ช่วงไม่กี่วันมานี้ได้เห็นกลุ่มโปรเตสแตนต์บางกลุ่มบอกว่าคาทอลิก และออร์โธด็อกซ์มีพระสงฆ์หรือที่เรียกว่าบาทหลวง ว่าเป็น
คนกลางระหว่างพระเจ้า ซึ่งผมอยากจะอธิบายนิดหน่อยในเรื่องศีลอุปสมบทและการแต่งตั้งนะครับ
พิธีกรรมศีลอุปสมบท คือการคัดเลือกบุคคลอย่างถูกต้องในตำแหน่งทางสงฆ์ เช่นพระสังฆราช , บาทหลวง และสังฆานุกร บุคคลเหล่านี้จะต้องผ่านพิธีอุปสมบทแต่งตั้งโดยการวางมือของหัวหน้าสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ (ระดับพระสังฆราชขึ้นไป) บนศรีษะของผู้ที่ได้รับการอุปสมบทและในระหว่างนั้นจะมีการสวดบทสวดเพื่อเรียกขอพระพรจากพระจิตเจ้าลงมาสถิตกับบุคคลนั้น ๆ เพื่อที่ผู้นั้นสามารถที่จะรับใช้ต่อการประกอบพิธีกรรมในศาสนจักร
ในการประกอบพิธีกรรมแต่งตั้งสังฆราช ผู้ที่เข้าพิธีกรรมแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชนี้คือผู้ที่ได้รับการวางมือบนศรีษะจากพระสังฆราชชั้นผู้ใหญ่ตั้งแต่สามท่านขึ้นไปเป็นอย่างน้อย หลังจากแต่งตั้งเสร็จแล้ว บุคคลนี้สามารถที่จะประกอบพิธีกรรมอุปสมบทวางมือบนศรีษะแต่งตั้งพระผู้ช่วยได้ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ต่อไปตามลำดับ
***โดยการที่จะได้รับการเป็นสงฆ์ระดับพระสังฆราชนั้นจะต้องไม่ผ่านการแต่งงานมาก่อนและจะต้องผ่านการบวชเป็นพระถือศีลพรหมจรรย์มาก่อน
ในพิธีกรรมนี้ถือเป็นการสถาปนาแห่งพระเป็นเจ้าโดยนักบุญเปาโลอัครสาวกได้เป็นการยืนยันแก่องค์พระเยซูคริสตเจ้า (เอเฟซัส 4:11-12)
เกี่ยวกับการอุปสมบท นักบุญอัครสาวกก็ได้ทำเช่นกัน โดยได้กล่าวอยู่ในหนังสือกิจการของอัครสาวก “คนทั้งเจ็ดนี้ พวกเขาให้มายืนต่อหน้าพวกอัครทูต แล้วอัครทูตก็อธิษฐานและ
วางมือบนตัวเขาทั้งหลาย” กิจการ 6:6 (THSV)
เกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมอุปสมบทวงมือบนศรีษะแต่งตั้งพระผู้ประกอบพิธีกรรมในคริสตจักรนั้นมีกล่าวไว้ว่า “เมื่อท่านทั้งสอง (น.เปาโล และอัครทูตวารนาวา) แต่งตั้งพวกผู้ปกครองในคริสตจักรแต่ละแห่งแล้ว ก็อธิษฐานและถืออดอาหารเพื่อมอบพวกเขาไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าที่พวกเขาเชื่อถือนั้น” กิจการ 14:23 (THSV)
ในจดหมายของท่านักบุญเปาโลเขียนถึงทิโมธีและทิตัส ท่านนักบุญเปาโลอัครสาวกได้ย้ำเตือนต่อพระสังฆราชไว้ว่า
“เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอเตือนความจำท่านว่า ของประทานของพระเจ้าที่มีในตัวท่านโดยผ่านทาง
การวางมือของข้าพเจ้านั้น จงทำให้รุ่งเรืองขึ้น” 2ทิโมธี 1:6 (THSV)
“เหตุที่ข้าพเจ้าละท่านไว้ที่เกาะครีตนั้นก็เพื่อให้ท่านแก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่องให้เรียบร้อย และแต่งตั้งบรรดาผู้ปกครองไว้ทุกเมืองตามที่ข้าพเจ้ากำชับท่าน” ทิตัส 1:5 (THSV)
จดหมายที่นักบุญเปาโลเขียนไปถึงทิโมธีนั้นยังกล่าวอีกว่า “อย่ารีบ
วางมือแต่งตั้งใคร และอย่ามีส่วนร่วมในบาปของคนอื่นเลย จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์” 1ทิโมธี 5:22 (THSV)
จากการส่งบันทึกข้อความจดหมายถึงแต่ละคริสตจักรนั้นเราจะเห็นได้ว่าเหล่าสาวกนั้นได้ให้อำนาจ ในการประกอบพิธีอุปสมบทการวางมือแต่งตั้งสงฆ์ แก่พระสังฆราช แต่ละคริสตจักรนั้น
การแต่งตั้งสังฆานุกรของทางศาสนจักรออร์โธด็อกซ์
จะสังเกตได้ว่าการแต่งตั้งพระสังฆราช บาทหลวง หรือสังฆานุกรนั้นต้องได้รับอำนาจจากอัครสาวก ซึ่งอัครสาวกได้แต่งตั้งไว้ระหว่างการประกาศข่าว ณ เมืองนั้น ๆ ซึ่งพระสังฆราชแต่ละคริสตจักรแต่ละเมืองก็ได้ปกมือแต่งตั้งเรื่อยมาสืบทอดมาจากอัครสาวกตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องและจากผู้ที่ได้รับการสืบเนื่องมาจากอัครสาวกคือพระสังฆราชนั้นเอง
ซึ่งถ้าทางโปรเตสแตนต์กล่าวว่าเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้า ก็เท่ากับว่าอัครสาวกเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้าเช่นกัน ดังนั้นอยากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ด้วยว่าบาทหลวง พระสังฆราชที่ทำการโปรดบาป และประกอบพิธีกรรมนั้นถือว่าได้รับอำนาจที่สืบเนื่องมาจากอัครสาวกนั้นเอง
หวังว่าบทความนี้คงจะทำให้เข้าใจได้อยู่นะครับ
พระเจ้าอวยพรครับ.
~Orthodox Church~ บาทหลวงไม่ใช่ "คนกลางระหว่างพระเจ้า" ทำความเข้าใจการอุปสมบท
พิธีกรรมศีลอุปสมบท คือการคัดเลือกบุคคลอย่างถูกต้องในตำแหน่งทางสงฆ์ เช่นพระสังฆราช , บาทหลวง และสังฆานุกร บุคคลเหล่านี้จะต้องผ่านพิธีอุปสมบทแต่งตั้งโดยการวางมือของหัวหน้าสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ (ระดับพระสังฆราชขึ้นไป) บนศรีษะของผู้ที่ได้รับการอุปสมบทและในระหว่างนั้นจะมีการสวดบทสวดเพื่อเรียกขอพระพรจากพระจิตเจ้าลงมาสถิตกับบุคคลนั้น ๆ เพื่อที่ผู้นั้นสามารถที่จะรับใช้ต่อการประกอบพิธีกรรมในศาสนจักร
ในการประกอบพิธีกรรมแต่งตั้งสังฆราช ผู้ที่เข้าพิธีกรรมแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชนี้คือผู้ที่ได้รับการวางมือบนศรีษะจากพระสังฆราชชั้นผู้ใหญ่ตั้งแต่สามท่านขึ้นไปเป็นอย่างน้อย หลังจากแต่งตั้งเสร็จแล้ว บุคคลนี้สามารถที่จะประกอบพิธีกรรมอุปสมบทวางมือบนศรีษะแต่งตั้งพระผู้ช่วยได้ และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ต่อไปตามลำดับ
***โดยการที่จะได้รับการเป็นสงฆ์ระดับพระสังฆราชนั้นจะต้องไม่ผ่านการแต่งงานมาก่อนและจะต้องผ่านการบวชเป็นพระถือศีลพรหมจรรย์มาก่อน
ในพิธีกรรมนี้ถือเป็นการสถาปนาแห่งพระเป็นเจ้าโดยนักบุญเปาโลอัครสาวกได้เป็นการยืนยันแก่องค์พระเยซูคริสตเจ้า (เอเฟซัส 4:11-12)
