สวัสดีค่ะ ไปตะลอนรอบเกาะรัตนโกสินทร์ด้วยกันนะคะ
ท่าเตียน-ท่าช้าง-ท่ามหาราช-ท่าวังหลัง(ศิริราช)-ท่าพระอาทิตย์
( ฉบับ ขึ้นเรือชิลๆ เดินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ท่าเตียน-ท่าพระอาทิตย์ ไหว้พระ 6 วัด หาของอร่อยๆทานแบบไม่สนใจพุง )
ทริปนี้เกิดจากความเบื่อของเด็ก ม.6 #dek59 ที่รอเปิดเทอมเข้ามหาลัยล้วนๆค่ะ เราก็เลยจับมือกับเพื่อนซี้อีกสองคน ชวนไปเที่ยวกัน หลังจากที่รอมานาน เกือบจะ 6 เดือนได้แล้ว ก็ต้องหาที่เที่ยวกันบ้าง แต่จะไปเที่ยวที่ไหนดี? ไปห้างก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ แถมยังหาโอกาสไปได้บ่อยๆ ไหนๆก็รอแอดมิชชั่น ขอไปทำบุญไหว้พระก็แล้วกัน !
ใช้กล้อง FUJI-X20 และ PENTAX K1000 ในการถ่ายค่า
และนี่คือแพลนของทริปนี้ค่ะ ก่อนจะไป 1 วัน ก็หาข้อมูลแน่นๆและสรุปออกมาเป็นลิสต์ๆ ว่ามีที่ไหนน่าไป และอาหารร้านไหนอร่อย ( แน่นอน ว่าไม่ตรงตามแพลน 100% ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ เวลา ความเมื่อยของขา และความหิวของร่างกายค่า )
ขอสารภาพก่อนนะคะว่า แอบผิดแพลนไปเยอะเหมือนกัน 55555
และนี่คือแผนที่ที่เราใช้อ้างอิงข้อมูลในการไปเที่ยวครั้งนี้ค่า
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่ BTS บางหว้าค่ะ เรานั่งจาก BTS บางหว้า ไปลง BTS สะพานตากสิน หลังจากนั้น มองป้ายเลยค่ะ
( ยืมรูปจาก
http://m.ppantip.com/topic/34522349 )
เมื่อลงบันไดบีทีเอสแล้ว เดินตรงมายาวๆ ก็จะเห็นมีท่าเรือสองฝั่งเลย ทั้งซ้ายและขวา ตอนแรกเราก็งงค่ะ เพราะไม่เคยขึ้นเรือเลย เลยถามพี่พนักงานที่โต๊ะข้างหน้า สรุปว่า เดินไปขึ้นท่าเรือด่วนเจ้าพระยาทางซ้ายนะคะ พอเดินเข้าไปแล้ว จะมีคนยืนต่อคิวอยู่นิดหน่อย มีที่กั้น ไม่ต้องงงค่า เดินเข้าไปต่อคิวเลยค่ะ จริงๆมีตั๋วแบบ 1DAY TRIP 150 บาท แต่เรากับเพื่อนลองคำนวณดูแล้ว ไม่คุ้มค่ะ ซื้อตั๋วในเรือ 14 บาท ตลอดเที่ยวดีกว่า เรานั่งเรือ ธงส้มนะคะ หรือถ้ามองไม่เห็นลองถามพี่พนักงานดูนะคะว่าเรือที่มาจอดผ่านที่ๆจะไปรึเปล่า
นี่คือแผนภาพการเดินเรือค่า เราตัดภาพมาให้ดู เฉพาะเส้นทางที่เราใช้นะคะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาโหลดรูป
( ยืมรูปจาก
http://www.chaophrayaexpressboat.com/th/services/ )
ขึ้นมาบนเรือกัน
( ยืมรูปจาก
