สวัสดีครับ ขออนุญาตปรึกษาคดีที่ดินครับ ขอเริ่มต้นเล่าตั้งแต่แรกเลยนะครับ
ผมกับแฟนได้ลาออกจากงานที่กทม.เพื่อกลับมาอยู่บ้านที่จ.อุดรเมื่อวันที่28เมษายน2559 กลับมาถึงก็เริ่มซ่อมแซมบ้านเนื่องจากทรุดโทรมไปมากเปลี่ยนประตูหน้าต่าง แล้วจากนั้นก็ทาสีใหม่ทั้งหมดเรื่องมันเริ่มตรงทาสีนี่แหละครับ ก็เริ่มทาสีกันไปจากส่วนของกำแพงบ้านก่อน ก็ดูจะปกติดีแหละครับในส่วนอื่นๆ แต่พอมาถึงกำแพงด้านนอกที่อยู่ติดกับข้างบ้าน (มีทางเดินตามภาพที่ผมแนบมา) ซึ่งมีการทำประตูปิดกั้นทางเดินไว้ และล็อคกุญแจ จะมีเฉพาะบ้านนายก.และนางข.เท่านั้นซึ่งมีกุญแจ แฟนผมได้เดินไปขออนุญาตินางข.ซึ่งเปิดร้านขายอะไหล่มอไซค์อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะเข้าไปทาสี ซึ่งนางข.ก็อนุญาติ แล้วยังพูดว่า"ถ้าจะเข้าประตูด้านในด้วยพี่ก็จะเอากุญแจให้" แต่แฟนผมบอกว่ายังก่อน จากนั้นแฟนผมก็เดินมาเปิดประตูทางเดิน พอกำลังแง้มจะเปิดประตู นายก.ก็ตะโกนโวยวายวิ่งมาดันประตูไว้และมีการด่าทอกันเกิดขึ้นกับแฟนผม(ส่วนผมยืนดูเงียบๆ) นายก.แจ้งว่าแฟนผม บุกรุกพื้นที่ห้ามไม่ให้เข้ามา ทั้งๆที่ยังไม่เข้าไปสักก้าว ยังยืนอยู่บนถนนหลวงสาธารณะตามภาพ นายก.ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอและมีการง้างมือขึ้นทำท่าจะชก แฟนผมก็ด่ากลับ นายก.ได้เดินกลับเข้าบ้านไปเอามีด(มีดถางป่าด้ามไม้ยาวๆหรือที่เรียกกันว่ามีดขอ)ถือออกมาตรงมาหาแฟนผมแล้วหยุด(ประมาณว่าถือมีดขู่ให้กลัว) ผมก็ยืนดูอยู่เงียบๆข้างๆแฟน ต่อจากนั้นทั้งแฟนผมและนายก.ก็เถียงกันไปมาซักพักเรื่องสิทธ์การเข้าเดินในทางเดิน ผมคิดว่ายังไงก็คุยกันไม่รู้เรื่องเลยบอกแฟนว่าไม่ต้องเข้าไปแล้ววันนี้ ยังไม่ทาสีดีกว่า และชวนแฟนกลับเข้าบ้าน ส่วนนายก.ก็วิ่งโรไปแจ้งความที่สน. ส่วนผมกับแฟนก็ได้โทรหาพี่สาวเจ้าของบ้านและเป็นผู้ถือโฉนดบ้านที่ผมและแฟนอาศัย อยู่และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พี่สาวเลยบอกมาว่าทางเดินส่วนนั้นพี่เป็นคนแบ่งให้เจ้าของที่ดินเดิมของบ้านนางข.เดิน(นางข.เพิ่งมาซื้อต่อและปรับปรุงใหม่ได้3ปี เมื่อ3ปีก่อนผมและแฟนยังเดินเข้าออกได้ไม่มีประตูรั้วกั้น)โดยการแบ่งให้เดินนั้น ไม่มีการทำหนังสือหรือจดเอกสารทะเบียนใดๆ เป็นแต่เพียงกล่าววาจาเท่านั้น ซึ่งพี่แกก็เพิ่งรู้ว่ามีคนมาซื้อและปรับปรุงใหม่สร้างประตูปิดกั้นทางเดินทำเป็นทางส่วนบุคคลใช้ร่วมกันกับนายก.