ผ่านมา 13 ep สำหรับเพียงชายฯ ไม่มาระบายอะไรหน่อยก็คงจะไม่ได้แล้วเพราะละครเรื่องนี้ขยี้หัวใจเหลือเกิน
ละครเรื่องนี้ขยี้ใจคนดูมาก ดูเหมือนจะเป็นความตั้งใจของแอน ที่จะขยี้ความรู้สึกคนดูให้ถึงที่สุด และปลดปล่อยคนดูด้วยตอนจบที่น่าจะน่ารักและหวานซึ้งจนลืมความขม ถ้าฝนไม่ตก ฟ้าคงไม่ใส.. เพียงแต่ตอนที่หนักอึ้งนี้อาจจะหนักเกินไปนิดจนทำให้คนดูอึดอัด คับข้องใจ ที่เห็นตัวละคร/นักแสดงที่ตัวเองรักถูกกระทำ โดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ และเพราะการแสดงที่เทพมากของหลายตัวละครทำให้คนดูมโนกันไปเหมือนประหนึ่งเป็นเรื่องจริง! หลายคนอาจจะถึงกับรับไม่ได้กับการกระทำที่ไร้สำนึกของโสมมิกา ความดีเกินไปของหมอ ความใจร้อนและไม่ฉุกคิดของนุศ คนดูหลงรักตัวละคร จนรับไม่ได้กับการที่ตัวละครโดยกระทำขนาดนี้!
การที่อารมณ์คนดูถูกกระชากแล้วกระชากอีกมีหลายปัจจัย การแสดงที่เทพมาก บทละครที่พล็อตแน่นมากใน 1 วัน เรื่องเกิดขึ้นมากมาย การให้เพลงประกอบ การตัดต่อ เทคนิคภาพ ที่ขยี้ความรู้สึกคนดูซ้ำๆ แล้วซ้ำอีก ในขณะที่ปมเก่าก็ยังไม่หมดไป ปมใหม่ทับถมเข้ามา จึงไม่แปลกที่คนดูจะอินกันถึงขั้นเครียด
สิ่งที่โดดเด่นเอาซะมากๆ จนไม่เขียนถึงคงจะไม่ได้สำหรับละครเรื่องนี คือ การแสดง มันดีงามจนต้องปรบมือให้
รุ่นใหญ่ต้องยกให้พ่อนางเอง พ่อโสม และความน่ารำคาญของแม่พระเอก
พ่อนางเอก ที่รักลูกสุดหัวใจแต่แสดงออกไม่เป็น ภายใต้ท่าทางที่หนักแน่น เข้มแข็งนั้น คือ ความรักและความอบอุ่นล้วนๆ คุณมนตรีถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ได้ดีจริงๆ พ่อนางเอกไม่ใช่พ่อที่จะหยอกล้อ เล่นกันลูก จะมีก็แต่น้ำเสียงอ่อนโยน และสายตาที่มีแต่ความรัก และพร้อมที่จะเป็นที่พักพิง
พ่อโสมมิกา คุณหนุ่ม ส้นติสุข เจ้าพ่อที่รักลูกไม่เป็น โสมมิกาจึงเติบโตมาโดยไร้การอบรมสั่งสอน การไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ก็มาจากพ่อ ที่สามารถทำผิดให้เป็นถูกได้ทุกครั้ง การที่พ่อไม่เคยแสดงออกว่ารัก ทำให้โสมมิกาโหยหาความรัก จนกลายเป็นปมในใจที่ไม่มีวันคลายออกได้ สายตาที่ดุดัน น้ำเสียงอันทรงอำนาจ มีแต่ออกคำสั่ง และเย็นชา การแสดงที่ไร้ที่ติ ทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่าโสมเป็นแบบนี้เพราะใคร
แม่พระเอก ที่ฉาบฉวย สุขนิยม เห็นแก่ตัว คุณแหม่มเล่นเป็นตัวนี้ได้น่ารำคาญ และน่าหมั่นใส้เป็นที่สุด
