[CR] ศิษย์เก่าแดนโรตีตะลุยอินเดีย ทริปเสี้ยวเล็กๆของหิมาลัย >> East Sikkim + Darjeeling + Kolkata

สวัสดีค่ะ มิตรรักแฟนคลับทุกท่าน (นี่มโนว่าตัวเองมีแฟนคลับแล้วด้วย 55555)
เริ่มกันที่ทำวีซ่าอินเดียละกัน เดี๋ยวนี้มี Visa on arrival ทำออนไลน์ จ่ายเงิน แล้วไปรับวีซ่าตอนเดินทางเข้าประเทศอินเดียด้วยนะคะ และยังมีแบบไปยื่นเองในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ไม่สามารถยื่นแทนกันได้เนื่องจากต้องถ่ายรูปและสแกนนิ้วมือด้วยค่ะ อัพเดทเรื่องวีซ่าท่องเที่ยวปี 2559 รายละเอียดตามลิ้งค์นี้ค่ะ https://hanjiblog.wordpress.com/2016/01/10/india-visa-วีซ่าอินเดียง่ายนิดเ/ ในส่วนของรัฐสิกขิมต้องทำใบอนุญาติเข้าเขตเพราะเป็นเขตปกครองพิเศษ แนะนำให้ตุน รูปถ่าย (passport photo) ขนาด 1นิ้ว จำนวน 6ใบ และสำเนาหนังสือเดินทางกับวีซ่าอย่างละ 5ใบไปด้วยนะคะ

ไปเที่ยวกันเลยดีกว่า
ทริปนี้จะเน้นที่ภาคอีสานของอินเดีย ในรัฐสิกขิมฝั่งตะวันออก (East Sikkim) ติดกับชายแดนอินเดีย-จีน เมืองดาร์จิลิ่ง (Darjeeling) ราชินีแห่งขุนเขาหิมาลัย ใกล้กับชายแดนอินเดีย-เนปาล และเมืองโกลกาต้า (Kolkata) เมืองหลวงเก่าที่เคยชื่อว่า กัลกัตต้า (Calcutta) ซึ่งอยู่ในรัฐเวสเบงกอล (West Bengal)


สภาพอากาศในช่วงที่เดินทาง อากาศดี เย็นสบาย ท้องฟ้าโปร่ง และช่วงค่ำๆจะมีฝนตกค่ะ
แผนการเดินทางตามตารางด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดก่อนและระหว่างสงกรานต์ค่ะ

>>> ค่าใช้จ่ายทั้งทริป 6วัน จนถึงบังกาลอร์ ไม่รวมค่าวีซ่าและตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงเทพฯ-อินเดีย อยู่ที่คนละ 15,000บาทค่ะ (รวมค่าตั๋วภายในประเทศ ค่ารถ ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าทิป และค่าเข้าสถานที่ต่างๆ) <<<
ปล. เมืองบังกาลอร์คือเมืองที่เราไปเรียนมหาลัยค่ะ ไม่มีที่ท่องเที่ยวอะไรมาก ครั้งนี้ไปพักผ่อนพบปะเพื่อนๆเท่านั้น จึงจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของเมืองบังกาลอร์ในรีวิวนี้นะคะ ตั้งใจจะเขียนรีวิวแยกเกี่ยวกับการศึกษาในอินเดียทีเดียวเลยค่ะ

เราซื้อตั๋วเครื่องบินภายในประเทศผ่านเวบไซต์ makemytrip.com จองที่พักผ่าน agoda.com
สายการบินภายในประเทศอินเดียมีหลากหลาย ที่ราคาจะค่อนข้างถูกก็มี Indigo กับ Spicejet ซึ่งโดยส่วนตัวเราชอบ Indigo ค่ะ ซึ่งต้องซื้อตั้งแต่เนิ่นๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 3เดือน ไปกลับจะอยู่ที่ 2-3พันกว่าบาทขึ้นอยู่กับระยะทางการบิน แต่ถ้าซื้อแบบกระชั้นชิดก็อาจถึง 4-5พันบาทได้ค่ะ
>>> ตามจริงไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปลงโกลกาต้าก็ได้นะคะ สำหรับคนที่จะเที่ยวเฉพาะแถบ Sikkim-Darjeeling เพราะมีเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-บากโดกร้า โดยสายการบิน Druk Air ซึ่งราคาไม่แพง ไป-กลับประมาณ 16,000บาทค่ะ <<<