เท่านั้น พี่แกก็เลยบอกมาว่ามันเป็นที่ของเรา เราก็เดินได้เช่นกัน แล้วก็บอกให้ผมกับแฟนรอแก แกกำลังจองตั๋วเครื่องบินกลับมาดู สองวันต่อมาตำรวจมาเชิญตัวแฟนผมไปโรงพักเนื่องจากนายก็ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า (หาว่าแฟนผมจะเอาปืนไปยิงทั้งๆที่แฟนผมมือเปล่าไม่มีไรเลย) ตำรวจก็เรียกนางข.ผู้เป็นเจ้าของประตูมาชี้แจง เนื่องจากเขตที่ดินนั้นไม่ได้เป็นของนายก.แต่เป็นส่วนของนางข.นายก.ยุยงให้นางข.แจ้งความดำเนินคดีกับแฟนผมคือจะเอาเรื่องให้ได้ แต่นางข.ไม่แจ้งความ ขอให้จบกันไป ตำรวจเลยให้แยกย้ายกลับบ้านโดยไม่ลงบันทึกใดๆทั้งสิ้น จากนั้นประมาณอาทิตย์นึงต่อมา นายก.และนางข.ได้ปรึกษากันเรื่องเขตแดนที่ดิน เพื่อเดินเรื่องขอสิทธ์ใช้ทางเดินนั้นส่วนตัว (เพราะเจ้าของเดิมที่ขายให้นางข. มาชี้แจงแล้วว่าเขตแดนตามโฉนดของนางข.ถึงไหน)และได้ไปยื่นหนังสือต่อกรมที่ดิน และเมื่อพี่สาวเดินทางจากต่างประเทศมาถึง(เมื่อวันที่28พฤษภาคม2559) ก็ได้ไปยื่นหนังสือขอสอบรังวัดเขตและรวมโฉนด(โฉนดมี2ใบ) เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมที่ดินมีคิวรังวัดยาวมากต้องรอไปอีกหลายเดือน พี่สาวจึงได้ไปจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดเอกชน เจ้าหน้าที่รังวัดได้มาทำการสอบรังวัดก่อนทำการรังวัดจริง และปรากฎว่าเขตแดนตามโฉนดยื่นออกมาตามเส้นสีแดงในภาพ แสดงให้เห็นว่าแบ่งทางเดินไว้ถึงตรงไหน(ย้ำว่าเป็นการแบ่งปากเปล่าไม่มีการจดหนังสือใดๆ) พอนายก.ทราบเรื่องก็มีการพูดส่อเสียดว่า "มันจ้างรังวัดเอกชนมาจะทำอะไรได้ เอกชนจะไปรู้อะไรเท่ารัฐ" และยังพูดอีกว่า"ให้มันฟ้องเอาเลย มันจะทำอะไรได้พวกกบในกะลา " นายก.และนางข.เป็นผู้มีเงินและมีเส้นมีสายเยอะในพื้นที่ ผมกับแฟนก็แค่คนธรรมดาไม่มีพรรคพวกเส้นสายใดๆ จึงอยากทราบว่า
1. พวกผมจะมีสิทธ์ดำเนินการใดๆได้บ้างในสิทธ์ตามแนวเขตที่รังวัด นัดรังวัดจริงวันที่23มิถุนายน2559
2. หลังจากรังวัดจริงสามารถทำรั้วกั้นเขตขึ้นมาตามแนวที่รังวัดออกมาได้หรือไม่ได้หรือไม่
3. หากฟ้องร้องแล้วแพ้คดีต้องยอมยกทางเดินให้เขาเดิน แล้วพวกผมมีสิทธิ์ใช้ทางได้ด้วยหรือไม่
4.หากทางพวกผมกั้นรั้วขึ้น นางข.ก็ยังมีทางเดินฝั่งนายก.ไว้เดินเข้าออกอยู่ ข้อนี้นางข.จะยังฟ้องให้เปิดทางได้หรือไม่