จากรุ่นใหญ๋มาสู่รุ่นเล็ก ขอปรบมือดังๆ ให้ คิมเบอร์ลี่ ที่เล่นดีมากจริงๆ เอาอยู่ทุกซีน การแสดงที่ละเอียดมากๆ ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจากอินเนอร์ที่เป็นตัวละครจริงๆ ถูกถ่ายทอดผ่านสายตา และความรู้สึกที่พรั่งพรู จนคนดูสงสารจับใจ ผุ้หญิงที่ดูเหมือนเข้มแข็ง จริงๆ แล้วอ่อนไหว มีความเป็นเด็กเล็กๆ เวลาอยู่กับคนรัก และตัดพ้อ น้อยใจ โกธร เวลาที่หมอทำให้เสียใจ ความรับผิดชอบทำให้นุศต้องแบกทุกอย่างไว้ภายใต้ท่าทีที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว แต่พอมาเจอหมอที่อ่อนโยน รู้จักสื่อความรู้สึกด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนและความรักที่หมอมีให้ ทำให้นุศอ่อนยวบ เพราะตลอดชีวิตอยู่ท่ามกลางธุรกิจที่ต้องห้ำหั่น ชิงดีชิงเด่นกันตลอดเวลา ถึงพ่อจะรักมากแต่ก็เป็นคนเข้มแข็งที่แสดงออกถึงความรักด้วยสายตาเท่านั้น ที่พักพิงจิตใจจากชีวิตที่วุ่นวาย แก่งแย่งชิงดีจึงเป็นสิ่งที่นุศโหยหาและเต็มเติมเมื่อมีหมอเข้ามาในชีวิต
คิมเบอร์ลี่ถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้เรียลมากๆ ทุกความรู้สึกมันชัดเจน จนทำให้คนดูใจหวิว น้อยใจ เสียใจ โกธร ตัดพ้อ ทุกอย่างออกมาจากการแสดงที่ละเอียดมาก สายตา และความรู้สึก acting ที่ประกอบกัน ทำให้ตัวละครตัวนี้มีมิติเอามากๆ มีความรู้สึกที่หลากหลาย สับสน โกธร เสียใจ ตัดพ้อ จนคนดูรู้สึกตามได้หมด การที่คนดูเชื่อในทุกๆ มิติของอารมณ์และความรู้สึก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนดูอินกันจัดขนาดนี้ การที่มีตาโต ก็ได้เปรียบเหมือนกัน เพราะความรู้สึกมันผ่านสายตาได้อย่างชัดเจนมาก การแสดงที่พริ้วไปตามความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คิมเบอร์ลี่โดดเด่นจริงๆ สำหรับละครเรื่องนี้ ต้องถือว่าเป็นอนุศนิยาที่น่าประทับใจมาก ขอให้พัฒนาต่อไป นี่เป็นแค่ก้าวแรกของการเป็นตัวจริงในวงการ ต้องบอกว่าวิจารณ์ตามเนื้อผ้า เพราะดูเรื่องนี้แล้วชอบคิมมากจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะอวยหรืออะไร
ส่วนหมอ เจมส์ มาร์ ถ้านับว่าผ่านการแสดงมาไม่กี่เรื่อง ก็ต้องบอกว่าเก่งแล้ว เพราะบทบางตอนก็ยากมากในเชิงการถ่ายทอด โดยเฉพาะซีนอารมณ์ ที่ต้องเสียทั้งลูก และเมียเข้าใจผิดจนอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว หรือซีนที่บุกไปเอาเรื่องเจ้าพ่อและโสมที่ฆ่าลูกตัวเอง ก็อาจจะยังไม่เห็นมิติที่ลึกพอในเชิงอารมณ์และความรู้สึกของคนที่แค้น เสียใจ โกธร อัดอั้น ฯลฯ ที่เห็นชัดๆ แน่ๆ คือ หล่อ!! แต่ซีนที่เจมส์เล่นดี เป็นซีนที่ไม่หนักมากเช่น น้อยใจ เสียใจที่โดนนุศพูดจาไม่ดีใส่ หรือซีนที่ปาเช็คที่ต้องถือว่าเอาอยู่ ซึ่งซีนมาม่าหนักๆ นั้น นักแสดงที่ชั่วโมงบินไปมากพอ มักจะไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้ถึงบทที่ต้องการให้เป็น หากชั่วโมงบินของเจมส์มากกว่านี้ ก็อาจจะถ่ายทอดได้ลึกกว่านี้ในเชิงความรู้สึกที่มันคับข้องอยู่ข้างใน มิติของความรู้สึกของตัวละครในซีนมาม่าหนักๆ จึงยังไม่โดดเด้งเข้ามาเสียดแทงความรู้สึกของคนดูได้มากเท่าไหร่นัก แต่บทรายล้อมที่ส่งให้ ก็ทำให้คนดูสงสารและเห็นใจหมอได้ไม่ยาก
โสมมิกา นางร้ายมิติเดียว คือ ร้ายๆๆๆ ไปจนสุดขั้ว จะเอาให้ได้ ซึ่งน้ำชาก็ถ่ายทอดได้ดี แต่มันอาจจะดูเกินจริง ร้ายและจิตไปสักหน่อย โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบการแสดงที่เอาแต่แรงกับแรง สายตาแข็งก็แข็งจนจะหลุดออกมา แต่สิ่งที่น้ำชาทำได้ดีคืออินเนอร์ของความเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ เป็นนางร้ายที่ดูมีคาร์แร็คเตอร์เอามากๆ ต้องบอกว่าการผสมสีของการแสดงออก ให้ออกมาดูคาสิโนวี่ เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ ส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้โสมมิกาโดดเด่นมีเสน่ห์ทีเดียว
อีกคนที่เล่นได้ดีคือ มิรันตี ทั้งๆ ที่บทไม่ได้เด่น เป็นตัวช่วยและตัวสนับสนุน แต่การแสดงของอายก็ทำให้ไม่จมหายไปกับเทพๆ ทั้งหลาย เป็นตัวช่วยที่คนดูชื่นชอบ
อยากจะปรบมือดังๆ ให้นักแสดงทุกๆ คนอย่างจริงใจ ที่ทุกคนผสมผสานการแสดงออกมาให้กลมกล่อมและกระแสรุนแรงจนคนดูอินกันขนาดนี้ ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของผู้จัดที่กระแสละครแรงแซงโค้งมาก แต่บทที่อาจจะขาดสมดุลย์ไปสักหน่อยในเชิงการดึงอารมณ์คนดู ที่บทจะหวานก็จิกหมอนกันจนขาด บทจะมาม่า ก็เล่นซะนอนไม่หลับ ทำให้คนดูถูกเหวี่ยงขึ้นลงมากไปซักหน่อย จริงๆ ละครเรื่องอื่นก็อาจจะมาม่า น้ำเน่า เกินจริงมากกว่านี้ แต่มันเป็นการทำเกินจริงแบบให้คนดูคาดหวังตังแต่แรกว่านี่คือละคร บังเอิญละครแอน ทอง เป็นละครที่แตกต่างเพราะละเอียดและเรียลมาก จนคนดูมโนคล้ายว่ามันเป็นเรืองจริง การที่คนดูหลงรักตัวละครทั้ง พระเอก และนางเอก ที่มีเสน่ห์ด้วยกันทั้งคู่ และเห็นคนของเขาถูกกระทำเกินจริง โดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ เลยทำให้คนดูโวยวาย อึดอัด จนบางคนต้องปิดทีวีเพราะทนไม่ไหว.. ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเลย คือ แอน ทอง และนักแสดงทุกคนถ่ายทอดละครออกมาได้เรียลมาก จนคนดูลืมไปว่านี่คือละคร!! แต่ในที่สุดแอน ทอง คงไม่ทิ้งคนดูค้างไว้กับอารมณ์แบบนี้แน่ๆ อยู่แล้ว รอดู ep 14-15 ว่าปมจะคลาย และคนดูจะถูกเหวี่ยงกลับมายิ้มแก้มปริได้แบบไหน..
เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ - ว่าด้วยเรื่องการแสดง
ละครเรื่องนี้ขยี้ใจคนดูมาก ดูเหมือนจะเป็นความตั้งใจของแอน ที่จะขยี้ความรู้สึกคนดูให้ถึงที่สุด และปลดปล่อยคนดูด้วยตอนจบที่น่าจะน่ารักและหวานซึ้งจนลืมความขม ถ้าฝนไม่ตก ฟ้าคงไม่ใส.. เพียงแต่ตอนที่หนักอึ้งนี้อาจจะหนักเกินไปนิดจนทำให้คนดูอึดอัด คับข้องใจ ที่เห็นตัวละคร/นักแสดงที่ตัวเองรักถูกกระทำ โดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ และเพราะการแสดงที่เทพมากของหลายตัวละครทำให้คนดูมโนกันไปเหมือนประหนึ่งเป็นเรื่องจริง! หลายคนอาจจะถึงกับรับไม่ได้กับการกระทำที่ไร้สำนึกของโสมมิกา ความดีเกินไปของหมอ ความใจร้อนและไม่ฉุกคิดของนุศ คนดูหลงรักตัวละคร จนรับไม่ได้กับการที่ตัวละครโดยกระทำขนาดนี้!
การที่อารมณ์คนดูถูกกระชากแล้วกระชากอีกมีหลายปัจจัย การแสดงที่เทพมาก บทละครที่พล็อตแน่นมากใน 1 วัน เรื่องเกิดขึ้นมากมาย การให้เพลงประกอบ การตัดต่อ เทคนิคภาพ ที่ขยี้ความรู้สึกคนดูซ้ำๆ แล้วซ้ำอีก ในขณะที่ปมเก่าก็ยังไม่หมดไป ปมใหม่ทับถมเข้ามา จึงไม่แปลกที่คนดูจะอินกันถึงขั้นเครียด
สิ่งที่โดดเด่นเอาซะมากๆ จนไม่เขียนถึงคงจะไม่ได้สำหรับละครเรื่องนี คือ การแสดง มันดีงามจนต้องปรบมือให้
รุ่นใหญ่ต้องยกให้พ่อนางเอง พ่อโสม และความน่ารำคาญของแม่พระเอก
พ่อนางเอก ที่รักลูกสุดหัวใจแต่แสดงออกไม่เป็น ภายใต้ท่าทางที่หนักแน่น เข้มแข็งนั้น คือ ความรักและความอบอุ่นล้วนๆ คุณมนตรีถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ได้ดีจริงๆ พ่อนางเอกไม่ใช่พ่อที่จะหยอกล้อ เล่นกันลูก จะมีก็แต่น้ำเสียงอ่อนโยน และสายตาที่มีแต่ความรัก และพร้อมที่จะเป็นที่พักพิง
พ่อโสมมิกา คุณหนุ่ม ส้นติสุข เจ้าพ่อที่รักลูกไม่เป็น โสมมิกาจึงเติบโตมาโดยไร้การอบรมสั่งสอน การไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ก็มาจากพ่อ ที่สามารถทำผิดให้เป็นถูกได้ทุกครั้ง การที่พ่อไม่เคยแสดงออกว่ารัก ทำให้โสมมิกาโหยหาความรัก จนกลายเป็นปมในใจที่ไม่มีวันคลายออกได้ สายตาที่ดุดัน น้ำเสียงอันทรงอำนาจ มีแต่ออกคำสั่ง และเย็นชา การแสดงที่ไร้ที่ติ ทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่าโสมเป็นแบบนี้เพราะใคร
แม่พระเอก ที่ฉาบฉวย สุขนิยม เห็นแก่ตัว คุณแหม่มเล่นเป็นตัวนี้ได้น่ารำคาญ และน่าหมั่นใส้เป็นที่สุด
