ทั้งที่พวกเสรีนิยมพวกนี้ก็ไม่ได้อะไรกับศาสนาอยู่แล้ว แต่กลับแปลกที่คนที่เป็นเสรีนิยมที่มองว่าศาสนาคือความเชื่อของมนุษย์มากกว่าจะมีพระเจ้า กลับไม่เคยด่าอิสลามแบบเหมาเข่ง เหมารวม ผิดกลับพวกฝ่ายขวาชาตินิยมในไทย จะชอบด่าอิสลามแบบเหมารวม อย่าง กระทู้
http://ppantip.com/topic/34531508
ความคิดเห็นที่ 9
นับแต่อดีตเป็นพันปีคนพุทธกับมุสลิมในไทยอยู่กันได้อย่างไม่มีปัญหา แต่นับแต่ประเทศซาอุดิอาระเบียกำเนิดและยกวะฮาบีย์ขึ้นมาเป็นใหญ่ส่งออกศาสนาอิสลามตามแนวทางวะฮาบีย์นับแต่นั้นมาปัญหาก็เกิดขึ้นตลอด
จากที่เราสรุป ขณะที่อ.นิธิหรือคำผกา พูดถึงหนังสือชื่อ Southeast Asia and Middle East: Islam, Movement, and the Long Duree'
Eric Tagliacozzo เป็นรองศาสตราจารย์ทางประวัติศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยคอร์แนล เป็นหนังสือที่พูดถึงประวัติศาสตร์ของเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความสัมพันธ์ระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตะวันออกกลางซึ่งเชื่อมโยงผ่านการเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดีย ที่มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางศาสนาอิสลาม มีการส่งคนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเรียนศาสนาที่ตะวันออกกลางตลอดยุคสมัยโดยผ่านทางสังคมชั้นสูงอย่างเช่นมีการส่งคำร้องเรียนให้ตีความทางศาสนาว่าการสาบานโดยการชิมเกลือของสุลต่านบาหลี ผิดหลักศาสนามั้ย ต่อสถาบันตีความทางศาสนา อัลอัดซ่า แต่ศาสนาอิสลามในเอเชียเองก็ไม่สามารถที่จะมีอิทธิพลเหนือคติความเชื่อของ ศาสนา ผี พราหมณ์ พุทธ ไปได้ ทั้งอิสลามและคริสต์ศาสนา เมื่อเป็นที่นับถือของประชาชนในอุษาคเนย์แล้ว ก็ผนวกเอาความเชื่อเดิม ทั้งฮินดู ทั้งพุทธ และทั้งความเชื่อพื้นเมืองเข้าไปในศาสนา แสดงออกด้วยพิธีกรรมและการปฏิบัติที่มุสลิมและคริสต์ในถิ่นกำเนิดเดิมต้องย่นหน้าว่านอกรีตนี่หว่า (
http://www.sujitwongthes.com/outlineofthaihistory/2013/02/knowledge01032556/)
พัฒนากลายเป็นการร่วมกันแบบกลมกลืน(แต่นอกรีตในสายตาของมุสลิมและคริสต์ในถิ่นกำเนิดเดิม) เช่น สมัยก่อนเราจะเห็นอิสลาม เล่นสงการตน์ ลอยกระทง ไม่คลุมหัว ไม่ไว้เครา บางครั้งก็กลายเป็นหมอผี เสกเป่าขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ฝ่ายชาตินิยมจึงไม่รู้สึกว่าอิสลามแปลกแยก
แต่ เมื่อย่างเข้าสู่สมัยใหม่ เส้นเขตแดนที่ชัดเจนก็เริ่มเกิดกับศาสนาต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อะไรเป็นคริสต์, อะไรเป็นอิสลาม, อะไรเป็นฮินดู และอะไรเป็นพุทธเริ่มถูกนิยามให้ชัด โดยขจัดสิ่งที่ถือว่า “ไม่ใช่” ออกไป เหยียดว่าเป็นความป่าเถื่อนบ้าง, เหยียดว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิบ้าง
