[CR] แบกเป้ลุยเวียดนาม ฮานอย ซาปา ฮาลองเบย์ ดานัง ฮอยอัน และปิดท้ายด้วยโฮจิมินห์ 17 วัน รีวิวพลีชีพ โปรดติดตาม !!!!

สวัสดีค่ะ

วันนี้จะมารีวิวพลีชีพ อย่างละเอียดดดยิบบ ยิบ และขอเล่าประสบการณ์ backpacker ครั้งแรกในชีวิต กับกระเป๋าเป้ 1 ใบ ในต่างแดน 17 วัน ช่วงวันที่ 24 APR- 10 MAY/59 ที่ผ่านมา เพื่อให้เพื่อนๆที่แบบอยากไป แต่ยังลังเลอยู่ ตัดสินใจได้ทันที ตามรอยเราได้เลย งั้น...ขอเกริ่นที่มาของทริปก่อน คือ ทริปนี้มาจาก ของขวัญวันเกิดที่เราไม่อยากได้บอกเลย แต่คุณแฟนตัวดีบอกว่า " ถ้าลดน้ำหนักได้ จะได้ big surprise" ผลสรุป คือ ลดไม่ได้จ้าา เลยได้ normal surprise ไปเวียดนามมมม มีแต่เพื่อนบอก ทำไมไม่ไป เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น บลาๆ กระแสหนักมาก... จนถึงวันไปจริง ห๊าาา กระเป๋า ไม่เกิน 7 โล ฆ่านุ๋เถอะ 2 weeks กับ 3 วัน กระเป๋าใบเดียว  สาบาน ว่านี่คือของขวัญ !!! พวกเราทำการบ้านหนักมาก อ่านรีวิวร้านอาหาร โรงแรม ให้เพื่อนๆเลือก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Link: http://clearsunisa.com/vietnam/ อีกทั้งยังหัดพูดภาษาเวียด และที่สำคัญทำอย่างไร ไม่ให้โดนโกง สิ่งขึ้นชื่อของพี่เวียดเค้าเลยหล่ะ ทั้งดี ทั้งแบบ...หน่ะ  เราเจอมาค่อนข้างหนักหน่วง ** นี่เป็นรีวิวท่องเที่ยว กระทู้แรกของเราเอง เขียนสไตล์เรา ติชมได้ค่ะ แต่อย่าแรงมาก แรงมากโกรธค่ะ ยิ้ม

ค่าเงินช่วงที่เราไป ตามนี้เลย
10K VND = $0.6/15.8 THB  20K VND =$1.15/31.5 THB  100K VND =$5.8/158 THB

Day 1 -Hanoi พวกเราบินจากสนามบินดอนเมือง วันที่ 24/4/59 flight 6:10 - 8:20 AM จากนั้นเดินออกตรงข้างหน้า terminal ขึ้นรสตู้บริการของสนามบิน ราคา 50K/คน ตรงไปที่ย่านตัวเมือง และเดินทางหาโรงแรมที่เราจองไว้ก่อนเลย ลืมบอก แนะนำโหลด Map ไว้ก่อนสำหรับคนที่ไม่อยากซื้อซิม/ไม่มีNet เราเลือกโรงแรมที่ใกล้ย่านตัวเมืองที่สุด จะได้ไม่เดินไกล ไม่ต้องขึ้นแท็กซี่หลายรอบ Taxi ที่ไว้ใจได้ อย่างที่รู้โนะ Vinasun และ Mailinh ราคาเริ่มต้น ขึ้นอยู่กับขนาดรถด้วย เรียกรถใหญ่ก็แพงกว่านะคะ *ระวังเรื่องการข้ามถนน มีสติก่อนสตาร์ทนะคะ ฟังเสียงแตรปวดหัวเลย !!
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เริ่มการเดินสำรวจสถานที่  - ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือ ทะเลสาบคืนดาบ ใจกลางกรุงฮานอย เค้าว่าเป็นตำนานสถานที่ขึ้นชื่อที่ต้องไป ไม่งั้นไปไม่ถึง
- หง็อกเซิน หรือ วัดเนินหยก เป็นวัดโบราณอยู่ใกล้กับทะเลสาบคืนดาบนั่นแหละ ส่วนตัวไม่ชอบเที่ยววัดเท่าไหร่ ดื่มด่ำกับสวนสาธารณเลยไม่ขอพูดถึงมากนะคะ รูปขออนุณาตติดไว้ก่อน(แฟนชอบถ่ายรูปแต่ไม่ส่งรูปให้ อยากจะเพลีย) จะทยอยลงให้ ซึ่งเยอะมาก สงสารคนติดตามเลย และเว็บไซด์ที่เราอ่านรีวิวและจองด้วยค่ะ
ตกเย็นไปเดินตลาดนัดกลางคืนซะหน่อย (นี่หล่ะที่รอคอย) ลองเดาซิครัช เจออะไร ??