5.ทางพี่สาวได้ไปสอบถามคร่าวๆกับทนายในพื้นที่ซึ่งก็รู้จักนางข.เป็นอย่างดี ทนายบอกว่าพวกผมต้องยกให้เขาเดินเท่านั้นเพราะพวกผมเพิกเฉยมาเป็นเวลานาน ข้อนี้จริงเท็จประการใด
6.คดีแบบนี้ฟ้องร้องกันนานหรือไม่
7.ค่าทนายให้ปรึกษาดำเนินการประมาณเท่าไรครับ
8.จากการหาข้อมมูลผมพบว่าหากทางเดินใช้มาเป็นเวลา10ปีแล้วก็ต้องยกให้เขาเดิน แต่เขามีสิทธ์ทำประตูกั้นไว้เป็นส่วนตัวด้วยหรือไม่(ทางเดินปัจจุบันรวมทั้งฝั่งนายก.รถตู้คันใหญ่วิ่งเข้าออกสบาย)
9.การแบ่งให้เป็นทางเข้าออกตามกฎหมาย ให้เฉพาะคนเดินเข้าออกหรือให้รถยนต์วิ่งเข้าออกได้ด้วย
*** ขออภัยครับ แนบภาพประกอบไม่ได้ อธิบายนิดนึง ที่ดินนางข.อยู่หลังที่ดินพี่สาวประมาณว่าที่ตาบอด แต่ไม่ถึงกับบอดเพราะเขาสนิทกันกับนายก.นายก.จึงแบ่งที่ให้เดินเข้าออกได้แต่รถยนต์เข้าไม่ได้ และเมื่อรวมกับทางเดินที่พี่สาวเว้นให้เดินนางข.ก็จะสามารถนำรถยนต์เข้าออกสบายๆตอนพูดกันเรื่องเว้นที่พูดกับเจ้าของเดิม แต่นางข.มาซื้อต่อ และตอนนี้เขาก็ยึดเป็นทางส่วนตัวไปแล้วทำประตูปิดกั้นไปเรียบร้อย ขอความรู้ทีครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงครับ
ขอปรึกษาคดีเกี่ยวกับที่ดินหน่อยครับ เรื่องการแบ่งทางเดิน
ผมกับแฟนได้ลาออกจากงานที่กทม.เพื่อกลับมาอยู่บ้านที่จ.อุดรเมื่อวันที่28เมษายน2559 กลับมาถึงก็เริ่มซ่อมแซมบ้านเนื่องจากทรุดโทรมไปมากเปลี่ยนประตูหน้าต่าง แล้วจากนั้นก็ทาสีใหม่ทั้งหมดเรื่องมันเริ่มตรงทาสีนี่แหละครับ ก็เริ่มทาสีกันไปจากส่วนของกำแพงบ้านก่อน ก็ดูจะปกติดีแหละครับในส่วนอื่นๆ แต่พอมาถึงกำแพงด้านนอกที่อยู่ติดกับข้างบ้าน (มีทางเดินตามภาพที่ผมแนบมา) ซึ่งมีการทำประตูปิดกั้นทางเดินไว้ และล็อคกุญแจ จะมีเฉพาะบ้านนายก.และนางข.เท่านั้นซึ่งมีกุญแจ แฟนผมได้เดินไปขออนุญาตินางข.ซึ่งเปิดร้านขายอะไหล่มอไซค์อยู่ใกล้ๆ เพื่อที่จะเข้าไปทาสี ซึ่งนางข.ก็อนุญาติ แล้วยังพูดว่า"ถ้าจะเข้าประตูด้านในด้วยพี่ก็จะเอากุญแจให้" แต่แฟนผมบอกว่ายังก่อน จากนั้นแฟนผมก็เดินมาเปิดประตูทางเดิน พอกำลังแง้มจะเปิดประตู นายก.ก็ตะโกนโวยวายวิ่งมาดันประตูไว้และมีการด่าทอกันเกิดขึ้นกับแฟนผม(ส่วนผมยืนดูเงียบๆ) นายก.แจ้งว่าแฟนผม บุกรุกพื้นที่ห้ามไม่ให้เข้ามา ทั้งๆที่ยังไม่เข้าไปสักก้าว ยังยืนอยู่บนถนนหลวงสาธารณะตามภาพ นายก.ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าทอและมีการง้างมือขึ้นทำท่าจะชก แฟนผมก็ด่ากลับ นายก.ได้เดินกลับเข้าบ้านไปเอามีด(มีดถางป่าด้ามไม้ยาวๆหรือที่เรียกกันว่ามีดขอ)ถือออกมาตรงมาหาแฟนผมแล้วหยุด(ประมาณว่าถือมีดขู่ให้กลัว) ผมก็ยืนดูอยู่เงียบๆข้างๆแฟน ต่อจากนั้นทั้งแฟนผมและนายก.ก็เถียงกันไปมาซักพักเรื่องสิทธ์การเข้าเดินในทางเดิน ผมคิดว่ายังไงก็คุยกันไม่รู้เรื่องเลยบอกแฟนว่าไม่ต้องเข้าไปแล้ววันนี้ ยังไม่ทาสีดีกว่า และชวนแฟนกลับเข้าบ้าน ส่วนนายก.ก็วิ่งโรไปแจ้งความที่สน. ส่วนผมกับแฟนก็ได้โทรหาพี่สาวเจ้าของบ้านและเป็นผู้ถือโฉนดบ้านที่ผมและแฟนอาศัย อยู่และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พี่สาวเลยบอกมาว่าทางเดินส่วนนั้นพี่เป็นคนแบ่งให้เจ้าของที่ดินเดิมของบ้านนางข.เดิน(นางข.เพิ่งมาซื้อต่อและปรับปรุงใหม่ได้3ปี เมื่อ3ปีก่อนผมและแฟนยังเดินเข้าออกได้ไม่มีประตูรั้วกั้น)โดยการแบ่งให้เดินนั้น ไม่มีการทำหนังสือหรือจดเอกสารทะเบียนใดๆ เป็นแต่เพียงกล่าววาจาเท่านั้น ซึ่งพี่แกก็เพิ่งรู้ว่ามีคนมาซื้อและปรับปรุงใหม่สร้างประตูปิดกั้นทางเดินทำเป็นทางส่วนบุคคลใช้ร่วมกันกับนายก.เท่านั้น พี่แกก็เลยบอกมาว่ามันเป็นที่ของเรา เราก็เดินได้เช่นกัน แล้วก็บอกให้ผมกับแฟนรอแก แกกำลังจองตั๋วเครื่องบินกลับมาดู สองวันต่อมาตำรวจมาเชิญตัวแฟนผมไปโรงพักเนื่องจากนายก็ไปแจ้งความข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า (หาว่าแฟนผมจะเอาปืนไปยิงทั้งๆที่แฟนผมมือเปล่าไม่มีไรเลย) ตำรวจก็เรียกนางข.ผู้เป็นเจ้าของประตูมาชี้แจง เนื่องจากเขตที่ดินนั้นไม่ได้เป็นของนายก.แต่เป็นส่วนของนางข.นายก.ยุยงให้นางข.แจ้งความดำเนินคดีกับแฟนผมคือจะเอาเรื่องให้ได้ แต่นางข.ไม่แจ้งความ ขอให้จบกันไป ตำรวจเลยให้แยกย้ายกลับบ้านโดยไม่ลงบันทึกใดๆทั้งสิ้น จากนั้นประมาณอาทิตย์นึงต่อมา นายก.และนางข.ได้ปรึกษากันเรื่องเขตแดนที่ดิน เพื่อเดินเรื่องขอสิทธ์ใช้ทางเดินนั้นส่วนตัว (เพราะเจ้าของเดิมที่ขายให้นางข. มาชี้แจงแล้วว่าเขตแดนตามโฉนดของนางข.