แต่ในปัจจุบันศาสนาพุทธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะที่ เอาความเป็นพุทธศาสนาแบบสถาบัน (Institutionalized Buddhism) หรือศาสนาของรัฐ (State Religion) สร้างอัตลักษณ์แห่งความเป็นรัฐกับอัตลักษณ์แห่งความเป็นพุทธที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เช่น "โบดู บาลา เสนา" (Bodu Bala Sena, BBS) หรือกองกำลังชาวพุทธปกป้องและพิทักษ์พุทธศาสนา จากข้อมูลขององค์กรชาวมุสลิมในศรีลังกา บีบีเอสใช้กำลังข่มขู่ คุกคาม และก่อความรุนแรงต่อชาวมุสลิมอย่างน้อย 241 ครั้ง และต่อชาวคริสต์อย่างน้อย 61 ครั้ง ระหว่างปี 2013
พระภิกษุชาวพม่า ชื่อ "อู วิราทู" ผู้ประกาศว่าตัวเองเป็น "บินลาเดนแห่งพม่า" เขาสนับสนุนการใช้ความรุนแรงขั้นเด็ดขาดจัดการกับชาวโรฮิงญา โดยมองว่าการอยู่อาศัยพักพิงของโรฮิงญาเป็น "การรุกราน" ของพวกมุสลิม
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1400569438
พัฒนาการของกระแสชาตินิยมทางศาสนาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศพุทธศาสนาเถรวาท อย่างศรีลังกา พม่า และไทย นั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปัจจัยทางประวัติศาสตร์หลายประการได้หนุนนำพุทธศาสนาแบบสถาบัน (Institutionalized Buddhism)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1402360588
ทำลายพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงแบบชาวบ้าน
อิสลามที่เคย เล่นน้ำได้ลอยกระทงได้ แต่เดิมมันทำไม่ได้แล้ว ในสายตาของชาตินิยม จึงมองว่าคนพวกนี้ เป็นคนอื่นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับ ชาตินิยมแบบไทยๆได้
http://ppantip.com/topic/34531508
ความคิดเห็นที่ 9
นับแต่อดีตเป็นพันปีคนพุทธกับมุสลิมในไทยอยู่กันได้อย่างไม่มีปัญหา แต่นับแต่ประเทศซาอุดิอาระเบียกำเนิดและยกวะฮาบีย์ขึ้นมาเป็นใหญ่ส่งออกศาสนาอิสลามตามแนวทางวะฮาบีย์นับแต่นั้นมาปัญหาก็เกิดขึ้นตลอด มุสลิมไทยชอบส่งลูกหลานไปเรียนศาสนาจากตะวันออกกลางอยู่ด้วย ซึ่งคนที่ไปเรียนส่วนมากก็ได้รับอิทธิพลแนวคิดแบบวะฮาบีย์กลับมา พอกลับมาก็ร้อนวิชาบอกว่าที่คนที่บ้านปฏิบัติอยู่มันผิด ต้องปฏิบัติตามแบบที่ตนร่ำเรียนมาเท่านั้นถึงจะถูก เอาแนวทางแบบวะฮาบีย์มาสอนมุสลิมในไทยให้ปฏิบัติตาม เชื่อแบบฝังหัวเหมือนกับถูกล้างสมองและโปรแกรมความคิดมาว่าต้องปฏิบัติแบบที่ตนไปร่ำเรียนมาเท่านั้นถึงจะถูกต้อง ใครปฏิบัติไม่เหมือนตนผิดหมด จนปัจจุบันก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพวกที่ไปร่ำเรียนกลับมาพวกนี้จนมีการแยกเป็นคณะเก่ากับคณะใหม่ในไทย
ขณะที่ ตัวกระทู้อิสลามเองเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา
http://ppantip.com/topic/30515620
คณะเก่า คณะใหม่ ต่างกันตรงที่รายละเอียดปลีกย่อย ตามที่ คห2 กล่าวมา
สิ่งที่ไม่แตกต่างก็คือ ความเป็นมุสลิมที่อุทิศตนทำเพื่อศาสนา
ส่วนกระทู้
http://ppantip.com/topic/32796251
ความคิดเห็นที่ 10
สิ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนระหว่างคณะใหม่ หรือคณะเก่าส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาข้อปลีกย่อย ไม่ได้มีความแตกแยก ในเรื่องใหญ่ๆ
แต่ทั้งเก่าและใหม่ ก็อยู่ในแนวทางของซุนนีย์หรือชื่อเต็มๆว่าอะลิสซุนนะฮ์ วัลยามาอะฮ์
ทำไมคนที่ดูไม่มีศาสนาเป็นเสรีนิยมอย่าง อ.นิธิ,คำผกา ไม่เคยด่าอิสลามเหมารวมแบบที่พวกชาตินิยมชอบทำครับ
ความคิดเห็นที่ 9
นับแต่อดีตเป็นพันปีคนพุทธกับมุสลิมในไทยอยู่กันได้อย่างไม่มีปัญหา แต่นับแต่ประเทศซาอุดิอาระเบียกำเนิดและยกวะฮาบีย์ขึ้นมาเป็นใหญ่ส่งออกศาสนาอิสลามตามแนวทางวะฮาบีย์นับแต่นั้นมาปัญหาก็เกิดขึ้นตลอด
จากที่เราสรุป ขณะที่อ.นิธิหรือคำผกา พูดถึงหนังสือชื่อ Southeast Asia and Middle East: Islam, Movement, and the Long Duree'
Eric Tagliacozzo เป็นรองศาสตราจารย์ทางประวัติศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยคอร์แนล เป็นหนังสือที่พูดถึงประวัติศาสตร์ของเชียตะวันออกเฉียงใต้ และความสัมพันธ์ระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตะวันออกกลางซึ่งเชื่อมโยงผ่านการเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดีย ที่มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางศาสนาอิสลาม มีการส่งคนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเรียนศาสนาที่ตะวันออกกลางตลอดยุคสมัยโดยผ่านทางสังคมชั้นสูงอย่างเช่นมีการส่งคำร้องเรียนให้ตีความทางศาสนาว่าการสาบานโดยการชิมเกลือของสุลต่านบาหลี ผิดหลักศาสนามั้ย ต่อสถาบันตีความทางศาสนา อัลอัดซ่า แต่ศาสนาอิสลามในเอเชียเองก็ไม่สามารถที่จะมีอิทธิพลเหนือคติความเชื่อของ ศาสนา ผี พราหมณ์ พุทธ ไปได้ ทั้งอิสลามและคริสต์ศาสนา เมื่อเป็นที่นับถือของประชาชนในอุษาคเนย์แล้ว ก็ผนวกเอาความเชื่อเดิม ทั้งฮินดู ทั้งพุทธ และทั้งความเชื่อพื้นเมืองเข้าไปในศาสนา แสดงออกด้วยพิธีกรรมและการปฏิบัติที่มุสลิมและคริสต์ในถิ่นกำเนิดเดิมต้องย่นหน้าว่านอกรีตนี่หว่า (http://www.sujitwongthes.com/outlineofthaihistory/2013/02/knowledge01032556/)
พัฒนากลายเป็นการร่วมกันแบบกลมกลืน(แต่นอกรีตในสายตาของมุสลิมและคริสต์ในถิ่นกำเนิดเดิม) เช่น สมัยก่อนเราจะเห็นอิสลาม เล่นสงการตน์ ลอยกระทง ไม่คลุมหัว ไม่ไว้เครา บางครั้งก็กลายเป็นหมอผี เสกเป่าขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ฝ่ายชาตินิยมจึงไม่รู้สึกว่าอิสลามแปลกแยก
แต่ เมื่อย่างเข้าสู่สมัยใหม่ เส้นเขตแดนที่ชัดเจนก็เริ่มเกิดกับศาสนาต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อะไรเป็นคริสต์, อะไรเป็นอิสลาม, อะไรเป็นฮินดู และอะไรเป็นพุทธเริ่มถูกนิยามให้ชัด โดยขจัดสิ่งที่ถือว่า “ไม่ใช่” ออกไป เหยียดว่าเป็นความป่าเถื่อนบ้าง, เหยียดว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิบ้าง