ถนนข้าวสารในเวียดนาม เดินเข้าไปพนักงานเวียดนามพูดไทยได้ อเมซิ่งไทยแลนด์ไปอีก
สรุปแล้วจบที่ร้าน Beer 2Ku เพราะร้านนี้ดูน่านั่งที่สุด บรรยากาศชิลๆ สบายๆ มี 2 ชั้น เช็คราคาแล้วไม่แพงมาก อาหารอร่อย มีดนตรีสดอยู่กลางถนน ที่สำคัญแม่จ้าววว บารากุถูกกว่าบ้านเราครึ่งๆเลย แถมมีรสกาแฟด้วย ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณ 200 กว่าๆเนี่ยแหละ รอไรล่ะ จัดเลย  
https://www.facebook.com/pages/Beer-2Ku-61-L%C6%B0%C6%A1ng-Ng%E1%BB%8Dc-Quy%E1%BA%BFn/910739062331557

Day 2 - Sapa พวกเราจองตั๋วและเตรียมตัวเดินทางไปซาปา ตั้งแต่ 7:10 จนถึง 9:10 รถยังไม่มา อยู่เวียดนามต้องทำใจเรื่องเวลามากๆ ใจเย็นเข้าไว้ ซักพักพนักงานเอารถ VIP มารับ เกือบจะดีใจ รับผิดชอบดีจังเลย ป่าวหรอก *เอามารับไปส่งหารถบัสอีกที และสภาพรถไม่เหมือนที่เราจองไว้เลย จบข่าว พอดีเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น เอาน่าก็มาเที่ยวโนะ..

ก็ยังดีที่ยังเป็นรถนอน ใช้เวลาเดินทาง 5-6 ชม อ่อเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ ช่วงนั้นอากาศ ประมาณ 16 -23 องศา หนาวทีเดียว เราถึงซาปาเกือบมืด หนึ่งสิ่งที่ลืมไม่ได้ หาอะไรกินก่อนเป็นอุ่นใจ  
ร้านแรกของคืนแรก - the light coffee & restaurant หาง่ายอยู่ใจกลางเมือง ร้านค่อนข้างใหญ่ ถ้าหาไม่เจอ โหลด Maps.me เลยค่ะ

ตัวร้านจะติดกับร้านบาร์บีคิวข้างถนน(ร้านเดียวกัน) ซึ่งนิยมกินกันมาก เราสามารถสั่งได้ทั้งอาหารในร้าน และบาร์บีคิวเลย ซึ่งตั้งใจจะกินข้างถนนอยู่แล้ว ฮี่ๆ เพราะแฟนอยากลองกบ หน้าตาน้องกบน่ารักมาก เหมือนไก่เลย นุ๋แยกไม่ออก โดนหลอกกินไป 2-3 คำ ทั้งขำทั้งโกรธ แต่อร่อยดี ให้อภัย 555   ราคาไม่แพงเลยค่ะ ตกไม้ละ 20 กว่าบาท - 30 บาทได้ รสชาตอร่อยใช้ได้ สไตล์เวียดนาม  
จากนั้นเดินตามล่าความฝัน พี่จะจัดให้สาสมใจเลยทีเดียว ได้ข่าวว่าแอลกอฮอล์ที่นี่ราคาถูกมาก ซึ่งก็จริง ซื้อมันทุกร้านจนกว่าจะเจอร้านที่ถูกที่สุด มาฝากเพื่อนๆค่ะ

