[CR] "เพียงเพื่อนพาเที่ยว" PART 2 ล่องเรือสำราญหมู่เกาะอังกฤษ กับ Princess Cruises เที่ยว Stonehenge & ขึ้นเรือวันแรก

ต่อจากกระทู้ "เพียงเพื่อนพาเที่ยว" PART 1 ล่องเรือสำราญหมู่เกาะอังกฤษ กับ Princess Cruises การวางแผนและงบประมาณ http://ppantip.com/topic/35217608

หลังจากนั่งเครื่องบินของกาตาร์ยาว 6 ชม.กว่า จากโดฮาก็มาถึงลอนดอนตอน 7.00 น. ตรงเวลาเป๊ะ โชคดีที่ไม่ดีเลย์ งานนี้รอดตัวไม่ตกเรือสำราญแล้ว เย้ โล่งอกเล็กน้อย จากนั้นเราก็ต่อคิวเดินออกจากเครื่องบินยักษ์ใหญ่ A380 ซึ่งบรรทุกคนมาเกือบเต็มลำ จำนวนคนน่าจะหลายร้อยอยู่
บรรยากาศภายในสนามบิน London Heathrow Airport ภาพแรกที่เห็นคือสนามบินนี้ค่อนข้างเก่าไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย แต่มีคนบินเข้าลอนดอนเยอะแยะมากมาย ต่อคิวผ่านด่านตม.ยาวเหยียด สมแล้วที่เล่าลือว่ากว่าจะผ่านด่านตม.ของสนามบินนี้ต้องเสียเวลานานบางทีเป็นชม.ก็มี



เราเสียเวลาต่อคิวนานราว 45 นาที สังเกตได้ว่าคนเยอะมากและที่สำคัญจนท.ตม.ไม่ปล่อยให้ใครผ่านได้ง่ายๆ ทุกคนจะโดนซักถามเหมือนกันหมด กว่าจะผ่านด่านได้ต้องคุยกะจนท.ตม.ซักพัก เหตุนี้ทำให้เสียเวลาคิวไม่ไหลลื่นเท่าที่ควร เดาว่าเพราะเหตุก่อการร้ายเลยทำให้จนท.ตม.เข้มงวด
พอถึงคิวเรา ผมกะแฟนรีบเดินเข้าหาจนท.ตม.พร้อมๆกัน ยื่นพาสปอร์ตให้เค้าดู ตอนนั้นคิดว่าเราไม่น่าโดนถามอะไรมากมาย เพราะพาสปอร์ตมีประวัติการเดินทางเพียบ ได้วีซ่าเชงเก้นมาก็เยอะ

แต่แล้วเราก็โดนซักถามตามฟอร์ม แนวๆว่ามาเที่ยวฮอลิเดย์ใช่มั๊ย มากี่วัน แล้วถามแฟนผมว่าทำอาชีพอะไร เรา 2 คนภาษาปะกิตก็ย่ำแย่ พยายามนึกศัพท์เพื่ออธิบายอาชีพของแฟน แต่นึกไม่ออก ตอนนั้นนึกในใจว่า ทำไมต้องถามเรื่องอาชีพด้วยหว่า งง
พอดีได้ยินคำถามต่อมาว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ผมเลยรีบยื่นใบ Boarding Pass พร้อมตารางแผนการเดินทางของเรือสำราญ Princess Cruises ให้เธอดู