http://m.ppantip.com/topic/34522349 )
ตอนที่เรานั่งเรือ เป็นเวลาประมาณ 9.30 น.ค่ะ แนะนำว่าถ้ามาเช้าๆ ให้นั่งฝั่งซ้ายนะคะ เพราะแดดจะลงฝั่งขวาค่ะ แต่วันที่เราไป ( 01/06/2016 ) ฝนเพิ่งตกไปตอนเช้าตรู่ เลยไม่มีแดด เย็นเล็กน้อยพอมีลม เรียกได้ว่าอากาศดีทั้งวันเลยค่า
ค่าตั๋วเรือ14 บาทตลอดสายเลยค่ะ
เราลง “ท่าเตียน” เป็นที่แรกค่ะ เพื่อที่จะไปไหว้พระที่ วัดอรุณราชวราราม ก่อน พอถึงท่าเตียนแล้วเดินย้อนขึ้นมานิดเดียว เพื่อจ่ายเงินค่าเรือข้ามฟาก 3 บาท แล้วก็ยืนรอเรือข้ามฟาก แปปเดียวเรือก็มาแล้วค่า พอลงเรือข้ามฟาก ก็ถึงวัดอรุณเลยค่ะ พอเดินเข้ามา แน่นอนค่ะ ว่าจะเจอยักษ์ 2 ตนยืนต้อนรับอยู่
พอเดินผ่านเข้าประตูไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับอุโบสถ เรากับเพื่อนๆก็เข้าไปไหว้พระ และเดินกลับมาขึ้นเรือข้ามฟากเลยค่ะ เพราะช่วงนี้พระปรางค์กำลังปิดซ่อมค่ะ เลยไม่ได้เดินชมมาก
แต่ระหว่างทางเดินออกมา จะมีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประดิษฐานอยู่ วิวรอบๆสวยมากเลยค่ะ เป็นแม่น้ำ ตัดกับท้องฟ้า
เดินกลับมาที่ท่าเรือข้ามฟากแล้วค่า
บรรยากาศบนเรือข้ามฟากค่ะ
พอข้ามฟากมาแล้ว ลงจากเรือ ก็จะเจอร้านขายของที่ระลึกเล็กๆเรียงรายไปตลอดทาง
ในตอนแรก แพลนของพวกเราคือ นั่งเรือจากท่าเตียน ไปยังท่าช้างแล้วจะถึงวัดพระแก้ว แต่ด้วยความที่เดินหลงก่อนหน้านั้น เลยเปลี่ยนแพลนคือข้ามฟากแล้ว มาวัดโพธิ์ก่อน แล้วค่อยเดินต่อไปวัดพระแก้วค่ะ
เดินข้ามถนนมาจากเรือข้ามฟาก เดินต่อมานิดหน่อยก็จะถึงทางเข้าวัดโพธิ์แล้วค่า
คนไทยเข้าฟรีนะคะ ต่างชาติต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อนค่า
หลังจากนั้นเราก็เข้าไปในพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน ซึ่งที่วัดโพธิ์จะมี ถุงให้ถอดรองเท้าใส่แล้วถือไปกับตัว ซึ่งเรามองว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆเลยค่ะ สะอาด และไม่ต้องกลัวรองเท้าหาย
ในพระวิหารจะมีหยอดเหรียญใส่บาตรด้วยนะคะ ซึ่งจะมี 108 บาตรด้วยกัน ทางวัดจะมีเหรียญชั่งไว้ให้ ถ้วยละ 20 บาทค่ะ
ออกมาชมบรรยากาศรอบๆกัน
ถ้าจะมานวดแผนไทย ต้องเดินเข้าไปข้างในนะคะ หรือถ้าจะมาเพื่อนวดโดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าอีกทางนึงได้ค่ะ นวดแผนไทย 1 ชั่วโมง 260 บาท มีนวดเท้า และนวดน้ำมันไพรด้วยค่า