ถึงไหน)และได้ไปยื่นหนังสือต่อกรมที่ดิน และเมื่อพี่สาวเดินทางจากต่างประเทศมาถึง(เมื่อวันที่28พฤษภาคม2559) ก็ได้ไปยื่นหนังสือขอสอบรังวัดเขตและรวมโฉนด(โฉนดมี2ใบ) เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมที่ดินมีคิวรังวัดยาวมากต้องรอไปอีกหลายเดือน พี่สาวจึงได้ไปจ้างเจ้าหน้าที่รังวัดเอกชน เจ้าหน้าที่รังวัดได้มาทำการสอบรังวัดก่อนทำการรังวัดจริง และปรากฎว่าเขตแดนตามโฉนดยื่นออกมาตามเส้นสีแดงในภาพ แสดงให้เห็นว่าแบ่งทางเดินไว้ถึงตรงไหน(ย้ำว่าเป็นการแบ่งปากเปล่าไม่มีการจดหนังสือใดๆ) พอนายก.ทราบเรื่องก็มีการพูดส่อเสียดว่า "มันจ้างรังวัดเอกชนมาจะทำอะไรได้ เอกชนจะไปรู้อะไรเท่ารัฐ" และยังพูดอีกว่า"ให้มันฟ้องเอาเลย มันจะทำอะไรได้พวกกบในกะลา " นายก.และนางข.เป็นผู้มีเงินและมีเส้นมีสายเยอะในพื้นที่ ผมกับแฟนก็แค่คนธรรมดาไม่มีพรรคพวกเส้นสายใดๆ จึงอยากทราบว่า
1. พวกผมจะมีสิทธ์ดำเนินการใดๆได้บ้างในสิทธ์ตามแนวเขตที่รังวัด นัดรังวัดจริงวันที่23มิถุนายน2559
2. หลังจากรังวัดจริงสามารถทำรั้วกั้นเขตขึ้นมาตามแนวที่รังวัดออกมาได้หรือไม่ได้หรือไม่
3. หากฟ้องร้องแล้วแพ้คดีต้องยอมยกทางเดินให้เขาเดิน แล้วพวกผมมีสิทธิ์ใช้ทางได้ด้วยหรือไม่
4.หากทางพวกผมกั้นรั้วขึ้น นางข.ก็ยังมีทางเดินฝั่งนายก.ไว้เดินเข้าออกอยู่ ข้อนี้นางข.จะยังฟ้องให้เปิดทางได้หรือไม่
5.ทางพี่สาวได้ไปสอบถามคร่าวๆกับทนายในพื้นที่ซึ่งก็รู้จักนางข.เป็นอย่างดี ทนายบอกว่าพวกผมต้องยกให้เขาเดินเท่านั้นเพราะพวกผมเพิกเฉยมาเป็นเวลานาน ข้อนี้จริงเท็จประการใด
6.คดีแบบนี้ฟ้องร้องกันนานหรือไม่
7.ค่าทนายให้ปรึกษาดำเนินการประมาณเท่าไรครับ
8.จากการหาข้อมมูลผมพบว่าหากทางเดินใช้มาเป็นเวลา10ปีแล้วก็ต้องยกให้เขาเดิน แต่เขามีสิทธ์ทำประตูกั้นไว้เป็นส่วนตัวด้วยหรือไม่(ทางเดินปัจจุบันรวมทั้งฝั่งนายก.รถตู้คันใหญ่วิ่งเข้าออกสบาย)
9.การแบ่งให้เป็นทางเข้าออกตามกฎหมาย ให้เฉพาะคนเดินเข้าออกหรือให้รถยนต์วิ่งเข้าออกได้ด้วย
*** ขออภัยครับ แนบภาพประกอบไม่ได้ อธิบายนิดนึง ที่ดินนางข.อยู่หลังที่ดินพี่สาวประมาณว่าที่ตาบอด แต่ไม่ถึงกับบอดเพราะเขาสนิทกันกับนายก.นายก.จึงแบ่งที่ให้เดินเข้าออกได้แต่รถยนต์เข้าไม่ได้ และเมื่อรวมกับทางเดินที่พี่สาวเว้นให้เดินนางข.ก็จะสามารถนำรถยนต์เข้าออกสบายๆตอนพูดกันเรื่องเว้นที่พูดกับเจ้าของเดิม แต่นางข.มาซื้อต่อ และตอนนี้เขาก็ยึดเป็นทางส่วนตัวไปแล้วทำประตูปิดกั้นไปเรียบร้อย ขอความรู้ทีครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูงครับ