ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง 'เทพไท' กล่าวหา 'ปลอดประสพ' คนในระบอบ 'ทักษิณ' ล้มเจ้า ชี่ติชมโดยสุจริต
http://www.komchadluek.net/detail/20131225/175588.html
25 ธ.ค. 56 เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการณ์รองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตโฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 53 นายเทพไท ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า นายปลอดประสพ เป็นคนในระบอบทักษิณ และเป็นพวกล้มเจ้า
โดยศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า จำเลยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเชิงตั้งคำถาม ว่าโจทก์เป็นคนในระบอบทักษิณเป็นพวกล้มเจ้า จริงหรือไม่ มิได้ยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งโจทก์เป็นนักการเมืองย่อมอยู่ในฐานะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ จึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (1) ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท ต่อมาโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีการขัดแย้งทางการเมืองสูง กลุ่มนปช.ประท้วงขับไล่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งมีการโจมตีสถาบัน หรือเรียกขบวนการล้มเจ้า ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้หลายราย
โดยจำเลยให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มนปช.เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า ซึ่งเป็นการพูดในทำนองสอดคล้อง กับโจทก์ที่พูดว่า เป็นพรรคคอมมิวนิสต์หรือคนในระบบทักษิณ ซึ่งโจทก์ตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้คนฟังทั่วไปเข้าใจได้ว่าใช้หลักการดังกล่าวในการบริหารประเทศ
ขณะที่คำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงตั้งคำถามต่อโจทก์ว่ากระบวนการล้มเจ้ามีจริงหรือไม่ โดยมีมูลเหตุมาจากคำให้สัมภาษณ์ของโจทก์ ไม่ใช่การใส่ร้าย แต่เป็นการติชมโดยสุจริตเป็นธรรม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนให้ยกฟ้อง
ยกฟ้อง!'เทพไท'หมิ่นฯ'ปลอด'ล้มเจ้า
http://www.komchadluek.net/detail/20131225/175588.html
25 ธ.ค. 56 เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการณ์รองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตโฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 53 นายเทพไท ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า นายปลอดประสพ เป็นคนในระบอบทักษิณ และเป็นพวกล้มเจ้า
โดยศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า จำเลยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเชิงตั้งคำถาม ว่าโจทก์เป็นคนในระบอบทักษิณเป็นพวกล้มเจ้า จริงหรือไม่ มิได้ยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งโจทก์เป็นนักการเมืองย่อมอยู่ในฐานะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ จึงเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 (1) ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท ต่อมาโจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่าช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่มีการขัดแย้งทางการเมืองสูง กลุ่มนปช.ประท้วงขับไล่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งมีการโจมตีสถาบัน หรือเรียกขบวนการล้มเจ้า ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้หลายราย
โดยจำเลยให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มนปช.เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้า ซึ่งเป็นการพูดในทำนองสอดคล้อง กับโจทก์ที่พูดว่า เป็นพรรคคอมมิวนิสต์หรือคนในระบบทักษิณ ซึ่งโจทก์ตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้คนฟังทั่วไปเข้าใจได้ว่าใช้หลักการดังกล่าวในการบริหารประเทศ
ขณะที่คำให้สัมภาษณ์ของจำเลย เป็นการแสดงความคิดเห็นเชิงตั้งคำถามต่อโจทก์ว่ากระบวนการล้มเจ้ามีจริงหรือไม่ โดยมีมูลเหตุมาจากคำให้สัมภาษณ์ของโจทก์ ไม่ใช่การใส่ร้าย แต่เป็นการติชมโดยสุจริตเป็นธรรม จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนให้ยกฟ้อง