แนะนำให้ซื้อร้านนนี้เลยค่ะ อารมณ์ประมาณว่า ร้านค้าสหกรณ์บ้านเรา ราคาถูกกว่าโรงแรมและร้านของชำแถวนั้นมาก  

Day 3 - เราเช่ามอเตอร์ไซด์ โดย เจ้าของบ้านเป็นคนจัดการให้หมดเลย ใจดีมาก บริการดี แต่ราคาแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย ซึ่งเราเลือกที่จะไม่นอนโรงแรม เพราะจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน และใกล้ชิดผู้คนท้องถิ่น ซึ่งน่ารักมาก และราคาห้องก็ไม่ต่างจากโรงแรม แล้วแต่คนชอบโนะจากนั้นเราแว๊นนนมอเตอร์ไซด์สำรวจรอบเมืองก่อน


"เมืองซาปา" เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทุ่งนาขั้นบันไดบนภูเขา สงบเงียบ คนพื้นที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย บรรยากาศดีเหมาะสำหรับการพักผ่อนมาก


บ้านเมืองสร้างบนภูเขาสวยงามและล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ กลิ่นไอตะวันตก เงียบสงบ การจราจรไม่ติดขัดเหมือนฮานอย แต่ตึกและอาคารส่วนใหญ่ที่นั่นอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติม  



โบถส์คาทอลิกในเมืองซาปา ที่ทุกคนที่ผ่านไปมา ต้องแวะแชะซักรูปที่นี่


บรรยากาศการสำรวจวันแรกของทุ่งนาขั้นบันได เน้นไปในการเยี่ยมชมธรรมชาติ ขี่รถลงเขาและเก็บภาพสวยๆมาฝากเพื่อนๆชาวพันทิป

ถึงอากาศจะหนาวเย็น แต่การขี่มอเตอร์ไซด์ตากแดดเพียง 1 วัน ก็ควรทาครีมกันแดด SPF ++ จัดเต็มนะคะ เพราะรู้ตัวอีกที "มีความเกรียม"



** ขอตัวไปนอนก่อนเดี๋ยวมาต่อทริป Day -4 Hiking  Cat Cat Village

มาต่อนะคะ จริงๆแล้วไม่ใช่ทริป Hiking หรอกค่ะ 55 (โดนแฟนหลอกมาเดินเขา 10 Km.) นางกล่าวว่า เดินไปข้างหน้าอีกหน่อย จะเจอจุดบริการเช่ารถ !!ยิ่งเดินลึกยิ่งเจอแต่ชาวพื้นเมือง ไร่ขั้นบันได และหมู่บ้าน !!!! เราออกเดินทางกันตั้งแต่ช่วงเช้าที่แดดไม่แรงมาก จริงๆสามารถซื้อทัวร์ชมหมูบ้านได้ และจะมีชาวเขาเป็นไกด์นำทางให้  "แต่ไปหลงทางกันเอง มันส์ กว่าเยอะเลย"  ซึ่งระหว่างทางไปหมูบ้านมีร้านกาแฟ และร้านอาหารน่ารักๆ สไตล์ Sky coffee บรรยากาศดี นั่งสบาย ภายในหุบเขา และราคายังไม่แพงอีกด้วย

พวกเราเดินทาง 3 กิโลเมตรกว่าๆ จนมาถึงทางเข้า แทบหมดแรงก่อนจะเดินเขาด้วยซ้ำ 55 แนะนำควรเตรียมพร้อมร่างกายอย่างดีทีเดียว เพราะว่าเดินหนักมาก !! จากนั้นซื้อตั๋วค่าเข้าชมราคาเด็ก 20K และผู้ใหญ่ราคา 50K VND จะได้ตั๋วและแผนที่อย่างละ 1 ใบ/คน




ตั๋วพร้อมแผนที่พร้อม ลุย !!