หลังจากเดินออกจากวัดโพธิ์แล้ว ขอพักหาน้ำให้ชื่นใจสักหน่อยแล้วค่อยลุยต่อ
หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็ต้องพึ่ง Google Map ในการเดินไปวัดพระแก้ว เดินตามพี่กูมาเรื่อยๆ ก็เจอ รถไอศกรีมไผ่ทอง เจ้าเดิม ! ไม่รอช้าค่ะ เดินเข้าไปจัดกันคนละอัน อันละ 20 บาทค่า แอบดูของพี่คนข้างๆ ให้เครื่องแน่นมากกกก
หลังจากนั้นก็เดินไป กินไป คุยไป เดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบ โชคดีจริงๆที่วันนั้นไม่ร้อน พอเดินไปก็จะผ่านสมาคมภริยาทหารเรือ เดินต่อก็จะเจอตึกเหลืองๆ แสดงว่ามาถูกทางแล้วค่า
หลังจากนั้นเราก็จะเห็นวัดพระแก้วอยู่ตรงข้ามเราแล้วนะคะ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ให้เราข้ามถนนไปฝั่งวัดพระแก้วเลยค่ะ อาจจะต้องเดินฝ่าคนจีนเยอะนิดนึงนะคะ
นี่คือบรรยากาศของฝั่งตรงข้ามค่า
ถึงวัดพระแก้วแล้วค่า
เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าตัววัดแล้วค่ะ ทางเดินก่อนจะถึงตรงนี้วิวสวยมากๆ แต่คนเยอะมากๆเช่นกัน
ถึงทางเข้าวัดแล้วค่า คนไทยเข้าฟรีเหมือนเดิมค่ะ แต่ตอนนี้แอบร้อน มองขวา เห็นป้าย พิพิธภัณฑ์ พอดี เป็นป้ายไฟเล็กๆ ขอเดินเข้าไปตากแอร์ และชมพิพิธภัณฑ์สักหน่อย เป็นพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ และเครื่องราชบรรณาการต่างๆ ค่าเข้าชม 10 บาทค่ะ ข้างในห้ามถ่ายรูปนะคะ
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ก็เดินออกมานั่งพักเขียนโปสการ์ดสักหน่อยก่อนเข้าวัด ตรงนี้จะมีร้านขายโปสการ์ด แผ่นละ 5-10บาท มีแสตมป์ขาย และที่สำคัญมีบริการตู้ไปรษณีย์ ส่งได้เลยค่า
ได้เวลาเดินเข้าไปไหว้พระแล้ววว หลังจากเดินเข้าทางเข้า เราก็ตรงไปที่อุโบสถ พระแก้วมรกตเลยค่ะ เป็นวันธรรมดา คนเลยค่อนข้างน้อย ไม่เหมือนวันเสาร์-อาทิตย์ หลังจากนั้นเราก็เดินรอบๆวัด ไปชมภาพบรรยากาศรอบๆกันเลยค่า
หลังจากไหว้พระที่วัดพระแก้วเสร็จแล้ว เราก็จะไปต่อกันที่ ศาลหลักเมือง เลยค่ะ เดินออกจากทางออกวัดพระแก้ว เดินต่อมานิดเดียว เราก็จะเห็น ศาลหลักเมืองอยู่ตรงข้ามแล้วค่า พอข้ามถนนแล้ว เราก็จะถึง กระทรวงกลาโหม และศาลหลักเมืองจะอยู่ติดกันทางซ้ายค่ะ
เดินต่อมาทางซ้าย เจอศาลหลักเมืองแล้วค่า