เกี่ยวกับการอุปสมบท นักบุญอัครสาวกก็ได้ทำเช่นกัน โดยได้กล่าวอยู่ในหนังสือกิจการของอัครสาวก “คนทั้งเจ็ดนี้ พวกเขาให้มายืนต่อหน้าพวกอัครทูต แล้วอัครทูตก็อธิษฐานและวางมือบนตัวเขาทั้งหลาย” กิจการ 6:6 (THSV)
เกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมอุปสมบทวงมือบนศรีษะแต่งตั้งพระผู้ประกอบพิธีกรรมในคริสตจักรนั้นมีกล่าวไว้ว่า “เมื่อท่านทั้งสอง (น.เปาโล และอัครทูตวารนาวา) แต่งตั้งพวกผู้ปกครองในคริสตจักรแต่ละแห่งแล้ว ก็อธิษฐานและถืออดอาหารเพื่อมอบพวกเขาไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าที่พวกเขาเชื่อถือนั้น” กิจการ 14:23 (THSV)
ในจดหมายของท่านักบุญเปาโลเขียนถึงทิโมธีและทิตัส ท่านนักบุญเปาโลอัครสาวกได้ย้ำเตือนต่อพระสังฆราชไว้ว่า
“เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอเตือนความจำท่านว่า ของประทานของพระเจ้าที่มีในตัวท่านโดยผ่านทางการวางมือของข้าพเจ้านั้น จงทำให้รุ่งเรืองขึ้น” 2ทิโมธี 1:6 (THSV)
“เหตุที่ข้าพเจ้าละท่านไว้ที่เกาะครีตนั้นก็เพื่อให้ท่านแก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่องให้เรียบร้อย และแต่งตั้งบรรดาผู้ปกครองไว้ทุกเมืองตามที่ข้าพเจ้ากำชับท่าน” ทิตัส 1:5 (THSV)
จดหมายที่นักบุญเปาโลเขียนไปถึงทิโมธีนั้นยังกล่าวอีกว่า “อย่ารีบวางมือแต่งตั้งใคร และอย่ามีส่วนร่วมในบาปของคนอื่นเลย จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์” 1ทิโมธี 5:22 (THSV)
จากการส่งบันทึกข้อความจดหมายถึงแต่ละคริสตจักรนั้นเราจะเห็นได้ว่าเหล่าสาวกนั้นได้ให้อำนาจ ในการประกอบพิธีอุปสมบทการวางมือแต่งตั้งสงฆ์ แก่พระสังฆราช แต่ละคริสตจักรนั้น
จะสังเกตได้ว่าการแต่งตั้งพระสังฆราช บาทหลวง หรือสังฆานุกรนั้นต้องได้รับอำนาจจากอัครสาวก ซึ่งอัครสาวกได้แต่งตั้งไว้ระหว่างการประกาศข่าว ณ เมืองนั้น ๆ ซึ่งพระสังฆราชแต่ละคริสตจักรแต่ละเมืองก็ได้ปกมือแต่งตั้งเรื่อยมาสืบทอดมาจากอัครสาวกตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องและจากผู้ที่ได้รับการสืบเนื่องมาจากอัครสาวกคือพระสังฆราชนั้นเอง
ซึ่งถ้าทางโปรเตสแตนต์กล่าวว่าเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้า ก็เท่ากับว่าอัครสาวกเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้าเช่นกัน ดังนั้นอยากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ด้วยว่าบาทหลวง พระสังฆราชที่ทำการโปรดบาป และประกอบพิธีกรรมนั้นถือว่าได้รับอำนาจที่สืบเนื่องมาจากอัครสาวกนั้นเอง
หวังว่าบทความนี้คงจะทำให้เข้าใจได้อยู่นะครับ
พระเจ้าอวยพรครับ.