แต่ในปัจจุบันศาสนาพุทธในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีลักษณะที่ เอาความเป็นพุทธศาสนาแบบสถาบัน (Institutionalized Buddhism) หรือศาสนาของรัฐ (State Religion) สร้างอัตลักษณ์แห่งความเป็นรัฐกับอัตลักษณ์แห่งความเป็นพุทธที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เช่น "โบดู บาลา เสนา" (Bodu Bala Sena, BBS) หรือกองกำลังชาวพุทธปกป้องและพิทักษ์พุทธศาสนา จากข้อมูลขององค์กรชาวมุสลิมในศรีลังกา บีบีเอสใช้กำลังข่มขู่ คุกคาม และก่อความรุนแรงต่อชาวมุสลิมอย่างน้อย 241 ครั้ง และต่อชาวคริสต์อย่างน้อย 61 ครั้ง ระหว่างปี 2013
พระภิกษุชาวพม่า ชื่อ "อู วิราทู" ผู้ประกาศว่าตัวเองเป็น "บินลาเดนแห่งพม่า" เขาสนับสนุนการใช้ความรุนแรงขั้นเด็ดขาดจัดการกับชาวโรฮิงญา โดยมองว่าการอยู่อาศัยพักพิงของโรฮิงญาเป็น "การรุกราน" ของพวกมุสลิม http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1400569438
พัฒนาการของกระแสชาตินิยมทางศาสนาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศพุทธศาสนาเถรวาท อย่างศรีลังกา พม่า และไทย นั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ปัจจัยทางประวัติศาสตร์หลายประการได้หนุนนำพุทธศาสนาแบบสถาบัน (Institutionalized Buddhism)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1402360588
ทำลายพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงแบบชาวบ้าน
อิสลามที่เคย เล่นน้ำได้ลอยกระทงได้ แต่เดิมมันทำไม่ได้แล้ว ในสายตาของชาตินิยม จึงมองว่าคนพวกนี้ เป็นคนอื่นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับ ชาตินิยมแบบไทยๆได้ http://ppantip.com/topic/34531508
ความคิดเห็นที่ 9
นับแต่อดีตเป็นพันปีคนพุทธกับมุสลิมในไทยอยู่กันได้อย่างไม่มีปัญหา แต่นับแต่ประเทศซาอุดิอาระเบียกำเนิดและยกวะฮาบีย์ขึ้นมาเป็นใหญ่ส่งออกศาสนาอิสลามตามแนวทางวะฮาบีย์นับแต่นั้นมาปัญหาก็เกิดขึ้นตลอด มุสลิมไทยชอบส่งลูกหลานไปเรียนศาสนาจากตะวันออกกลางอยู่ด้วย ซึ่งคนที่ไปเรียนส่วนมากก็ได้รับอิทธิพลแนวคิดแบบวะฮาบีย์กลับมา พอกลับมาก็ร้อนวิชาบอกว่าที่คนที่บ้านปฏิบัติอยู่มันผิด ต้องปฏิบัติตามแบบที่ตนร่ำเรียนมาเท่านั้นถึงจะถูก เอาแนวทางแบบวะฮาบีย์มาสอนมุสลิมในไทยให้ปฏิบัติตาม เชื่อแบบฝังหัวเหมือนกับถูกล้างสมองและโปรแกรมความคิดมาว่าต้องปฏิบัติแบบที่ตนไปร่ำเรียนมาเท่านั้นถึงจะถูกต้อง ใครปฏิบัติไม่เหมือนตนผิดหมด จนปัจจุบันก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพวกที่ไปร่ำเรียนกลับมาพวกนี้จนมีการแยกเป็นคณะเก่ากับคณะใหม่ในไทย
ขณะที่ ตัวกระทู้อิสลามเองเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา
http://ppantip.com/topic/30515620
คณะเก่า คณะใหม่ ต่างกันตรงที่รายละเอียดปลีกย่อย ตามที่ คห2 กล่าวมา
สิ่งที่ไม่แตกต่างก็คือ ความเป็นมุสลิมที่อุทิศตนทำเพื่อศาสนา
ส่วนกระทู้
http://ppantip.com/topic/32796251
ความคิดเห็นที่ 10
สิ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนระหว่างคณะใหม่ หรือคณะเก่าส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาข้อปลีกย่อย ไม่ได้มีความแตกแยก ในเรื่องใหญ่ๆ
แต่ทั้งเก่าและใหม่ ก็อยู่ในแนวทางของซุนนีย์หรือชื่อเต็มๆว่าอะลิสซุนนะฮ์ วัลยามาอะฮ์