปที่พ่อเขาหมด ว่าที่เก่งก็เพราะพ่อเขาสนับสนุนเขามาแต่เด็กๆ เขาบอกว่าเขาอยากเรียนอะไร แค่บอกพ่อเขา พ่อเขาก็จะอนุญาตให้เรียน จนโตมาเขากลายเป็นเด็กผู้หญิงมหัศจรรย์อย่างที่ผมเล่ามานั้นแหละ  เกมก็ไม่ขาดนะ เขาเป็นเกมเมอร์ตัวจริงเลยแหละ เขายังชอบเชียร์กีฬาอีก บอล มวย วอลเลย์ ว่ายน้ำ แข่งรถ เขาชอบมาก  ผมไม่เคยมีแฟนที่มานั่งเชียร์กีฬากับผมแบบเต็มใจและอินไปกับเกมกีฬามาก่อน แถมเขายังชอบดูการ์ตูนเหมือนเด็กๆอีกด้วย ล่าสุดผมได้ไปดูดีสนีย์ออนไอซ์กับเขาด้วย ผมไม่คิดเลยว่า อายุผมก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว แถมเป็นผู้ชาย จะได้ไปอยู่ในที่แบบนั้น 555555 ฟังเขาร้องเพลงตามตัวการ์ตูนน่ารักดี ตอนแรกผมกลัวทำตัวไม่ถูกมาก กลับกลายเป็นอืมก็น่ารักดี ทุกวันนี้ผมกลายเป็นผู้ชายที่รู้จักชื่อตัวละครดิสนีย์แทบทุกตัวแล้ว 55555  
          
     แต่เขาไม่ได้เป็นที่รักของทุกคนนะ เขาเก่งจริง แต่เขาก็มีส่วนไม่ดีอยู่  แฟนผมเป็นคนดูหยิ่งๆในสายตาคนอื่น
มักทำให้โดนเกลียดก่อนตอนแรกๆ เนื่องจากแฟนผมฉลาดและรอบรู้มากๆ รู้มากในที่นี่คือรู้จริงรู้ลึก เพราะเขาเป็นพวกอ่านจริงจังศึกษาจริงจัง ทำให้เวลาเจอคนขี้อวดความรู้มาเถียงกับแฟนผม แฟนผมฟอมเยอะ จะไม่ยอมเถียงกับใครในเชิงความรู้แน่ๆถ้าเขาไม่รู้เรื่องที่จะเถียงด้วยจริงๆ ผมสังเกตมาถ้าเป็นเรื่องที่เขาไม่ถนัดเขาจะเงียบและทำเป็นฟัง แต่พอเผลอคน เช่นอยู่แค่กับผม จะกำการเสิร์จกูเกิ้ล ถ้าจริงจะเงียบ ถ้าไม่จริง จะด่าให้ผมฟัง 5555  เพราะฉะนั้นพอเถียงกันแล้วแต้มนำกว่า ก็กลายเป็นโดนถูกเกลียดไปเลย และเขาค่อนข้างปิดกั้น ผมไม่รู้จะให้คำพูดว่าอะไร โลกส่วนตัวสูงมากๆก็แล้วกัน
วันดีคืนดีหายไปเลยก็มี แม้แต่พ่อเขาก็ไม่รู้ว่าลูกอยู่ไหนก็มี แม่ของเขาเป็นฝรั่ง อยู่ตปท. วันดีคืนดีเขาอยากไปหาเขาก็ตีตั๋วด่วนไปเลยโดยไม่ปรึกษาใครแม้แต่ผมหรือแม้แต่พ่อเขาเอง พอผมเจอแบบนี้หลายครั้งเข้า ก็ทะเลาะกัน เขาไม่รู้หรอกมั้งว่า การที่เราต้องเฝ้าเป็นห่วงอย่างไร้จุดหมายมันทรมานแค่ไหน และแถมเพื่อนวัยเดียวของเขา ก็มีความเป็นทีมดีมาก ร่วมมือกันปิดอย่างเนียนที่สุด ทั้งๆที่รู้ว่าอยู่ไหน บางทีก็อยู่ด้วยกันนั้นแหละ
          
     เขาเป็นคนอารมณ์ 2 ขั้วก็ว่าได้ ตอนดีก็ดีใจหาย แต่พอจะร้ายก็ร้ายจนผมแทบบ้าตาย ผมค่อยๆปรับตัวเองเพื่อเขามาเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมพึ่งรู้สึกตัวว่า ผมแทบจะไม่เหลือความเป็นตัวเองแล้ว ตารางชีวิตผมเคยเป็นยังไง ตั้งแต่มีเขาเข้ามา ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนจนหมด ผมกลายเป็นคนอดหลับอดนอน (แต่ผมโอเคนะผมทนได้) เพราะแฟนผมเขาเป็นพวกไม่ค่อยหลับไม่ค่อยนอน บางทีตื่นข้ามวัน
มารู้หลังๆนี้ว่าเขาใช้ยานอนหลับ  ทำให้ผมเครียดเพิ่มไปอีก เขายังเด็กอยู่เลย  ผมไม่รู้สาเหตุที่เขาต้องใช้ยานอนหลับ ผมเป็นแฟนเขาแท้ๆ ใช้ชีวิตกับเขา เอาอกเอาใจเขา ตามใจเขา ยอมเขาทุกอย่าง เขาอยู่กับผมก็ดูเขามีความสุขดีทุกอย่าง ทำไมเขาต้องใช้ยานอนหลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่