วันที่หนึ่ง เรานั่งสายการบินไทยไปลงที่สนามบินโกลกาต้า ซึ่งเป็นสนามบินใหม่ที่พึ่งเปิดใช้เมื่อปลายปี 2012 โดยเป็นอาคารเดี่ยวที่มีทั้งภายในและต่างประเทศอยู่คนละฝั่งของตัวอาคารค่ะ ใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯประมาณ 2ชม. 15นาที และบินต่อไปบากโดกร้า ประมาณ 1ชม. 15นาที

สนามบินบากโดกร้า (Badogra) เป็นสนามบินเดียวของแถบนี้อยู่ที่เมืองสิลิกุรี่ (Siliguri) ซึ่งยังเป็นที่ราบ เป็นดั่งประตูสู่เทือกเขาหิมาลัยทางตะวันออกของประเทศอินเดีย คนท้องถิ่นส่วนมากจะพูดภาษาแบงกอลี (Bengali) ยังมีความเป็นแขกอินเดียแบบติดลบอยู่สูง แต่พอขึ้นเขาไปแล้วมันจะเปลี่ยนไป อิอิ ตามมาดูกันนะ

เมื่อออกมาจากที่รับกระเป๋าแล้วในสนามบินบากโดกร้าจะมีบู๊ทการท่องเที่ยวสิกขิมอยู่ทางด้านขวามือ ซึ่งเราไปติดต่อทำใบอนุญาติเข้าเขตที่นี่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจะใช้รูปถ่าย 2ใบและสำเนาหนังสือเดินทางกับวีซ่าอย่างละใบ แต่ถ้าไม่ทำที่นี่ก็สามารถไปทำที่ด่านตรงปากทางเข้าเขตสิกขิมได้ค่ะ เราทำจากที่สนามบินเพราะไปติดต่อเช่ารถจากเขาด้วย ได้รถมารูติ เป็นรถตู้มินิ นั่งสองคนในราคา 3,500 รูปี (รู้สึกว่าแพงเพราะเชคราคามาอยู่ที่ 2,800-3,000รูปี แต่ขี้เกียจไปเดินหารถเองและไม่อยากเถียงกับแขกข้างนอกเลยเอาตามนี้)

ก่อนขึ้นรถแนะนำให้หาอะไรกิน (มีร้านอาหารชั้นบนของสนามบิน) และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยนะคะ เรานั่งรถจากบากโดกร้าไปเมืองแกงต๊อก (Gangtok) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐสิกขิมระยะทาง 124กม.ใช้เวลา 4ชม.ครึ่ง โดยที่เราจะต้องลงจากรถที่ด่านทางเข้าเขตเพื่อไปประทับตราขาเข้าในใบอนุญาติ ใช้เวลาไม่เกิน 5นาทีค่ะ ถนนตลอดทางจะคดเคี้ยวเลี้ยวลดมาก เนื่องจากเป็นทางเลาะขึ้นภูเขาไปเรื่อยๆ เตรียมยาแก้เมารถไว้ให้ดีนะคะ แต่ตลอดทางเลียบแม่น้ำ Teesta ท่ามกลางหุบเขาเป็นบรรยากาศธรรมชาติที่สวยทีเดียว (เขามีบริการเฮลิคอปเตอร์ด้วยนะ ใช้เวลาประมาณ 40นาที คนละ 3,500รูปี แต่ต้องจองล่วงหน้า มี 2เที่ยวต่อวัน เหมือนจะจำกัดน้ำหนักของกระเป๋าด้วย และอาจจะต้องยกเลิกเที่ยวบินหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ดูรายละเอียดได้จากนี่เลยค่ะ http://www.sikkimstdc.com/HeliServiceGeneral/HeliGeneralReservation.aspx)

ร้านอาหารในสนามบิน เราสั่งผัดเชา (Hakka Chowmein) หรือผัดหมี่ กับไก่ย่างมากินกันค่ะ
ทางไปสิกขิม ... เย้!! ผ่านด่านแล้ว