จากรุ่นใหญ๋มาสู่รุ่นเล็ก ขอปรบมือดังๆ ให้ คิมเบอร์ลี่ ที่เล่นดีมากจริงๆ เอาอยู่ทุกซีน การแสดงที่ละเอียดมากๆ ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจากอินเนอร์ที่เป็นตัวละครจริงๆ ถูกถ่ายทอดผ่านสายตา และความรู้สึกที่พรั่งพรู จนคนดูสงสารจับใจ ผุ้หญิงที่ดูเหมือนเข้มแข็ง จริงๆ แล้วอ่อนไหว มีความเป็นเด็กเล็กๆ เวลาอยู่กับคนรัก และตัดพ้อ น้อยใจ โกธร เวลาที่หมอทำให้เสียใจ ความรับผิดชอบทำให้นุศต้องแบกทุกอย่างไว้ภายใต้ท่าทีที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว แต่พอมาเจอหมอที่อ่อนโยน รู้จักสื่อความรู้สึกด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนและความรักที่หมอมีให้ ทำให้นุศอ่อนยวบ เพราะตลอดชีวิตอยู่ท่ามกลางธุรกิจที่ต้องห้ำหั่น ชิงดีชิงเด่นกันตลอดเวลา ถึงพ่อจะรักมากแต่ก็เป็นคนเข้มแข็งที่แสดงออกถึงความรักด้วยสายตาเท่านั้น ที่พักพิงจิตใจจากชีวิตที่วุ่นวาย แก่งแย่งชิงดีจึงเป็นสิ่งที่นุศโหยหาและเต็มเติมเมื่อมีหมอเข้ามาในชีวิต
คิมเบอร์ลี่ถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ออกมาได้เรียลมากๆ ทุกความรู้สึกมันชัดเจน จนทำให้คนดูใจหวิว น้อยใจ เสียใจ โกธร ตัดพ้อ ทุกอย่างออกมาจากการแสดงที่ละเอียดมาก สายตา และความรู้สึก acting ที่ประกอบกัน ทำให้ตัวละครตัวนี้มีมิติเอามากๆ มีความรู้สึกที่หลากหลาย สับสน โกธร เสียใจ ตัดพ้อ จนคนดูรู้สึกตามได้หมด การที่คนดูเชื่อในทุกๆ มิติของอารมณ์และความรู้สึก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนดูอินกันจัดขนาดนี้ การที่มีตาโต ก็ได้เปรียบเหมือนกัน เพราะความรู้สึกมันผ่านสายตาได้อย่างชัดเจนมาก การแสดงที่พริ้วไปตามความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คิมเบอร์ลี่โดดเด่นจริงๆ สำหรับละครเรื่องนี้ ต้องถือว่าเป็นอนุศนิยาที่น่าประทับใจมาก ขอให้พัฒนาต่อไป นี่เป็นแค่ก้าวแรกของการเป็นตัวจริงในวงการ ต้องบอกว่าวิจารณ์ตามเนื้อผ้า เพราะดูเรื่องนี้แล้วชอบคิมมากจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะอวยหรืออะไร
ส่วนหมอ เจมส์ มาร์ ถ้านับว่าผ่านการแสดงมาไม่กี่เรื่อง ก็ต้องบอกว่าเก่งแล้ว เพราะบทบางตอนก็ยากมากในเชิงการถ่ายทอด โดยเฉพาะซีนอารมณ์ ที่ต้องเสียทั้งลูก และเมียเข้าใจผิดจนอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว หรือซีนที่บุกไปเอาเรื่องเจ้าพ่อและโสมที่ฆ่าลูกตัวเอง ก็อาจจะยังไม่เห็นมิติที่ลึกพอในเชิงอารมณ์และความรู้สึกของคนที่แค้น เสียใจ โกธร อัดอั้น ฯลฯ ที่เห็นชัดๆ แน่ๆ คือ หล่อ!! แต่ซีนที่เจมส์เล่นดี เป็นซีนที่ไม่หนักมากเช่น น้อยใจ เสียใจที่โดนนุศพูดจาไม่ดีใส่ หรือซีนที่ปาเช็คที่ต้องถือว่าเอาอยู่ ซึ่งซีนมาม่าหนักๆ นั้น