ทางศาลหลักเมือง จะมีบริการของไหว้ให้นะคะ มี พวงมาลัย ดอกบัว ธูป เทียน ผ้าสามสี และน้ำมัน ในราคาชุดละ 60 บาทค่ะ พอเข้าประตูหันซ้ายก็เจอเจอร้านเลยค่า
ซึ่งการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง มีขั้นตอนดังนี้ค่า
1.ไปยัง หอพระพุทธรูป อยู่ด้านในนะคะ กราบไหว้ถวายดอกบัว และใส่บาตรพระประจำวันเกิด ในนี้มียกพระเสี่ยงทายด้วยนะคะ
2. ออกจากหอพระพุทธรูป ก็จะเจอองค์พระหลักเมืองจำลอง จุดธูป เทียน ปิดทอง และผูกผ้า 3 สีค่ะ
3.หลังจากนั้นเดินไปที่องค์พระหลักเมืองจริง กราบไหว้ ถวายพวงมาลัย
4.หอเทพารักษ์ทั้ง 5 ถวายพวงมาลัย 5 พวง และสุดท้าย
5.เติมน้ำมันพระประจำวันเกิดค่า
หลังจากไหว้ศาลหลักเมืองเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายนิดๆแล้วค่ะ ต้องหาอะไรลงท้องกันสักหน่อย ซึ่งทริปนี้ตกลงกันว่า จะทานอย่างละนิด เพื่อที่จะได้ลองหลายๆร้าน แต่สุดท้าย ก็อิ่มอยู่ดีค่า 555555
เราเลยเดินย้อนกลับไปทางเดิม ไปยังท่ามหาราช ใกล้ๆกับตึกเหลืองที่เราเดินผ่านมาตอนแรกค่ะ พอเห็นป้ายนี้ ก็เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเลย เดินต่อนิดนึงก็จะถึงท่ามหาราชแล้วค่า
ถึงแล้ววววว
มื้อกลางวันนี้เราฝากร้านไว้ที่ร้าน Chou Nan ค่า อาหารอร่อยดี สั่งไก่ผัดกิมจิ และ เคอรี่ฟรายด์ มาแบ่งกันค่ะ เพราะเตรียมจะไปลุยต่อที่วังหลังแล้ววว ในภาพไก่หายไปนะคะ ลงท้องไปแล้ว...
หลังจากทานเสร็จ ก็เดินไปที่ท่าเรือข้ามฟากเลยค่ะ อยู่ในท่ามหาราชด้านใน ค่าเรือข้ามฟาก 3 บาทเหมือนเดิม ข้ามไป ท่าวังหลัง (ศิริราช) ค่า
ขออนุญาตต่อด้านล่างนะคะ
1 DAY TRIP ตะลอนให้ทั่วเกาะรัตนโกสินทร์ (ท่าเตียน-ท่าช้าง-ท่ามหาราช-ท่าวังหลัง(ศิริราช)-ท่าพระอาทิตย์)
ท่าเตียน-ท่าช้าง-ท่ามหาราช-ท่าวังหลัง(ศิริราช)-ท่าพระอาทิตย์
( ฉบับ ขึ้นเรือชิลๆ เดินไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ท่าเตียน-ท่าพระอาทิตย์ ไหว้พระ 6 วัด หาของอร่อยๆทานแบบไม่สนใจพุง )
ทริปนี้เกิดจากความเบื่อของเด็ก ม.6 #dek59 ที่รอเปิดเทอมเข้ามหาลัยล้วนๆค่ะ เราก็เลยจับมือกับเพื่อนซี้อีกสองคน ชวนไปเที่ยวกัน หลังจากที่รอมานาน เกือบจะ 6 เดือนได้แล้ว ก็ต้องหาที่เที่ยวกันบ้าง แต่จะไปเที่ยวที่ไหนดี? ไปห้างก็ไม่ค่อยมีอะไรทำ แถมยังหาโอกาสไปได้บ่อยๆ ไหนๆก็รอแอดมิชชั่น ขอไปทำบุญไหว้พระก็แล้วกัน !