เราชอบเมืองแกงต๊อกนะ เป็นเมืองที่อากาศดีช่วงนี้กำลังเย็นสบาย ถ้าหน้าหนาวก็คงหนาวมากๆเลย ค่อนข้างสะอาด มีถนนที่เป็นทางเดินมีรั้วกั้นอย่างดีขนานคู่กับถนนรถวิ่งหลัก คนที่นี่จะเดินเป็นส่วนใหญ่ ผู้คนอัธยาศัยดี เป็นมิตร หน้าตาออกไปทางคนทิเบต ผิวขาว แก้มแดง อารมณ์ชาวเขาบ้านเรา บ้างก็ยังมีความคมแขกอยู่คิดว่าคงเป็นลูกผสม เราพักที่โรงแรม Summit Ttakshang Residency Hotel & Spa คืนละ 1,600บาท จัดว่าอยู่ในระดับดี สำหรับประเทศอินเดีย เดินได้จากย่านใจกลางเมืองคือ MG Marg ซึ่งเป็นแหล่งร้านอาหารและร้านค้ายอดนิยมของที่นี่

พอถึงที่พักเรารีบติดต่อผู้จัดทัวร์สำหรับพรุ่งนี้เช้าเพื่อจะไปทะเลสาบซมโก่ หรือทะเลสาบชางกู (Tsomgo/ Changu lake) มีสองชื่อแต่ที่เดียวกัน เราต้องเอาเอกสารคือ รูปถ่าย 3ใบและสำเนาพาสปอดวีซ่าอย่างละ 2ใบไปให้เขาเพื่อทำใบอนุญาติเข้าเขตทะเลสาบแยกอีก เย็นนั้นฝนตกหนักและมีพายุลูกเห็บลงหนักด้วย จึงค่อนข้างโกลาหล ไฟติดๆดับๆ ในส่วนของการไปทะเลสาบก็ยังไม่คอนเฟิร์มเพราะต้องรอรายงานตอนเช้าจากทหารว่าเส้นทางปลอดภัยและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ … ลุ้นกันมากๆและสุดท้ายก็ได้ไปฮะ เย้!!

เย็นนั้นเราก็ไปเดินเล่นหาของกินกันที่ MG Marg แล้วกลับที่พัก เก็บแรงเพื่อเดินทางต่อพรุ่งนี้ค่ะ ที่นี่มีอาหารหลากหลาย ไม่ใช่แค่อาหารอินเดีย ยังมีอาหารจีน ทิเบต และอิตาเลี่ยนด้วยค่ะ จัดเลย อิอิ


วันที่สอง อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นบุฟเฟ่ มี โมโม่ไส้ผักต้ม (เกี๊ยวนึ่ง) อาหารพื้นเมืองของที่นี่ และปูริ (แป้งแผ่นทอด) แกงมันฝรั่งอร่อย ไข่เจียว ต้องสั่งให้เขาทำ plain = แบบธรรมดา และ masala = แบบมีเครื่องพวกมะเขือเทศ พริกหยวก หัวหอม น้ำชา กาแฟ ฯลฯ รถมารับเราเวลา 8.30น. เป็นรถจิ๊บนั่งสบายคนขับอัธยาศัยดี มีคนท้องถิ่นอีกคนแอบอ้างว่าเป็นไกด์เดินทางไปด้วย ที่รู้ว่าแอบอ้างเพราะพอคุยไปคุยมาเริ่มถูกคอกัน เขาก็เลยบอกว่าจริงๆแล้วเป็นนักศึกษาอายุ 19ปี มาหาประสบการณ์ แต่เราไม่ได้จ่ายเงินเพิ่มอะไรให้เขา ทุกอย่างเบ็จเสร็จอยู่ที่ 3,500รูปี โดยจ่ายให้คนจัดไป 500รูปีเมื่อคืน และอีกสามพันที่เหลือให้กับคนขับเมื่อเขาพาเรากลับมาส่งที่โรงแรมตอนเย็น

อาหารเช้าที่โรงแรมค่ะ (ไม่ได้ถ่ายโมโม่ค่ะ)