นักแสดงที่ชั่วโมงบินไปมากพอ มักจะไม่สามารถแสดงอารมณ์ได้ถึงบทที่ต้องการให้เป็น หากชั่วโมงบินของเจมส์มากกว่านี้ ก็อาจจะถ่ายทอดได้ลึกกว่านี้ในเชิงความรู้สึกที่มันคับข้องอยู่ข้างใน มิติของความรู้สึกของตัวละครในซีนมาม่าหนักๆ จึงยังไม่โดดเด้งเข้ามาเสียดแทงความรู้สึกของคนดูได้มากเท่าไหร่นัก แต่บทรายล้อมที่ส่งให้ ก็ทำให้คนดูสงสารและเห็นใจหมอได้ไม่ยาก
โสมมิกา นางร้ายมิติเดียว คือ ร้ายๆๆๆ ไปจนสุดขั้ว จะเอาให้ได้ ซึ่งน้ำชาก็ถ่ายทอดได้ดี แต่มันอาจจะดูเกินจริง ร้ายและจิตไปสักหน่อย โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบการแสดงที่เอาแต่แรงกับแรง สายตาแข็งก็แข็งจนจะหลุดออกมา แต่สิ่งที่น้ำชาทำได้ดีคืออินเนอร์ของความเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ เป็นนางร้ายที่ดูมีคาร์แร็คเตอร์เอามากๆ ต้องบอกว่าการผสมสีของการแสดงออก ให้ออกมาดูคาสิโนวี่ เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์ ส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้โสมมิกาโดดเด่นมีเสน่ห์ทีเดียว
อีกคนที่เล่นได้ดีคือ มิรันตี ทั้งๆ ที่บทไม่ได้เด่น เป็นตัวช่วยและตัวสนับสนุน แต่การแสดงของอายก็ทำให้ไม่จมหายไปกับเทพๆ ทั้งหลาย เป็นตัวช่วยที่คนดูชื่นชอบ
อยากจะปรบมือดังๆ ให้นักแสดงทุกๆ คนอย่างจริงใจ ที่ทุกคนผสมผสานการแสดงออกมาให้กลมกล่อมและกระแสรุนแรงจนคนดูอินกันขนาดนี้ ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของผู้จัดที่กระแสละครแรงแซงโค้งมาก แต่บทที่อาจจะขาดสมดุลย์ไปสักหน่อยในเชิงการดึงอารมณ์คนดู ที่บทจะหวานก็จิกหมอนกันจนขาด บทจะมาม่า ก็เล่นซะนอนไม่หลับ ทำให้คนดูถูกเหวี่ยงขึ้นลงมากไปซักหน่อย จริงๆ ละครเรื่องอื่นก็อาจจะมาม่า น้ำเน่า เกินจริงมากกว่านี้ แต่มันเป็นการทำเกินจริงแบบให้คนดูคาดหวังตังแต่แรกว่านี่คือละคร บังเอิญละครแอน ทอง เป็นละครที่แตกต่างเพราะละเอียดและเรียลมาก จนคนดูมโนคล้ายว่ามันเป็นเรืองจริง การที่คนดูหลงรักตัวละครทั้ง พระเอก และนางเอก ที่มีเสน่ห์ด้วยกันทั้งคู่ และเห็นคนของเขาถูกกระทำเกินจริง โดยไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ เลยทำให้คนดูโวยวาย อึดอัด จนบางคนต้องปิดทีวีเพราะทนไม่ไหว.. ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเลย คือ แอน ทอง และนักแสดงทุกคนถ่ายทอดละครออกมาได้เรียลมาก จนคนดูลืมไปว่านี่คือละคร!! แต่ในที่สุดแอน ทอง คงไม่ทิ้งคนดูค้างไว้กับอารมณ์แบบนี้แน่ๆ อยู่แล้ว รอดู ep 14-15 ว่าปมจะคลาย และคนดูจะถูกเหวี่ยงกลับมายิ้มแก้มปริได้แบบไหน..