พอเธอเห็นเท่านั้นแหละ เธอก็พูดขึ้นมาว่า โอ้ พวกคุณจองเรือสำราญหรือ ผมก็ตอบว่าเยส จบข่าว เธอรีบปั๊มผ่านให้เราทันที แสดงว่าการมาเที่ยวโดยใช้เรือสำราญคงจะดูดีมีระดับ น่าเชื่อถือว่าจะไม่โดดวีซ่าหนีเข้าเมืองกระมัง เมื่อผ่านด่านตม.แล้วก็มาลุ้นเรื่องกระเป๋าเดินทาง จะตกหล่นกลางทางมั๊ย เวลายิ่งมีน้อยซะด้วยสิ เพราะเราจ่ายเงินจองรถบัสทัวร์ราคาแพง ต้องรีบไปให้ทันกำหนดนัดหมายที่ Lobby ของโรงแรม Hilton โชคดีที่ไม่มีอะไรผิดพลาดได้กระเป๋าเดินทางครบ 2 ใบ เลยยกใส่รถเข็นฟรีของสนามบินแล้วรีบเดินออกมาหาทางไปจุดนัดพบของรถบัสทัวร์

ถ้าเจอใครที่แต่งกายคล้ายจนท. ผมจะรีบปรี่เข้าไปถามทาง ว่าโรงแรม Hilton ไปทางไหน พอได้คำตอบ เรา 2 คนก็ค่อยๆเดินไป ด้วยคิดว่าโรงแรม Hilton อยู่ใน Terminal 4 ซึ่งเป็นอาคารเดียวกะที่เราบินลงพอดี มันน่าจะอยู่ใกล้ๆกัน ที่ไหนได้มันไกลกันพอสมควร ดีที่หาไม่ยากเลยไม่เสียเวลามากนัก
เจอแล้ว Hilton Hotel สวยงามหรูหราดูดีเชียว



ตอนนั้นเวลา 8.40 น. กำหนดนัดหมายของรถบัสทัวร์คือเวลา 9.00-9.45 น. แต่ในใบจองให้เรามาถึงก่อนเวลานัด 15 นาที ผมก็นึกว่ากว่ารถบัสทัวร์จะมาถึงก็น่าจะอีกพักใหญ่ เลยให้แฟนไปเข้าห้องน้ำแปรงฟันทำธุระก่อน แต่พอมองออกไปด้านนอกของโรงแรม ก็เห็นรถบัสคันใหญ่ขับเข้ามาจอด เอ ชักไม่แน่ใจผมเลยเดินเข้าไปถามจนท.สาวที่มากะรถบัส



กลายเป็นว่าใช่จริงๆด้วย นี่คือรถบัสทัวร์ของเรา พี่แกดันมาก่อนเวลานัด เกือบพลาดแล้ว ผมยื่นใบจองให้จนท.บัสทัวร์ดู เธอตรวจสอบกับรายชื่อลูกค้าที่เตรียมมา พบว่าตรงกัน เธอขอกระดาษ Tag ติดกระเป๋าเดินทางของเรือสำราญจากผม แล้วนำไปติดกระเป๋าเดินทางของผมกะแฟนด้วยความชำนาญ จากนั้นคนขับรถบัสก็มายกกระเป๋าของเราขึ้นรถ อืม บริการดีทีเดียว แต่ก็นะ ค่ารถบัสทัวร์ครั้งนี้มันแอบแพงไปหน่อย (รายละเอียดอ่านได้จาก PART 1)

พอเราขึ้นรถบัส คนขับก็ขับรถต่อไปเพื่อรับคนที่จุดนัดหมายอื่นในสนามบิน ซึ่งทุกคนที่ขึ้นรถบัสล้วนมีกระเป๋าเดินทางใบโต คาดว่าลูกค้าของรถบัสทัวร์ทั้งหมดคือคนที่จองเรือสำราญ Princess ลำเดียวกะเรานั่นเอง หลังจากนั้น จนท.สาวก็พูดออกไมค์แนะนำตัวและบรรยายเรื่องต่างๆนาๆที่เราฟังไม่เข้าใจ เฮ้อ ตอนเด็กไม่รักดีขี้เกียจเรียนภาษาปะกิต ตอนนี้กรรมส่งผลชัดเจน เพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง

แต่พอเดาๆได้ว่า รถบัสจะจอดแวะพักกลางทางเป็นจุดที่มีห้องน้ำและมีอาหารขาย ซึ่งราคาจะถูกกว่าไปทานอาหารที่จุดขายของ Stonehenge ที่มันแพงมาก เธอแนะนำให้พวกเราลงไปหาซื้อพวกแซนด์วิชหรืออะไรที่ทานง่ายๆแล้วเอาขึ้นมาทานบนรถจะได้ไม่เสียเวลา ให้ทุกคนลงรถบัส,เข้าห้องน้ำและหาซื้ออาหาร เธอให้เวลา 15 นาที แล้วรีบกลับมาขึ้นบัสโดยเร็ว

มาถึงแล้วจุดแวะพัก มีร้านอาหารสไตล์ฟาสต์ฟู้ดหลายร้านอยู่รวมกัน







เราซื้อขนมและโค้กขึ้นมาทานบนรถ อืม ราคาแพงเอาเรื่อง จากนั้นรถบัสก็ขับต่อไปยังจุดหมายแรก Stonehenge จุดท่องเที่ยวสำคัญ ถึงแล้วครับ



เจอคนเข้าคิวซื้อตั๋วเข้าชม Stonehenge แต่พวกที่มากะรถบัสทัวร์แบบเราไม่ต้องเข้าคิว เพราะจนท.สาวแจกตั๋วเข้าชม Stonehenge ให้พวกเราทุกคนบนรถ แหงล่ะ ก็ค่ารถบัสทัวร์แพงโคตรนี้มันรวมค่าตั๋วเข้าชม Stonehenge ไว้แล้ว



สิ่งปลูกสร้างกลุ่มนี้ไม่รู้ว่าคืออะไร พอดีเรารีบเดินไปเข้าคิวขึ้นรถบัสเพื่อวิ่งไปชมไฮไลต์สำคัญก่อน





นั่งรถแป๊บเดียวก็ถึง เจอแล้ว Stonehenge สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ด้วยชื่อเสียงอันลือลั่นของมันทำให้ผมยอมจ่ายค่ารถบัสทัวร์แสนแพง ทำเพื่อมาดูเจ้ากลุ่มก้อนหินกองใหญ่นี้โดยเฉพาะเลย





หินก้อนนี้แปลกหน่อย แยกตัวออกมาโดดๆ เป็นเพราะอะไรไม่รู้ครับ ใครอยากรู้เสิร์จเนตหาข้อมูลเองเน้อ กระทู้รีวิวของผมไม่ต้องคาดหวังว่าจะได้ข้อมูลสถานที่หรือเกร็ดประวัติศาสตร์ใดๆ เพราะเราเที่ยวแบบสไตล์เรา ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่  อิ อิ



ทิวทัศน์โดยรอบของบริเวณ Stonehenge มีแต่ทุ่งๆแล้วก็ทุ่ง แบบเนี้ย







ความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง Stonehenge ด้วยตัวมันเองไม่ได้มีอะไรเท่าไหร่ แต่เพราะชื่อเสียงอันลือลั่น ทำให้สมควรเสียเงินเสียเวลามาชมดูมันซักครั้ง ก็พอแล้ว
นั่งรถบัสกลับมาอาคารขายตั๋วแวะเข้าห้องน้ำ ถ่ายรูปร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารที่เค้าบอกว่ามันแพง







จากนั้นเราก็นั่งรถบัสต่ออีกราวชม.เศษ ก็มาถึงเมืองท่า Southampton รถบัสจอดที่อาคาร Ocean Terminal ซึ่งเป็นจุดเช็คอินขึ้นเรือสำราญของ Princess Cruises ภายในเวลา 14.00 น. ตรงตามกำหนดเด๊ะ ส่วนกระเป๋าเดินทางของเราจะถูกคนขับรถจัดการส่งต่อไปยังฝ่ายลำเลียงกระเป๋าของเรือสำราญ โดยที่เราไม่ต้องยุ่งเกี่ยวเลย สะดวกสบายดีจัง แต่ก็นะ ขอบ่นดังๆอีกที ก็ค่ารถบัสทัวร์ครั้งนี้มันโคตรแพงเลย สมควรอยู่หรอกที่ต้องบริการให้ดีอะ (ตกคนละ 4,000 กว่าบาทไทย โหดมั่ก)