การเดินทางจากแกงต๊อกไปทะเลสาบซมโก่ใช้เวลาประมาน 1ชม.ครึ่ง ก่อนเข้าเขตใกล้ชายแดนจะมีการตรวจเอกสารที่คนจัดได้เตรียมไว้ให้เราแล้ว และไกด์จะเป็นคนดำเนินการให้ทั้งหมดค่ะ เส้นทางสวยงามตามท้องเรื่อง เลี้ยวลดคดเคี้ยวตามหุบเขาเหมือนนั่งรถเล่นเพลินๆ มีค่ายทหารเป็นระยะๆ มีชื่อเหล่าทหารแมวดำ เหล่าทหารแพะภูเขา เป็นต้น อากาศเย็นลงเรื่อยๆ สอดคล้องกับการที่รถวิ่งบนทางที่สูงขึ้น จนรถมาจอดที่ร้านบริเวณด้านนอกของทะเลสาบ ซึ่งเราแวะดื่มน้ำชาและเช่ารองเท้าบู๊ทกัน มีสองแบบ แบบธรรมดาคู่ละ 50รูปี และแบบบุด้านในคู่ละ 100รูปี จ่ายเงินตอนเอารองเท้ามาคืนและถอดรองเท้าของเราฝากไว้ที่ร้านได้เลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ระหว่างทางจะเห็นนจุดหมายของเราคือภูเขาหิมะใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
สูงขึ้นเรื่อยๆ สวยขึ้นเรื่อยๆ และหนาวขึ้นเรื่อยๆ


ถึงแล้ว ^0^

อุณหภูมิตอนนั้นอยู่ที่ 0-2 C ยังมีหิมะเริ่มจะละลายแล้ว คนท้องถิ่นบอกว่าเมื่อเดือนมกราคม ทะเลสาบยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย แต่เราชอบแบบนี้นะ สีน้ำสวยดี มีบริการขี่แย๊ค แต่เราไม่ได้ขี่ เราเดินเล่นกันรอบๆ ถ่ายรูป นั่งเล่นดื่มด่ำความเยือกเย็น ใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1ชม.กว่าๆ มีนักท่องเที่ยวทั้งคนอินเดียและชาวต่างชาติ และเราก็เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเยอะเหมือนกันค่ะ

พอกลับไปที่ร้านรองเท้าคราวนี้เริ่มหิวแล้ว เลยกินโมโม่กับต้มบะหมี่ มีสองแบบ แม๊กกี้จะหนึบๆเละๆ กับไวไวจะน้ำใสๆเหมือนของบ้านเรา มื้อนี้ 200รูปี อิ่มแล้วไปต่อ โดยเราคุยกับคนขับว่าเรามีเวลาเลยให้พาไปที่น้ำตกที่อยู่ในสวน Banjhakri Fall ซึ่งห่างจากแกงต๊อกไม่มาก เขาก็ตกลงโดยเราเพิ่มเงินให้เขาอีก 800รูปี แต่เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่เข้าหน้าฝน น้ำตกจึงมีน้ำน้อย แต่สวนโดยรวมก็มีบรรกาศธรรมชาติที่สวยงามดีค่ะ ค่าเข้าคนละ 50รูปี ค่าจอดรถคันละ 20รูปี

ตอนเย็นเราก็มาเดินซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆที่ MG Marg และกินข้าวเย็นกัน เป็นร้านอาหารจีนชื่อว่า Golden Dragon อาหารรสชาติโอเคค่ะ สมาชิกสั่งเบียร์มาดื่ม ซึ่งพนักงานเอาแก้วกาแฟมารินเบียร์ใส่ให้ เสร็จแล้วก็ให้เอากระป๋องเบียร์วางใต้โต๊ะ แล้วอธิบายว่าวันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธ ซึ่งห้ามจำหน่ายของมึนเมา แต่เขาขายให้แต่ต้องแอบๆหน่อย พอหันไปมองโต๊ะอื่นๆที่ดื่มกาแฟก็เห็นมีกระป๋องเบียร์แอบอยู่ใต้โต๊ะทั้งนั้นเลย 5555

กระทู้เดียวจบ ... ต่อด้านล่างนะคะ
ชื่อสินค้า:   ประเทศอินเดีย
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่