ใช้กล้อง FUJI-X20 และ PENTAX K1000 ในการถ่ายค่า
และนี่คือแพลนของทริปนี้ค่ะ ก่อนจะไป 1 วัน ก็หาข้อมูลแน่นๆและสรุปออกมาเป็นลิสต์ๆ ว่ามีที่ไหนน่าไป และอาหารร้านไหนอร่อย ( แน่นอน ว่าไม่ตรงตามแพลน 100% ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ เวลา ความเมื่อยของขา และความหิวของร่างกายค่า )
ขอสารภาพก่อนนะคะว่า แอบผิดแพลนไปเยอะเหมือนกัน 55555
และนี่คือแผนที่ที่เราใช้อ้างอิงข้อมูลในการไปเที่ยวครั้งนี้ค่า
การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นที่ BTS บางหว้าค่ะ เรานั่งจาก BTS บางหว้า ไปลง BTS สะพานตากสิน หลังจากนั้น มองป้ายเลยค่ะ
( ยืมรูปจาก http://m.ppantip.com/topic/34522349 )
เมื่อลงบันไดบีทีเอสแล้ว เดินตรงมายาวๆ ก็จะเห็นมีท่าเรือสองฝั่งเลย ทั้งซ้ายและขวา ตอนแรกเราก็งงค่ะ เพราะไม่เคยขึ้นเรือเลย เลยถามพี่พนักงานที่โต๊ะข้างหน้า สรุปว่า เดินไปขึ้นท่าเรือด่วนเจ้าพระยาทางซ้ายนะคะ พอเดินเข้าไปแล้ว จะมีคนยืนต่อคิวอยู่นิดหน่อย มีที่กั้น ไม่ต้องงงค่า เดินเข้าไปต่อคิวเลยค่ะ จริงๆมีตั๋วแบบ 1DAY TRIP 150 บาท แต่เรากับเพื่อนลองคำนวณดูแล้ว ไม่คุ้มค่ะ ซื้อตั๋วในเรือ 14 บาท ตลอดเที่ยวดีกว่า เรานั่งเรือ ธงส้มนะคะ หรือถ้ามองไม่เห็นลองถามพี่พนักงานดูนะคะว่าเรือที่มาจอดผ่านที่ๆจะไปรึเปล่า
นี่คือแผนภาพการเดินเรือค่า เราตัดภาพมาให้ดู เฉพาะเส้นทางที่เราใช้นะคะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาโหลดรูป
( ยืมรูปจาก http://www.chaophrayaexpressboat.com/th/services/ )
ขึ้นมาบนเรือกัน
( ยืมรูปจาก http://m.ppantip.com/topic/34522349 )
ตอนที่เรานั่งเรือ เป็นเวลาประมาณ 9.30 น.ค่ะ แนะนำว่าถ้ามาเช้าๆ ให้นั่งฝั่งซ้ายนะคะ เพราะแดดจะลงฝั่งขวาค่ะ แต่วันที่เราไป ( 01/06/2016 ) ฝนเพิ่งตกไปตอนเช้าตรู่ เลยไม่มีแดด เย็นเล็กน้อยพอมีลม เรียกได้ว่าอากาศดีทั้งวันเลยค่า
ค่าตั๋วเรือ14 บาทตลอดสายเลยค่ะ
เราลง “ท่าเตียน” เป็นที่แรกค่ะ เพื่อที่จะไปไหว้พระที่ วัดอรุณราชวราราม ก่อน พอถึงท่าเตียนแล้วเดินย้อนขึ้นมานิดเดียว เพื่อจ่ายเงินค่าเรือข้ามฟาก 3 บาท แล้วก็ยืนรอเรือข้ามฟาก แปปเดียวเรือก็มาแล้วค่า พอลงเรือข้ามฟาก ก็ถึงวัดอรุณเลยค่ะ พอเดินเข้ามา แน่นอนค่ะ ว่าจะเจอยักษ์ 2 ตนยืนต้อนรับอยู่
พอเดินผ่านเข้าประตูไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับอุโบสถ เรากับเพื่อนๆก็เข้าไปไหว้พระ และเดินกลับมาขึ้นเรือข้ามฟากเลยค่ะ เพราะช่วงนี้พระปรางค์กำลังปิดซ่อมค่ะ เลยไม่ได้เดินชมมาก