เราเดินเข้าไปในตัวอาคาร ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 อาคารใหญ่โตกว้างขวางมาก



แถวเช็คอินเปิดแล้ว คนรอต่อคิวไม่เยอะเลยครับ



ต่อคิวแป๊บเดียว เรายื่น Boarding Pass กะพาสปอร์ตให้จนท.เช็คอิน ตอนแรกกังวลนิดๆว่าจนท.ของเรือจะรู้มั๊ย ว่าพาสปอร์ตไทยถ้าได้วีซ่า UK.แบบท่องเที่ยวระยะสั้น มัลติเพิล 6 เดือน แล้วเดินทางเข้า UK.ก่อน เมื่อได้ประทับตราจากตม.ของ UK.แล้ว จะสามารถเดินทางต่อไปยังไอร์แลนด์ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีวีซ่าไอร์แลนด์

ถ้าจนท.ของเรือไม่รู้ข้อมูลนี้ แล้วไม่ยอมให้เราเช็คอินล่ะก็ งานช้างเลย ภาษาปะกิตห่วยๆอย่างเราคงสื่อสารกันยาก แต่เอาเข้าจริงไม่มีปัญหาใดๆเลยครับ เราเช็คอินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จนท.ทำบัตรประจำตัวสีฟ้าให้เราทันที (ลูกค้ารายใหม่ของเรือ Princess จะได้บัตรสีฟ้าเท่านั้น) บัตรนี้สำคัญนักต้องพกติดตัวตลอด เพราะใช้สแกนตอนเข้าและออกจากเรือทุกครั้ง จะซื้อของหรือบริการใดๆบนเรือก็ต้องใช้บัตรนี้รูดแทนเงิน เพราะบนเรือจะไม่รับเงินสดหรือบัตรเครดิตอื่นใดทั้งสิ้น
ระบบการเช็คอินของเรือ Princess สะดวกรวดเร็วเหนือกว่าเรือ Costa เยอะเลยครับ





จากนั้นเราก็ต้องเดินต่อไปยังด่านตรวจสอบความปลอดภัย สแกนเป้และอุปกรณ์ทุกอย่างที่ติดตัวเรา เหมือนกับที่เราโดนสแกนตอนเข้าด้านในของสนามบินนั่นเอง ข้างในด่านนี้ห้ามถ่ายรูปนะครับ ซึ่งผมไม่รู้ พอถ่ายปุ๊บ โดนจนท.เข้าประชิดตัวเลย แต่เค้าสุภาพนะ พยายามอธิบายให้เราฟังว่าด่านนี้เน้นความปลอดภัยมาก ถ่ายรูปไม่ได้ ขอให้ผมลบรูปที่เพิ่งถ่ายทิ้ง โอเคไม่มีปัญหาผมลบรูปนั้นต่อหน้าจนท. แค่นั้นจบ ไม่มีอะไรวุ่นวายครับ



พอผ่านด่านนี้ เราก็เดินต่อไปตามทางเพื่อขึ้นเรือสำราญ Caribbean Princess





ก่อนเข้าเรือต้องโดนสแกนบัตรประจำตัวสีฟ้าอีกที เพื่อตรวจสอบความถูกต้องปลอดภัย



จากนั้นเราก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 12 เดินไปทางหัวเรือเพื่อหาห้องนอนของเรา อยากรู้ว่าห้องเราหน้าตาเป็นยังไงบ้าง

รูปโถงลิฟต์



ทางเดินไปสู่ห้องพัก

ชื่อสินค้า:   ล่องเรือสำราญยุโรป
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่