หมู่บ้าน Cat Cat เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ของชาวม้งที่อพยพจากประเทศจีนมาตั้งรกรากที่นี่เมื่อ 300 กว่าปีก่อนจนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของที่นี่คือทุ่งนาขั้นบันไดในตำนาน ซึ่งปลูกกันเป็นชั้นไล่ระดับไปตามเนินเขา รวมไปถึงสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวม้งพื้นเมือง หืมม สวยสมคำร่ำรือ ว่าแล้วก็เติมลิปและถ่ายรูปจ้า แฟนกล่าว..." You เป็นคนเดียวที่แต่งหน้ามาเดินเขา" เอิ่ม...เพื่อภาพที่สวยงามค่ะ 55  


ชาวม้งพื้นเมืองส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำนา ปลูกพืชผัก และเลี้ยงสัตว์ และยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้เราได้ชมอยู่ แต่...ควรระวังในเรื่องการถ่ายรูปคนเฒ่าคนแก่หรือผู้คนที่นั่น(บางคนเท่านั้น) โดนมากับตัวแค่ยกกล้องกำลังจะถ่ายรูปกลุ่มเป็ดน้อยในแอ่งน้ำ เสียงตะโกนดังแว่วมา " Money Money Money " วิ่งหนีแทบไม่ทัน !!!

แต่ก็แอบถ่ายรูปควายมาได้ตัวนึง ยืนถ่ายรูปอยู่ดีดี พอนางเห็นคนถึงกับสไลด์ดินลงมาทักทายเลยอย่างรวดเร็ว จะเฟรนลี่ไปไหน กลัวนะจ้ะ !

พวกเราเดินมาใจกลางกลางของหมู่บ้านค่อนข้างลึก ไม่มีป้ายบอกทางและเจอแยก 4-5 แยกได้ " งงสิคะรออะไร"  ไปทางไหนต่อดี...พอดีเจอเด็กๆและโรงเรียนใกล้แถวๆนั้น เจอเด็กน้อยคนหนึ่งน่าตาน่ารักเชียว เลยให้ขนมกับลูกอมไปพวกเราได้ไกด์ตัวน้อยแล้วล่ะค่ะ ยิ้ม  นำทางและพาไปจนถึงจุดชมวิวบนหมู่บ้านจนได้ ตัวแค่นี้เก่งจริงๆเลย

ระยะทางยาวไกล มีความชันมาก และอันตรายพอสมควร แต่ไกด์ตัวน้อยไม่มีเหนื่อยเลย เดินเก่งมาก จะมีก็แต่พวกเราเนี่ยแหละที่เหนื่อยหอบ ! นี่คือภาพตอนที่ พวกเราหยุดพักแล้วไกด์นางหันมามองด้วยความกดดัน " ฮึ้บ เดินต่อสิ อายเด็กมั้ย"

ในที่สุดเราก็เดินมาถึงจุดชมวิวที่สูง สวย และเสียวในเวลาเดียวกันได้ มองเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ เขียวชอุ่มของต้นไม้ ท้องฟ้า บรรยากาศรอบๆหมูบ้าน และ " หมูภูเขา" ยืนดูหมูวิ่งเล่นและปืนเขาต่อหน้าต่อตา สมบูรณ์แข็งแรงมากและไม่กลัวคนเลยด้วย น่ารักไหมหล่ะคะ ?

Tien sa waterfall จุดไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่น้ำตกท้ายหมู่บ้าน ที่สวยจนต้องสะพรึงเลยทีเดียว ชื่อว่าน้ำตกเทียนสา (Tien Sa Waterfall) น้ำใสมาก และยังพบชาวพื้นเมืองซักผ้าที่น้ำตกแห่งนี้ด้วย เอ้า แชะ !!



ระยะทางรวมๆ เดินด้วยเท้าเกือบ 10 กิโลเมตร บอกเลยว่านู๋เดินไม่ไหวแล้ว (มีความร้องกลับบ้าน) แต่.....กองทัพต้องเดินด้วยท้อง " ไม่มีแรงเลย โอ้ย โอ้ย " หอบมาก สมควรแก่เวลาที่ต้องหาอะไรตกถึงท้อง
ชื่อสินค้า:   แบ็คแพ็ค เที่ยวต่างประเทศ ประเทศเวียดนาม backpacker บันทึกนักเดินทาง รีวิวร้านอาหาร ภาพถ่ายทิวทัศน์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่