แต่ระหว่างทางเดินออกมา จะมีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ประดิษฐานอยู่ วิวรอบๆสวยมากเลยค่ะ เป็นแม่น้ำ ตัดกับท้องฟ้า
เดินกลับมาที่ท่าเรือข้ามฟากแล้วค่า
บรรยากาศบนเรือข้ามฟากค่ะ
พอข้ามฟากมาแล้ว ลงจากเรือ ก็จะเจอร้านขายของที่ระลึกเล็กๆเรียงรายไปตลอดทาง
ในตอนแรก แพลนของพวกเราคือ นั่งเรือจากท่าเตียน ไปยังท่าช้างแล้วจะถึงวัดพระแก้ว แต่ด้วยความที่เดินหลงก่อนหน้านั้น เลยเปลี่ยนแพลนคือข้ามฟากแล้ว มาวัดโพธิ์ก่อน แล้วค่อยเดินต่อไปวัดพระแก้วค่ะ
เดินข้ามถนนมาจากเรือข้ามฟาก เดินต่อมานิดหน่อยก็จะถึงทางเข้าวัดโพธิ์แล้วค่า
คนไทยเข้าฟรีนะคะ ต่างชาติต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อนค่า
หลังจากนั้นเราก็เข้าไปในพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอน ซึ่งที่วัดโพธิ์จะมี ถุงให้ถอดรองเท้าใส่แล้วถือไปกับตัว ซึ่งเรามองว่าเป็นวิธีที่ดีมากๆเลยค่ะ สะอาด และไม่ต้องกลัวรองเท้าหาย
ในพระวิหารจะมีหยอดเหรียญใส่บาตรด้วยนะคะ ซึ่งจะมี 108 บาตรด้วยกัน ทางวัดจะมีเหรียญชั่งไว้ให้ ถ้วยละ 20 บาทค่ะ
ออกมาชมบรรยากาศรอบๆกัน
ถ้าจะมานวดแผนไทย ต้องเดินเข้าไปข้างในนะคะ หรือถ้าจะมาเพื่อนวดโดยเฉพาะ ก็สามารถเข้าอีกทางนึงได้ค่ะ นวดแผนไทย 1 ชั่วโมง 260 บาท มีนวดเท้า และนวดน้ำมันไพรด้วยค่า
หลังจากเดินออกจากวัดโพธิ์แล้ว ขอพักหาน้ำให้ชื่นใจสักหน่อยแล้วค่อยลุยต่อ
หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็ต้องพึ่ง Google Map ในการเดินไปวัดพระแก้ว เดินตามพี่กูมาเรื่อยๆ ก็เจอ รถไอศกรีมไผ่ทอง เจ้าเดิม ! ไม่รอช้าค่ะ เดินเข้าไปจัดกันคนละอัน อันละ 20 บาทค่า แอบดูของพี่คนข้างๆ ให้เครื่องแน่นมากกกก
หลังจากนั้นก็เดินไป กินไป คุยไป เดินไปเรื่อยๆ ไม่รีบ โชคดีจริงๆที่วันนั้นไม่ร้อน พอเดินไปก็จะผ่านสมาคมภริยาทหารเรือ เดินต่อก็จะเจอตึกเหลืองๆ แสดงว่ามาถูกทางแล้วค่า
หลังจากนั้นเราก็จะเห็นวัดพระแก้วอยู่ตรงข้ามเราแล้วนะคะ จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ให้เราข้ามถนนไปฝั่งวัดพระแก้วเลยค่ะ อาจจะต้องเดินฝ่าคนจีนเยอะนิดนึงนะคะ
นี่คือบรรยากาศของฝั่งตรงข้ามค่า
ถึงวัดพระแก้วแล้วค่า
เดินเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเข้าตัววัดแล้วค่ะ ทางเดินก่อนจะถึงตรงนี้วิวสวยมากๆ แต่คนเยอะมากๆเช่นกัน
