ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า ประเด็นข้อความที่นายสนธิ จำเลยที่ 3 กล่าวว่า
“วันนี้ผมไม่รู้ว่าสื่อมวลชน นักคอลัมนิสต์ คนที่ทำงานโทรทัศน์จะโง่ หรือว่าแกล้งโง่ที่ยังดูไม่ออกอีกหรือว่ารัฐบาลชุดนี้
ภายใต้บงการของนายทักษิณ ชินวัตร” นั้นแม้จะเป็นข้อความหมิ่นประมาท ที่ให้โจทก์ร่วมเสื่อมเสียชื่อเสียง
แต่ฝ่ายจำเลยนำสืบนั้นปรากฏว่า มีบุคคลอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวพันร่วมกับโจทก์ร่วมในทางการเมือง บุคคลใกล้ชิดและบริวารโจทก์ร่วม
เช่น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เคยถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 จึงเห็นว่านายสนธิ จำเลยที่ 3
มีความเชื่อหรือสงสัยว่าโจทก์ร่วมอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
อันเป็นการแสดงความเห็น หรือ กล่าวติชม ด้วยความเป็นธรรมในเรื่องบ้านเมือง
และกิจการสาธารณะ ที่บุคคลและประชาชนทั่วไปสามารถกระทำได้
การกระทำของนายสนธิ จำเลยที่ 3 ดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ดังนั้นบริษัทไทยเดย์ฯ จำเลยที่ 1 และ บริษัทเอเอสทีวีฯ จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดด้วย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืนให้ยกฟ้อง
http://www.matichon.co.th/news/157549
อุทธรณ์ยกฟ้อง’สนธิ-เอเอสทีวี’ หมิ่น ‘ทักษิณ’ ชี้ข้อความทำให้เสียชื่อเสียง แต่ติชมด้วยความเป็นธรรม
“วันนี้ผมไม่รู้ว่าสื่อมวลชน นักคอลัมนิสต์ คนที่ทำงานโทรทัศน์จะโง่ หรือว่าแกล้งโง่ที่ยังดูไม่ออกอีกหรือว่ารัฐบาลชุดนี้
ภายใต้บงการของนายทักษิณ ชินวัตร” นั้นแม้จะเป็นข้อความหมิ่นประมาท ที่ให้โจทก์ร่วมเสื่อมเสียชื่อเสียง
แต่ฝ่ายจำเลยนำสืบนั้นปรากฏว่า มีบุคคลอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวพันร่วมกับโจทก์ร่วมในทางการเมือง บุคคลใกล้ชิดและบริวารโจทก์ร่วม
เช่น นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เคยถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามมาตรา 112 จึงเห็นว่านายสนธิ จำเลยที่ 3
มีความเชื่อหรือสงสัยว่าโจทก์ร่วมอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อันเป็นการแสดงความเห็น หรือ กล่าวติชม ด้วยความเป็นธรรมในเรื่องบ้านเมือง
และกิจการสาธารณะ ที่บุคคลและประชาชนทั่วไปสามารถกระทำได้ การกระทำของนายสนธิ จำเลยที่ 3 ดังกล่าวจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ดังนั้นบริษัทไทยเดย์ฯ จำเลยที่ 1 และ บริษัทเอเอสทีวีฯ จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดด้วย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืนให้ยกฟ้อง
http://www.matichon.co.th/news/157549