มีน้องมาบรรจุใหม่คะ
เธอพยายามที่จะทำให้ ผู้ใหญ่เห็นว่า เธอเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้
แต่ในความเป็นจริง คือ งานที่เธอนำเสนอมันเป็นงานที่ดิฉันได้ ทะยอยทำเตรียมมาสองสามปี แล้ว ผลผลิตมันแตกดอกออกผลในปีที่น้องมา
น้องก็ไปบอก ผู้บริหารที่เพิ่งย้ายมาเหมือนกัน ว่าเป็นของน้อง ทั้ง ๆ ที่เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ก็รู้ว่า เป็นงานดิฉัน
นอกจากงานดิฉันแล้ว งานอื่น ๆ เธอก็ไปป่วน แสดงว่าเธอเก่ง แต่ความจริงแล้ว งานเหล่านั้น มีคนอื่นทำไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอก็เข้ามาชุบ แล้วบอกว่าเป็นงานเธอ
พอตอนนี้ จะต้องให้เธอสานต่องาน ซึ่งก็เหมือนเริ่มต้นใหม่
เพราะสิ่งที่เธอชุบมือเปิบไป มันได้รางวัล ประสบความสำเร็จไปแล้ว
คราวนี้ น้องต้องพิสูจน์ตนเอง พิสูจน์ ความสามารถของตนเองจริง ๆ
น้องก็เริ่มเล่นแง่ หาทางไม่ยอมทำงาน โบ๊ยงานมาให้ดิฉันทำอีก
บอกตรง ๆ ค่ะ ว่าเสียกำลังใจมาก
จากคนที่ทำงาน จับงานนี้มาเกือบ ๆ จะ 20 ปี
มาพบ ผู้บริหาร ที่เชื่อเด็กรุ่นใหม่
ถึงขนาดปลดดิฉัน ไม่ให้มีบทบาทอะไรเลย
ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย
แต่เวลาทำงาน แล้วน้องทำไม่ได้ ก็มาให้ดิฉันทำ
ตลอดเวลา ตั้งแต่รับราชการมา ดิฉัน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พยายามพัฒนางานมาตลอด จนเป็นผลให้น้อง ไปต่อยอด ( อย่างหน้าด้าน ๆ )
แล้วน้อง ก็ไปบอกผู้บริหารว่า ดิฉันไม่ทำ และ ผู้บริหารก็เชื่อ
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ในที่ทำงาน ก็บอกว่า เราต้องให้ ผู้บริหารรู้ว่าเราเป็นคนทำ ซึ่ง อันนี้ ผู้บริหารรู้ค่ะ แต่เขาจะสนับสนุนน้อง
ดิฉัน เป็นคนไม่ชอบที่จะไปทำงานให้เขาเห็น มีความคิดว่า ถ้าเขาเอ็นดูเรา เขาย่อมมองเห็นอยู่แล้วว่าเราเป็นอย่างไร ต่อให้ไปทำต่อหน้าต่อตา จนแทบจะทิ่มตา ถ้าเขาไม่มอง มันก็ไม่มีค่าอะไร
อยากระบายค่ะ
ดิฉันคิดถึง กรณีคุณสืบ นาคะเสถียร บางที อยากบอกโลกด้วยวิธีนั้นบ้าง
ผู้บริหาร เชื่อเด็กรุ่นใหม่ ทั้ง ๆ ที่ ความจริงแล้วทำอะไรไม่เป็นเลย ดีแต่ ประจบสอพลอ แก้ปัญหานี้อย่างไรคะ
เธอพยายามที่จะทำให้ ผู้ใหญ่เห็นว่า เธอเก่งอย่างนั้น เก่งอย่างนี้
แต่ในความเป็นจริง คือ งานที่เธอนำเสนอมันเป็นงานที่ดิฉันได้ ทะยอยทำเตรียมมาสองสามปี แล้ว ผลผลิตมันแตกดอกออกผลในปีที่น้องมา
น้องก็ไปบอก ผู้บริหารที่เพิ่งย้ายมาเหมือนกัน ว่าเป็นของน้อง ทั้ง ๆ ที่เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ก็รู้ว่า เป็นงานดิฉัน
นอกจากงานดิฉันแล้ว งานอื่น ๆ เธอก็ไปป่วน แสดงว่าเธอเก่ง แต่ความจริงแล้ว งานเหล่านั้น มีคนอื่นทำไว้เรียบร้อยแล้ว
เธอก็เข้ามาชุบ แล้วบอกว่าเป็นงานเธอ
พอตอนนี้ จะต้องให้เธอสานต่องาน ซึ่งก็เหมือนเริ่มต้นใหม่
เพราะสิ่งที่เธอชุบมือเปิบไป มันได้รางวัล ประสบความสำเร็จไปแล้ว
คราวนี้ น้องต้องพิสูจน์ตนเอง พิสูจน์ ความสามารถของตนเองจริง ๆ
น้องก็เริ่มเล่นแง่ หาทางไม่ยอมทำงาน โบ๊ยงานมาให้ดิฉันทำอีก
บอกตรง ๆ ค่ะ ว่าเสียกำลังใจมาก
จากคนที่ทำงาน จับงานนี้มาเกือบ ๆ จะ 20 ปี
มาพบ ผู้บริหาร ที่เชื่อเด็กรุ่นใหม่
ถึงขนาดปลดดิฉัน ไม่ให้มีบทบาทอะไรเลย
ไม่มีตำแหน่งอะไรเลย
แต่เวลาทำงาน แล้วน้องทำไม่ได้ ก็มาให้ดิฉันทำ
ตลอดเวลา ตั้งแต่รับราชการมา ดิฉัน มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ พยายามพัฒนางานมาตลอด จนเป็นผลให้น้อง ไปต่อยอด ( อย่างหน้าด้าน ๆ )
แล้วน้อง ก็ไปบอกผู้บริหารว่า ดิฉันไม่ทำ และ ผู้บริหารก็เชื่อ
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ในที่ทำงาน ก็บอกว่า เราต้องให้ ผู้บริหารรู้ว่าเราเป็นคนทำ ซึ่ง อันนี้ ผู้บริหารรู้ค่ะ แต่เขาจะสนับสนุนน้อง
ดิฉัน เป็นคนไม่ชอบที่จะไปทำงานให้เขาเห็น มีความคิดว่า ถ้าเขาเอ็นดูเรา เขาย่อมมองเห็นอยู่แล้วว่าเราเป็นอย่างไร ต่อให้ไปทำต่อหน้าต่อตา จนแทบจะทิ่มตา ถ้าเขาไม่มอง มันก็ไม่มีค่าอะไร
อยากระบายค่ะ
ดิฉันคิดถึง กรณีคุณสืบ นาคะเสถียร บางที อยากบอกโลกด้วยวิธีนั้นบ้าง