ถึงทางเข้าวัดแล้วค่า คนไทยเข้าฟรีเหมือนเดิมค่ะ แต่ตอนนี้แอบร้อน มองขวา เห็นป้าย พิพิธภัณฑ์ พอดี เป็นป้ายไฟเล็กๆ ขอเดินเข้าไปตากแอร์ และชมพิพิธภัณฑ์สักหน่อย เป็นพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณ์ และเครื่องราชบรรณาการต่างๆ ค่าเข้าชม 10 บาทค่ะ ข้างในห้ามถ่ายรูปนะคะ
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว ก็เดินออกมานั่งพักเขียนโปสการ์ดสักหน่อยก่อนเข้าวัด ตรงนี้จะมีร้านขายโปสการ์ด แผ่นละ 5-10บาท มีแสตมป์ขาย และที่สำคัญมีบริการตู้ไปรษณีย์ ส่งได้เลยค่า
ได้เวลาเดินเข้าไปไหว้พระแล้ววว หลังจากเดินเข้าทางเข้า เราก็ตรงไปที่อุโบสถ พระแก้วมรกตเลยค่ะ เป็นวันธรรมดา คนเลยค่อนข้างน้อย ไม่เหมือนวันเสาร์-อาทิตย์ หลังจากนั้นเราก็เดินรอบๆวัด ไปชมภาพบรรยากาศรอบๆกันเลยค่า
หลังจากไหว้พระที่วัดพระแก้วเสร็จแล้ว เราก็จะไปต่อกันที่ ศาลหลักเมือง เลยค่ะ เดินออกจากทางออกวัดพระแก้ว เดินต่อมานิดเดียว เราก็จะเห็น ศาลหลักเมืองอยู่ตรงข้ามแล้วค่า พอข้ามถนนแล้ว เราก็จะถึง กระทรวงกลาโหม และศาลหลักเมืองจะอยู่ติดกันทางซ้ายค่ะ
เดินต่อมาทางซ้าย เจอศาลหลักเมืองแล้วค่า
ทางศาลหลักเมือง จะมีบริการของไหว้ให้นะคะ มี พวงมาลัย ดอกบัว ธูป เทียน ผ้าสามสี และน้ำมัน ในราคาชุดละ 60 บาทค่ะ พอเข้าประตูหันซ้ายก็เจอเจอร้านเลยค่า
ซึ่งการมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมือง มีขั้นตอนดังนี้ค่า
1.ไปยัง หอพระพุทธรูป อยู่ด้านในนะคะ กราบไหว้ถวายดอกบัว และใส่บาตรพระประจำวันเกิด ในนี้มียกพระเสี่ยงทายด้วยนะคะ
2. ออกจากหอพระพุทธรูป ก็จะเจอองค์พระหลักเมืองจำลอง จุดธูป เทียน ปิดทอง และผูกผ้า 3 สีค่ะ
3.หลังจากนั้นเดินไปที่องค์พระหลักเมืองจริง กราบไหว้ ถวายพวงมาลัย
4.หอเทพารักษ์ทั้ง 5 ถวายพวงมาลัย 5 พวง และสุดท้าย
5.เติมน้ำมันพระประจำวันเกิดค่า
หลังจากไหว้ศาลหลักเมืองเสร็จ ก็เป็นเวลาบ่ายนิดๆแล้วค่ะ ต้องหาอะไรลงท้องกันสักหน่อย ซึ่งทริปนี้ตกลงกันว่า จะทานอย่างละนิด เพื่อที่จะได้ลองหลายๆร้าน แต่สุดท้าย ก็อิ่มอยู่ดีค่า 555555
เราเลยเดินย้อนกลับไปทางเดิม ไปยังท่ามหาราช ใกล้ๆกับตึกเหลืองที่เราเดินผ่านมาตอนแรกค่ะ พอเห็นป้ายนี้ ก็เลี้ยวขวาเข้าซอยไปเลย เดินต่อนิดนึงก็จะถึงท่ามหาราชแล้วค่า
ถึงแล้ววววว
มื้อกลางวันนี้เราฝากร้านไว้ที่ร้าน Chou Nan ค่า อาหารอร่อยดี สั่งไก่ผัดกิมจิ และ เคอรี่ฟรายด์ มาแบ่งกันค่ะ เพราะเตรียมจะไปลุยต่อที่วังหลังแล้ววว ในภาพไก่หายไปนะคะ ลงท้องไปแล้ว...
หลังจากทานเสร็จ ก็เดินไปที่ท่าเรือข้ามฟากเลยค่ะ อยู่ในท่ามหาราชด้านใน ค่าเรือข้ามฟาก 3 บาทเหมือนเดิม ข้ามไป ท่าวังหลัง (ศิริราช) ค่า
ขออนุญาตต่อด้านล่างนะคะ